บทที่ 526 ไม่ยอมฟังกัน
ต่อให้ตระกูลอานที่ถือว่าได้ร่ำรวยมากในประเทศ ก็ไม่เคยที่จะ มาทานข้าวในที่แบบนี้
อานเฉียวพลิกเมนูอาหารครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็ได้ถอดใจ เธอทําใจสั่งไม่ลง
เฟิงเหยียนก็ไม่ได้บังคับ ก็ได้สั่งอาหารออกไปกับพนักงาน แล้วก็ได้เสริมว่า “เอาLover’sLostขวดนั้นที่ฉันมาไว้ที่นี่ออกมา ฉันจะฉลองกับภรรยาสักหน่อย”
“ค่ะ!”
รอให้พนักงานออกไป อานเดียวก็ได้พูดออกไปอย่างลำบาก
ใจว่า “คุณเฟิง”
เฟิงเหยี่ยนสีหน้าได้เครียด “เรียกที่รัก!”
เออ
ก็ได้! อานเฉียวก็ได้ยอมแพ้ไปชั่วคราว “คือว่า ฉันอยากจะพูด ว่า ถ้าเกิดคุณแต่งงานกับฉันเพราะว่าพวกเราได้เกิดเรื่องแบบนั้น งั้นฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็น คุณเป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้ไม่ได้เสียเปรียบ อะไร คุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบในตัวฉัน ถ้าเกิดคุณรู้สึกน้อยใจนั้น ฉันชดใช้ด้วยวิธีอื่นกับคุณก็ได้ คุณว่าดีไหม?”
เฟิงเหยียนยิ้มออกมาอย่างเรียบๆ ว่า “ไม่ได้”
อานเฉียว “”
ผู้ชายคนนี้ ไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหม?
เธอได้เม้มปาก ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ ก็ทำได้แค่โมโห ไปเองแบบนั้น
ก็ไม่รู้ทำไม คืนนี้ที่เยรูซาเล็มมีพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เป็น ลูกค้า อานเฉียวไม่รู้ว่าเพิ่งเหยียนได้เหมาร้านไปแล้วตั้งแต่แรก ก็เลยคิดไปว่าที่นี่ค่าใช้จ่ายสูง ก็เลยมีคนน้อยเท่านั้น
ไม่นาน พนักงานก็ได้เอาไวน์ออกมา ในตอนที่กระตุ้นไวน์นั้น ทั้งสองได้นั่งประจันหน้ากัน ไม่พูดอะไรเลย
ตอนที่ทำเสร็จ พนักงานก็ได้ในไวน์ให้ทั้งสองคนละแก้ว จาก นั้นก็ได้ออกไป เฟิงเหยียนก็ได้ยกแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นถาม “เธอ อยากจะรู้จริงๆ เหรอว่าผมทำไมถึงได้แต่งงานกับเธอ?”
อานเฉียวก็ได้รีบพยักหน้า
เธออยากจะรู้จริงๆ เพราะว่า ผู้ชายตรงหน้าไม่ว่าจะด้านไหน ผิดชอบ มันดูกระด้างเกิดไป
แล้ว ก็ได้โดดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย ให้เธอเชื่อเหตุผลที่ว่าจะรับ
และเธอก็ไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีความรักที่ไม่มีเหตุผล หรือว่า ความเกลียดแบบไม่มีเหตุผล
เฟิงเหยี่ยนก็ได้หรี่ตามองเธอ มุมปากเหมือนยิ้ม ท่าทางที่ถือ แก้วเหล้านั้นก็ได้เหมือนว่าขี้เกียจมากๆ แต่ก็ดูดี ก็ได้กวักมือไป ทางเธอ
อานเฉียวสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ยังลุกขึ้นเดินไป
แต่คิดไม่ถึงตอนที่เธอไปถึงตรงหน้าเขา ก็ได้คว้ามือเธอ เธอ ทําได้แค่ร้องออกมา ทั้งคนก็ได้ตกไปอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่าง ไม่ทันระวัง
“คุณทําอะไร?”
เธอตกใจเล็กน้อย มือน้อยได้นอกเขา ดิ้นรนอยากจะลุกขึ้น
“อย่าขยับ”
เฟิงเหยี่ยนได้รัดเอวเธอ แล้วก็กอดเธอที่อยู่บนตัวแน่น พูด เสียงเบาว่า “อย่าเล่นกับไฟ
อานเฉียวก็ได้อึ้ง
เธอกลับรู้สึกว่าข้างล่างๆ
เสียงที่ทุ้มต่ำนั้นก็ได้ดังข้างหูอย่างรู้เวลา เหมือนกับสายที่หนา
ของเชลโล่ เซ็กซี่ชะมัด
“รู้สึกถึงหรือยัง? นี่เป็นเหตุผลที่แต่งงานกับเธอ
อ้ายยยยยยย!
อานเฉียวก็ได้แดงเลยทันที เธอทั้งอายทั้งโมโห ก็ได้ผลักชาย
หนุ่มออก รีบลุกขึ้น
“นาย นาย โรคจิต!”
ชายหนุ่มได้ยิ้มอ่อนๆ ก็ได้มองใบหน้าที่แดงไปยันหูของเธออย่างพอใจ สายตาเต็มไปด้วยความสุข
“พวกเราเป็นสามีภรรยา สามีโรคจิตกับภรรยา เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เหรอ?”
อานเฉียวโมโหจนหน้าน้อยๆ ได้แดง พูดอะไรไม่ออกเลย
โชคดีที่พนักงานได้มาเสิร์ฟเวลานี้พอดี ความเขินถึงได้คลาย ไปเล็กน้อย
อานเดียวก็ได้กลับไปนั่งที่เดิมด้วยความโมโห มองอาหารที่ หรูหราตรงหน้า ไม่มีความอยากเลยแม้แต่นิด แต่เงยหน้ามอง ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามที่กลับได้กินอย่างอ่อนโยน กินไปก็ได้ยกแก้ว ไวน์แล้วก็ยิ้มให้เธอ พูดว่า “รัก Cheers!
อานเฉียวพูดอะไรไม่ออกกว่าเดิม
คิดไปคิดว่า ไหนๆ เขาไม่อยากที่จะคุยดีๆ งั้นก็ไม่คุยดีกว่า ยัง ไงซะมีสามีที่เป็นเศรษฐีเธอก็ไม่เสียหายอะไร คิดแบบนั้น อาน เฉียวก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีก ก็ได้เอามีดซ้อมแล้วก็เริ่มทาน
ไม่สนว่าเขาหมายความว่าอะไร? ฟ้าใหญ่ดินใหญ่หิวนั้นเรื่อง ใหญ่ เธอกินอิ่มแล้วค่อยพูด
วันนี้ตั้งแต่เช้า เธอไม่ได้ทานอะไรเลยแม้แต่นิด บวกกับเชฟ ของที่นี่ก็ยังได้เชิญมาจากภัตตาคารเจ็ดดาวจากฝรั่งเศสโดย เฉพาะ อาหารที่ทำออกมารสชาติดั้งเดิมเหมือนภัตตาคาร ฝรั่งเศสแน่ รสชาติดีไม่ว่า ปกติก็หาทานไม่ได้ง่ายๆ เพราะงั้น อานเฉียวก็ได้กินอย่างไม่เกรงใจ
เห็นสาวน้อยใส่อารมณ์ไปอาหาร บนเล็กน้อย แบบสังเกตเห็น
อานเฉียวเป็นมลงเฟิงเหยียนยังหุ่นฟัวกราส์อยากดีอยู่
แสงไฟร้านมีดเล็กน้อย นี่เป็นแสงเหลืองส้มอ่อนที่เต็มด้วยความเพราะว่าแสงไปส่อง ก็ได้ดูกว่าตอนกลางวันไปอีก นัยน์ตาถึง ขั้นน้ำเงินอ่อนส่อง
เธอได้อึ้งเล็กน้อย ใจคิด นัยน์ตาของเขาสีน้ำเงินปนด้วย
โทรศัพท์ในกระเป๋าอยู่ๆ ได้สั่น อานเฉียวดึงสติกลับมา เอา
ออกมาเป็นคุณพ่อ
เธอได้รีบลุกขึ้น เดินไปกดรับไป
“ค่ะ พ่อ”
เธอได้จงใจกดเสียงต่ำ
“อานเฉียว โทรศัพท์แกทำไมถึงปิดเครื่อง? โทรตั้งนานโทรไม่ติด!!
น้ำของอานจื่อซานได้มีความโกรธ อานเฉียวได้ฟัง ได้เล็กน้อย
เธอปิดเครื่องแล้วเหรอ? ไม่มีนา
เธอเอาออกมาจากกระเป๋าเมื่อกี้
อานเฉียวไม่ทันที่จะคิดปัญหานี้ดีๆ ในใจนั้นก็ยังโมโหเรื่องที่ เขาไม่เชื่อเธอ ในตอนเช้า เพราะงั้นก็ได้ถามออกไปเรียบๆ “มี อะไรเหรอคะ?”
“แกอยู่ไหน?”
อานเดียวก็ได้ลังเลไปสักพัก แต่ก็ยังเลือกที่จะตอบไปตรงๆ “ร้านอาหารตะวันตกเยรูซาเล็ม
“คนเดียว”
อานเฉียวไม่ตอบ
เธอจําได้รางๆ ว่าเฟิงเหยียนได้เป็นคนพาเธอออกมาจากงาน แต่ง ตอนนี้พ่อมาถามแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเธอแน่ๆ อีก อย่าง ขอแค่มีตา ก็สามารถมองออกมาผู้ชายคนนั้นไม่ธรรมดา เธอไม่ยอมให้คนอื่นเข้าใจผิด
แต่อานจื่อซานเป็นคนยังไง อานเดียวก็แค่ลังเลสักพัก ก็ถูก เขามองออกมา
ปลายสายก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเล็กน้อย พูดว่า “แก อยู่กับคุณเฟิงใช่ไหม?”
อานเฉียวก็ได้มองเฟิงเหยี่ยนที่อยู่ไม่ไกล ขมวดคิ้ว หลุด ปฏิเสธออกไปว่า “เปล่า”
“เปล่า? งั้นแกอยู่ข้างนอกคนเดียวทำไม?”
อานเดียวไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอไม่ถนัดที่จะพูดโกหก เพราะ งั้นทําได้แค่เงียบ
เสียงของอานจื่อซานก็ได้ดังอีก “แกนี่นา การมีแฟนก็ไม่ได้ เป็นเรื่องน่าขายหน้าอะไร ทําไมถึงไม่บอกที่บ้านล่ะ? เล่นเอาช่วง เช้าทำให้เข้าใจผิดแบบนั้น
“เขาไม่ใช่.…………….
“เอาหน่า พ่อรู้ว่าแกไม่เป็นไรก็พอ ว่างๆ ก็พาคุณเพิ่งมาทาน ข้าวที่บ้าน ได้ยินไหม?”
“พ่อคะ พวกเรา…….
“พอล่ะ ฉันยังมีธุระ แค่นี้นะ! ไม่คุยกับแกต่อแล้ว”
อานจื่อซานก็ได้วางสายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มองตัวหนังสือ ที่พึ่งวางสายไปแบบนั้น อานเฉียวตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย
เมื่อกี้พ่อพูดว่าอะไร? พาคุณเพิ่งกลับบ้านทานข้าว
อานเฉียวน้ำตาแทบไหลแล้ว……..
เธอถือ โทรศัพท์กลับที่นั่ง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ