บทที่ 489 ไม่มีสิทธิ
จึงเป็นก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแค่ยิ้มต่อไปอย่างมีความสุข พยักหน้า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อือ ผมแค่รังแกคุณ”
เขาพูด และเล่นนิ้วมือของเธอไปด้วย แดดสาดเข้ามาทาง หน้าต่าง อบอุ่นอย่างมาก ทำให้ใจคนผ่อนคลาย
จึงหนิงโดนเขาหยอกจนทั้งตัวไปเป็นอิสระ หัวเราะอย่างน่ารัก และดันเขาออก “อย่าแกล้ง จั๊กจี้”
“ภรรยา…….ร่างกายของคุณดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
จึงหนิงขมวดคิ้ว “อะไรดีขึ้น?
จู่ๆเขาก็จับมือเขามา
“คุณ……”
ทันใดนั้นจึงหนิงโวยวายจนหน้าแดง อยากจะลุกขึ้นทันที แต่ กลับถูกลู่นิ่งเซินดึงเอาไว้
ชายหนุ่มเอาหน้าไปฝังไว้ที่คอของเธอ ดมกลิ่นหอมสดชื่นของ
เธอ ช่วงเวลาเงียบสงัดและอบอุ่น
“อย่าไป อยู่เงียบๆเป็นเพื่อนผมสักพักก็พอแล้ว”
เขาพูดเสียงเบา น้ำเสียงอบอุ่น รอบๆอบอุ่นและเงียบสงัด
หลังของจิ้งหนึ่งหยุดชะงัก สุดท้ายก็ไม่ได้ขยับ กอดบ่าของเขา ไว้อย่างรักและสงสาร
ตั้งแต่เธอตั้งท้องมา เขาดูแลเธออย่างดีมาตลอด ทั้งสองคน แทบจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันหลายครั้ง คิดถึงเมื่อก่อนที่ต้องนอนด้วยกันทุกคืน ในกรณีส่วนใหญ่ไม่มี
หยุดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ปัจจุบันนี้หักห้ามมาจะปีนึงแล้ว ทำให้เขาลำบาก
ผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่ อุณหภูมิบนร่างกายของชายหนุ่ม ค่อยๆลดลง
เขาถึงเงยหัวขึ้นมา นิ้วมือที่เรียวยาวตันคางของเธอขึ้นเบาๆ ให้เธอหันมามองที่ตัวเอง
“เมื่อกี้กำลังคิดอะไร? หน้าดูไม่มีความสุข
จิ่งหนึ่งจับผมตัวเอง พูดเสียงอยู่ในลำคอว่า “ไม่มีอะไร”
“กับผมยังโกหกอีกหรอ?
เขาหรี่ตาลงและชำเลืองมองมา สายตาแบบนี้ของเขาสำหรับ จิ่งหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็พูดความจริงออกมา
“เมื่อเช้าจูเก่อหลิวเฟิงมา พูดกับฉันเกี่ยวกับเรื่องของตระกูล เก๋อ”
ลู่จิงเซินหยุดไปพักหนึ่ง
เม้มริมฝีปาก “เขาพูดว่าอะไร?”
จึงหนังเล่าเรื่องที่เก่อหลิวเฟิงพูดกับเธอ ทั้งหมดให้จิ้งเซิน
ฟัง
“จริงๆแล้วฉันลังเลใจมาก เดิมที่ฉันไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับ เรื่องเหล่านั้นของตระกูลเก่อ พูดความจริง ที่นั่นยุ่งเหยิงจนเกิน ไป ไม่เป็นไปตามเจตนาเดิมของฉัน ฉันแค่ต้องการมีชีวิตที่ธรรม ดาๆ”
“และฉันยังมักจะรู้สึกว่า ไม่มีความรู้สึกผูกพันกับที่นั่น ถ้าฉัน ต้องไปทำอะไรให้พวกเขาจริงๆ ตัวฉันเองคงเต็มไปด้วยความ เคียดแค้น และเดาว่าพวกเขาก็คงไม่มีความสุขเช่นกัน”
ลู่จิ่งเซ๊นยิ้มบางๆ
“คุณไม่เคยคิด ที่จะเป็นตัวแทนรับช่วงต่อตระกูลที่ทั้งมีอำนาจ และความร่ำรวยเลยหรือ?”
จิ่งหนิงชะงักไป
เธอมองมาที่เขาอย่างเลื่อนลอย กระพริบดวงตาที่ใส
“ฉันไม่เคยคิดมาก่อน อีกทั้งอำนาจและความร่ำรวย เดิม ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ ฉันต้องการเพียงแค่คุณ!
ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มเหมือนกับดอกไม้ เหมือน กับปีศาจที่ส่องแสงออกมาในตอนบ่าย ยืดแขนออกมาโอบคอ ของเขาเอาไว้
“มีคุณ มีลูก ฉันได้ทําในสิ่งที่ฉันชอบ แสดงหนังที่ตัวเองชอบ ก็เพียงพอแล้ว อย่างอื่นฉันไม่อยากจะได้มากเกินไป มีมากเกินไปก็หมายความว่าต้องรับผิดชอบมากเกินไป ต้องทุ่มเทมากเกิน ไป ฉันไม่อยากเป็นอย่างนั้น ฉันแค่หวังว่าชีวิตของฉันจะมีความ สุขอย่างง่ายๆ และอบอุ่นหอมเย็นก็โอเคแล้ว
หัวใจของลู่จึงเป็นสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็คว้าท้ายทอยของเธอ จูบริมฝีปากเธออย่างลึก
ซึ่ง
จูบนี้ นำพาความรู้สึกยุ่งเหยิงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นำพา ความรักที่ยิ่งใหญ่มหาศาล รวมทั้งความสุขที่ไม่สามารถ บรรยายออกมาได้ เหมือนสัตว์ป่าที่บุกทะลุกรงที่คุมขัง มาที่เธอ อย่างรวดเร็ว
จิ่งหนิงส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างคลุมเครือไม่ชัดเจน
“ลู่จิ้งเซิน! คุณ………..
จูบที่ยาวนานและลึกซึ้ง ละลายอยู่ในแสงอาทิตย์ที่อบอุ่นของ ตอนบ่ายๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยเธอ ทั้ง
สองคนจากโซฟากลิ้งลงมาอยู่ที่บนพรมแล้ว โชคดีที่ตอนนี้อากาศค่อนข้างเย็น ปูพรมไว้ค่อนข้างหนา จึง
หนึ่งถึงไม่ตกลงมาเจ็บ
นวดก้นของตัวเองและยืนขึ้นมา พูดอย่างตำหนิ ทำอะไร เนี่ย? ฉันตกใจหมดเลย
ลู่จึงเป็นยิ้มลึก กอดเธอไว้ในอ้อมกอด
“ไม่มีอะไร ก็แค่รักเธอมาก
ใจของจิ้งหนิงเต้นอย่างรุนแรง
ผู้ชายคนนี้ปกติจะไม่ค่อยชอบพูดจาหวานๆ แต่ทุกครั้งที่พูด คำหวานๆนั้น แม้จะเป็นเพียงประโยคธรรมดา แต่ก็สามารถ ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงได้อย่างง่ายดาย
สายตาเธอกลอกไปมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ พูดอย่างติดอ่าง ว่า “ตอนนี้พึ่งรักฉันหรอ!”
“ไม่ รักมาตลอด
เขายิ้มบางๆ ก้มหน้าลงมาจูบริมฝีปากเธออีก แต่ครั้งนี้แค่จูบ บางๆ นิดเดียว อบอุ่นและอาลัยรัก
วิ่งหนึ่งรับไม่ไหวที่เขาเป็นแบบนี้จริงๆ
ถ้าเป็นจูบที่ร้อนรุนแรงครั้งเดียวก็ถือว่าได้ ถึงยังไงเธอก็เลอะ เลือนอะไรก็ไม่รู้อยู่แล้ว
ตรงกันข้ามกับช้าๆแบบนี้ เหมือนเป็นจูบที่ค่อยๆ เพิ่มความ ร้อนขึ้น ทำให้เธอรับไม่ไหวเป็นพิเศษ
เหมือนขนนกปัดผ่านอยู่ในหัวใจ จั๊กจี้ แต่ก็ไม่ตรงไปตรงมา
ค่อยๆ เธอรู้สึกรับไม่ไหวแล้ว
ส่งเสียงออกมาเบาๆ ในลำคอ “ลู่วิ่งเขิน….…..
“อือ ผมอยู่นี่”
“คุณสามารถ……
เธอกัดริมฝีปากอย่างลำบากใจ ชายหนุ่มยิ้มบาง ปล่อยเธอ ออก “อ๋อ ไม่ทรมานคุณแล้ว เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องลำบากใจ เวลาที่ทําอะไรที่ไม่ดูแลร่างกายขึ้นมา
จิ่งหนิง ”
มองค้อนไปที่เขาอย่างไม่พอใจ “เรียกร้องผลประโยชน์ให้มัน น้อยๆหน่อย”
ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้ม เผชิญหน้ากับความไม่พอใจของเธอ แต่ ไหนแต่ไรมาไม่เคยย้อน
จึงหนิงเห็นไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ก็นึกถึงคำพูดของจูเก๋อหลิว
เพิ่งก่อนหน้านี้ ก็กลุ้มใจอีก
“พูดจริงๆนะ เรื่องนี้คุณว่าฉันควรจะทำยังไงหล่ะ? ฉันฟังความ หมายของเขา ถ้าหากฉันไม่รับตำแหน่ง ปัญหาน้อยใหญ่หลัง จากนี้อาจจะตัดสินไม่ได้แล้ว”
เธอจับผมอย่างกลัดกลุ้มใจ “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่กลัวพวกเขา แต่แมลงวันมากๆไม่ทำเสียงดังโวยวายต่อคน แต่มันรบกวนจน รําคาญ”
ลู่วิ่งเซินยิ้ม ลูบผมเธอเบาๆ น้ำเสียงอบอุ่น “ไม่เคยคิดถึงวิธี อื่นหรอ?
จิ่งหนึ่งขมวดคิ้วมองมาที่เขา “วิธีอะไร?”
ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างจำใจ
เหยียดนิ้วมือออกมา แตะที่หน้าผากของเธอเบาๆ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเอ็นดู “คุณนี่ มองเหตุการณ์ไม่ทะลุ จริงๆ”
เขาพูด และถอนหายใจออกมาเบาๆ “มีประโยคนึงที่พูดว่าแก้ ปัญหาที่ต้นเหตุรู้จักไหม?”
จึงหนิงชะงักไป ทันทีหลังจากนั้น รูม่านตาก็ขยายขึ้น ในชั่ว พริบตาเดียว
“คุณหมายถึง…….
ลู่จิ่งเซินพยักหน้า
“ถ้าหากว่าคุณไม่อยากได้จริงๆ งั้นก็วางมือโดยสิ้นเชิง ถ้า เป็นแบบนี้ คุณก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมรดกของตระกูลอีก แต่ ว่าหนิงๆ คุณต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเรื่องนี้ถ้าทำไปแล้ว ก็จะไม่มีทางเปลี่ยนได้อีก”
จึงหนิงมองไปอย่างเลื่อนลอย คิดอยู่สักพัก
ช่วงเวลาหนึ่ง เธอพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ฉันตัดสินใจแล้ว ทำ อย่างนี้แหละ”
สองสามวันต่อมา สมาชิกภายในตระกูลเก่อทุกคนได้รับ พัสดุไปรษณีย์ฉบับหนึ่ง
ในพัสดุไปรษณีย์นั้นเป็นวิดีโอสั้นๆง่ายๆอันหนึ่ง
จิ่งหนิงใส่กระโปรงสีชมพู ด้านนอกเป็นเสื้อทอสีเดียวกัน นั่ง อยู่ใต้ชั้นวางดอกไม้ในวิลล่า
เธอในวิดีโอนั้นหัวเราะพูดคุยอย่างสบายใจ เนื้อเรื่องที่พูดไม่ ซับซ้อน นั่นก็คือเธอไม่ต้องการจะเป็นหัวหน้าตระกูลจูเก่อ และก็ ไม่มีความสนใจในมรดกเช่นกัน ดังนั้นใครก็ตามที่มีความคิดที่ ไม่ดีและต้องการจะทำอะไรบางอย่างกับเรื่องนี้ก็ควรจะหยุด ส่วน ใครจะได้นั่งอยู่ที่ตำแหน่งนั้นอย่างเป็นรูปธรรม ก็ขึ้นอยู่กับการ แก่งแย่งกันของพวกเขา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ