บทที่ 411 อย่าทิ้งนะ
คนทั้งกลุ่มพากันไปอย่างยิ่งใหญ่ โชคดีที่ช่วงนี้รีสอร์ทไม่ใช่ช่วง ไฮซีซั่น ตอนที่ไปถึงยังมีห้องวีไอพี
เพิ่งเช่าห้องวีไอพีมาหนึ่งห้อง สั่งอาหารทะเลมาเต็มโต๊ะ ทุก คนทั้งกินและทั้งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เพิ่งชอบความคึกคัก ชวนทุกคนบนโต๊ะดื่มเหล้าและชนแก้ว กวนเสวีเฟยนิสัยขี้อาย ดื่มเหล้าก็ไม่ค่อยเก่ง ดื่มไปได้แค่สอง สามแก้วก็ไม่ไหวแล้ว ส่วนเฟิงหลินเมื่อก่อนอยู่ในค่ายเป็นระยะ เวลานาน โอกาสที่จะได้ดื่มเหล้ามีมากมาย จากนั้นถึงแม้ออกมา ทำธุรกิจ แต่ก็ออกไปพบปะลูกค้าน้อยมาก ดังนั้นดื่มได้ไม่กี่แก้ว ก็ต้องวางแก้วลงแล้ว
มีแต่เซ่เซียวและถังลั่วเหยา คอยดื่มเป็นเพื่อนคอยชนแก้ วกับเฟิงอย่างไม่เกรงกลัว ไม่แบ่งชนชั้น
ที่จริงแล้วเฟิงก็อยากมาชนแก้วกับลู่จึงเป็นเหมือนกัน แต่ จึงเป็นไม่สนใจเขาเลยสักนิด แต่เอาหยกก้อนนั้นออกมาและ กล่าวว่า: “ของก็ให้คุณไปแล้ว อย่าลืมเรื่องรับปากผมไว้
เพิ่งมองดูหยกเขียวที่อยู่ตรงหน้า เหมือนอยากจะกอดจูบลู จิ่งเซินจนใจจะขาดอย่างนั้น
ทั้งรู้สึกซาบซึ้งทั้งตื่นเต้น ไม่กล้าเข้าไปประจบลู่วิ่งเซิน แต่กลับ เอาใจใส่จึงหนิงมากยิ่งขึ้น
เซ่เซียวดื่มมากพอแล้ว เมาจนรู้สึกมึนๆ แววตาเห็นหยกชิ้นนั้น แล้ว ตะโกนขึ้นมากะทันหัน “ว้าว นี่เป็นชิ้นที่ท่านโจวเพิ่งจะได้มา ไม่ใช่เหรอ?”
เฟิง รีบกอดหยกชิ้นนั้นไว้ในอกอย่างระมัดระวัง กล่าว: “ตอน นี้เป็นของฉัน!”
แววตาที่แปลกใจของเซ่เซียวจ้องมองดูรอบตัวของทั้งสองคน รอบหนึ่ง แล้วโบกมือไปมา: ไม่ได้คิดจะแย่งคุณซะหน่อย แค่ ก้อนหินก้อนเดียว มีแต่พวกนายที่เอามาเป็นของล้ำค่า
เพิ่งทำเสียงอิ่มและหันหน้าไปพูดกับถังลั่วเหยาะ “เสี่ยวเหยา เหยา คุณอย่าทิ้งนะ หยกก้อนนี้ผมมอบให้ของผม ไม่ใช่มอบ ให้หญิงอื่น รอให้ถึงวันเกิดของคุณครั้งต่อไป ผมจะมอบชิ้นที่ สวยกว่านี้ให้คุณ รับรองว่าต้องดีกว่าชิ้นนี้
เขาก็ดื่มได้เยอะมากพอสมควรแล้ว ตอนที่พูด กลิ่นเหล้าฟัง กระจายออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลาแก้มแดงเล็กน้อย
ถังลั่วเหยาถูกเขาพูดหยอกจนหูร้อน รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ห่างไว้ระยะหนึ่งและจ้องเขาอย่างไม่พอใจ
“พูดมั่วอะไร? ใครอยากให้คุณเอามาให้?”
“เหอะๆ…..”
ไม่รู้ว่าเมาจริงๆหรือแกล้งเมา เพิ่งพูดพร่ำบ่นอย่างมึนเมา และไม่ค่อยชัดเจน “คุณไม่ให้ผมมอบให้ ผมก็อยากให้ผู้หญิง เยอะแยะขนาดนี้ผมอยากให้คุณแค่คนเดียว คุณกับพวกเธอไม่เหมือนกัน….…..
เขายิ่งพูดยิ่งมันมัวฟังไม่รู้ความและหยอดคำหวานใส่
จิ่งหนิงเห็นสภาพนั้นแล้ว รีบขัดคำพูดของเขา เพิ่งเมาแล้ว หรือพวกคุณพยุงเขากลับไปพักผ่อนก่อน เถอะ!”
ชั้นบนของโรงแรมจองห้องพักไว้แล้ว เซ่เซียวและเฟิง พวก เขาไม่คิดจะกลับบ้านในคืนนี้
นึกไม่ถึง เพิ่งกลับสะบัดมือออก
“ผมไม่ได้เมา ผม ผมก็แค่พูดความในใจสองสามคำในที่ พิเศษวันนี้”
สีหน้าของถังลั่วเหยาไม่ค่อยดีนัก จึงหนิงเห็นสีหน้าของเธอ
ไม่รู้ว่าสองคนนี้พัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้ว
แต่ว่าวันนี้ต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้ ไม่อยากให้เพิ่งพูด อะไรออกมามากเกินไป ทั้งสองคนจะได้ไม่เขินอาย
ดังนั้นจึงรีบขัดคำพูดของเขา เปลี่ยนเรื่องพูดกัน: “ถ้าอย่างนั้น ข้าวก็กินแล้วเหล้าก็ดื่มแล้ว เรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า!”
เซเซียวที่กำลังมึนเมาก่อนหน้านั้น พอได้ยินว่าจะเล่นเกมส์ ก็ รีบมีสติขึ้นมาทันที
“ดี เล่นเกมส์ ผมจะเข้าร่วมด้วย! ”
เฟิงก็โต้ตอบขึ้นมา แล้วยิ้มหัวเราะเหอะๆ
“ดีๆ เล่นโยนลูกเต๋าดื่มเหล้า พี่รองก็มาเล่นด้วยกัน
ลู่จิ้งเซินเหลือบไปมองเขาที่หนึ่งอย่างไม่ค่อยพอใจ “ถ้าผมไป เล่นด้วยล่ะก็ กลัวว่าพวกคุณจะแพ้จนร้องไห้
เพิ่งตอนแรกยังรู้สึกไม่ยอม ถูกเซ่เซียวดึงตัวไว้และกระพริบ ตาให้
ทันใดนั้นเขานึกถึงภาพครั้งที่แล้ว ตอนที่เล่นโยนลูกเต๋ากับลู จิ้งเซิน เกือบแพ้จนเหลือแค่กางเกงตัวเดียว ถึงกับตัวสั่นๆ จึงเลิก ล้มความตั้งใจที่จะเล่นเกมส์นี้
เซ่เซียวยิ้มและพูด: “งั้นเอาอย่างนี้ไหม เล่นแต่โยนลูกเต๋าไม่ สนุกไม่มีความหมาย เรามาเล่นเกมส์ใหม่ๆ
เฟิงยี่เป็นผู้ที่ชอบสนุก รีบตอบเห็นด้วย “ดีๆๆ เกมส์อะไร?”
“เสี่ยงอันตรายและพูดความในใจ เป็นไง?”
พอข้อเสนอแนะนี้พูดออกมา ทันใดนั้น จึงหนึ่งเป็นคนแรกที่ นำพาทุกคนรู้สึกตื่นเต้นสนใจจะเล่นอย่างเห็นได้ชัด “ฉันก็จะ เล่น!”
เฟิงยี่ยิ้มและพูด: “ก็ดี ต้องดูว่าพี่รองจะอนุญาตให้คุณดื่ม เหล้าหรือเปล่า”
จึงหนิงรีบหันหน้าไปทางลู่จึงเป็น สองตาทั้งกลมทั้งสว่างจ้า กระพริบอย่างมีความหวัง กล่าว: “ฉันดื่มเหล้านิดนึงได้ไหม? พี่ วางใจได้ ฉันจะไม่แพ้เยอะเกินไป”
ลู่จิ่งเป็นลูบๆหัวของเธอและตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “เล่น เถอะ แพ้แล้วพี่ช่วยดื่มเหล้าให้
จิ่งหนิงดีใจมากและหันไปพยักหน้าให้พวกเฟิง สีหน้าเต็มไป ด้วยความภูมิใจ กล่าว “ว่าไง? ไม่มีปัญหานะ?”
เฟิงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เซ่เซียวและเพื่อนๆก็ไม่มีปัญหา หัน
หน้าไปถามหัวเหยาและหยุนซูสองคู่นั้น ต่างก็เห็นด้วย
ครั้งที่หนึ่ง จึงหนิงออกตัวอย่างกล้าหาญขอเป็นท้าว
เธอรับลูกเต๋าจากมือเพิ่งมา เขย่าๆ แล้วพูด: “พวกคุณรีบๆ คิดคําถามนะ คิดเสร็จแล้วเขียนใส่กระดาษ เอามาให้ฉัน
เช่เซียวเดินไปเรียกพนักงานหยิบกระดาษปากกาเข้ามา แจก ให้ทุกคนสองสามใบ เขียนเสร็จแล้วก็เอาให้เธอ
ลู่วิ่งเซินไม่สนใจเกมส์ที่เด็กๆเล่นแบบนี้ ยอมเป็นที่พึ่งพิงของ จิ่งหนิง แค่ช่วยเธอดื่มเหล้า ไม่เข้าร่วมเกมส์ด้วย กวนเสวีเฟยดื่มเหล้าไม่เก่ง ดังนั้นก็ไม่เข้าร่วมด้วย
อย่างนี้ก็ คนที่เล่นเกมส์ ก็มีแต่จึงหนิง เซเซียวและเฟิงยี่ จี๋หลิน ยวน จี้หยุนซู แล้วก็เฟิงหลิน
โซฟาเป็นรูปวงกลม ล้อมรอบ โต๊ะกระจกใหญ่ๆอยู่ตรงกลาง
จิ่งหนิงแบ่งกระดาษออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นความใน ใจ อีกส่วนหนึ่งเป็นเสี่ยงอันตราย คลุกให้เคล้ากันแล้ววางเรียงๆ กันบนโต๊ะ
ส่วนตรงกลาง วางลูกเต๋าของเธอไว้ ทุกคนนั่งล้อมโต๊ะเป็นวง กลมรอบๆ
จิ่งหนิงพูดไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นท้าว เห็นทุกคนต่างก็เห็นด้วย ไม่ขัดแย้ง จึงหยิบลูกเต๋าขึ้นมาเขย่า
เปิดฝาออกมา คือสามแต้ม
จิ่งหนิงเลือกการเสี่ยงอันตรายอย่างไม่ลังเล
เพิ่งหัวเราะฮาๆ หยิบกระดาษเสี่ยงอันตรายของหมายเลข สาม เปิดออกมาดูปุ๊บ ทันใดนั้นสองตาจ้องกระดาษและกลั้น หัวเราะเอาไว้ จนหน้าเบี้ยวไปหมดแล้ว
จี้หยุนซูที่นั่งอยู่ข้างๆของเขาได้มองเห็นตัวหนังสือบนกระดาษ นั่นอย่างชัดเจน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“นี่ นี่ ใครเป็นคนเขียน? โรคจิตเกินไปแล้ว!
แม้แต่จี้หยุนซูที่เป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย ก็ทนไม่ไหวที่จะพูดคำ หยาบออกมา เห็นได้ว่า บนกระดาษนั้น เขียนได้โรคจิตมาก
เฟิงทนไม่ไหวจริงๆ หัวเราะฮาฮาดังขึ้นมา แล้วยื่นกระดาษ ให้จิ้งหนิง กล่าว: “ซ้อรอง นี่ผมไม่ใช่ไม่ช่วยคุณนะครับ เรื่องนี้ อืม จะพูดยังไงดี ช่วยยาก
จึงหนิงรับกระดาษมาด้วยความสงสัย พอดูปุ๊บ ทั้งคนดูแย่ไป ทันที
อะไรเนี่ย!
จูบกับชายคนไหนก็ได้ที่อยู่ที่นี่สิบนาที?
จิ้งหนิงอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา นึกไม่ถึงว่าตนเองจะช่วย ขนาดนี้ เพิ่งจะเล่นรอบแรกก็เจอโจทย์ที่น่าทึ่งขนาดนี้
เธอดึงแขนเสื้อของลู่จิ่งเซินและพูด: “ไม่เอา ฉันไม่เล่นแล้ว
ทุกคนต่างพร้อมใจกันแสดงความไม่พอใจและไม่เห็นด้วย
“ไม่ได้ ข้อรอง ขี้โกงไม่ได้นะ
จึงหนิงก็ไม่ได้คิดอยากจะโกงจริงๆ แต่ว่าให้จูบสิบนาทีต่อ หน้าคนเยอะแยะขนาดนี้?
พระเจ้า! นี่คือจังหวะที่จะเอาชีวิตเธอเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ