บทที่ 405 ประเพณีแปลกประหลาด
คู่รักนี้ สามารถเป็นทายาทของผู้นำประเทศหรือเป็นทายาท เศรษฐี ที่สามารถนําความเจริญและรุ่งเรืองมาสู่ประเทศ
สรุปคือล้วนเป็นคนร่ำรวย
และเพื่อรักษางานแต่งงานของทั้งสองคนไม่เกิดความผิด พลาด หลังจากที่พวกเขาเพิ่งเกิด และกำหนดคู่รักเสร็จก็วางยา พิษแมลง ในร่างกายของทั้งสองคน
ยาพิษแมลงเป็นยาพิษที่ตระกูลเก่อตกทอดลงมาจากราชวงศ์ แมลงมีทั้งแม่และลูก เกิดมาพร้อมกันก็ต้องตายพร้อมกัน ตัว หนึ่งฝังบนตัวผู้หญิง ส่วนอีกตัวฝังบนตัวผู้ชาย
เมื่อถึงวันแต่งงาน และทั้งสองร่วมรักกัน ยาพิษแมลงก็จะหาย ไปจากร่างกายของทั้งสองคน
ในทางกลับกัน ถ้าหากสุดท้ายทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน ยา พิษแมลงก็จะกระจายตัวไปทั่วร่างกาย จนสุดท้ายเจ็บปวดและ ตายจากไป
ตระกูลจูเก่อเป็นทายาทของราชวงศ์ อาจเป็นเพราะต้องการ เก็บรักษาความรุ่งเรืองของตระกูล หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น จึง ตั้งกฎประเพณีที่แปลกประหลาดขนาดนี้ ที่จับคู่ลูกหลานของ ตระกูลมาแต่งงานปรองดองเหมือนหมากรุก เพียงเพราะต้องการ รักษาความรุ่งเรืองของตระกูลเท่านั้น
หลังจากจิ้งหนังฟังจบก็รู้สึกเสียวสันหลัง
และรู้สึกหนาวเหน็บถึงกระดูก
ถ้าหากไม่ได้ฟังกับหูตัวเอง เธอคงไม่กล้าเชื่อแน่นอน บนโลก นี้ยังมีเรื่องป่าเถื่อนแบบนี้อยู่อีกหรอ
ต้องเป็นคนประสาทมากขนาดไหนกัน จึงจะสามารถคิด ประเพณีแปลกประหลาดแบบนี้ได้?
กวนจี้หมิงหัวเราะประชดเล็กน้อย “ในตอนนั้นเพราะตาของ เธอรู้เรื่องนี้ จึงไม่อนุญาตให้แม่ของเธอกับเขาอยู่ด้วยกัน แต่น่า เสียดาย ทั้งสองคนรักกันมากจนแทบไม่คำนึงถึงเรื่องนี้เลย หลัง จากที่แม่ของเธอรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงตัวเอง เธอไม่เพียงไม่แยกจากเขา แต่กลับคิดหนีไปกับเขาด้วยกัน
โชคดีที่ตาของเธอไล่ตามกลับมาทัน แต่น่าเสียดาย นับตั้งแต่ วันนั้นแม่ของเธอก็มีอาการซึมเศร้า ทั้งสองคนเหมือนกับคนบ้า แทนที่จะเลือกชีวิตที่ดี แต่กลับเลือกหนทางตาย ใครก็ไม่ สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้เลย”
จิ่งหนิงตกใจ อกเล็กน้อย
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าความจริงของเรื่องนี้เป็นแบบนี้ เธอซักถามขึ้นว่า : “จากนั้นเป็นยังไงต่อหรอ?”
“จากนั้นหรอ?” กวนจี้หมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พบกันอีกเลย หนึ่งเดือนต่อมา คนที่พวก เราส่งไปสืบก็ส่งข่าวบอกว่า จูเก๋อยู่ตายแล้ว เพราะสงครามที่แอฟริกาใต้ เขาอาสาออกไปรบด้วยความสมัครใจ
เพราะไม่สามารถอยู่กับแม่ของเธอ และไม่ยอมแต่งงานกับผู้ หญิงคนนั้นตามประเพณีของตระกูล เขาเลยตัดสินใจไปออกรบ ทําสงคราม แต่ไม่นานก็มีข่าวบอกว่า เขาตายที่นั้น
เมื่อแม่ของเธอทราบข่าวเรื่องนี้ก็ป่วยทันที ฉันเคยเจอยานอน หลับในห้องของเธอมาก่อน และรู้ว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตาย ต่อมา คุณหมอตรวจพบว่าเธอตั้งท้อง เพื่อลูก เธอจึงฝืนใจมีชีวิตอยู่ต่อ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาหันหน้าจ้องมองสิ่งหนึ่ง และพูดขึ้นว่า “จิ่งหนิง เรื่องที่แม่ของเธอเสียดายมากที่สุดในชีวิตคือการทำให้ หายไป แต่น่าเสียดายตอนที่เธอมีชีวิต ไม่สามารถหาเธอกลับมา ใต้ ตอนนี้เธอรู้ตัวตนของตัวเองแล้ว ถ้าหากเป็นไปได้ หากมีเวลา ว่างไปเยี่ยมเธอที่หลุมฝังศพของเธอบ้าง เธอจะได้รู้สึกสบายใจ”
จิ่งหนิง หมัดอย่างแน่น ไม่นานก็ฝืนยิ้มออกมา “ค่ะ ฉันจะไป ค่ะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว
จึงหนิงลุกขึ้นกล่าวอำลา ส่วนกวนจี้หมิงก็ส่งเธ งเธอออกจากร้าน กาแฟ จากนั้นทั้งสองคนก็อยากจากกัน
วันนี้เป็นโม่หนานที่ขับมาส่งเธอ ซึ่งรถยนต์จอดอยู่ลานจอดรถ ไม่ไกล
ในหัวสมองของจิ่งหนิงครุ่นคิดเรื่องของวันนี้พลาง และเดินไป ที่ลานจอดรถยนต์พลาง
เมื่อเดินได้ครึ่งทาง จู่ๆก็ได้ยินเสียงคุ้นหูหนึ่งดังขึ้น เธอนิ่งอึ้งเล็กน้อย แล้วหันหน้ามองตรงมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล และเห็นร่างเงาที่คุ้นตาคนหนึ่งอยู่กับผู้ชายวัยกลางคนกำลังสวม หมวกอยู่
โม่หนานพูดขึ้นอัตโนมัติว่า “คุณถัง?”
เธอพูดเสียงเบามาก จนคนทางนั้นไม่ได้ยิน จากนั้นก็เห็นถึง ถั่วเหยาเดินขึ้นบนรถแล้วจากไป ซึ่งหนึ่งอ้าปากคิดอยากกล่าว
ทักทาย
แต่ถังลั่วเหยามีปฏิกิริยาเร็วมาก เพิ่งเดินขึ้นบนรถยนต์ สตาร์ทรถขับแล่นออกไปดั่งจรวด
ผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นถูกเธอผลักไปอีกด้าน เขา
ตะเกียกตะกายลุกขึ้นด่าทอว่า
“พูดจาไม่เป็นคนเลย ฉันไม่มีทางยอมคุณแน่นอน!!
หลังจากด่าทอจบ ก็หันหน้าเห็นคนสองคนยืนอยู่ไม่ไกล
ภายใต้แสงไฟอันสลัว ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่ยืนตรง นั้นคือใคร เลยไม่ได้สนใจอะไรมาก
ด้วยเหตุนี้เลยหันหน้าด่าทอต่อว่า “เชอะ! เล่นบ้าอะไรกัน
จิ่งหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ได้แต่จ้องมองผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นด่าทอและจากไป จาก
นั้นโม่หนานก็เรียกอีกครั้ง
“คุณถังอยู่ที่นี่ได้ยังไงค่ะ? คนๆนั้น…..มีความสัมพันธ์ยังไงกับ เธอหรอ?”
จิ่งหนึ่งส่ายหน้าเล็กน้อย
เรื่องถังลั่วเหยา เธอไม่ค่อยรู้มาก
แต่ดูจากภาพลักษณ์แล้ว ผู้ชายคนนั้นคงสนิทสนมกับเธอ
ถึงแม้เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่ถังลั่วเหยาเป็นเด็กฝึกภาย ใต้สังกัดของซึงฮุย ดังนั้นจึงหนึ่งไม่อยากให้มีข่าวด้านลบ
ด้วยเหตุนี้จึงโทรศัพท์หาหงทันที และบอกว่าหากมีเวลาว่าง ให้เธอช่วยสังเกตถึงลั่วเหยาหน่อยว่าช่วงนี้มีปัญหาอะไรหรือ เปล่า
ซูหงรับปากทันที หลังจากวางสาย ซึ่งหนึ่งก็ขึ้นบนรถ จากนั้น
ไม่หนานก็ขับรถตรงไปที่วิลล่าเฟิงเฉียว
วันต่อมา วันหยุดของจิ้งหนึ่ง
ตอนเช้ารุ่งก็พบว่าลู่วิ่งเซินออกจากบ้านแล้ว คงไปทำงานที่ บริษัทแน่
ช่วงนี้ลู่วิ่งเซินยุ่งมาก เพราะคิดอยากหาเวลาว่างอยู่กับเธอ ดัง นั้นจึงเอางานที่ค้างไว้หลายวันทำให้เสร็จภายในสองวัน
อันที่จริงจึงหนิงก็เอ็นดูเขา เธอรู้ว่าถึงแม้เขาดูเป็นคน แข็งแกร่ง แต่เขามีภาระที่ต้องแบกหนักอึ้งมาก
อันที่จริงเรื่องสืบตระกูลจื่อจิน เขาไม่จำเป็นต้องสืบเป็นเพื่อนเธอเลย
แต่ผู้ชายคนนั้นไม่วางใจ อยากอยู่กับเธอ เธอจึงต้องยอม อย่างจนปัญญา
เพื่อทำให้เขาสบายใจ จึงต้องตามใจเขา
ด้วยเหตุนี้ ลู่จิ่งเซินจึงยุ่งมาก และเธอกลายเป็นคนที่มีเวลา ว่างที่สุดในบ้าน
หลังจากเดินรอบบ้านอย่างสบายใจ สุดท้ายจึงหญิงตัดสินใจ เข้าครัว ทำอาหารเที่ยงสุดพิเศษให้กับผู้ชาย ถือเป็นรางวัลที่เขา ทํางานหนักมาสองวัน
ในบ้านมีอาหารสําเร็จรูป แต่เธออยากลงมือเอง ถึงแม้เธอ ไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ แต่เพราะกังวลว่าตัวเองทำออกมาน่า เกลียด และไม่น่ารับประทาน ดังนั้นจึงเชิญป้าหลิวมาช่วยชี้แนะ อยู่ข้างๆ
ป้าหลิวร่วมมือเป็นอย่างดี ในฐานะคนใช้คอยดูแลลู่วิ่งเซิน ตั้งแต่เด็กจนโต สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดคือ การแสดงความรักอัน หวานของคู่นี้
ดังนั้นภายใต้การให้คำชี้แนะของป้าหลิว และทำอาหารต่อ
เนื่องสองชั่วโมง ในที่สุดก็ได้อาหารเที่ยงสุดพิเศษ ถึงแม้ยังคงดูไม่ค่อยน่ารับประทานมาก แต่จึงหนิงชิมรสชาติ แล้ว ถือว่าไม่เลวเลย
เมื่อมองดูเวลาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว ตอนนี้ทางบริษัทคงพักเที่ยงแล้ว แต่ด้วยนิสัยของลู่จึงเงินคงไม่เลิกงานตรง ต่อเวลาหรอก ดังนั้นตอนนี้เธอยังไปทันเวลาอยู่
จากนั้นจึงหนิงก็รีบตัก ใส่กล่อง แล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ