วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 398 ดูถูกดูแคลนหล่อน



บทที่ 398 ดูถูกดูแคลนหล่อน

เธอพลิกดูโบรชัวร์ในมือไปมา และเห็นคำแนะนำของต่างหูรูป พระจันทร์เสี้ยวที่อยู่ด้านบน

นั่นคือบลูไดมอนด์รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวตามธรรมชาติคู่หนึ่ง ที่ขุดพบในเหมืองใหม่จากแอฟริกาใต้ของปีนี้ หายากและไม่ ง่ายที่จะได้มาครอบครอง ผ่านการเจียรไนและขัดเงาที่ชำนาญ ของนักออกแบบ จนมันก็กลายมาเป็นอย่างที่เห็นในตอนนี้

พูดอย่างตรงไปตรงมา จึงหนิงเองก็ใจเต้นกับสิ่งนี้

ไม่ใช่แค่เธอ แต่ผู้หญิงที่อยู่ในงานประมูล ทุกคนก็อดไม่ได้ที่ จะอุทานออกมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ต่างหูคู่นั้นถูกนำออกมาให้ยล โฉม เห็นได้ชัดว่าทุกคนนั้นตกตะลึง ช่วยไม่ได้ ใครๆต่างก็มี ความรักสวยรักงามกันทั้งนั้น

งดงามมากจริงๆ!

เฟิงเองก็แอบใจเต้น แต่มองไปที่แววตาของสิ่งหนึ่งที่สั่นไหว นั้น ก็ต้องข่มอารมณ์ความอยากได้ให้หยุดลงแค่นั้น

ช่างเถอะ สุภาพบุรุษไม่ควรลงไปแย่งแข่งขันกับสุภาพสตรี มีผู้ หญิงหลายคนต้องการมัน และถ้าเขาลงไปแย่งมันจะยิ่งดูน่า รังเกียจ

เป็นไปตามคาด ไม่นานนักก็มีคนเริ่มเสนอราคาประมูลขึ้น
ราคาต่ำสุดอยู่ที่สิบล้าน เพิ่มไปอีกหนึ่งล้าน จากนั้นไม่นาน ราคาก็พุ่งสูงไปถึงแปดสิบล้าน

จิ่งหนิงรู้สึกใจเต้นจริงๆ แต่เธอก็เริ่มลังเลเนื่องจากการเสนอ ราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงต้องข่มอารมณ์ความอยากได้ จนใจเต้นนั้นไว้

แปดสิบล้าน! ไม่แน่อาจจะราคาสูงขึ้นอีก ราคามันสูงเกินไป แล้ว!

จากนั้นเธอก็ค้นพบว่า ปิ่นปักผม 8 ล้านเทียบกับต่างหูเพชร

ในตอนนี้นั้นแตกต่างกันมากและหาที่เปรียบมิได้

“แปดสิบห้าล้าน! สุภาพสตรีหมายเลข26เสนอราคาเพิ่มขึ้น เป็นแปดสิบห้าล้าน! ไม่ทราบว่ามีท่านใดเสนอราคาสูงกว่านี้ ไหม?”

“เก้าสิบล้าน!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น

ทุกคนต่างหันไปมองยังต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน และพบ ว่าต้นเสียงนั้นคือผู้หญิงเมื่อสักครู่ น่าหมันยาง

หล่อนนั่งอยู่แถวหน้า เม้มปากเล็กน้อยพร้อมใบหน้าของผู้ ชนะ เธอเชิดหน้าขึ้นสูงชูคอเซ็กซี่ของเธอขึ้น เนินอกขาวนวลของ เธออยู่ในชุดเดรสสีแดงภายใต้การส่องแสงของไฟที่ตกกระทบ ลงมานั้นยิ่งทำให้หล่อนดูขาวยิ่งขึ้นราวกับหยก

จึงหนิงได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของชายหนุ่มเป็นจำนวนไม่น้อย
เธอแอบมองและหันไปทางลู่จึงเป็นที่อยู่ข้างๆเธออย่างเงียบๆ

โชคดีที่ฝ่ายชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่มองวิวทิวทัศน์ที่งดงามนั้น

เขายังคงจ้องมองไปที่เวทีด้วยใบหน้าที่ปราศจากความรู้สึก “เก้าสิบล้าน! เยี่ยม สุภาพสตรีหมายเลข16เสนอราคาอยู่ที่

เก้าสิบล้าน! มีท่านใดต้องการเสนอมากกว่านี้ไหม?”

เวลาผ่านไปสิบกว่าวินาที ไม่มีใครออกเสียง

ในขณะที่พิธีกรกำลังจะเตรียมตัวนับ กลับมีเสียงหนักแน่นดัง ขึ้นมา “หนึ่งร้อยล้าน!!

อะไรนะ?

หนึ่งร้อยล้าน???

ทุกคนต่างหันกลับไปมองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นว่าผู้ เสนอราคานั้นคือลู่วิ่งเซิน ทุกคนก็ไม่แปลกใจ

ที่แท้ก็เป็นลู่จึงเป็นคนที่เสนอร้อยล้าน ก็ยังดีไม่ได้รู้สึกแปลก ใจมากนัก

ทุกคนต่างแสดงสีหน้าอิจฉาจึงหนึ่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และผู้ที่ไม่รู้จักลู่วิ่งเซิน เมื่อเห็นใบหน้าของเขาพวกเขาก็รู้สึก

ประหลาดใจ

ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา

ทั้งหล่อและรวย ดึงดูดใจสาวหลายๆคนอย่างปฏิเสธไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้นบุคคลที่เข้ามาในสถานที่แบบนี้ได้นั้น จะต้องมีสถานะทางสังคมที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

จิ่งหนึ่งกระซิบถาม “ทำอะไรของคุณ?”

ลู่จิ้งเซินกุมมือเธอแน่น ไม่ได้พูดอะไร

“สุภาพบุรุษหมายเลข 32 หนึ่งร้อยล้าน! มีท่านใดต้องการ เสนอให้มากกว่านี้ไหม?

น่าหมันยางมองไปที่จึงเป็นด้วยสีหน้าที่อ้อนวอน

สีหน้าแบบนั้นกำลังบอกว่า ลู่วิ่งเซิน โปรดเมตตาและปล่อย สิ่งนั้นให้ตกเป็นของหล่อนเถอะนะ!

สีหน้าของจิ้งหนังดูหมิ่นลงเล็กน้อย

ถ้าบอกว่านี่เป็นการอ้อนวอน แต่จริงๆแล้วนั้นดูเหมือน เป็นการยั่วยวนเสียมากกว่า

และนั่นยังเป็นการยั่วยวนต่อหน้าต่อตาของเธออีกด้วย

จิ่งหนึ่งเลิกคิดไม่ได้บวกกับสิ่งที่เพิ่งได้พูดไปก่อนหน้านี้ ทำให้ในตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้น

“หนึ่งร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สอง! หนึ่งร้อย

ล้าน…”

“เอ่อ เดี๋ยวก่อน!”

น่าหลับยางเอ่ยปากขึ้น

พิธีกรอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นหล่อนอีกครั้ง“สุภาพสตรีท่านนี้ ท่านต้องการเจรจากับสุภาพบุรุษท่านนั้นอีก ไหม?”

น่าหลับยางยิ้มบางๆ “ขอโทษด้วยนะคะ ที่ต้องรบกวนอีก ครั้ง”

“โอเค ให้เวลาห้านาที

น่าหลันยางหมุนตัวเดินมาทางพวกเขาอีกครั้ง ในครั้งนี้ จึงหนิงได้บทเรียนแล้วจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

มองดูน่าหมันยางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของลู่จิ่งเซิน พูดด้วย เสียงนุ่มนวลว่า “ท่านลู่วิ่งเซิน ต่างหูเพชรคู่นี้ เค้าชอบมากเลย ครั้งนี้ท่านพอจะปล่อยให้ฉันได้ไหมคะ?”

ลู่จิ้งเซิน เหลือบมองไปที่เธอแวบหนึ่ง

“เธอคือ?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของน่าหมันยางเลื่อนขึ้นมาทันที เพิ่งที่อยู่ทางด้านข้างก็อดไม่ได้ “เหอๆ” ออกมาเบาๆ

สิบนาทีก่อนหล่อนยังยืนอยู่ตรงนี้ ทำความรู้จักกันอย่างดิบดี สิบนาทีต่อมาเขาก็ลืมแล้วงั้นเหรอ

คงไม่ได้เป็นปลาทองความจำสั้นขนาดนั้นหรอกมั้ง

น่าหมันยางเองก็พอจับสังเกตได้ว่าลู่วิ่งเซินนั้นตั้งใจทำ ยิ้ม อย่างไม่เต็มใจก่อนจะพูดว่า “ขอโทษด้วยนะ ผมรู้ว่านี่มันออกจะ เสียมารยาทไปหน่อย แต่ผมอยากทราบว่า…”
“คุณผู้หญิงน่าหลัน คงจะไม่ได้มีพี่สาวที่ป่วยหนักและชอบต่าง หูคู่นี้อยู่อีกคนใช่ไหมครับ! ”

เพิ่งพูดเยาะเย้ยออกมาอย่างอดไม่ได้

จริงๆแล้วน่าหลันยางสังเกตเห็นเพิ่งมาตั้งนานแล้ว ก็ในเมื่อ เฟิงคือลูกชายคนที่สองของตระกูลเฟิง ซึ่งเป็นหนุ่มเนื้อหอมใน สื่อบันเทิง แน่นอนว่าหล่อนเองก็ต้องรู้จักอยู่แล้ว

เพียงแต่ว่าเป้าหมายของเธอนั้นไม่ใช่เพลย์บอยที่ร่ำรวย แต่ กลับเป็นลู่จิ่งเป็นผู้ที่จะช่วยเหลือพ่อของหล่อนได้มากในด้าน การเมืองและการเงินหล่อนจึงไม่ได้คุยกับเขา

เมื่อเห็นเขาพูดดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและตอบกลับไปว่า “คุณชายรองเฟิงก็พูดเป็นเล่นไป พี่สาวคนอื่นๆของฉันสุขภาพ ของพวกเขาแข็งแรงดีค่ะ จะมีก็คือพี่ฮัวซื้อที่ป่วยอยู่ แต่ต่างหูคู่นี้ ตัวฉันรู้สึกชอบส่วนตัวค่ะ ก็เลยอยากจะขอให้ลู่จึงเชินช่วยปล่อย ให้ฉันก็แค่นั้น”

จิ่งหนึ่งที่กำลังมองหล่อนอยู่ จู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า “เธอเอาอะไร คิดว่าเขาจะยอมให้เธอล่ะ?”

น่าหลันยางนิ่งไปสักครู่ ดูเหมือนว่าหล่อนคิดไม่ถึงว่าเธอจะ พูดออกมาแบบนั้น

เธอยิ้มออกมาด้วยความเสน่ห์หาตามมารยาหญิง ก่อนจะพูด ว่า “สาวน้อย เธอไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ผู้ชายน่ะเขาไม่ลงมาแย่ง กับผู้หญิงหรอก สุภาพบุรุษเขาไม่ทำกัน ตอนนี้เธอยังเด็กคงจะ ไม่เข้าใจที่ฉันพูด แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอโตก็จะเข้าใจเองแหละ
ความสำบัดสำนวนที่หล่อนพูดมานั้น ทำให้สิ่งหนึ่งรู้สึกไม่ พอใจเป็นอย่างมาก

“อย่างนั้นเหรอคะ? แล้วถ้าหากวันนี้พวกเราไม่ยอมให้ล่ะ?”

น่าหลับยางยิ้มอ่อน “งั้นมาดูกันดีกว่าว่าคุณจึงเป็นจะว่า อย่างไร”

หล่อนมองเขาด้วยความหวังลึกๆ “ถ้าหากคุณลู่วิ่งเซินนั้นไว้ หน้าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ฉันจะขอบคุณอย่างยิ่ง และถ้าฉันมี โอกาสฉันจะตอบแทนอย่างแน่นอนค่ะ”

เมื่อมองไปที่ท่าทางและสายตาที่แสดงออกแบบนั้นของหล่อน จิ่งหนิงก็มีสีหน้าที่ไม่ดีนัก

เฟิงยี่ยิ้มแล้วพูดว่า “จะตอบแทนอย่างไร? ด้วยร่างกายงั้นเห

รอ?”

คิดไม่ถึงว่าน่าหมันยางจะไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ หล่อนกลับ หัวเราะเบา ๆ “ถ้าลู่วิ่งเซ็นสนใจ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

จิ่งหนิงอดทนอดกลั้นกับน่าหมันยางยัยคนนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เห็นอยู่แท้ๆว่าเธอเองก็ยืนอยู่ข้างๆยังกล้าพูดจาแบบนั้นออกมา คิดว่าเธอเป็นอากาศนั้นเหรอ?

เธอพูดเสียงเรียบว่า “คุณน่าหลันคะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจ ว่า ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วมันหายาก แต่นี่มันน่าเกลียดเกินไป ไหมที่คุณจะยั่วยวนเขาต่อหน้าฉันแบบนี้? หรือว่าตระกูลน่าหมั่น นั้นสืบทอดความไร้ยางอายกันแบบนี้เหรอคะ?”
เธอพูดอย่างไม่มีความเกรงใจ

ถ้าหากนี่เป็นคนอื่น ไปได้ยินเข้าแบบนั้น ในตอนนี้คงจะอาย จนต้องหันหน้าหนีไปแล้ว

แต่คาดไม่ถึงน่าหมันยางกลับปิดริมฝีปากลงและยิ้มอ่อน “อ่อ คุณนายลู่กังวลเกินไปแล้ว ฉันก็แค่ล้อเล่น ทำไมคุณคิดจริงจัง

ขนาดนี้? หรือว่าคุณนายไม่ไว้ใจ คุณชาย

งั้นเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ