บทที่ 374 เยือกเย็นไร้ความรู้สึก
วิ่งหนึ่งยังคงอยู่ในความตกตะลึงเนิ่นนานทีเดียวกว่าเธอจะได้สติ กลับคืนมา
“แจ้งตำรวจหรือยัง?
ชายคนนั้นส่ายหน้าแล้วบอกว่า “ยัง ตาK มีเรื่องมากมายที่ไม่ อาจเปิดโปงได้ไม่สะดวกถ้าจะแจ้งตำรวจ เรื่องนี้ทำได้เพียง สืบหาด้วยตัวเอง แล้วจัดการด้วยตัวเอง”
จิ้งหนึ่งพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เพียงแต่รู้สึกว่าเหมือนมีหินทุบเข้ามาที่หน้าอก มันช่างปวด
ร้าว
ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นเธอหมดหวังก็ยิ้มออกมาเบาๆ
ใบหน้าอันหล่อเหลายื่นใกล้เข้ามาที่เธอแล้วถามว่า “เรื่อง จริงจังพูดจบแล้วsevenน้อย ตอนนี้บอกความจริงกับผมมาว่า ไม่ได้เจอกันตั้ง 4 ปีคุณไม่คิดถึงผมแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ? 11
สีหน้าขาวซีดของจิ่งหนึ่งตกตะลึง เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้ว มองเขาอย่างระมัดระวัง
“กู้ซื้อเฉียน ฉันขอเตือนคุณนะ! อย่ามาทำท่าทางเล่ห์เหลี่ยม แบบนั้นกับฉันอีก ฉันไม่หลงกลคุณหรอก! ”
กู้ซือเฉียน ยิ้มแล้วหรี่ตาของเขาลง มันช่างเหมือนกับไวน์ที่ชวนให้คนหลงใหล
“sevenน้อย คุณทำให้หัวใจผมเจ็บปวดเหลือเกิน เมื่อ 4 ปี ก่อนคุณยังเรียกผมว่าพี่ชายอยู่เลย 4 ปีให้หลังคุณเรียกผมว่า ซื้อเฉียน ทำไมคุณถึงได้เย็นแบบนี้ล่ะ?
จิ่งหนึ่งพูดไม่ออก เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปและไม่อยาก จะพูดเรื่องไร้สาระเหล่านี้กับเขาจึงหันหลังและก้าวออกไป
แต่ทันใดนั้นกู้ซือเฉียน ก็ได้พูดขึ้นมาว่า”sevenน้อย ผมได้ เบอร์โทรศัพท์ของคุณมาแล้ว คืนนี้ผมจะโทรหาคุณนะคุณต้อง รับสายผมด้วยล่ะ
แม้ว่าน้ำเสียงนั้นจะแฝงไปด้วยรอยยิ้มแต่จึงหนิงก็รู้สึกหนาว สั้นและเธอสัมผัสได้ถึงการขู่เตือน
เธอก้มหน้าลงไม่พูดอะไรและก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังออกมาจากห้องน้ำ เนื่องจากเธอถูกรบกวนทางจิตใจดัง นั้นจึงไม่อยากจะอยู่ในงานเลี้ยงอีกต่อไปจึงได้ ลาพวกเขา แล้วจากไปกับโม่หนาน
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว จึงเป็นกำลังนั่งอ่าน หนังสืออยู่ที่ห้องหนังสือของเขา เนื่องจากรู้ว่าเธอไปงานเลี้ยงคง ไม่ได้กินอะไรมากนักจึงได้ให้ ป้าหลิวทำโจ๊กทะเลของโปรดไว้ ให้เธอ
แต่จึงหนิงกินไปได้ไม่กี่คำก็วางมันลง
ตอนกลางคืนลู่วิ่งเซินอยู่กับเธอตลอดเวลา
เสียงโทรศัพท์สั่นขึ้นอยู่หลายครั้ง เขาได้ยินแต่ไม่ได้แสดง ท่าทีอะไรออกมา เมื่อเธอมองเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก็รู้ ว่าเป็นใคร ในขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะรับสายดีหรือไม่ก็ได้ยิน เสียงลู่วิ่งเซินพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้มีคนส่งดอกไม้ให้คุณบ่อยๆรู้หรือ ยังครับว่าเป็นใคร?
จึงหนิงตกตะลึงเธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในใจรู้สึกผิด หรือมือสั่นกันแน่จึงทำให้กดไปโดนปุ่มวางสาย
เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่เขาอยู่สองวินาทีก่อนจะตอบ สนองว่า
“ยังเลยค่ะ”
ดวงตาของลู่จิ่งเซินมืดลง
“ให้ผมช่วยไหม?
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอพูดออกมาเนื่องจากกลัวว่าถ้าเขายื่นมือเข้ามาช่วยจริงๆ และจะสืบหาอะไรเจอ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยากที่จะอธิบาย
ลู่วิ่งเซินเอียงศีรษะมองไปที่เธอ
“ไม่สบายหรือเปล่าครับ?
จึงหนิงฝืนยิ้มแล้วส่ายหัว
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ลู่วิ่งเซินเลิกคิ้วขึ้นแล้วมองดูเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก่อนจะใช้สายตาเอ่ยถามเธอว่า “ไม่รับสายเหรอ? ”
ตอนนี้จึงหนิงรู้สึกว่าตัวเธอแข็งที่อไปทั้งตัว เธอครุ่นคิดว่าจะ รับหรือไม่รับสาย แต่ในที่สุดแล้ว ก็ตัดสินใจวางสาย
“เป็นสายจากที่ทำงานค่ะ วันนี้ดึกมากแล้วค่อยว่ากันพรุ่งนี้
เธอพูดจบก็ดึงผ้าห่มแล้วซุกตัวเข้าไปด้านใน
สายตาของลู่วิ่งเซินหรี่ลงและคิ้วอันคมเข้มขมวดขึ้น แต่ไม่ ได้พูดอะไรออกมา เขาปิดไฟและล้มตัวลงนอนเช่นกัน
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเงียบสงบ
เช้าวันต่อมา จึงหนึ่งยังไม่ทันได้ลุกขึ้น ก็ถูกเสียงปลุกจาก
โทรศัพท์ทำให้เธอตื่น
เธอลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียและรับสายโทรศัพท์ขึ้น
“ฮัลโหล? ”
“พี่หนิงหนิง แย่แล้วเกิดเรื่องแล้ว!
เธอขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันเอะอะ โวยวายตั้งแต่เช้า?
ฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยจนจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว
“มีข่าวลือของคุณแพร่ออกมา อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่ไม่ ธรรมดา คือว่าให้พูดประโยคสองประโยคคงไม่ชัดเจน ตอนนี้ คุณลองไปดูที่เวยโปก่อนเถอะ!
จิ่งหนิงตกตะลึงเดิมทีเธอยังอยู่ในอาการมึนงงหลังตื่นนอน แต่บัดนี้กับตาสว่าง
เธอรีบวางสายลงแล้วนั่งเปิดเวยโป๊ขึ้นมาดู
ผลการค้นหาอันดับหนึ่งก็คือชื่อของเธอ เธอรีบกดเข้าไปดูและพบหัวข้อด้านใน : เซอร์ไพรส์! ชาย หนุ่มร่ำรวย เปิดศึก ในห้องน้ำอย่างร้อนแรง
จิ่งหนึ่งสีหน้าซีดลงทันทีเธอรีบเลื่อนลงไปดูข้างล่าง และพบว่ามีรูปถ่ายที่ถ่ายค่อนข้างคลุมเครือ
จากมุมของภาพถ่ายเหล่านั้นแล้วค่อนข้างแปลกมากเลยที เดียว แม้แต่ตัวเธอที่เป็นกิ่งมืออาชีพก็ยังจินตนาการไม่ถูกว่า ถ่ายมาจากมุมไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรรูปถ่ายของทั้งสองคนก็ค่อน ข้างชัดเจน
เนื่องจากสิ่งหนึ่งหันหน้าเข้าหามุมกล้องดังนั้นจึงเห็นใบหน้า เธออย่างชัดเจน ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งกดเธอเข้าที่ประตูห้องน้ำ จากนั้นก็ก้มลงมองดูเธอ เนื่องจากมุมกล้องถูกถ่ายจากด้านหลัง ดังนั้นจึงมองไม่เห็นหน้าชายนิรนาม
จิ่งหนึ่งสีหน้าสลดลงทันที
ไอ้สาระเลว!
รูปภาพเหล่านี้ใช้จมูกก็ยังคิดได้ว่าเป็นใครถ่าย เมื่อวานนี้ห้องน้ำนอกจากเธอและกู้ซื้อเฉียนแล้ว ไม่ได้มีคนอื่นอีก!
ไอ้ชาติหมานี่ อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนที่เธอไม่รับโทรศัพท์ มัน จึงได้ใช้วิธีนี้มาตักเตือน
ไม่เจอกันทั้ง 4 ปียังทำตัวเป็นพวกน่ารังเกียจเหมือนเดิม จึงหนิงด่ากู้ซื้อเฉียนอยู่ในใจ แต่ก็ไม่อาจจะปิดบังไม่ให้ลู่วิ่งเซิ
นรู้เรื่องนี้ได้
เพียงแค่จินตนาการว่าผู้ชายคนนั้นเห็นรูปภาพเหล่านี้จึงหนึ่งก็ รู้สึกปวดหัว
แต่ยังไม่ทันไรเขาก็เดินเข้ามา
วันนี้จึงเป็นไปบริษัทค่อนข้างช้ากว่าปกติ เขาเพิ่งจะออก กำลังกายและอาบน้ำยังไม่ทันได้แต่งตัว สวมเพียงกางเกงขาสั้น
บนร่างกายของเขามีผ้าขนหนูแขวนอยู่ ไอร้อนจากร่างกายยัง คงแผ่ออกมา เมื่อเห็นว่าเธอตื่นแล้วเขาก็เช็ดตัวและเดินเข้าไป ถามว่า “ตื่นแล้วเหรอครับ?
จึงหนิงฝืนยิ้มออกมาว่า “ค่ะ”
สีหน้าของลู่จึงเป็นมองไปแล้วดีกว่าที่เธอจินตนาการไว้ แต่คิ้ว ของเขาแสร้งทำเป็นเย็นชา
เขาโยนผ้าเช็ดตัวเอาไว้แล้วเดินเข้าไปหาเธอ
“คุณนายลู่ วันนี้มีอะไรจะอธิบายให้ผมฟังไหม? ”
“เอ่อคือ……..คุณเห็นแล้วใช่ไหม? ”
ลู่วิ่งเซินเลิกคิ้วขึ้นแล้วตอบว่า “อืม”
จิ่งหนึ่งยิ้มแห้งๆและอธิบายว่า “นี่มันเป็นการเข้าใจผิดกันนะ คะ ในตอนนั้นฉันบังเอิญเจอเขาในห้องน้ำ และเขาพยายามรั้ง ฉันเอาไว้บอกมีเรื่องจะคุยด้วย ฉันเองไม่รู้จะทำยังไง แต่คิดไม่ ถึงว่าจะมีปาปารัสซีแอบถ่าย จริงๆนะคะฉันกับเขาไม่มีอะไรกัน
ลู่จิ่งเซินหรี่ตาลงมอง สายตาของเขาแฝงไปด้วยความเย็นชา
“เหรอครับ ช่างบังเอิญจริงๆนะ ที่เขาพบเข้ากับคุณในห้องน้ำ หญิง วันนี้ผมพึ่งจะรู้ว่าคุณชายรองเป็นกะเทย?
จิ่งหนิงตกตะลึง ตัวของเธอสั่นสะท้าน
“คุณว่าอะไรนะคะคุณชายรอง? ”
ในครั้งนี้เป็นลู่จิ่งเซินเองที่รู้สึกประหลาดใจ
“คุณไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเหรอ? ”
จิ่งหนึ่งอ้าปากค้าง เธอครุ่นคิดจากนั้นหุบปากลงแล้วส่ายหัว “ฉันไม่รู้ค่ะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ