บทที่ 371 วันครบรอบแต่งงาน
ห้องนี้จึงเป็นได้จัดเตรียมเอาไว้เป็นพิเศษ
ขนาดของห้องไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก ประมาณ 100 ตาราง เมตร แต่การจัดวางค่อนข้างละเอียดอ่อน ที่สำคัญคือห้องนี้พวก เขาจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับคู่รัก
ไม่ว่าจะเป็นกระจกห้องน้ำแบบโปร่งใส หรือเทียนและดอก กุหลาบที่ถูกวางประดับไว้ในห้อง ก็แสดงให้เห็นถึงความโรแมน ตึกของค่ำคืนนี้
จิ้งเซินหั่นสเต๊กบนจานแล้วส่งให้เธอ จากนั้นนำจานที่อยู่ตรง หน้าของเธอมา น
เนื่องจากทั้งสองคนมีรสนิยมคล้ายคลึงกันดังนั้นอาหารที่สั่ง มาจึงเหมือนกัน จึงหนิงเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอหยิบร้อมขึ้นมา และเริ่มลงมือกิน
“ลู่จึงเป็น วันนี้คุณนึกสนุกอะไรกันถึงได้พาฉันมาที่นี่คะ? ชายหนุ่มที่กำลังนั่นสเต็กเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“คุณไม่รู้เหรอ? “ จึงหนึ่งชะงักลงเล็กน้อย “ฉันต้องรู้อะไรเหรอคะ?”
สายตาของชายหนุ่มบ่งบอกถึงอาการที่ทำตัวไม่ถูก จิ่งหนึ่งรู้สึกสับสนเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เห็นเขาวางซ้อมลง แล้วหยิบกล่องของขวัญสีแดงออกมาจากใต้โต๊ะ
ที่รักครับ สุขสันต์วันครบรอบแต่งงาน 1 ปีของเรานะ
จิ่งหมิงทําท่าทางตกตะลึง
หนึ่งปีอย่างนั้นเหรอ?
เหอะๆ!
เมื่อได้ยินคำนี้เธอแทบจะสำลักสเต็กที่อยู่ในปาก จนเธอ กระแอมออกมาอยู่หลายที่ก่อนที่จะจ้องมองไปที่จึงเป็นด้วย ความเหลือเชื่อ
“คุณบอกว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงาน 1 ปีของเราหรือ คะ? ”
ลู่วิ่งเซ็นสีหน้าแข็งกระด้าง
ผ่านไปหลายวินาทีก่อนเขาจะค่อยๆเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “คุณว่า
ยังไงล่ะ? ”
จิ่งหนึ่ง”……”
ในตอนนี้เธอเพิ่งจะได้สติกลับคืนมา
มิน่าเล่า ในวันนี้ผู้ชายคนนี้ถึงได้ดูแปลกไป
ไม่เพียงแต่ให้เธอกลับมาจากกองถ่ายเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเขา อีกทั้งยังกำชับให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และจองห้องคู่รักสุดแสนโรแมนติกขนาดนี้ อีกทั้งยังมีไวน์……..
ที่แท้เป็นวันครบรอบแต่งงานนี่เอง!
ในตอนนี้จิ้งหนึ่งรู้สึกว่าตัวเธอย่างน่าเศร้าจริงๆ
ที่จริงแล้วความจำของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนี้ ว่ากันว่าตั้งครรภ์ ทีหนึ่งจะโง่ไปสามปี นี่เธอยังไม่ทันได้ตั้งครรภ์เลยทําไมความจํา ถึงได้แย่ขนาดนั้น?
แม้แต่วันครบรอบแต่งงานก็ยังจำไม่ได้
จิ้งหนึ่งกระแอมแล้วยิ้มออกมา “เอ่อคือว่า…….ขอโทษนะ คะ….. ฉันไม่รู้ว่าวันนี้คือ…ฉันไม่ได้เตรียมของขวัญมาด้วย แต่ว่าพรุ่งนี้ฉันจะชดเชยให้คุณนะคะ! ”
เมื่อพูดจบตัวเธอเองยิ่งรู้สึกผิด
วันครบรอบเชียว! จะต้องให้ของขวัญในวันครบรอบ หากว่าเลยมาหนึ่งวันจะนับว่าเป็นวันครบรอบไหม?
หลังจากนั้นเธอก็แอบโมโหใครบางคน
ทั้งๆที่เขารู้แต่กลับไม่เตือนเธอ ทำให้เธอต้องอับอายแบบนี้ เขานี่จริงๆเลย……..
ลู่วิ่งเซินยิ้มที่มุมปากแล้วพูดว่า ไม่เป็นไรครับคุณลองเปิดดูซิ ว่าชอบหรือเปล่า
จิ่งหนึ่งมองไปยังกล่องสีแดงที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วกลืนน้ำลาย
องคอ
แล้วมองไปยังสู่จึงเขิน แม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะยิ้มโดยไม่จริงใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่น่าจะโกรธจริงๆ เธอถึงกล้ายื่นมือออกไป และ
ค่อยๆเปิดกล่องของขวัญดูด้วยความระมัดระวัง ด้านในของกล่องของขวัญสีแดงห่อหุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำ
และบนผ้าผืนนั้นมีกำไรสีเขียววางอยู่
จิ้งหนังแววตาเป็นประกาย
“โอ้โหกำไรนี้สวยจังเลยค่ะ!
ลู่วิ่งเซ็นมองไปที่เธอแล้วถามว่า “ชอบไหมครับ?
“ชอบค่ะ!”
หยกเขียวจักรพรรดินั้นเดิมทีก็หายาก อีกทั้งกำไรหยก จักรพรรดิอันนี้มีสีเขียวเข้มมากกว่าที่เธอเคยเห็นในงานประมูล
เสียอีก
จิ้งหนิงเป็นคนที่ค่อนข้างเยือกเย็น เครื่องประดับธรรมดา
ทั่วไปไม่อาจดึงดูดเธอได้
มีเพียงเครื่องประดับประเภทหยกเท่านั้นที่เธอสนใจ หญิงสาว คนอื่นๆ อาจจะกลัวว่าถ้าสวมใส่มันแล้วจะดูแก่กว่าวัย แต่เมื่อเธอ สวมใส่มันช่างดูมีสง่าราศีหรูหราเป็นที่น่าพึงพอใจ
ดังนั้นจึงหนิงจึงไม่ชอบเครื่องประดับจำพวกทองหรือเพชร เธอชื่นชอบเพียงหยกเท่านั้น
เมื่อลู่จิ้งเซินเห็นว่าเธอชอบจึงได้แสดงท่าทางพึงพอใจออกมา
“ถ้าคุณชอบ แล้วครับ มาเถอะผมจะสวมให้
จิ่งหนึ่งสืบยื่นแขนออกไป ซึ่งเป็นสวมกำไลให้ข้อมือของเธอ
กำไลหยกสีเขียวเข้ม ทำให้แขนอันขาวผ่องของเธอข่าว เข้าไปอีกราวกับหิมะ ช่างงดงามเหลือเกิน
“หนิงหนิงครับ”
คะ? –
จิ่งหนึ่งยังคงก้มหน้าพิจารณาหยกนั้น เธอเพียงแค่ตอบรับเขา แต่ไม่ได้เงยหน้ามอง
จึงเป็นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “คุณได้รับของขวัญแล้ว แล้วของขวัญของผมล่ะ? ”
จิ่งหนิงตัวแข็งทื่อ
เธอเงยหน้ามองดูชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความเป็น
อาย
“เอ่อคือ…… เมื่อสักครู่ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าฉันลืม “อืมมั่นหมายความว่าวันนี้ผมไม่ได้รับของขวัญสินะ”
ชายหนุ่มพูดจบก็ดึงมือกลับไป สีหน้าของเขาแสดงถึงความ ผิดหวังที่ไม่ปิดบังเอาไว้
จิ้งหนึ่งจะอดใจดูต่อไปได้อย่างไร เดิมทีเขานั้นก็มีหน้าตาอัน หล่อเหลา และเธอก็คุ้นเคยกับท่าทางสงบนิ่งของเขาเช่นนี้ ไม่ว่า จะเป็นเสียงหัวเราะที่เย็นชา หรือกิริยาที่เงียบสงบช่างดูเท่และ จริงจัง
แต่เธอไม่เคยเห็นท่าทางเขาเสียใจเช่นนี้เลย
จึงหนังทําใจไม่ได้เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้ฉัน จะพยายาม ชดเชยของขวัญให้กับคุณนะคะคุณอย่าโกรธ ไหม? ”
ลู่จิ้งเซินฝืนยิ้มให้กับเธอ
“ผมไม่ได้โกรธ”
จิ่งหนึ่ง ”
“ผมก็แค่เสียใจนิดหน่อย ช่างมันเถอะคุณกินข้าวต่อไม่ต้อง สนใจผม
เขาพูดจบก็ลงมือนั่นสเต็กในจานของตัวเองต่อไป
จิ่งหนิงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ในเวลานี้เธอจะมัวไปนึกถึง เรื่องอื่นได้อย่างไร เธอรีบวิ่งไปแล้วโอบกอดเขาจากด้านหลัง
“ที่รักคะ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ฉันสัญญาว่าจะไม่ลืมอีก ครั้งนี้คุณยกโทษให้ฉันนะคะ”
จึงหนิง โอบกอดเขาจากด้านหลัง ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นมุมปาก ของชายหนุ่มที่เผยอยิ้มขึ้น
ลู่วิ่งเซ็นทำท่าทางผิดหวังต่อไปแล้วพูดว่า “แล้วครั้งนี้ ก็ให้มัน ผ่านไปอย่างนี้เหรอ? ”
จิ่งหนึ่งรู้สึกทำตัวไม่ถูก
เห้อ! สามีขี้งอนแบบนี้ทำยังไง?
ใครก็ได้ช่วยด้วย!
เธอครุ่นคิดอยู่สักครู่ แล้วซักมือข้างหนึ่งกลับมาคลำที่ร่างกาย ของตัวเอง เธอค เจอของบางอย่างแววตาของเธอเป็นประกาย “ที่จริงวันนี้ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย เพียงแต่ว่า
กลัวคุณจะไม่ชอบจึงไม่กล้าน้ำมันออกมา
ลู่จึงเป็นเลิกคิ้วแล้วถามว่า “อะไรกัน? ”
จิ้งหนิงรีบปล่อยมือจากเขาแล้วเดินมาข้างหน้า เธอหยิบสร้อย ข้อมือที่ทําด้วยเชือกสีแดงออกมา
ลู่จิ่งเซิน
สร้อยข้อมือเส้นนี้มันช่างธรรมดามาก ธรรมดาเสีย จน…….แทบไม่เหมือนกับของขวัญ เป็นเพียงกำไรข้อมือที่ใช้เสื้อ สีแดงถักเป็นวงกลม และตรงกลางถูกประดับด้วยลูกปัดสีทอง บนลูกปัด นสลักคำอวยพรเอาไว้
ลู่วิ่งเซินเกือบจะโยนสร้อยทิ้งออกไปทางหน้าต่าง
เขามองดูจิ้งหนึ่งพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ขั้น “นี่คือ ของขวัญครบรอบแต่งงานที่คุณเตรียมไว้ให้ผมเหรอ?
จิ่งหนึ่งก็รีบยิ้มขึ้น เธอมองดูเขาด้วยความหวัง “ใช่ค่ะ ฉันถูก มันด้วยตัวเองเลยนะคะ คุณดูลูกเล่นตรงนี้ บ่งบอกถึงความ พยายามของฉันใช่ไหม? ”
สีหน้าของลู่วิ่งเซินแสดงถึงความมืดมนเข้าไปอีก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ