วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 368 ฉันกลับมาแล้ว



บทที่ 368 ฉันกลับมาแล้ว

จิ่งหนึ่งมอง พูดง่ายๆ ที่อยู่บนหน้าจอ สุดท้ายก็อดไม่ไหว “ฟุต” แล้ว ออกมา

คนในงานได้ยินก็ได้มองเธอ นิ่งไปเล็กน้อย

เธอก็ได้รับโบกมือ “โทษทีค่ะ พวกคุณดื่มกันต่อๆ ฉันขอตัวไป

โทรศัพท์”

พูดจบ ก็ได้เอาโทรศัพท์ เดินไปที่ทางเดินข้างนอก

ตอนที่กำลังโทรไปหาลู่วิ่งเซ็นนั้นอยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดัง มีสาย

โทรเข้ามา

เธอได้นิ่งไปเล็กน้อย มองเบอร์แปลกที่ได้โทรเข้ามา ขมวดคิ้ว

จากนั้น ก็ได้รับสาย

“ฮะโหล? ใครคะ?”

“Seven ไม่ได้เจอกันนาน ฉันกลับมาแล้ว”

คนในกองถ่ายได้สังเกตเห็นว่า ตั้งแต่หลังจากงานเลี้ยงเมื่อ วาน อารมณ์ของจิ้งหนิงก็ไม่ค่อยดี

ตอนที่ถ่ายละครแล้วชอบเหม่อลอยไม่ว่า แต่พอเสร็จงาน ก็ไม่ เมื่อเหมือนก่อน ที่ชอบที่จะมาพูดเล่นกับทุกคนแบบนั้น
ทุกครั้งที่เก็บ เธอชอบพาไม่หนาน กลับไปที่โรงแรมอย่าง รวดเร็ว

ต่อให้ตอนที่กำลังถ่ายทำอยู่ ก็ได้มีเวลาที่จะพักผ่อนบ้างเล็ก น้อย เธอก็ไม่ค่อยชอบที่จะไปพูดคุยเล่นกับทุกคน แต่เป็นการที่ นั่งอยู่คนเดียว ทำธุระของตัวเอง

ตอนแรก ทุกคนคิดว่าเพราะเรื่องที่เธอได้รับบาดเจ็บ ในใจก็ ต้องคิดอะไรอยู่บ้าง

แต่ก็ยังเห็นเธอได้เล่นพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเพื่อนร่วมงาน ฝ่ายอุปกรณ์สองคน ปกติก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้อีก

ทุกคนนั้นก็ได้พากันงงไปสักพัก

การเปลี่ยนแปลกนี้ ไม่ได้แค่คนในกองถ่าย ขนาด ไม่หนานที่ เป็นคนไม่ละเอียดอ่อนอะไรก็รู้สึกได้

แน่นอนว่าไม่หนานเป็นห่วงเธอ เพราะงั้น ก็ได้หาโอกาส แล้ว

กามเธอ

“หนิงหนึ่ง ช่วงนี้เป็นอะไรไป? ทำไมใจลอยอยู่ตลอด

จึงหนิงอึ้ง ตั้งสติได้ ก็ได้รับส่ายหน้า

“ฉันไม่เป็นไร”

ไม่หนานขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ

จิ้งหนึ่งเม้นปาก พูดเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไรจริงๆ ก็แต่สองวันนี้ ไม่ค่อยสบาย ผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นแล้ว
ไม่หนานก็คิดว่าแผลที่มือของเธอได้เริ่มเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว ถึง แม้ว่าแผลได้สมานไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่หนาวขึ้นหรือฝนตก ก็ยัง รู้สึกเจ็บเล็กๆ น้อยๆ

“ฉันช่วยเธอ โทรเรียกหมอมา

จิ่งหนึ่งรีบห้ามเธอไว้

“ไม่ใช่” เธออยากร้องไห้ออกมา “ฉันไม่ได้หมายความว่ามือ ฉัน เอ่อ…….เธอคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดีก็แล้วกัน ไม่เป็นไร จริงๆ ไม่ต้องเป็นห่วง”

ไม่หนานเห็นเธอบอกแบบนี้ ก็ได้อะไรไม่ได้ ทำได้แค่ฟัง

วันนี้ ในกองถ่ายก็ถือว่าได้ถ่ายนอกสถานที่เสร็จ ต่อจากนี้ก็ได้ ถ่ายฉากที่อยู่ในห้องทั้งหมด

ไหนๆ ก็เป็นฉากในห้อง แน่นอนว่าไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาในภูเขา อีกแล้ว ทั้งกองถ่ายก็ได้ย้ายไปที่สตูดิโอซิตี้ของเมืองหลวง

การถ่ายวันแรกถือว่าราบรื่น วันที่สองตอนเช้า พนักงาน ส่งดอกไม้คนหนึ่งอยู่ๆ ก็ได้ก้าวเข้ามาในกองถ่าย มือได้ถือ ดอกไม้ช่อหนึ่ง บอกว่าจะให้จิ้งหนึ่งเซ็นรับ

ทุกคนต่างคิดว่าลู่วิ่งเซินเป็นคนส่งมา ยังไงซะ ตั้งแต่ความ สัมพันธ์ของทั้งสองได้ถูกเปิดออก จึงเป็นก็ชอบส่งคนมาส่งของ มาที่กองถ่าย

กับอาหารหมาคราวนี้ ทุกคนก็ได้พากันชินแล้ว
ตอนแรกวิ่งหนึ่งก็ไม่สังเกต บนดอกไม้ไม่มีการ์ด เพราะงั้นเธอ รับดอกไม้เสร็จ ก็ได้เอาไว้อีกด้าน

ตอนเที่ยงตอนโทรคุยกับชายหนุ่ม พูดถึงเรื่องนี้ คิดไม่ถึงว่า จิ้งเซินกลับไม่ยอมรับ

จิ่งหนึ่งอึ้ง

เขาไม่ได้เป็นคนส่ง?

กับเรื่องที่คนส่งดอกไม้ให้จิ้งหนึ่งนั้นจึงเป็นก็ได้ปล่อยวางไป แล้ว ยังไงซะ ตอนนี้เธอเป็นนักแสดง มีแฟนคลับกับคนตามจีบ เป็นเรื่องปกติ

ยังไงซะไม่ว่าพวกเขาส่งอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นของเขา ใคร แย่งไปไม่ได้

ส่วนเรื่องอื่น จึงเป็นไม่เป็นห่วงเลยแม้แต่นิด

ถึงแม้บางครั้งเขาก็ทิ้งอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งจัดการได้ดีมาก ปกติ แล้วมีอะไรก็ได้บอกเขาหมด เลี่ยงที่จะไม่ให้เขาอารมณ์ไม่ดี หรือ ว่าเข้าใจผิด

จุดนี้ ลู่วิ่งเซ็นพอใจมากๆ พอเป็นแบบนี้ คนที่มาจีบวิ่งหนึ่งยิ่ง เยอะ จึงหนิงก็จะยิ่งแคร์เขามาก ผู้ชายบางคนที่ได้รับความใส่ใจจากผู้หญิงตัวน้อยๆ ในใจนั้น

เบิกบานมากๆ

อีกด้าน จึงหนิงกลับตกอยู่ในความวิตก
พูดตามตรง ถึงแม้ตอนนี้เธอพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง อีกอย่าง หน้าตากับรูปร่าง ก็ถูกคนในโซเชียลเอาไปพูดอยู่บ่อยๆ เรียกว่า นี่เป็นมาตรฐานความสวยของวงการบันเทิง

แต่เพราะเธอนั้นเป็นคนที่แม่พระไป นอกจากแสดงละคร น้อย มาที่จะไปถ่ายรายการอื่น พูดถึงไม่บ่อย บวกกับการใช้ชีวิตที่ ค่อนข้างติดดิน เพราะงั้นก็ไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้น

อีกอย่างเธอได้แต่งงานแล้ว คนที่แต่งงานด้วยยังเป็นผู้ชายที่ ทุกคนไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วย จุดนี้ทุกคนรู้ดี

เพราะงั้น ที่จริงต่อให้ผู้ชายมากมายมาชื่นชอบเธอ แค่ความ จริงนั้นคนที่มาส่งดอกไม้ให้เธอนั้นมาน้อยมาก

อย่างน้อย เทียบกับนักแสดงหญิงคนอื่นในกลุ่มเดียวกัน รอบ

ตัวมีคนหลายล้อมเต็มไปหมด เห็นได้ชัดว่าเธอเงียบสงบมากๆ

แต่ว่าจึงหนิงก็ไม่ได้คิดมาก

น้อยไม่ได้หมายความว่าไม่มี ถ้าไม่ใช่ลู่จิ้งเซินเป็นคนส่ง อาจ จะเป็นแฟนคลับคนอื่นก็ได้มั้ง

เธอคิดแบบนั้น ก็ไม่ได้ตามคิดเรื่องนี้ต่อ

คิดไม่ถึง วันที่สอง ก็ได้มีคนส่งดอกไม้ช่อที่ใหญ่กว่าเดิมมาที่ สถานที่ถ่ายทํา

พอผ่านเรื่องเมื่อวาน ทุกคนก็รู้ว่า ดอกไม้ช่อนั้นไม่ใช่จึงเป็น

เป็นคนส่ง
เห็นวันนี้ก็ได้มีดอกไม้อีกแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะไม่แขวจึงหนึ่ง “หนึ่งหนึ่ง ใช้ได้นะเนี่ย รับดอกไม้นี้แล้วไม่กลัวประธานเหรอ? ระวังประธานสู่หึงกลับไปบ้านให้เลยคุกเข่าเอานะ

จิ่งหนึ่ง โดนอีกฝ่ายแกล้งจนทำตัวไม่ถูก พูดกลับเธอไป “ไป! อย่าพูดอะไรบ้าๆ ก็แค่แฟนคลับส่งให้ไอดอลเท่านั้น เธอ คิดไปถึงไหนเนี่ย?”

“จู่ๆ ถ้าส่งให้เฉยๆ ก็ส่งดอกไม้ประเภทดอกทิวลิปมาสิ ดูสิ นี้ เป็นกุหลาบแดง ความหมายคือความรักที่ร้อนแรงนะ หนึ่งหนึ่ง ฉันมีความรู้สึกว่า อีกฝ่ายกำลังตามจีบเธอนะ!”

จิ่งหนึ่งก็ได้ถูกเธอพูดเอา

“อ้อ ถ้าเป็นไปตามที่เธอพูด ดอกกุหลาบไม่กี่ซอก็จีบฉันได้ แล้ว? พูดอะไรไร้สาระ! ฉันเตือนไปก่อนเลยนะ ฉันเป็นคนที่ แต่งงานแล้ว พวกเธออย่าพูดอะไรไปเรื่อย ถ้าเกิดฉันได้ยินเข้า ฉันจะกลับมาจัดการพวกเธอแน่

“จู่ๆ คนอื่นเมียด เธอนี่ตัว กลัวว่าประธานของพวกเราจะรู้ หนึ่งหนึ่ง ถึงแม้ฐานะทางบ้านของพวกเราไม่เท่ากับเขา แต่ว่า หลังต้องตรงขึ้นมานะ จะยอมแพ้กับใต้กางเกงสูทของคนเขาไม่ ได้นะ”

วิ่งหนึ่งถูกเธอล้อจนไม่ออก ก็ได้อายเล็กน้อย เพราะงั้นก็ได้ ผลักเธอเบาๆ

ทุกคนก็ได้รับกลุ่มกัน
ที่จริง อีกฝ่ายพูดก็ถูก กับเรื่องนี้ ซึ่งหนึ่งได้แคร์มาโดยตลอด

ข้อแรก เพราะว่าเธอได้แต่งงานแล้ว ไม่ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ แต่ถ้าถูกคนพูดออกไป เธอมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับผู้ชาย คนอื่น มีผลกับภาพลักษณ์ของเธอ

ข่าวลือนั้นมีอิทธิพลมากๆ วันนี้คนทั้งโซเชียลได้ชื่นชอบเธอ ไม่แน่พรุ่งนี้ก็ได้พากันเธอ

จิ่งหนึ่งได้ทํางานเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์มาหลายปี รู้ว่าควรรัก ตัวเองยังไง เพราะงั้นก็ได้ระวังในด้านนี้มาก

และข้อสองคือ เธอนั้นไม่อยากให้เรื่องน่าเบื่อขนาดนี้ มากระ ทบกับความรู้สึกของเธอกับลู่วิ่งเซ็น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ