บทที่ 358 ตำหนิบนแผ่นหลังที่มีมาตั้งแต่เกิด
กวน หลี่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง โดยที่ในดวงตาเผยแววตา รังเกียจเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “เธอรู้ไหมว่า เพราะเรื่องของวันนี้ ตระกูลคิดอยากเปลี่ยนใจ สุดท้ายงานแต่ง ที่กำหนดไว้อย่างดีต้องมาพลาดไม่เป็นท่า
จึงเสี่ยวหย่านิ่งอึ้งชั่วขณะ
แล้วเงยหน้ามองฝ่ายตรงข้ามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “ทำไม ล่ะ?”
กวนหมิงหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้น
“อืม จะอะไรอีกล่ะ? ก็เพราะพวกเขาไม่อยากได้สะใภ้ที่นำพา ความวุ่นวายนะสี จากการกระทำคืนนี้ของเธอ ผู้ชายในวงศ์ ตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงจะมีใครอยากแต่งงานกับเธออีก?”
จิ่งเสี่ยวหน้า : ”
เธอกัดริมฝีปากอย่างแน่น และรู้สึกน้อยใจขึ้นอย่างพูดอะไรไม่ ออก ทําได้เพียง หมัดไว้อย่างแน่น
กวนจี้หมิงถอนหายใจ
“เอาล่ะ เรื่องงานแต่งงานค่อยมาว่ากันทีหลัง ตอนนี้อีกมาก แล้ว เธอกลับไปเถอะ จำไว้ว่าอย่าทำให้พวกเขาสงสัยเด็ดขาด”
จึงเสี่ยวหย่าพยักหน้าเล็กน้อย จึงหันหลังเดินออกไป
แต่เดินยังไม่ทันออกจากประตู จู่ๆกวน หลีก็เรียกเธอ
“เดี๋ยวก่อน”
เธอนิ่งอึ้ง แล้วหันหลังกลับไปเห็นกวน หลี่ขมวดคิ้ว พร้อมยื่น ซองเอกสารหนึ่งให้กับเธอ
“เป็นของที่เธอมอบให้กับเธอ เธอเก็บเองเถอะ”
ซึ่งเสี่ยวหย่านิ่งเงียบชั่วขณะ พร้อมเผยสีหน้าขาวซีด ไม่นานก็ ยื่นมือรับเอกสารอย่างสั่นเทา
ในซองเอกสารมีขนมไม่กี่ชิ้นอยู่ จากนั้นเธอก็เริ่มตาแดงระเรื่อ แล้วเงยหน้ามองกวน หลี่ พร้อมซักถามว่า : “เธอเป็นยังไง บ้าง?”
กวน หลี่เผยสีหน้าปกติ “สบายดี”
สักพักก็หันหน้ามองเธอ และเผยสายตาเป็นห่วงขึ้นเล็กน้อย “ขอเพียงเธอไม่สร้างปัญหา เชื่อฟัง เธอก็จะสบายแบบนี้ ดังนั้น เธอควรรู้ว่าตัวเองควรทำอะไร เข้าใจไหม?”
จึงเสี่ยวหย่าพยักหน้าเล็กน้อย
กวน หลี่จึงสายมือเล็กน้อย “ออกไปเถอะ”
ขณะเดียวกัน ภายในห้องอีกห้องหนึ่ง
หลังจากการเสวีเฟยอาบน้ำเสร็จ ก็นอนพลิกตัวอยู่บนเตียง เพราะนอนไม่หลับ
เพียงหลับตา ในหัวสมองก็ปรากฏภาพคืนนั้นภายในห้องที่จึงหนิงเปลี่ยนเสื้อผ้า
บนแผ่นหลังของเธอมีปานผีเสื้อสีแดง ซึ่งดูแล้วราวกับมีชีวิต อย่างนั้น
เธอเปิดลิ้นชักบนหัวเตียง แล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมา
เป็นหนังสือบทประพันธ์ภาษาอังกฤษเล่มหนึ่ง โดยตรงกลาง
ของหนังสือเสียบรูปภาพสีเหลืองชิ้นหนึ่ง
กวนเสบู่เฟยหยิบรูปภาพใบนั้นออกมาอย่างละเอียด ภายใต้ เสียงไฟ
รูปภาพใบนี้มีลักษณะเก่าแก่มากแล้ว ตรงมุมขอบรูปภาพเริ่ม แตกเล็กน้อย บนรูปภาพมีเด็กทารกวัยไม่กี่เดือนคนหนึ่ง เธอนั่ง หันหลังอยู่ ในมือถือสร้อยไข่มุกอยู่ เด็กน้อยเล่นพลาง และหัน หน้ายิ้มอย่างเบิกบานพลาง
ส่วนบนแผ่นหลังของเด็กทารกมีปานรูปผีเสื้อสีแดงหนึ่งอยู่
กวนเสบู่เฟยยื่นมือลูบบนปานรูปผีเสื้อเบาๆ และนึกถึงคำพูดที่ แม่เคยพูดกับเธอขึ้น
“เฟยเฟย นี่เป็นน้องสาวของหนู เธอเป็นคนอาภัพ ไม่กี่เดือนก็ ถูกคนลักพาตัว พวกเราจึงรับหนูมาเลี้ยง แต่หนูวางใจเถอะ ยัง ไงพวกหนูก็เป็นลูกสาวของแม่ ไม่ว่าจะมีสายเลือดเดียวกันหรือ เปล่า แม่ก็ยังรักลูกเหมือนเดิม ดังนั้นในอนาคตหนูมีโอกาสพบ น้องสาว ต้องดูแล ช่วยเหลือกันและกันอย่างดี เข้าใจไหม?”
คำพูดเหล่านี้นานมากแล้ว
นานมากจนเหมือนกับมาจากอีกประเทศหนึ่ง จนมีน้ำเสียง
เลือนราง
แต่กวนเวเฟยก็ยังคงอยู่
ยังคงจดจําสายตาเสียดายของแม่ที่จากไป ยังคงจดจำรอย ยิ้มอ่อนโยนที่เธอมองมาที่ตัวเอง
กวนเสเฟียรู้สึกโชคดีมาก
รู้สึกโชคดีที่ในบรรดาเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทุกคน เธอ ถูกกวนกวน หวั่นเลือก ให้กลายเป็นลูกของตัวเอง
หลายปีมานี้ กวนจี้หวั่นปฏิบัติต่อเธออย่างที่เธอเคยพูดไว้ทุก อย่าง
ถึงแม้ตอนรับเลี้ยง เธออายุหลายขวบแล้ว มีความคิดความ
อ่านและความทรงจำพื้นฐานของเด็กปกติก็ตาม
แต่เธอก็ปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความปราณนาที และบอกความ จริงต่อเธอทุกอย่าง และไม่ปกปิดความสัมพันธ์ของตัวเองด้วย
และทำให้เธอรู้ว่าบนโลกนี้ ความสัมพันธ์ทาสายเลือดไม่ใช่ ทั้งหมดทุกอย่าง
ถึงแม้ไม่มีคนที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แต่ก็ สามารถเป็นญาติสนิทได้
กวนเสวีเฟยหลับตาลง และหวนนึกถึงการตายของแม่ ขณะ เดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดภายในใจ
เมื่อหลับตาอีกครั้ง เธอก็เหมือนกับคนครึ่งหลับครึ่งตื่น
เธอจ้องมองรูปภาพ และพูดขึ้นว่า : “แม่ค่ะ แม่วางใจเถอะ! ถ้าหากเป็นเธอจริง หนูก็ยอมรับ หนูจะทำตามสิ่งที่แม่กำชับไว้ ไม่ทำให้เธอต้องลำบากอยู่ข้างนอก
เธอก้มหน้าลง และเอารูปภาพวางบนหน้าอก ไม่นานก็วางลง
แล้วจัดเก็บรูปภาพอย่างดี จากนั้นก็ปิดไฟนอนหลับ
วันต่อมา
จู่ๆจึงเสี่ยวหย่าก็ได้รับค่าเชิญจากกวนเสวีเฟย ได้ยินมาว่า ช่วงนี้เมืองหลวงเพิ่งก่อสร้างบ่อน้ำพุร้อน เลยชวนเธอไปแช่น้ำ อุ่นด้วยกัน
ถึงแม้จึงเสี่ยวหย่ารู้สึกแปลกใจ แต่ประการไม่มีธุระอะไร ประการที่สอง หลังจากเกิดเรื่องงามหน้าเมื่อคืน คนตระกูลกวน หลายคนต่างเริ่มอคติต่อเธอ
ในตอนนี้เธอกำลังต้องการดึงเข้าพวกอยู่ ด้วยเหตุนี้ในเมื่อ กวนเวเฟยเชิญเธอด้วยตัวเอง เธอก็ยังไม่สามารถปฏิเสธ
ดังนั้นตอนเที่ยงของวันนี้ หลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวเสร็จก็ ไปแช่น้ำอุ่นด้วยกัน
บ่อแช่น้ำอุ่นสร้างอยู่นอกชานเมือง สภาพแวดล้อมดีมาก และ มีบ่อน้ำสมุนไพรหลายบ่อ ซึ่งเหมาะแก่การแช่น้ำอุ่นมาก
หลังจากที่ทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อก็เดินลงแช่น้ำอุ่น
หากพูดตามความจริง เพราะความสัมพันธ์จึงเกิดความรู้สึก เก้อเขิน อีกอย่างทั้งสองคนไม่ค่อยสนิทสนมกันด้วย
อันที่จริงแล้ว คนหนึ่งเป็นลูกเลี้ยง อีกคนหนึ่งเป็นหลาน สาวที่เพิ่งกลับมา ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกัน
ด้วยเหตุนี้ ปกติเมื่อทั้งสองคนเจอกันก็จะกล่าวทักทายต่อกัน และไม่พูดอะไรมาก
แต่จู่ๆวันนี้พวกเธอทั้งสองคนออกมาแช่น้ำอุ่น ในตอนนี้ทั้ง สองคนนั่งอยู่ในบ่อแช่น้ำอุ่น โดยที่ต่างฝ่ายต่างมีท่าทางเก้อเขิน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
แต่จึงเสี่ยวหย่าเป็นคนขี้สังเกต เธอรู้ว่าปกติกวนเสเฟยไม่ ค่อยสนใจเธอ แต่การที่เธอช่วยตัวเองออกมาแช่น้ำร้อน กะทันหันแบบนี้ต้องมีเรื่องแน่นอน
ดังนั้นจึงหาเรื่องคุยหนึ่งขึ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับเธอ และฉวย โอกาสซักถาม
จิ่งเสี่ยวหย่าเป็นคนฉลาดมาก แต่กวนเวเฟยก็ไม่ได้โง่เขลา
อันที่จริงที่กวนเสวีเฟยนัดเธอออกมา แทบไม่มีเรื่องสำคัญเลย เพียงแต่อยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง ดังนั้นเลยไม่กลัวถูกหลอก
ถาม
ถึงแม้จึงเสี่ยวหย่าอยากหลอกถาม แต่ก็ไม่ได้แสดงความ
ต้องการออกมาชัดเจน
ดังนั้นระหว่างที่แช่น้ำอุทานด้วยกันสักพักใหญ่นั้น ทั้งสองคน แทบไม่พูดคุยกันเลย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ