วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 351 จับตัวฆาตกร



บทที่ 351 จับตัวฆาตกร

ไม่กล่าวโทษคุณท่านตระกูลกวนที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ของทั้งสี่ตระกูลเริ่มเกิด ความอ่อนไหวต่อความรู้สึก เพียงแค่ลมพัดหญ้าก็สามารถทำให้ ความสัมพันธ์สั่นคลอนได้

ถึงแม้ตระกูลกวนกำหนดงานแต่งงานกับตระกูล แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่า พวกเขาต้องการโค่นล้มกับตระกูลในตอนนี้

ถ้าหากทั้งสองฝ่ายไม่เกิดปัญหากัน โดยที่ตระกูลกวนอยู่ตรง กลางอย่างมั่นคง เช่นนั้นคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ทุกคนต่างรู้สถานการณ์ดี ล้วนรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างตึงเครียด

ดังนั้นต่างฝ่ายต่างไม่มีอคติ

แถมยังมีไม่กี่คนคิดอยากซื้อใจตระกูล ถึงกับออกตัวมาช่วย เหลืออย่างกระตือรือร้น

ไม่นาน ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ผลจากการตรวจคือ ไม่พบบนตัวแขกคนไหนพกสิ่งของเป็น ประเภทรีโมท

จึงหนังกวาดตามองสถานการณ์อยู่ด้านข้างอย่างนิ่งเฉย โดย

ไม่พูดอะไรเลย

เธอรู้ว่าบางอย่าง หากเธอพูดออกมาในเวลานี้ จะค่อนข้างทําให้คนอ่อนไหวคิดว่าเธอจ้องจะเล่นงาน

ดังนั้นเลยเฝ้าดูสถานการณ์ ไหลไปตามน้ำ

หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ทุกคนต่างตกอยู่ในสภาวะตกใจ ไม่มี ทางที่ใครจะไปไหนได้ และยังไม่มีทางติดอยากทำลายหลักฐาน ได้ด้วย

เมื่อคุณท่านตระกูลกวนเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็พูดขึ้น ว่า “ต้องขออภัยด้วยนะครับ ในเมื่อไม่พบของเล่นผีเสื้อบนตัว ของทุกคน เช่นนั้นก็แสดงว่าของคงอยู่ในบ้านของผมเอง หมิง นายช่วยสั่งให้คนไปค้นหาในห้องทุกคนด้วย รวมถึงบนตัวด้วย อย่าให้พลาดแม้แต่นิดเดียว”

กวน หมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไรมาก แล้วตอบรับ จากนั้นก็พาคนไปทันที

ในบรรดาแขกมีบางคนพูดอย่างไม่พอใจขึ้นว่า “เด็กไม่เป็น อะไรแล้ว ทำไมต้องทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ด้วย จําเป็นด้วย หรอ?”

หลังจากสิ้นสุดเสียงก็ถูกคนที่อยู่ด้านข้างจ้องมองแวบหนึ่ง จน ทำให้คนนั้นไม่กล้าพูดอีก

ไม่ไกล จึงเสี่ยวหย่ายืนอยู่มุมห้องหนึ่ง โดยที่บนใบหน้าของ เธอขาวซีดเล็กน้อย

กวนจี้หมิงเหลือบมองเธอแวบหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พ่อครับ ห้องเยอะขนาดนั้น หญิงคนเดียวก็ไม่ไหวหรอกเดียวฉันไปช่วยเขา”

เขาพูดกับคุณท่านตระกูลกวนขึ้น คุณท่านตระกูลทวนพยักหน้าเล็กน้อย กวนจี้หมิงหันหลังเดินตรงไปที่ห้อง จิ๋วหญิงหรี่ตาจ้องมองร่างเงาของเขาที่จากไป จากนั้นอานอานก็ดึงแขนเสื้อของเธอขึ้น “หม่ามี้”

จิ้งหนึ่งหันหน้ากลับมา แล้วก้มหน้ามองเธอ

“มีอะไรคะ?”

อานอานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย โดยที่ดวงตาใสสะอาดบริสุทธิ์ มาก จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หม่ามี คืนนี้ตอนที่หนูอยู่หลังสวน ได้ยินบทสนทนาของน้าคนนั้นกับคุณท่านตระกูลกวนด้วย”

จึงหนิงนิ่งอึ้งชั่วขณะ

เธอหันหน้ามองจึงเสี่ยวหย่าแวบหนึ่ง และเห็นเธอกำลังก้ม หน้าลงเล็กน้อย พร้อมกับออกแรงจับกระเป๋า ในมืออย่างแน่น ถึง แม้มองอารมณ์ทางสีหน้าของเธอไม่ชัดเจน แต่สามารถมอง การกระทําบนมือของเธอได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพราะรู้สึกหวาดกลัว จึงเสี่ยวหย่าจึงไม่กล้าเงยหน้ามองข้าง หน้า
และไม่รู้ว่าในตอนนี้อานอานกำลังคุยกับจิ้งหนึ่งด้วย

จิ้งหนึ่งดึงสายตากลับมา และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : “หนูได้ยินพวกเขาพูดอะไรกันหรอ?”

อานอ่านขมวดคิ้วเล็กน้อย และครุ่นคิดอยู่ไม่กี่วินาที จากนั้นก็ พูดขึ้นว่า “หนูจําไม่ค่อยได้หรอก แต่ดูเหมือนว่าคุณท่านตระกูล กวนห้ามไม่ให้เธอมาหาเรื่องหม่ามี คุณน้าคนนั้นไม่พอใจมาก เลยพูดอะไรบางอย่างไม่รู้

อานอานเพิ่งอายุยังไม่ถึงหกขวบ สามารถพูดอธิบายขนาดนี้ ถือว่าเก่งมากแล้ว

วิ่งหนึ่งครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อานอานเป็นเด็กดี ไม่ต้องกลัว และไม่ต้องสนใจว่าพวกเขาพูดอะไรแล้ว เพราะไม่ เกี่ยวกับอานอานเลย อานอานเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในโลกเลย หม่า จะปกป้องอานอานอย่างดีเลย

เด็กน้อยเผยสายตาเป็นประกายทันที พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากปลอบโยนยานอานเสร็จ จึงหนึ่งก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้อง ตรวจการ

ทันใดนั้นจึงเสี่ยวหย่าก็ถูกคนเรียกไปที่ห้องตรวจการพอดี เหมือนกัน

ผลปรากฏว่า ไม่ว่าจะบนตัวหรือห้องของจึงเสี่ยวหย่าก็หาของ เล่นผีเสื้อชิ้นนั้นไม่พบ

เธอเดินออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย พร้อมจ้องมองวิ่งหนีงด้วยสายตายั่วโมโหขึ้น ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า พี่ สาว ผีเสื้อไม่ได้อยู่ที่นั่น คงทำให้ผิดหวังแล้วล่ะ”

จิ้งหนิงห ตาเล็กน้อย

จากนั้นจึงเสี่ยวหย่าก็เดินไปหาคุณท่านตระกูลกวนด้วย ท่าทางสูงส่ง

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังขึ้นจากหน้าประตูขึ้น และเห็นกวนหมิงลากสาวใช้อายุน้อยคนหนึ่งออกมาด้วย ท่าทางเคร่งขรึม แล้วผลักสาวใช้ลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นก็ โยนสิ่งของบางอย่างลงด้วย

เป็นผีเสื้อรีโมทที่ปรากฏในวิดีโอของกล้องวงจรปิด

“พ่อครับ ตามหาฆาตกรพบแล้ว เป็นเธอครับ!”

“ไม่ ไม่ใช่ฉันค่ะ”

สาวใช้คนนั้นมีสีหน้ากระวนกระวาย พร้อมรีบพูดอธิบายอย่าง รีบร้อนว่า “คุณท่านตระกูลกวนค่ะ ฉันไม่เคยเห็นของเล่นผีเสื้อ แบบนี้เลย ไม่ใช่ของฉันค่ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงมา อยู่ในห้องฉัน”

“เธอยังจะเถียงอีกหรอ! ของพบเจอในห้องของเธอ เมื่อฉัน ซักถามคนอื่นแล้ว ตอนที่เกิดเรื่องเธอไม่ได้อยู่พอดี และไม่มีใคร เห็นเธอเลย แบบนี้หากไม่ใช่เธอแล้วเป็นใครหรอ?”

สาวใช้คนนั้นหวาดกลัวมากจนร้องไห้ออกมา
จิ้งหนังขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเดินเข้ามาถามว่า : “เธอชื่ออะไร หรอ?”

สาวใช่ไม่รู้จักวิ่งหนึ่ง แต่ก็รู้ว่าคนที่กล้าถามในเวลานี้ไม่ใช่คน ธรรมดาแน่นอน

เธอรีบตอบอย่างรีบร้อนว่า “ฉันชื่อเสี่ยวหมู่ “ตอนเกิดเรื่อง เธออยู่ที่ไหนหรอ?”

“ฉัน ฉันไปช่วยหยิบของในห้องคุณหนูที่สองค่ะ

“คุณหนูที่สองหรอ?”

วิ่งหนึ่งหันหน้าเล็กน้อย พร้อมจ้องมองจึงเสี่ยวหย่าที่อยู่ด้าน

ข้าง

จึงเสี่ยวหย่ายิ้มจางๆ และพูดว่า : “ใช่ ตอนที่ฉันเพิ่งเดินลงมา จู่ๆก็นึกออกว่าลืมหยิบภาพวาดธรรมชาติที่จะมอบให้กับคุณตา ดังนั้นเลยให้เสี่ยวหยู่ไปหยิบที่ห้อง แล้วมันผิดหรอ?”

จึงหนึ่งยิ้มและพูดว่า : “เช่นนั้นคงบังเอิญมากเลย ทั้งที่มีเวลา สั่งให้เธอไปตอนไหนก็ได้ แต่กลับใช้เธอไปในเวลาสำคัญแบบ นั้นหรอ?”

จึงเสี่ยวหย่าหัวเราะดังขึ้น “พี่สาวคงไม่สงสัยฉัน เพียงเพราะ เรื่องแค่นี้หรอกใช่ไหมค่ะ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ คุณท่านตระกูลกวนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้ว หันหน้ามองจิ้งหนัง
จิ๋วหนิงเก็บสีหน้า และพูดว่า : “ไม่เสมอไปหรอก เธอหันหน้าซักถามเสี่ยวหยู่ว่า : “ตอนที่เธอไปห้องของจิ้ง เสี่ยวหย่า มีใครสามารถเป็นพยานได้บ้าง?

เสี่ยวหมู่เผยสีหน้าตื่นตระหนกขึ้น แล้วซ้ำๆอึ้งๆสักพัก “คือฉัน ไม่มีค่ะเพราะคืนนี้แขกเยอะมาก ทุกคนต่างยุ่งอยู่ข้างนอก ข้าง หลังแทบไม่มีคนเลย”

จิ้งหนึ่งพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่มีคนเป็นพยานให้กับเธอ และ ตอนเกิดเรื่องเธออยู่ในที่เกิดเหตุด้วยไหม?”

เมื่อเสี่ยวหยู่ได้ยินแบบนี้ก็ยังมีท่าทางตื่นตระหนก

“ฉันไม่ใช่คนผลักคุณหนูอานอานตกน้ำจริงๆ ฉันแทบไม่มี เหตุผลอะไรทำแบบนั้นเลย! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึง บังเอิญขนาดนี้!”

คุณท่านตระกูลกวนจะมีความอดทนฟังเธออธิบายได้ยังไง เขาพูดด้วยน้ำเสียงอย่างอุ่นเคืองขึ้นว่า : “โทรแจ้งตำรวจหน่อย! ช่วยฉันเอาคนใจร้ายใจดีคนนี้ออกไป ให้กับตำรวจเลย ใน ข้อหาพยายามฆ่า

“ครับ”

ทันใดนั้นก็มีคนเดินเข้ามาพาเสียวหยออกไป เสี่ยวหมู่สะดุ้งตกใจ พร้อมพยายามขัดขืน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ