วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 327 ถือว่าบังเอิญ



บทที่ 327 ถือว่าบังเอิญ

ตอนนี้ คุณแม่เห้อได้หยิบกล่องออกมาแล้ว

“นายหญิง หาเจอแล้วค่ะ”

เธอส่งกล่องไปให้นายหญิงอย่างยิ้มแย้ม จิ้งหนึ่งมองไปครู่ หนึ่ง เห็นแค่ว่านั่นเป็นกล่องไม้จันทน์โบราณสีน้ำตาล ข้างบน เกาะสลักดอกไม้อย่างประณีต แค่ดูก็รู้ว่าเป็นของมีค่า

นายหญิงเปิดกล่อง เห็นเพียงผ้าไหมสีแดงอยู่ด้านใน และ บนนั้นก็มีสร้อยไพลินลักษณะแบบโบราณอยู่ในนั้น

วิ่งหนึ่งหนังตากระตุก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ไม่ใช่เหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะสร้อยคอเส้นนี้รู้สึกคุ้นตามาก มันเป็น……

นายหญิงหยิบสร้อยออกมา พูดขึ้นว่า “นี่เป็นของตั้งแต่ย่า สมัยสาวๆ หนูได้มาจากร้านโบราณแห่งหนึ่ง ตอนนั้นเราเพิ่ง รู้จักกันไม่นาน เขาก็ให้สร้อยคอเส้นนี้เป็นของขวัญให้ย่า เป็น ของขวัญงานหมั่นของเรา หนึ่งหนึ่ง หนูเป็นคนดี ย่าไม่มีอะไรให้ หนู ขอมอบสร้อยคอเส้นนี้ให้หนูนะ หวังว่าหนูกับอาเซิน จะ เหมือนกับย่า สงบสุข รักกันนานๆ จนตลอดไปนะ

จิ่งหนึ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าไม่มีอาการดีใจ แต่กลับคิด อะไรจนเหม่อ
นายหญิงเห็นสายตาเธอ รู้สึกแปลกใจ จึงเรียกเธอ “หนึ่ง

หนัง”

จิ่งหนึ่งจึงรู้ตัว

เธอเหม่อไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝืนยิ้ม “คุณย่า เมื่อกี้พูดอะไรนะ

นายหญิงก็ขมวดคิ้ว

เธอไม่ได้พูดเรื่องเมื่อครู่ต่อ แต่พูดอย่างเป็นห่วง “หนูไม่ เป็นไรนะ? ไม่สบายตรงไหนไหม?

จิ่งหนังส่ายหัว

เธอเม้มปาก ลังเลไปนิดหนึ่ง จึงพูดขึ้นมา “หนูไม่เป็นไรค่ะ แค่ เห็นสร้อยคอเส้นนี้ คิดถึงเรื่องบางเรื่องค่ะ”

นายหญิงแปลกใจมาก

“ออ? หรือว่าหนูเคยเห็นมันที่ไหน?

ตามหลักแล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า สร้อยคอเส้นนี้ ตั้งแต่เมื่อ หลายสิบปีก่อน นายท่านให้เธอกับมือแล้ว เธอก็เก็บไว้อย่างดี เป็นไปไม่ได้ คนนอกเคยเห็น

แต่ว่า จิ่งหนิงกลับพยักหน้า

เธอยื่นมือไป เกาะสร้อยคอบนคอตัวเอง สร้อยคอที่เธอใส่ไว้

ตลอด

“คุณย่า ตูนิค่ะ”
เห็นในมือของจิ้งหนึ่ง เป็นสร้อยคอลักษณะแบบโบราณ แบบ ของสร้อยคอกับเส้นที่นายหญิงเอาออกมานั้นคล้ายกันมาก เพียงแค่เปลี่ยนจากไพลิน เป็นมรกต

นายหญิงรู้สึกอึ้งไปทันที

ไม่เพียงแค่เธอ คุณแม่เพื่อที่อยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกตกใจ “นี่ นี่มันเป็นไปได้ยังไง…….

คุณแม่ให้อตกใจจนพูดอะไรไม่ออก สร้อยคอเส้นนี้ เป็นของ โบราณสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีเพียงเส้นเดียว ทําไมถึงมี อีกเส้นที่เหมือนกันขนาดนี้?

จิ้งหนึ่งไม่รู้ที่มาของสร้อยคอเส้นนี้ แต่เห็นกิริยาของทั้งสองคน ก็พอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยปกติ

ผ่านไปสักครู่นายหญิงถึงเรียกสติกลับมาถามขึ้นด้วยสีหน้า

แปลกใจ “หนูได้สร้อยคอมาจากไหน?

จิ้งหนึ่งไม่ได้ปิดบัง จึงเล่าเรื่องที่แม่เธอเสีย แล้วเก็บของชิ้นนี้

ไว้ให้เธอ

นายหญิงฟังจบ ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

เธอขมวดคิ้ว ผ่านไปสักครู่ ยืนมือออกไปพูดว่า “ขอย่าดูสร้อย คอเส้นนี้ซัดๆได้ไหม?”

จิ่งหนึ่งพยักหน้า

นายหญิงรับสร้อยคอมา ตรวจดูอย่างละเอียด สีหน้าถึงผ่อนคลายลง

“สร้อยคอเส้นนี้คือของปลอม ถึงฝีมือการทำประณีต ดูแล้วก็ เหมือนของโบราณ แต่พอดูอย่างละเอียดแล้ว มีหลายจุดที่ เหมือนของใหม่ ไม่ใช่ของโบราณที่สืบทอดลงมาแน่นอน เหมือน ของใหม่ที่ลอกเลียนแบบมากกว่า

จิ่งหนิงรู้สึกแปลกใจ

ตามหลักแล้ว ของชิ้นนี้ เป็นของที่แม่เก็บไว้ให้เธอ เพราะตอน เด็กเคยเห็นแม่ใส่ ตอนแม่เสียยังเก็บไว้ให้เธอ โดยเฉพาะ ทำไม ถึงเป็นของเลียนแบบได้

แต่ว่า นายหญิงพูดอย่างมั่นใจ จึงหนึ่งก็หาคำอธิบายอื่นไม่ได้ จึงไม่ได้พูดอะไร

ออกจากห้องนายหญิงแล้ว ซึ่งหนึ่งก็พาอานอานกับลู่จึงเป็นก

ลับบ้านพร้อมกัน

อานอานรู้ว่าที่บ้านมีน้องชายคนหนึ่ง ก็ดีใจตลอดทาง พูดแต่ จะเล่นกับน้อง

จิ้งหนึ่งกำชับให้ป้าหลิวกับเสี่ยวจ้าวดูแลพวกเขา อย่าเล่นกัน ตึกเกินไป จากนั้นก็ขึ้นห้อง

กลับถึงห้องแล้ว เธอก็ไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็หยิบสร้อยคอสอง เส้นมาวางเรียงกัน นั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียง

ลู่จึงเป็นไม่รู้กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นเธอนั่งอยู่ตรงนั้น มือ ไว้ที่คาง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย จึงขมวดคิ้ว
“ดูอะไรอยู่?”

เขาเดินเข้าไป นั่งตรงข้ามเธอ

จิ่งหนึ่งผลักกล่องสร้อยคอทั้งสองไปตรงหน้าเขา แล้วพูดว่า “คุณดูสร้อยคอสองเส้นนี้

ลู่วิ่งเป็นขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกแปลกใจ

สร้อยคอมรกต จิ่งหนึ่ง ใส่ตลอด เขาเคยเห็นแน่นอน

รู้ว่าเป็นสร้อยที่แม่เธอเก็บไว้ให้เธอ เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกใจ

แต่อีกเส้นหนึ่ง เพราะว่าเป็นของคุณย่า และเก็บไว้อย่างดีมา ตลอด ไม่ค่อยเอาออกมา แต่จึงเป็นเป็นผู้ชายไม่ได้สังเกตเรื่อง พวกนี้ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่เคยเห็น

ตอนนี้ เห็นสร้อยคอสองเส้นวางด้วยกัน คิดแล้ว จึงถามขึ้น

“สร้อยเส้นนี้คุณย่าให้คุณ?

จิ่งหนิงพยักหน้า

“คุณย่าบอกว่า มันเป็นของโบราณที่สืบทอดมาจากราชวงศ์ เก่าแก่ คุณเห็นในร้านขายของโบราณ จึงซื้อมาเป็นของหมั้น ให้ย่า เมื่อคุณย่าเอามันให้ฉัน แต่คิดไม่ถึงว่าฉันมีเส้นหนึ่งแล้ว ก็คือสร้อยที่แม่ฉันให้ไว้ แต่คุณย่าบอกว่ามันคือของเลียนแบบ

เธอพูดไป ก็หยิบสร้อยมรกตเส้นนั้นขึ้นมา

จึงเซ็นรับไป มองอย่างละเอียด

เมื่อก่อน เขาไม่ค่อยสนใจเครื่องประดับผู้หญิงเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นก็ไม่เคยสังเกต

ตอนนี้ สังเกตอย่างละเอียดถึงพบว่า สร้อยคอเส้นนี้สีสันค่อน ข้างใหม่ อย่าว่าเป็นของโบราณเลย บอกว่าไม่ไฉ่เวยใส่มา หลายสิบปี ยังไม่น่าเชื่อ

เขาจึงขมวดคิ้ว

จึงหนีงถอนหายใจอย่างเคร่งเครียด

“แม่ฉันไม่น่าจะโกหกฉัน ที่จริงแล้ว ฉันไม่ค่อยเข้าใจ ความ หมายที่แม่เก็บสร้อยคอเส้นนี้ให้ฉัน คุณว่าสร้อยคอเส้นนี้ จะ เกี่ยวข้องอะไรกับสร้อยคอคุณย่าไหม?”

ลู่จิ้งเซ็นมองเธอ

สายตานั้น อ่านความหมายไม่ออก เหมือนกำลังคิดอะไรบาง

อย่าง

จิ่งหนึ่งถูกเขามองจนงง ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร

ผ่านไปสักครู่ ลู่จิ้งเซ็นวางสร้อยคอเส้นนั้นลง แล้วพูดว่า “ผม จะได้ เมื่อก่อนของชิ้นนี้ ถูกดูแลโดยคุณย่าตระกูลจิ่ง บางทีเธอ อาจจะรู้อะไรบางอย่าง

จึงหนังอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็ดูหดหูลง “ช่างมันเถอะ ถึงเขารู้ก็ไม่มีวันบอกฉันหรอก” ลู่จึงเป็นฟังคำพูดเธอแล้วก็เห็นด้วย เขาเงียบไปสักครู่ แล้วช่วยเธอเก็บสร้อยคอทั้งสองเส้น พูดเสียงเรียบ “ในเมื่อแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรแล้ว มันก็แค่สร้อย คอสองเส้น ไม่ได้มีผลกระทบอะไร ก็ถือว่าเป็นความบังเอิญละ

จิ่งหนึ่งคิดไปคิดมา ก็ใช่ จากนั้นก็ให้เขาเก็บ

พอสบายใจขึ้น เธอก็ลงไปดูเล่อเล่อกับอ่านอาน จัดการเด็ก สองคนให้เข้านอนแล้ว ถึงกลับเข้าห้องตัวเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ