วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 308 ครองคู่ร่วมกัน



บทที่ 308 ครองคู่ร่วมกัน

อย่างไรก็ตามมันไม่ทันแล้วทันทีที่ก้าวเท้าออกไป ชายคน นั้นก็จับเธอแล้วเหวี่ยงเธอไปที่เตียงหลังใหญ่ด้วยหลัง

เธอทำได้เพียงตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด “อย่านะ

ทันทีจากนั้นเสียงจูบอันร้อนแรงของชายหนุ่มก็ปิดกั้นเสียง เข้าไปในสําคอ คืนนี้อากาศหนาว แต่ก็ไม่สามารถดับไฟร้อน ของชายคนนั้นได้

กวนเยาหวั่นดิ้นรนสุดชีวิต แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อันใด สุดท้ายน้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากหางตาอย่างเงียบ ๆ และ จมลง หมอน…

วันต่อมา กวนเบาหวั่นตื่นขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มที่ข้าง ๆ ยัง คงหลับใหล

หน้าต่างถูกเปิดออกชั่วขณะแสงแดดอ่อน ๆ ก็ส่องเข้ามา ทางช่องหน้าต่างทำให้ทั้งห้องมีแสงสว่างจาง ๆ

เธอหลับตาลงความเจ็บปวดในร่างกายยังคงดำเนินต่อไป ความทรงจำเมื่อคืนยังท่วมท้นในใจของเธอทำให้ปลายนิ้วของ เธอสั่นเล็กน้อย

ถึงแม้เธอจะเคยคิดว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดขึ้นกับเขา ใน วันนั้นเธอเข้าใจผิดและคิดจริง ๆ ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ เลยเถิดกันแล้ว แต่จากเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เธอรู้ว่า เรื่องก่อนหน้านี้มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คือความโหดร้ายและความเจ็บปวดที่

เธอไม่สามารถทนได้เลย หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง หยุดชั่วคราวและ

หันไปมอง

อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนนั้นบ้าคลั่ง ผู้ชายคนนั้นจึงยังไม่มี ท่าทีจะตื่นจนถึงตอนนี้ เธอมองหน้าเขา ถึงแม้จะรู้ดีว่าเขาคือใคร แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่หลับอยู่ข้างหมอน ก็ยังอดไม่ ใต้ จะตกใจ

ในใจไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกยังไงกันแน่ เขาในตอนนี้ ซึ่ง สงบ งดงามเหมือนกับเทพไม่มีผิด

อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครคาดคิดว่าเมื่อคืนเขาโหดร้ายและ

กดขี่ข่มเหงเพียงใด

กวนเยาหวั่นสูดหายใจเข้าลึก ๆ และไม่อยากจะคิดถึงความ ทรงจําที่ไม่ค่อยจะงดงามนั้นอีก พอคิดจะลุกเสียงโทรศัพท์มือถือ ของเธอก็ดัง

เธอตกใจและรีบหยิบมันขึ้นมาปิดเสียง แล้วหันกลับไปมอง ชายหนุ่มและเห็นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลิกตัวและกอดเธอไว้ใน อ้อมอก แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่น

กวนเยว่หวั่นแทบหยุดหายใจและปิดเสียงโทรศัพท์ เธอไม่ กล้าแม้แต่จะถอนหายใจ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รู้สึกโล่งใจที่ผู้ชายข้างๆ เธอไม่มี ทีท่าว่าจะตื่น

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าแม่ของเธอโทรเข้ามา หน้าเธอไม่เพียงชุดขาว เมื่อคิดถึงคำสั่งของแม่ของเธอเมื่อ นก็รู้สึกผิดเล็กน้อย

เธอค่อย ๆ เอามือของชายหนุ่มที่โอบเอวเธอออก จากนั้นจึง ลุกแล้วกำโทรศัพท์ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูออกไป

เมื่อถึงบ้านแม่ของเธอกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว เมื่อ ได้ยินเสียงเธอกลับมาจึงรีบออกมาจากครัวแล้วถาม: “หวั่นหวั่น ทำไมถึงเพิ่งกลับมา เมื่อคืนไปไหนมา? โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด

กวนเยว่หวั่นที่รู้สึกผิด เมื่อโดนเธอถามเช่นนี้จึงไม่รู้ว่าจะ ตอบอย่างไร

ทำได้เพียงตอบไปอย่างคลุมเครือ “มีเรื่องด่วนที่สถาบันนิด หน่อยค่ะ เลยไปช่วย แม่คะ หนูเหนื่อย ขอขึ้นไปพักก่อนนะคะ

พูดจบแล้วเธอก็รีบวิ่งขึ้นชั้นบนไป

หลังจากกลับมาที่ห้องเธอล็อคประตูจากนั้นก็หยิบเสื้อผ้า และเข้าไปในห้องน้ำ

น้ำอุ่นไหลรินลงมาจากส่วนบนของศีรษะ เธอหลับตาและยืน อยู่ใต้ฝักบัว เธอรู้สึกเพียงว่าอาการปวดร้อนในร่างกายของเธอ บรรเทาลงน้ำอุ่น ๆ หยดลงทั่วผิวและกระจกด้านตรงข้าม สะท้อน ให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของเธอมีร่องรอยถี่ยิบบนผิวขาว
เมื่อคืนชายผู้นั้นหยาบข้าราวกับเสื้อโดยไม่มีสงสารใด ๆ เธอแอบรู้สึกว่าเมื่อคืนเขาไม่ปกติเลย แต่เพราะตนเองไม่มี ประสบการณ์มาก่อนดังนั้นจึงไม่กล้าฟันธง

ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แต่หัวใจกลับสับสนวุ่นวายทำให้ เพียงเปิดประตูและหนีไป ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญ

หน้ากับเขาอย่างไรเมื่อตื่นขึ้นมา

เธอหายใจเข้าลึก ๆ และระงับความตื่นตระหนกในใจ จาก นั้นก็ปิดฝักบัวเช็ดหยดน้ำบนร่างกายแล้วเดินออกไป

มีความเมื่อยล้าในร่างกายของเธอ เธอนอนอยู่บนเตียงเธอ วางแผนที่จะหลับสักพัก แต่ไม่คาดคิดเธอก็หลับลึกทันทีที่แตะ เตียง

เธอหลับลึกมาก แต่ไม่ได้หลับนาน เพราะเธอฝันซ้ำแล้วซ้ำ เล่าในความฝันคือความทรงจำเกี่ยวกับความลำบากใจเมื่อคืนที่ ผ่านมา

ดวงตาสีแดงเข้มของชายคนนั้นเหมือนเปลวไฟที่บ้าคลั่งซึ่ง แทบจะเผาผลาญทั้งตัวของเธอให้เป็นเถ้าถ่าน

ในที่สุดเธอก็หอบและสะดุ้งตื่น หลังจากตื่นขึ้นมาเธอก็ดู เวลา สิบโมงเช้า มันยังเช้าอยู่

แต่เธอก็ไม่อยากนอนต่อแล้ว กลัวว่านอนแล้วจะฝันแบบ เติมอีก

เธอลุกขึ้นแต่งตัวและเดินออกไปข้างนอก
ทันทีที่เดินไปที่ชั้นล่างก็เห็นจากตระกูล อยู่ที่ห้องรับแขก

เมื่อเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลกวน ถึงแม้จะไม่ได้รับความ สนใจจากครอบครัว แต่เรื่องที่ควรรู้ก็รู้ทั้งหมด

ดนตระกูล นั้น เธอไม่สนิท แต่เคยพบครั้งหนึ่งที่งานเลี้ยง วันเกิดของนายท่านเมื่อก่อนหน้านี้

คนตระกูลที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้เป็นแม่ลูกใน ครอบครัวตระกูล ผู้หญิงชื่อหลีเหมียว ส่วนผู้ชายคือ กู้ซื้อจน

พูดไปแล้วคนที่ซื้อจือจุน ก็ถือว่าสนิทกับเธอในระดับหนึ่ง สมัยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งคู่ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมสถาบัน

แต่เพราะสาขาที่เรียนต่างกัน พวกเขาจึงไม่ได้คบหากันมาก

นัก

มีข่าวลืออยู่บ้างในมหาวิทยาลัยว่าจือจุน ชอบเธอ เธอจึง ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากขึ้นในเวลานั้น

อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกงงเล็กน้อยเกี่ยวกับการมาถึงของคน ตระกูลกู้ ในวันนี้

ทันทีที่เธอออกมาเหอหลันซิน เห็นเธอและโบกมือให้เธอ ด้วยรอยยิ้ม “หวั่นหวั่น มา มานี่เร็ว มาเจอกับคุณป้า ของลูก

กวนเยวหวั่นเม้มริมฝีปากและไม่อาจหักหน้าแม่ของเธอจึง ทำได้เพียงเดินเข้าไปแล้วทักทายอย่างไร้อารมณ์ “คุณป้าก คุณแม่มองไปที่เธอและพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่พอใจบนใบหน้าของเธอ “เด็กคนนี้ หน้าตามีน้ำมีนวล ไม่รู้ว่าจือจุน ต้องโชคดีแค่ไหน ถึงจะได้แต่งงานกับเด็กดีแบบนี้

ในขณะที่เธอพูดรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็สดใสขึ้นและ กวักมือเรียกเธอ “มา เข้ามาให้ดูหน่อย

เปลือกตาของกวนเยวหวั่นกระตุกและเธอมองไปที่แม่ของ

เธอด้วยความสับสน

เธอเห็นแววตาของแม่เป็นประกายและไม่ได้มองไปที่เธอ เธอขมวดคิ้วและไม่ได้เข้าไปแต่กลับถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณป้า เมื่อกี้ที่คุณป้าพูดหมายความว่ายังไงคะ? หนูไม่เข้าใจ

คุณแม่ ยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้าของเธอและพูดอย่างอบอุ่น “หวั่นหวั่น ได้ยินว่าหนูเป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยกับจือจุน ของ เรา และมีความสัมพันธ์ที่ดีใช่ไหม? ฉันคิดว่าพวกเราสอง ครอบครัวก็รู้จักกันมานาน และหนูกับจือจุน ก็อายุไล่เลี่ยกันแถม ยังเป็นเพื่อนนักเรียน จะต้องเข้ากันได้แน่ดังนั้นจึงอยากใช้ โอกาสนี้ คุยกับแม่ของหนูว่ามีโอกาสที่จะให้พวกเธอได้ครองคู่ กัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ