วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 29 ไม่น่าเชื่อ



บทที่ 29 ไม่น่าเชื่อ

เฉินหย่งตำหันหน้ามา แล้วก็ทำสีหน้าประจบให้ลู่จึงเซิน รีบ พูดว่า “ประธานลู่ ก่อนหน้านี้ผมนั้นไม่รู้จักกับคุณจิ่งจริงๆ แต่ ว่าเคยได้ยินชื่อเสียงของเธอบ้าง เพราะงั้นตอนที่ไอ่แก่นั้นส่ง คนมาหาผมนั้น ผมก็ต้องใจเต้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

คืนนี้ ผมนั้นได้มาที่งานก่อนเวลา พวกเขามาหาผม แล้วก็ เล่าแผนการให้ผมคร่าวๆ ให้ผมนั้นวางยาในเหล้าที่คุณจึ่ง ดื่ม จากนั้นพวกเขาก็ได้พูดต่อหน้าทุกคนว่าผมกับเธอนั้น เป็นอะไรกัน อาศัยจังหวะที่วุ่นวายนั้นพาเธอออกไป

พอเป็นแบบนี้ ก็จะไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้อีก เธอไม่ อยากยอมรับก็ต้องยอมรับ และที่เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้นั้น ก็เป็นเพียงเพราะคุณจึงนั้นเป็นแฟนเก่าของมู่ยั่นเจ๋อ! คุณหนู รองของตระกูลจึงได้แย่งแฟนของพี่สาวตัวเอง แล้วอีแก่นี่ก็ ลำเอียง เพื่อที่จะปิดปากคุณจริง เพราะงั้นถึงได้คิดแผนที่โหด ร้ายแบบนี้ออกมา!

ผมนั้นเป็นแค่หมากในแผนของเธอเท่านั้น แผนการ ทั้งหมดนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยสักนิด! อีกอย่าง ตอนที่ อยู่ในงานนั้น ผมที่กำลังจะประคองคุณจึงออกไปนั้น ที่จริงก็ ไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเธอจริงๆ ผมยอมรับ ก่อนที่รู้ว่าเธอนั้น เป็นภรรยาของคุณนั้น ผมนั้นได้ชอบเธอจริง แต่ต่อหน้าผู้หญิงที่ตนชอบนั้น แน่นอนว่าต้องอยากได้ใจเธอก่อนถึงจะ อยากได้ร่างกายของเธอ เวลานี้จะเอาเปรียบคนอื่นได้ยังไง?

ผมก็แค่คิดว่าถ้าผมไม่ตกลงร่วมมือด้วยนั้น คนของ ตระกูลจึงต้องคิดหาวิธีอื่นมาจัดการเธอแน่ๆ!

เพราะงั้นก็แค่คิดไว้ว่าพาเธอออกไปก่อนก็แค่นั้น ถ้าเกิดรู้ ว่าเธอนั้นเป็นภรรยาของคุณ ต่อให้ผมใจกล้าขนาดไหนก็ไม่ กล้าที่จะมีเรื่องด้วยนะครับ! ประธานลู่ หวังว่าคุณจะเห็นใจ!”

คำพูดและน้ำเสียงของเฉินหย่งตำนั้น ซึ่งใจมากๆ

ถ้าเกิดไม่ใช่เป็นเพราะมองไอ่สวะแบบนี้ออกตั้งแต่แรก จึง หนิงนั้นอยากจะมอบรางวัลบุคคลดีเด่นสิบอันดับแรกของจีน ให้เลย!

เธอได้หัวเราะอย่างประชด สีหน้าของลู่จิ่งเซินนั้นไม่ เปลี่ยน มองไปยังหวังเสว่เหมยที่อยู่ข้างๆ

“คุณล่ะ? มีอะไรจะพูดไหม?”

เวลานี้หวังเสว่เหมยนั้นได้ใจเย็นลง

เป็นคนที่อยู่ในสังคมมาสิบกว่าปีแล้ว แค่ท่าทาง ก็ไม่รู้ว่า ได้สูงไปว่าเฉินหย่งตำไปกี่ชั้นแล้ว

เธอนั้นได้มีสีหน้าที่เย็นแล้วมองลู่จิ่งเชิน พูดเสียงเข้มว่า “เขานั้นได้โกหกทั้งเพ! ฉันนั้นไม่เคยที่จะเรียกเขามาวางแผน อะไรทั้งนั้น ยาในเหล้านั้นเขาเป็นคนที่จะใส่มันลงไปเอง ฉันไม่รู้เรื่องเลยสักนิด!”

สู่จึงเปิดได้ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

นัยน์นั้นได้ส่องความเย็นออกมา

กระดาษแผ่นหนึ่งได้อยู่บนนิ้วของเขา ไฟได้ลุกขึ้น เผาจน

เป็นเถ้าถ่าน

พวกของจิ่งเชี่ยวเต๋อสีหน้าได้เปลี่ยนไปมาก ตานั้นได้โต

ขึ้น

นั้นเป็นบริษัทเสื้อผ้าภายใต้ชื่อของตระกูลจิ่ง ค้าขายนั้น ไม่เล็ก การขยายออกไปค่อนข้างสวย

ประมาณสองนาที ก็ได้มีเสียงเรียกเข้า

จึงเชี่ยวเต๋อมองไปที่ลู่จิ่งเซิน แล้วถึงได้เดินไปรับสาย

ข้างๆ

“อะไร? เป็นไปได้ยังไง?!”

สีหน้าของหวังเสว่เหมยได้เริ่มซีด เตาได้แล้วว่าเกิดอะไร

แต่เธอก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี เป็นไปได้ยังไงในเวลาที่สั้นๆแบบ นี้ลู่จิงเซินนั้น บอกว่าจัดการก็จัดการ!

ถ้าเกิดเป็นเมืองหลวง เธอเชื่อว่าสู่จิ่งเซินนั้นสามารถทำ ออกมาได้ แค่ดีตนิ้วแล้วก็ทำให้บริษัทนั้นหายไป
แต่นี้คือเมืองจิ้น!

ตระกูลจิ่งนั้นได้ทำธุรกิจในเมืองจิ้นหลายสิบปี รากนั้นได้ ลึกมากๆ ในนั้นยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ที่บอกว่าจะ จัดการก็จัดการได้ง่ายๆ

แต่แล้ว จึงเชี่ยวเต๋อได้รีบมากระซิบที่ข้างหูเธอสอง ประโยค ก็ได้ทำร้ายความคิดของเธอจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

เธอมองไปที่โซฟาทางนั้นด้วยความตกใจ ชายหนุ่มได้มี สีหน้าดังเดิมไม่เปลี่ยน ใบหน้าเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่น่า เชื่อ

สู่จิงเซินยิ้ม

เขานั้นไม่ได้โมโหเสียงของเขานั้นยังคงพูดออกไปได้ไม่ เร็วแล้วก็ไม่ช้าเหมือนเดิม ขนาดน้ำเสียงก็ไม่ได้เปลี่ยน แปลกเลยสักนิด

แต่ก็เพราะแบบนี้เลยทำให้คนรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้น่ากลัว

มาก!

ราวกับว่ารอยยิ้มของเขานั้นได้ทำให้อากาศนั้นได้อึดอัด

มากๆ

ลู่จึงเซินพูดออกมาเรียบๆ “ยังเลยเวลาอีกหนึ่งนาที เผา ของใครดี?”

เขาพูดจบ ก็ได้ยื่นมือได้ยังบริษัทอีกบริษัทหนึ่งของตระกูลจึงหนิงนั่งมองอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรออกมา

เผาเลยเผาเลย!

ยังไงซะมรดกของตระกูลจิ้งนั้น ตั้งแต่ที่คุณแม่นั้นเสียไป ก็ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้ว

เห็นสีหน้าที่ปวดใจแล้วก็เกรงกลัวของคนบ้านนี้นั้น อย่า

ให้พูดว่าเธอนั้นอารมณ์ขนาดไหน!

ที่จริงจิงหนิงก็เดาไม่ออกว่า สู่จิ่งเซินทำแบบนี้ทำไม

ด้วยอำนาจของเขาแล้ว ถ้าเกิดจะช่วยเธอจริงๆ นั้นไม่ จำเป็นต้องให้พวกเขานั้นพูดความจริงออกมา ลงมือไปเลย

ก็ได้

แต่ตอนนี้เขานั้นเหมือนได้ต้มกบด้วยน้ำอุ่น ค่อยๆ ที่จะ ทรมานพวกเขา ให้พวกเขานั้นพูดความจริงออกมาให้ได้ยัง ไงอย่างนั้น

จึงหนิงจู่ๆ ก็คิดอะไรออก สายตานั้นได้เป็นประกาย

รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่ก็ได้ยิ้มออกมา ในใจนั้นได้เต็มไป

ด้วยความอบอุ่น

ผู้ชายคนนี้ จริงๆ เลย.

คนที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างจึงเซี่ยเต๋อได้เห็นว่าเขาได้ยื่นมือไปจับธุรกิจของตระกูลจิ่งอีกนั้น ก็ได้ยืนไม่นิ่งทันที

“คุณแม่!”

เธอได้เรียกหวังเสว่เหมย สีหน้าของหวังเสว่เหมยก็ได้ดูไม่

ดีมากๆ

แต่ก็ช่วยไม่ได้ สถานการณ์กดดันกว่าคน เวลาแบบนี้ พวกเขานั้นเหมือนกับปลาที่อยู่บนเขียง อย่า

พูดว่าขัดขึ้นเลย ขนาดความกล้าก็ไม่มี

พูดเป็นเล่น! เป็นศัตรูกับลู่จิ่งเซิน?

นั้นเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ไม่ใช่?

โดยเฉพาะสายที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ ตอนที่เธอรู้ บริษัทที่ลู่จิง เซินเผาไปก่อนหน้า ก็ได้เกิดปัญหาเลยทันที

ไม่ได้ซื้อ แต่เป็นการเกิดปัญหา!

บอกว่าได้ตรวจเจอมาตรฐานของเนื้อผ้ามีปัญหา!

ใครจะรู้ว่าทำมาสิบกว่าปีเนื้อผ้าที่ไม่เคยมีปัญหาอะไร ท่าไมถึงได้มีปัญหาเอาตอนนี้?!

หวังเสว่เหมยไม่โง่ จะไม่รู้ได้ยังไงว่าเป็นฝีมือของชายตรง

หน้า

แต่ว่าเธอนั้นไม่มีทางออกอะไรเลยแม้แต่น้อย!
คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้สูตหายใจเข้าลึกๆ

สุดท้ายก็พูดออกไปอย่างหมดหนทาง “ประธานสู่ คุณ อยากจะฟังอะไร? ฉันพูดออกไปก็พอ!”

ลู่จิ่งเซินมองเธอสักพัก

แต่ว่าไม่ทันแล้ว เอกสารแผ่นที่สองในมือของเขานั้นได้จุด

ติดแล้ว

หวังเสว่เหมยมองไฟที่ลุกขึ้น ก็รู้สึกแต่ว่าปวดใจจนจะตาย

แล้ว

นั้นเป็นของบริษัทของตระกูลจิ่งที่นอกจากซิงเฉิน เป็นอีก บริษัทที่เธอนั้นภูมิใจมากๆ

และเป็นบริษัทที่ได้สร้างกำไรเยอะมาก!

พูดได้เลยว่าหลายปีมานั้น ที่ตระกูลจิ่งสามารถอยู่มาถึง ตอนนี้ ก็เพราะมาได้พึ่งบริษัทนี้อยู่!

มีบริษัทที่สร้างกำไรได้เยอะนี้อยู่ ถึงได้สามารถที่จะ ประคองบริษัทอื่นได้เป็นระยะๆ สร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ครอบครัวขนาดใหญ่นี้

ถ้าเกิดบริษัทนี้เจ๋งไป ต่อไปตระกูลจิ่งจะทำยังไง?

สู่จิ้งเซินทำเหมือนว่าไม่ได้สังเกตเห็นอาการปวดใจของ เธอ ยังได้สะบัดฝุ่นในมือ จากนั้นก็ได้เอาทิชชูมาเช็ดมือ แล้วก็พิงโซฟา

“เปิดปากพูดได้สักที? ให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกก็จบ”

หวังเสว่เหมย “.

สู่จึงเซินหันหน้าเล็กน้อย มองไปที่จิงหนิง ถามอย่างอ่อน โยนว่า “เธออยากจะฟังที่เขาเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนไหน?”

จึงหนิงพริบตา ยิ้ม

“งั้นก็เล่าตั้งแต่เธอนั้นตัดสินใจที่จะทำร้ายฉันตั้งแต่ตอน

ไหนเถอะ!”

ลู่จิงเซินพยักหน้า “ได้”

พูดจบ แล้วก็ยังจับมือของเธออย่างเป็นธรรมชาติ เอามา วางที่ขาของเขา ทำหน้าเหมือนได้ดูฉากเด็ดมองไปที่หวังเสว่

เหมย

“คุณหญิงจึง เริ่มพูดเถอะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ