บทที่ 282 ไม่อนุญาตให้หนี
ขณะที่มือเพิ่งออกแรงก็ถูกผู้ขายจับไว้ก่อน
หัวเหยาจ้องมองหลินยวนด้วยสายตาเย็นชาไม่ละสายตา
“ล้มเลิกความคิดเถอะ! อย่าคิดเอาเด็กหนีไปจากผมเลย เพราะต่อให้ผมต้องตายก็ไม่ยอมให้คุณสมหวังหรอก”
หลินยวนยิ้มเยาะเย้ยขึ้น
“งั้นพวกเราก็มารอดูกัน มาดูกันว่าผมจะชนะ หรือคุณจะชนะ”
หลังจากเขาพูดจบก็หันหลังเดินจากไป
หัวเหยาหลับตาลง และพยายามอดกลั้นความรู้สึกโมโห ภายในใจอย่างไม่ง่ายดาย
ในใจกำลังคิดอยู่ว่า โชคดีที่สามารถไล่เขาจากไปแล้ว แต่ เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่าเขากำลังเดินไปที่ห้องนอน
หัวเหยาเปลี่ยนสีหน้าทันที
“หลินยวน คุณจะทำอะไร?”
“ไม่ใช่บอกว่าสายแล้วหรอกหรอ? ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว”
“ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ถ้าคุณจะพักผ่อนก็ใสหัวกลับไปบ้านของ
คุณ”
“เห่อ!!
ผู้ชายยืนอยู่เบื้องหน้าประตูห้องนอน พร้อมก้มหน้ามองผู้หญิง ที่มีสีหน้าไมโหอยู่
เขายื่นมือจับคางของเธอเบาๆ
หัวเหยาสะบัดหน้าหนี เขาไม่มีท่าทางเคือง โกรธ แต่กลับยิ้ม มุมปากเจ้าเล่ห์ขึ้น
“ก่อนที่เด็กจะคลอด คุณอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั้น ผมบอกแล้ว ว่า อย่าคิดหนี ผมพูดจริงทำจริงอยู่แล้ว”
หัวเหยา : ”
สุดท้าย หลินยวนก็พักอยู่ที่คอนโดขนาดเล็กที่หัวเหยาเช่า ถึงแม้หัวเหยาไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ทําอะไรไม่ได้ เที่ยงคืน ไม่สามารถแจ้งตำรวจได้แน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นพ่อของเด็กด้วย ถึงตอนนั้นหากทะเลาะ คงยิ่งสร้างปัญหาแน่
เพียงแค่เธอคิดไม่ถึงว่า ผู้ชายที่โหดร้ายเย็นชามาโดยตลอด จะสามารถกลายเป็นคนไร้ยางอายขนาดนี้
หัวเหยาจ้องมองผู้ชายคนนั้นที่นอนบนเตียง และรู้สึกเจ็บใจ มาก
คอนโดมีขนาดไม่ได้เล็กมาก เพราะเธอพักอยู่คนเดียว ดังนั้น เลยเช่าห้องประเภทนี้ ซึ่งมีขนาดประมาณเจ็ดสิบกว่าตารางเมตร ตรงกลางมีผนังกำแพงกัน ข้างในเป็นห้องนอน ข้างนอกเป็นห้องครัวกับห้องรับแขกแยกกัน
ในตอนนี้ผู้ชายคนนี้นอนยึดบนเตียงของเธอแล้ว เธอไม่ สามารถไปนอนบิดเบียดได้ ดังนั้นจึงเลือกนอนบนโซฟา
หัวเหยายื่นมือลูบหน้าท้อง พร้อมเดินจากไปด้วยสีหน้าโมโห ขณะเดียวกันก็แอบตำหนิในใจว่า ผู้ชายที่เอาเปรียบผู้หญิงตั้ง
ครรภ์ไม่ตาย แน่
ขณะที่เพิ่งตำหนินั้น จู่ๆก็สะดุ้งอัตโนมัติขึ้น เลยรีบคืนค่าทันที สวรรค์จงรับรู้ สิ่งที่ฉันพูดจาเหลวไหลด้วยความโมโหเมื่อกี้ อย่าได้คิดจริงจัง อย่าได้คิดจริงจัง
เรื่องตายช่างเถอะ แต่สาปแช่งเขาฝันร้ายกลางดึก เดียวกัน อะไรจะท้องเสีย
อืม ความผิดเล็กน้อยควรได้รับบทลงโทษเพียงเล็กน้อย
หลังจากที่หัวเหยาตั้งท้องก็เริ่มรู้สึกเชื่อในเรื่องพวกนี้ บางครั้ง ก็แอบพูดคนเดียว
หลังจากพูดในใจรอบหนึ่งเสร็จก็เอาผ้าห่มมาปูบนโซฟาเพื่อ เตรียมนอน
โซฟาก็ไม่ถือว่ามีขนาดเล็กมาก คุณภาพก็พอใช้ได้ มีความ นุ่มยืดหยุ่น และตอนนอนก็รู้สึกสบายตัวด้วย
แต่เพราะตอนนี้หัวเหยาหน้าท้องใหญ่มากขึ้น และเดิมทีเป็น คนมีคุณภาพการนอนหลับแย่ ยิ่งมานอนบนโซฟาก็ยิ่งทำให้เธอสาบาก ไม่กี่ชั่วโมงเธอก็พลิกตัวไปมาไม่นอนหลับสักที จนกระทั่งหลังเที่ยงคืน เพราะเหนื่อยล้ามาก เลยเริ่มค่อยๆ นอนหลับ
กลาง ก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ๆประตูห้องนอนก็ถูกเปิด ออกมาจากคนข้างในขึ้น
รูปร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องนอน พร้อมจ้องมองผู้หญิง ที่นอนอยู่บนโซฟาด้วยสายตานิ่งเฉย
เธอพลิกตัว เพราะนอนหลับไม่ค่อยดี ดังนั้นบนใบหน้าอันสวย ของเธอนั้นมีสีหน้าอ่อนล้าขึ้น ขณะเดียวกันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขึ้น และรอบดวงตาก็คล้ำเล็กน้อย
จี๋หลินยวนยีนทําหน้านิ่งเฉยสักพัก จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินเข้า
มา
เมื่อเขามายืนอยู่ตรงหน้า ก็เห็นแสงจันทร์ที่ลอดผ่านมาทาง หน้าต่างตกกระทบบนใบหน้าอันขาวเนียนของเธอ
เขายื่นมือเหมือนกับอยากสัมผัสผิวหนังอันขาวประกาย ใบนั้น แต่เพียงยื่นมือแค่ครึ่งก็ค้างกลางอากาศ แล้วก็ดึงมือกลับมา
ทันที
จากนั้นก็ยิ่งเย็นขาขึ้น
ไม่นานเขาก็หันหลังเดินจากไป
หัวเหยารู้สึกหนาวตามร่างกายเล็กน้อย ภายใต้การมองเห็นที่ เลือนรางนั้น เธอเหมือนกับเห็นเงาคนหนึ่งเดินเข้ามา เลยร้อง พิมพา น
“หลินยวน”
จี๋หลินยวน หยุดฝีเท้าลง
เขาหันหน้ากลับมามองเธอ
ผู้หญิงนอนพิงบนโซฟาอย่างนิ่งเงียบ แต่ใบหน้าขาวซีดมาก เผยความเหนื่อยล้า
อาจเป็นเพราะตอนกลางคืนหนาวมาก เธอเลยหดตัวเล็กน้อย แถมเอามือกุมหน้าท้องด้วย และผ้าห่มครึ่งฝันก็ร่วงตกบนพื้นเผย ร่างกายของเธอขึ้น
เขาเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย
ไม่นานเขาก็เดินเข้าไปโอบกอดเธอ
หัวเหยานอนหลับไม่รู้เรื่อง ตอนแรกเธอรู้สึกหนาวเล็กน้อย แต่ จู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนกับตัวเองอยู่ใกล้กองไฟกองหนึ่ง
เธอเลยโน้มตัวเข้าใกล้กับความอบอุ่นนั้น พร้อมกับเผยรอย ยิ้มอันชื่นใจขึ้น
อบอุ่นจัง สบายมาก
หลินยวนจ้องมองผู้หญิงที่โน้มตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา อย่างเงียบๆ โดย บนใบหน้าไม่มีสีหน้ามืดครึ้มแล้ว
แต่ไม่นานเขาก็อุ้มเธอเข้าไปวางบนเตียงในห้องนอน
จากนั้นหัวเหยาก็นอนหลับสนิทอย่างเชื่อฟัง
หรือว่าเป็นเพราะเหนื่อยมาก หรือเป็นเพราะมีบางสิ่งที่คุ้นเคย อยู่ใกล้ชิดตัวเองตลอด เธอรู้สึกเหมือนกับได้ย้อนกลับไปเมื่อ ก่อน และนึกว่าตัวเองกำลังฝัน และไม่ยอมตื่นขึ้นมาจากความฝัน ครั้งนี้
ด้วยเหตุนี้เธอจึงนอนหลับสนิท จนกระทั่งวันต่อมาเวลาสิบ โมงครึ่งจึงจะตื่นนอน
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา จี๋หลินยวนก็ตื่นตั้งนานแล้ว เธอลุกขึ้นมานั่งและมองรอบบริเวณ พร้อมกับนิ่งอึ้งเล็กน้อย เธอจําได้ว่า เมื่อคืนตัวเองนอนบนโซฟาไม่ใช่หรอ? ทำไมถึง กลับมานอนบนเตียงแล้ว?
หัวเหยาจ้องมองผ้าห่มบนตัวเบื้องหน้าของตัวเอง และนึกถึง เรื่องราวเมื่อคืนอย่างเลือนรางว่า เหมือนกับเห็นเงาใครคนหนึ่ง
อยู่
หรือว่า….เมื่อคืนไม่ได้ฝันหรอ?
เพราะนอนหลับลึก เธอเลย ความทรงจำของเมื่อคืนไม่ได้
มาก
เพียงแต่จําได้เลือนรางว่าเหมือนเห็นร่างเงาใครคนหนึ่ง เมื่อนึกถึงตรงนี้ หัวเหยาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ผ่านไปไม่นาน เธอก็สูบลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อปรับ อารมณ์ แล้วลุกขึ้นจากเตียง
หลังจากออกจากห้องนอน กลับไม่เจอ ใครในห้องรับแขกเลย
เธอเองก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นไปไหนแล้ว แต่เมื่อคิดก็รู้ว่าคงไม่ ไปไหนจริงๆหรอก คนๆนั้นเป็นคนพูดจริงเสมอ หากพูดว่าจะรอ เธอคลอดลูกคงไม่ไปไหนก่อนแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ห่างจากวันกำหนดคลอดแค่ครึ่งเดือนกว่า
ด้วย
หัวเหยา งบนโซฟา แล้วโทรหาแม่บ้าน
นับตั้งแต่เธอออกไปเมื่อคืนก็ยังไม่กลับมาเลย เมื่อคืนหัวเหยาไม่ทันสังเกต เพิ่งมารู้สึกตัวตอนนี้ เลยรู้สึกเป็น
กังวลเล็กน้อย
โทรหาหลายครั้ง แต่กลับไม่มีคนรับสายเลย ทันใดนั้นประตูก็เปิดขึ้น
เธอนิ่งอึ้งเล็กน้อย และเห็นจี้หลินยวนเดินเข้ามา และในตอนนี้ เพิ่งสังเกตเห็นประตูที่ถูกผู้ชายทำพัง ไม่รู้ว่าซ่อมวันนี้ตั้งแต่เมื่อ
ไหร่ เขาจ้องมองหัวเหยาเล็กน้อย โดยที่มีสีหน้าเย็นชา
หัวเหยาครุ่นคิดว่า ในเมื่อเขาจะอยู่ที่นี่ พวกเขาทั้งสองคนคง
ไม่ทำสงครามเย็นกันตลอดหรอก
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเหมือนกับว่าเขาเป็นคนอุ้มเธอวางบน เคียงด้วย
นับว่า ในความเคียดแค้นก็ยังมีน้ำใจอยู่
ดังนั้นหัวเหยาจึงเอ่ยปากพูดว่า “ฉันจ้างแม่บ้านคนหนึ่งแล้ว ชื่อว่า Eva แต่ตอนนี้เธอยังไม่กลับมา ฉันยังไม่สามารถติดต่อ เธอได้ชั่วคราว ถ้าหากตอนเที่ยงคุณหิวก็หาทางกินเอาเองนะคะ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ