บทที่ 272 ทั้งหมดเป็นเรื่องบังเอิญ
ความผิดหวังเป็นสิ่งที่แน่นอน
แต่ในเมื่อจิ้นซิงเฉิงถึงกับออกปากมาแบบนั้น ถ้าหากเธอเป็น ภรรยาของลู่จิ้งเซิน พวกเขาจึงไม่สามารถที่จะเรียกร้องอะไรได้
คุณนายใหญ่ทอดถอนใจด้วยความรู้สึกเสียดาย
“ลูกรู้ไหมว่าทำไมผู้หญิงดีๆพวกนี้ ไม่ก็อายวนไม่เข้าตาของ พวกเธอ ไม่ก็พากันแต่งงานกันหมด? ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อาย วนของพวกเราจะได้แต่งงานและมีหลานชายตัวน้อยให้กับฉันได้ เมื่อไหร่?”
จิ๋นซิงเฉิงได้ฟังดังนั้น ใบหน้าของเขาก็หล่นลง
“แม่ครับ แม่ไม่ต้องรีบหรอกครับ อายวนเพิ่งกลับถึงตระกูลจิ้น เราไม่ควรที่จะกดดันเขามากจนเกินไป ถ้าเขาไม่มีใจที่จะหาใคร สักคน แม่เร่งรัดเขาไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ
คุณนายใหญ่เข้าใจถึงเหตุผลนี้ดี แต่เธอแค่ไม่สามารถห้ามตัว เองได้ก็เท่านั้น
หลังจากคิดได้แล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด และไม่ ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
คืนนั้น หลังจากที่วิ่งหนึ่งกลับไป เธอจึงนำเรื่องที่เธอได้พบกับคุณนายหญิงที่น่าสนใจคนหนึ่งที่ด้านนอกของสนามกีฬา มาเล่า ให้ลู่จิ่งเซ็นฟัง
ลู่จึงเป็นไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก แต่เมื่อเห็นว่าเธอสนใจ เรื่องนี้มาก เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจไปกับเธอ
ทันใดนั้นจึงหนึ่งก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เธอคุยโทรศัพท์กับหัว
เหยาในตอนกลางวัน และพูดกับลู่จึงเป็นด้วยตื่นเต้นว่า “คุณรู้
ไหม? หัวเหยาใกล้คลอดแล้ว”
ลู่จิ่งเซินเลิกคิ้วขึ้น
หัวเหยาใกล้คลอดเกี่ยวข้องอะไรกับเขา
จิ่งหนิงยกนิ้วของเธอขึ้นมานับ”เหลือเวลาอีก 1 เดือน ใน ฐานะแม่อุปถัมภ์ของเด็ก ฉันอยากไปหาเธอที่ฝรั่งเศส คุณก็ไป กับฉันด้วยนะคะ
ลู่จิ่งเซ๊นขมวดคิ้ว
เขาปฏิเสธ โดยไม่ต้องคิด “ผมไม่ไป
ซึ่งโดยปกติแล้วจึงหนิงมักไม่ค่อยทำตามที่เขาต้องการ เธอ พูดออกไปตรงๆ “ไม่ได้ คุณต้องไป!
“ฉันเป็นแม่อุปถัมภ์ คุณก็เป็นพ่ออุปถัมภ์ ถ้าฉันไปแล้วคุณ ไม่ไป มันดูไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่
อู๋จิ้งเซิน: “…”
เขายิ้มอย่างเยือกเย็น
“ผมไม่อยากเป็นพ่ออุปถัมภ์ ผมอยากเป็นพ่อจริงๆ มากกว่า
จิ้งหนัง: “???”
หลังจากผงะไปชั่วครู่ ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
ทันใดนั้นใบหน้าของฉันก็แดงระเรื่อ เธอมองไปรอบๆ เพื่อให้ แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ แล้วพูดขึ้นด้วยความเขินอายบนโกรธ ว่าคุณกำลังพูดไร้สาระอะไร? ”
“เรื่องนี้จะไร้สาระได้อย่างไร เราเป็นสามีภรรยากัน การมีลูก ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเหรอ?”
ลู่จิ่งเซินพูดพร้อมกับโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา จิ้งหนิงหน้าแดงหนักกว่าเดิม
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ ทันใดนั้น ก็มีคนรับใช้ เข้ามารายงานว่า “นายท่าน นายหญิง มีแขกมาที่นี่ คุณนาย ใหญ่เชิญคุณไปพบ
จิ้งหนิงตกใจ เธอรีบผลักจิ้งเซินออก
เมื่อหันศีรษะไป เธอก็เห็นคนรับใช้กำลังค้อมศีรษะลง ราวกับ ไม่เห็นความใกล้ชิดระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงมุมปากของเธอที่ กำลังยกขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อ ที่จะปกปิดรอยยิ้มนั้นไว้ แต่มันกลับไม่เป็นผล
จิ้งหนังหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง
ลู่จึงเป็นกลับไม่คิดอะไร เขาเพียงโบกมือปัดๆ พวกเรารู้แล้วเดี๋ยวจะรีบลงไป
คนรับใช้ปลีกตัวออกไป จึงหนีงลุกขึ้นนั่ง เธอบ่นว่า : “โทษ คุณคนเดียวเลย ไม่สมควรเลยที่ทำแบบนี้ให้คนอื่นเห็น
สีหน้าของชายคนนั้นยังเป็นปกติ เขาจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้ เข้าที่ และเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม: “อยู่ที่บ้านทำไม่ต้องกลัวนั่นกลัว นีด้วย?”
จิ้งหนึ่งไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาเรื่องนี้อีก” โอเค คุณย่า เรียกหาพวกเรา รีบไปกันเถอะค่ะ”
สมาชิกในครอบครัวของตระกูลมีไม่มาก และรุ่นล่าสุดที่สืบ เชื้อสายโดยตรงก็มีเพียงสู่จึงเป็นเท่านั้น ซึ่งพ่อและแม่ของลู่วิ่งเซ นก็มาด่วนจากไปอีก ดังนั้นบรรยากาศในบ้านจึงค่อนข้าง เงียบเหงา
คุณนายใหญ่ละนายท่านใหญ่ต่างก็อายุมากแล้ว นายท่าน ใหญ่ที่สุขภาพไม่ค่อยดี จึงเป็นไม่ชอบเข้าสังคม และเขาก็ยังอยู่ กับงานตลอดทั้งปี เวลาที่กลับมาพักที่คฤหาสน์บ้านจึงน้อยลง ไปด้วย ดังนั้นคุณนายใหญ่มักจะปฏิเสธไม่ให้แขกเข้าเยี่ยม แต่ ไม่รู้ว่าวันนี้ใครมาขอเข้าพบ
จึงหนิงและลู่วิ่งเซินมาถึงห้องโถง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอเห็นความมีชีวิตชีวาที่หาได้ยากในห้องโถง บนโซฟาหรูมี ชายวัยกลางคนและหญิงชราผมสีดอกเลานั่งอยู่ ทั้งสองคนหันหลังให้เธอ
นายหญิง ชินจับมือของคุณนายใหญ่ไว้ด้วยความสนิทสนม ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ ใบหน้าของนายหญิงหงินเคลื่อนไหว ตามอารมณ์ของเธอ
มีคนรับใช้หลายคนยืนรออยู่ด้านข้าง คอยในน้ำชา และรอฟัง คำสั่ง คุณนายใหญ่ไม่ชอบลักษณะแบบนี้ แต่เหตุผลที่เธอให้การ ต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่แบบวันนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของอีกฝ่ายที่มีต่อเธอ
ลู่วิ่งเป็นดึงจิ้งหนึ่งให้เดินไปกับเขา
“คุณย่า”
“อาเซิน หนิงหนิง มาแล้วเหรอ? ”
นายหญิง ชินเงยหน้าขึ้น เพื่อเห็นพวกเขา เธอรีบส่งยิ้ม ทักทายเรียกให้พวกเขาเข้ามานั่งใกล้ๆ
“มาตรงนี้ แม่จะแนะนำให้ลูกๆ รู้จักเสียหน่อย ท่านนี้คือคุณ ย่าจิ้นที่แม่เคยพูดถึงหลายครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ ท่านนี้คือคุณลุง นของลูก ส่วนคุณปู่จิ้นของลูกกำลังเล่นหมากรุกอยู่กับคุณใน ห้องน้ำชา! ”
ขณะที่พูด เธอก็พาจิ้งหนึ่งและลู่จึงเป็นมาแนะนำให้กับคุณ นายจิ้น
“ นี่คือหลานชายของฉันจิ้งเซิน และนี่ก็คือหลานสะใภ้ ของฉันจิ้งหนิง”
คุณนายจิ้นและจิ่งหนึ่งตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “คุณย่าคะ เป็นคุณเองเหรอคะ?”
“สาวน้อย เป็นเธอเองหรอกหรือ?”
เมื่อคนที่อยู่รอบข้างทุกคนเห็นสีหน้าแปลกใจของทั้งสองก็ เกิดความสับสนเล็กน้อย
เป็นไปได้ไหมที่ทั้งสองคนจะเคยรู้จักกันมาก่อน?
ในที่สุดจิ่งหนึ่งก็มีปฏิกิริยาตอบกลับ เธอรู้สึกกลืนไม่เข้าคาย
ไม่ออก
ลู่จิ่งเซินก็มีปฏิกิริยาตอบกลับเช่นกัน เขานึกขึ้นได้ว่าคุณนาย จิ้นน่าจะเป็นคุณนายหญิงที่เขาและเธอพูดถึงเมื่อเย็น เขาจึงอดที่ จะยิ้มไปด้วยไม่ได้
มีเพียงนายหญิงหมิ่นเท่านั้นที่ยังตามไม่ทัน เธอเห็นพวกเขา ทั้งหมดหัวเราะกัน จึงรีบถามขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? หนิงหนึ่ง หนูเคยพบกับคุณย่าขึ้นมาก่อน หรือ? ”
จิ่งหนึ่งพยักหน้า และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ นายหญิงหมิ่นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออก
มา
หญิงชราทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เมื่อครั้งยังเด็ก เมื่อไม่ กี่สิบปีก่อน ตระกูลจิ้นถือเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของประเทศจีน แต่ต่อมานายท่านจนมีความสนใจเกี่ยวกับตลาดต่าง ประเทศ เขาจึงพาครอบครัวย้ายไปยังต่างประเทศ ทำให้ชื่อ เสียงของตระกูลจิ้นในประเทศจีนลดลงไปด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของผู้ อาวุโสทั้งสอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าทั้งสองจะไม่มีค่อย เวลาได้อยู่ด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่นายหญิงซินต้องไปทำธุระที่ ประเทศฝรั่งเศส เป้าหมายหลักๆ ของเธอก็เพื่อที่จะไปหาคุณนาย จิ้น
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตระกูลจิ้นเดินทางกลับประเทศจีนใน รอบยี่สิบกว่าปีมานี้
ได้ข่าวว่าเป็นเพราะหลานชายคนเล็กของตระกูลจิ้น เนื่องจาก
ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ทำให้ขึ้นชิงเฉิงและภรรยาของเขาหย่าร้าง
กัน แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อทั้งสองหย่าร้างกัน เธอได้ตั้งท้องลูกของ
เขาด้วย แต่ตอนนั้นคนของตระกูลจิ้นไม่ได้ทราบเรื่องนี้ จน
กระทั่งการหย่าร้างเสร็จสมบูรณ์
อีกฝ่ายได้หายไปแล้ว หย่าก็หย่าแล้ว แม้ว่าตระกูลจิ้นจะตาม หาเธอ แต่อีกฝ่ายกับหลบเลี่ยงไม่ยอมพบหน้า
ต่อมาเนื่องจากความตั้งใจหลบเลี่ยงของอีกฝ่าย ทำให้ทั้งสอง ฝ่ายก็ค่อยๆ ขาดการติดต่อกัน
โชคดีที่ครึ่งปีก่อน อดีตภรรยาของจิ๋นซิงเฉิงเกิดป่วยหลัก เธอ จึงบอกเรื่องนี้ให้กับลูกของเธอก่อนจะจากไป และได้แจ้งคนของ ตระกูลจิ้นให้ทราบด้วย
ครั้งนี้ที่ตระกูลจิ้นย้ายกลับมายังประเทศจีน ก็เพื่อมาทำความ คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่เด็กใช้ชีวิตและเติบโตมา และเพื่อ พัฒนาความสัมพันธ์กับเขา
นายหญิงหงินทอดถอนใจเมื่อได้ฟังเรื่องนี้จบ
“พวกคุณโชคดีจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรพวกคุณก็นำตัวเด็กคนนี้ กลับมาได้แล้ว และยังรู้จักพวกคุณ จนถึงตอนนี้เด็กของตระกูล กวนคนนั้นก็ยังไม่ได้นำตัวกลับมา เมื่อวานฉันไปหาตากวน ฉัน แทบทนไม่ได้ที่เห็นเขาในสภาพแบบนั้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ