วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 266 เขามาตามหาคนคนหนึ่ง



บทที่ 266 เขามาตามหาคนคนหนึ่ง

ร้านอาหารร้านนี้นับว่าเป็นร้านอาหารที่มีระดับในเมืองขึ้น แต่ดู เหมือนว่ายังไม่ค่อยสักเท่าไหร่

แต่ความดูดีมีระดับที่กวนหมิงแสดงออกมานั้น แค่มองก็รู้ แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่จะมากินข้าวในร้านอาหารแบบนี้อย่าง แน่นอน วันนี้ที่เขามาที่นี่อาจจะเพราะเวลาเร่งรีบจริงๆ หรือไม่ อย่างงั้นก็คงเพราะว่าที่นี่มีบางอย่างที่พิเศษที่ดึงดูดเขามา

จึงหนิงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่ว่าเธอสองคนไม่ได้สนิทกันเธอ จึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย

ทั้งคู่เดินเข้าร้านอาหารไป ในขณะที่กินข้าวกันทั้งสองก็พูดคุย

กันอย่างยิ้มแย้มอ่อนโยน บรรยากาศถือว่าใช้ได้เลย

เธอรู้สึกว่าสายตาที่กวนหนึ่งมองเธอนั้นไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ แต่เธอไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองรึเปล่า

ความสนิทสนมที่เขามีต่อเธอนั้น ไม่เหมือนคนที่เพิ่งเคยเจอ หน้ากันแค่สองครั้ง

จิ้งหนึ่งเริ่มรู้สึกตงิดใจเล็กน้อย เธอถามเขาว่า “ครั้งนี้ที่คุณ กวนมาที่เมืองเจียง คุณมาทำธุระอะไรรึเปล่าคะ?

กวนหนึ่งกล่าว “มาตามหาคนครับ “ม? ขออนุญาต ถามได้ไหมคะว่าตามหาใคร?”
กวนจี้หมิงซะงักไปสักพักแล้วยิ้มพร้อมพูด “ลูกของคนสนิท ของผมครับ”

เมื่อพูดเช่นนี้แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ซึ่งหนึ่งดูออกว่าเขา ไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะถามต่อ เธอก็แค่ยิ้มๆแล้วก็จบการสนทนาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไป

ขณะนั้น อาหารจานใหม่มาเสิร์ฟพอดี ด้วยความที่ตัวเองเป็น คนเมืองขึ้นก็ต้องทำหน้าที่เจ้าภาพให้ดี จึงหนึ่งจึงพูดแนะนำเมนู อาหาร “หมูเปรี้ยวหวานนี้ เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ไม่ทราบว่าที่ เมืองหลวงรสชาติของมันเป็นยังไง คุณกวนลองชิมดูได้นะคะ

กวนหนึ่งมองไปที่อาหารจานนั้น เขาอึ้งไปสักพักและดูเหมือ ลอยเล็กน้อย

จิ่งหนึ่งสังเกตเห็น จึงถามด้วยความระมัดระวัง “คุณกวนคะ คุณไม่เป็นไรใชไหมคะ?”

กวน หมิงดึงสติกลับมา แล้วฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ” อาหารที่เสี่ยวย่านชอบมากที่สุดก็เป็นหมูเปรี้ยวหวานเหมือน

ถ้าเธออยู่ตรงนี้ด้วยกันมันคงจะดีมากๆ

เฮ้อ!

เธอไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เธอสัมผัสได้ว่าคุณกวน รู้สึกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่
กวนจี้หมิงซะงักไปสักพักแล้วยิ้มพร้อมพูด “ลูกของคนสนิท ของผมครับ”

เมื่อพูดเช่นนี้แล้วเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ซึ่งหนึ่งดูออกว่าเขา ไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะถามต่อ เธอก็แค่ยิ้มๆแล้วก็จบการสนทนาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไป

ขณะนั้น อาหารจานใหม่มาเสิร์ฟพอดี ด้วยความที่ตัวเองเป็น คนเมืองขึ้นก็ต้องทำหน้าที่เจ้าภาพให้ดี จึงหนึ่งจึงพูดแนะนำเมนู อาหาร “หมูเปรี้ยวหวานนี้ เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ไม่ทราบว่าที่ เมืองหลวงรสชาติของมันเป็นยังไง คุณกวนลองชิมดูได้นะคะ

กวนหนึ่งมองไปที่อาหารจานนั้น เขาอึ้งไปสักพักและดูเหมือ ลอยเล็กน้อย

จิ่งหนึ่งสังเกตเห็น จึงถามด้วยความระมัดระวัง “คุณกวนคะ คุณไม่เป็นไรใชไหมคะ?”

กวน หมิงดึงสติกลับมา แล้วฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ” อาหารที่เสี่ยวย่านชอบมากที่สุดก็เป็นหมูเปรี้ยวหวานเหมือน

ถ้าเธออยู่ตรงนี้ด้วยกันมันคงจะดีมากๆ

เฮ้อ!

เธอไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่เธอสัมผัสได้ว่าคุณกวน รู้สึกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่
รับคนเพียงลำพังอย่างที่เขาว่า หรือเพราะว่าเขาอยากอยู่คุย กับเธอต่อกันแน่

เขาทำขนาดนี้แล้ว จึงหนิงเองก็คงยากที่จะปฏิเสธ รอไปสักพักหนึ่ง ไม่นานจึงเป็นก็เดินออกมา ชายคนนั้นใส่เสื้อสูทสีดำ ด้านนอกเป็นเสื้อกันหนาวสีเทาเข้ม

ยังคงดูดีมีสง่า แววตาสุขุม หล่อเหลาเอาการเช่นเคยไม่เปลี่ยน วิ่งหนึ่งส่งรอยยิ้มกว้างๆออกมาอย่างห้ามไม่ได้แล้ววิ่งเข้าไป

หาเขา

“หนิงหนิง!”

รอยยิ้มที่มุมปากของชายคนนี้ไม่เคยหายเลยแม้แต่วินาที เดียวหลังจากที่เจอเธอ เขากอดเธอเข้าไปในอ้อมแขน และกอด

แน่นๆ

“คิดถึงผมไหม?”

หัวใจของจิ้งหนิงเต้นตุ๊บตั๊บๆ

เขาก้มหน้าไปที่หน้าอกของเขา เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาก็ เต้นแรงมากเช่นกัน

ทันใดนั้นเธอรู้สึกร้อนๆ ที่รอบดวงตา แล้วรู้สึกชื่นชาภายใน ใจ

วินาทีนี้ เธอไม่อยากนึกถึงเรื่องอื่นใด เธอใช้มือทั้งสองข้าง กอดเอวเขาไว้ แล้วพยักหน้าตอบรับ
ความสุขที่ล้นหลามพุ่งขึ้นมาที่หัวใจของชายหนุ่มราวกับ กระแสน้ำพัดเข้ามา เขาเอามือจับไปที่ใบหน้าของ

เธอแล้วประทับริมฝีปากลงอย่างบรรจง

จิ่งหนึ่งรู้สึกมึนงง แต่เธอเองก็คล้อยตามเขาแล้วหลับตาลงไป ทุกการสัมผัสของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา

เยือกเย็น หนักแน่น ดุดัน……..

ราวกับว่าเขาอยากที่จะเอาเธอมาเป็นของตัวเองแค่คนเดียว กวนจี้หมิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย

ตอนแรกที่เขาเจอลู่จึงเป็นเขารู้สึกเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เขา กําลังจะเข้าไปทักทาย

แต่ตอนนี้มัน………..

จูบนี้ไม่นานก็จบลง

ถึงยังไงพวกเขาก็อยู่ที่สนามบิน แม้ว่าจะเป็นช่องทางผ่านVIP แต่ก็มีคนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แม่หญิงคนนี้เป็นคนขี้อาย ก็ต้องคิดเรื่องพวกเผื่อเธอไว้บ้าง

ทันทีที่ปล่อยเธอ เขาก็สังเกตเห็นว่าหน้าเธอแดงมากอย่างที่ คิดไว้ไม่มีผิด หน้าแดงราวกับลูกแอปเปิลสองลูก น่าหลงใหล

ซึ่งหนึ่งเองก็ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะหลงกลเขาแล้วจูบกับเขา ในที่สาธารณะแบบนี้
ความรักนวลสงวนตัวเลย ความเขินอายเอย ความรู้สึกเหล่านี้ ได้ถูกความคิดถึงทำลายล้างไปจนหมดสิ้น

วินาทีนี้เธอเพิ่งจะตระหนักได้ว่า ความรู้สึกบางอย่างมันอาจจะ

ฝังลึกเข้าไปในหัวใจตั้งนานแล้ว แต่เพียงแค่เราไม่ยอมรับมันและวิ่งหนีมันตลอด ฉะนั้นจึงคิด

ว่ามันไม่มีอยู่จริง

แต่สิ่งที่มันมีอยู่แล้วจริงๆ เราจะมองข้ามมันไปได้ยังไง?

ก็เหมือนกับที่เราปลูกเมล็ดลงไปในผืนดิน แค่ใส่ปุ๋ยลงไป เพียงเล็กน้อย มันก็สามารถงอกออกมา

จากพื้นดินและเติบโตจนกลายเป็นต้นไม้สูงใหญ่ได้

และเวลากับระยะทางนับว่าเป็นปุ๋ยที่ดีที่สุดแล้ว

จนเธอรู้สึกว่ามีสายตาที่ร้อนแรงมองมาที่เธอ จึงหนึ่งจึงจะเงย

หน้าขึ้น

หลังจากนั้นก็เห็นผู้คนมากมายมองมาที่พวกเธอ ใบหน้าของ เธอก้มไปที่หน้าอกของผู้ชาย ผู้คนเหล่านั้นไม่เห็นหรอกว่าเธอ เป็นใคร

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ รูปร่างและบุคลิกของเธอก็สามารถบ่ง บอกได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่สวย

เป็นปกติที่ชายรูปหล่อและหญิงสาวที่งดงามมักจะดึงดูด สายตาของผู้คน และการกระทำเช่นนี้ก็ยิ่งดึงดูดสายตาอย่างมาก

จิ่งหนึ่งหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม เธอรีบจัดผมตัวเองแล้วใช้ผม บังหน้าตัวเองไว้ เธอเกรงว่าจะมีใครรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือเธอ ฟ้าเห็นฟ้า ตอนนี้เธอก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่พอมีชื่อเสียงเล็ก

น้อย โอเ ?

ข่าวด้านลบๆ ของเธอก็เยอะอยู่แล้ว ถ้ามีคนมาถ่ายรูปไว้ พรุ่ง นี้ก็คงได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งอีกหรอก

ลู่จึงเป็นอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางที่เธอปิดหน้าตัวเองไว้

“เขินเหรอครับ?”

จิ่งหนึ่งส่ายหน้าแล้วดึงไปที่ชายเสื้อของเขา “เราไปกันเถอะ!

“ครับ” เขาตอบรับแต่ไม่ได้ขยับตัวกลับเอามือปิดหน้าเธอไว้ ใบหน้าของเธอเล็กอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่ภายใต้มือ ใหญ่ๆ ของเขาก็แทบจะปิดไปทั่วหน้า

จิ่งหนึ่งรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นแววตาที่ใส สว่างของเขา แววตาของเขาปะปนไปด้วยความอ่อนโยนและ รอยยิ้ม เขาพูดด้วยเสียงเบาๆ “ผมก็คิดถึงคุณเช่นกัน คิดถึงมาก ครับ”

วิ่งหนึ่งยิ้มออกมาทันที

ไอ้คนนี้ บ้าจริงๆ

เธอตอบไปแล้วว่าคิดถึงเขา เขาจำเป็นต้องตอบกลับมาอีกรอบไหม?

ต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ?

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เธอรู้สึกหวานขึ้นหัวใจ จนทำให้รู้สึก จิต ใจสั่นไหว

เธอพยักหน้า “อืม ฉันรู้

เธอจับมือของเขาไว้พร้อมพูด “มานี่หน่อย ฉันมีคนจะแนะนำ ให้คุณรู้จัก”

ลู่วิ่งเซินยอมให้เธอจับมือแล้วเดินเข้าไปหากวนหนึ่งอย่าง เชื่อฟัง

จิ่งหนึ่งรู้สึกเขินเล็กน้อย เธอกำลังคิดว่าภาพเหตุการณ์เมื่อสัก

ครู่นี้กวนหนึ่งคงเห็นแล้ว แต่ทำลงไปแล้วมันก็ลบล้างไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นจึงทำให้แค่ทำเป็นนิ่งๆ

“คุณกวนดะ คนที่ฉันรอรับเขามาถึงแล้วค่ะ จึงเป็นคนนี้คือ เพื่อนของคุณนาย คุณกวนค่ะ

กวนจี้หมิงพูดพร้อมยิ้ม “อาเซน ผมไม่คาดคิดเลยนะครับเนี่ย! ผมก็ว่าทำไมช่วงนี้คุณชอบอยู่ที่เมืองจีนจัง ที่แท้ก็เพราะว่าซ่อนผู้ หญิงไว้ที่นี่นี่เอง”

ลู่จึงเป็นอมยิ้ม “คุณลุงรองก็ว่าไป ผมเองก็ไม่คาดคิดนะครับ ว่าคุณลุงรองจะรู้จักกับหนึ่งหนึ่ง ผมคงไม่ต้องแนะนำแล้วใช่ไหม ครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ