วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 253 คนหายตัวไปแล้ว



บทที่ 253 คนหายตัวไปแล้ว

ลมตอนดึกนั้นได้พัดใบไม้ที่อยู่บนพื้น ได้พัดปลิววงอยู่กลาง อากาศ แล้วก็ร่วงลงมา

คนที่ทำหน้าที่ในห้องรูปภก็ได้ถูกลมพัดจนสะดุ้ง แล้วก็ตื่นขึ้น

มา

เขามองด้านหน้าด้วยแววตาที่ง่วง ในความง่วงนั้นเหมือนว่า ใต้เห็นร่างคนแบบผ่านไป แต่รอให้เข้ากะพริบตาอีกครั้ง ก็พบว่า ไม่มีอะไร

แปลกจัง หรือว่าเขาตาฝาดไป?

เขาลุกขึ้นแล้วก็ขยี้ตาตัวเอง แล้วก็มองไปรอบๆ มั่นใจว่าไม่มี อะไรก็ได้นั่งลงอย่างวางใจอีกครั้ง

จึงเสี่ยวหย่าไม่กล้าที่จะหยุด กลัวว่าด้านหลังจะมีคนจับได้แล้ว

ก็ตามมา

ได้วิ่งไปที่ถนนใหญ่ที่อยู่ด้านนอก ถึงได้ถอนหายใจ แล้วก็ หยุดลง

เธอยืนอยู่ตรงนั้น จับข้าวของตัวเอง ไปสักพัก ถึงได้มีเวลา ย้อนคิด ใครที่ปล่อยเธอออกมา?

ถ้าเกิดว่าเธอไม่ได้ตาฝาด ตอนที่เธอตื่นนั้น มีร่างคนได้เดิน ออกไป
ไม่แปลกใจเลย กุญแจพวงนี้กับโทรศัพท์ แล้วก็ประตูที่เปิด นั่นเป็นของที่คนคนนั้นจงใจให้เธอ

เขาเป็นใคร?

ทำไมถึงทำถึงขนาดนี้?

เขารู้จักตนเหรอ?

จึงเสี่ยวหย่ายืนอยู่ตรงนั้น จู่ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่า ถ้าตัวเองได้หนีไป แบบนี้ ถือว่าเป็นการแหกคุกไหม?

น่าจะไม่นะ เธอยังไม่ได้ถูกตัดสินโทษ แต่ก็แค่กักตัวชั่วคราว

เฉยๆ

แต่ว่าในใจนั้นก็ไม่สงบสักที

ยังไงซะ หวังเสวีเหมยก่อนหน้าได้สั่งเธอไว้ ให้เธอนั้นอยู่ใน สถานีดีๆ พวกเขาต้องหาทางช่วยเธอ

แต่ต่อมาเธอก็ได้หนีออกมา ไม่ว่ายังไง ถึงตอนนั้นตัวเองยาก

ที่จะแก้ตัวแน่

ถึงตอนนี้จึงเสี่ยวหย่าถึงได้รู้สึกหวาดกลัว เมื่อมัวแต่หนี ตอน นี้ถึงได้คิดได้ ที่เธอทำแบบนี้ถือว่าเป็นการแหกคุกไหม แต่ว่านี้ก็

ไม่ต่างอะไรกับแหกคุกนะ!

ต้องทํายังไง ?

กลับไป?

ไม่ ไม่ได้
กลับไปยังไม่รู้เลยว่าจะอธิบายยังไง

เธอหลับตา รู้สึกถึงความเย็นของสายลมที่พัดมาที่หน้าเธอจน ปวด ในหัว ก็ได้มีความสับสนเต็มไปหมด คิดไม่ออกเลยจริงๆ

เวลาเดียวกัน โทรศัพท์ “ติ๊ด” ก็ได้ดังขึ้น เธอได้อึ้งเล็กน้อย เอาโทรศัพท์มาดู ก็ได้เห็นข้อความหนึ่ง เธอใจได้เต้น นิ้วได้สั่น แล้วก็เปิดมาดู

เห็นแต่รูปข้างทะเลที่อยู่บนนั้นรูปหนึ่ง บนรูป ผู้หญิงอยู่ในชุด ชายหาดหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ หน้าตาสวยสด

แล้วก็หลังรูป เขียนที่อยู่วันหนึ่ง ได้เป็นที่อยู่ของเกาะ

หนิง

จึงเสี่ยวหย่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

จิ่งหนีง? เธออยู่ที่เกาะ

ถึงว่า ตนได้หาเธอทั่วทั้งเมืองจิ้น เหลือแค่ที่จะขุดดินหาแล้ว ก็ หาเธอออกมาไม่ได้

ที่แท้เธอได้ออกไปจากเมืองขึ้นแล้ว!

นางแพศยาที่สมควรตาย

จึงเสี่ยวหย่ากัดฟันด้วยความโมโห แต่ว่าหลังจากนี้ก็ได้คิดได้ ใครเป็นคนส่งข้อความนี้มา

เห็นแต่อีเมลของคนที่ส่งมา ถ้าเกิดอีกฝ่ายอยากจะปิดบังตัวตน จากข้อมูลอีเมลถ้าจะหาอีกฝ่าย ก็ไม่น่าที่จะเป็นไปได้

เธอได้ขมวดคิ้วอีกครั้ง

ไม่ว่าเป็นใคร ไหนๆ ก็ได้ส่งรูปนี้มาให้เธอ ก็น่าจะไม่ได้อยาก ทําร้ายเธอ

ยังไงซะ ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ ความเป็นตายจิ้งหนึ่งเป็นยังไงไม่ สําคัญกับเธอ!

คิดถึงตรงนี้ จึงเสี่ยวหย่าก็ได้ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

จิ้งหนิง เธอรอก่อนเถอะ!

อยากจะใส่ร้ายฉันใช่ไหม? ตอนนี้ฉันจะไปเอาตัวเธอออกมา ถึงตอนนั้นฉันจะดูว่าเธอจะอธิบายกับนักข่าวแล้วก็ผู้คนยังไง!

คืนวันนั้น จึงเสี่ยวหย่าก็ได้ซื้อตั๋วเรือที่ไปเกาะหนึ่งจากตลาด มืด เตรียมตัวที่จะไปหาคนที่นั่น

เรื่องนี้ ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะป่าวประกาศ

ข้อแรก การที่เธอออกมานั้นตามหลักมันไม่ถูก ข้อสอง ได้ เรียนรู้บทเรียนจากคราวก่อน ตอนที่ยังจับตัวคนมาไม่ได้ เธอไม่ กล้าที่จะทําอะไรผิดพลาด

เพราะงั้น ตอนที่เธอออกไปก็ได้ส่งข้อความให้หยูจิ๋วเหลียน แล้วก็ไม่ได้บอกใครอีก

วันนี้ จึงหนึ่งได้สอนอ่านอ่านเล่นดินน้ำมัน อยู่ๆ ก็ได้รับสายจากเสี่ยวเหอ

บอกว่าหยูซิ่วเหลียนได้ไปโวยวายที่วัฒนธรรมชิงฮุยอีกแล้ว เธอก็ได้ถอนหายใจ ไม่รู้จะทำไง ก็ได้ให้หยูจิ๋วเหลียนรับสาย คิดไม่ถึง พอรับสาย ก็ได้ยินอีกฝ่ายด่ามาชุดใหญ่

จิ่งหนึ่งขมวดคิ้ว ก็ได้วางสายไปอยากหมดความอดทน

เธอได้ให้โอกาสพวกเขาอยู่ ในตอนที่รับรองว่าไม่มีใครได้ยิน นั้น ก็ได้ให้โอกาสที่จะให้เธอคุย แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะ ยอมมาฟังอะไรที่ไม่มีความหมายแบบนี้แล้วยังฟังคำด่าอีก

อานอานเห็นว่าเธอรับโทรศัพท์ไปได้แป๊บเดียวก็ได้วางสายไป ก็ได้มองเธอด้วยความสงสัย

“หม่ามี หม่ามีอารมณ์ไม่ดีเหรอ? มีคนทำให้หม่ามีโมโหแล้ว ใช่ไหม!”

จึงหนิงได้ยิ้มให้เธอ

“เปล่าคะ ก็แค่ในโลกนี้มักมีแมลงสาบกับแมลงเหม็น พวกเรา ไม่ชอบ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้พวกมันหายไปได้ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มองก็พอ”

อานอานได้นิ่งคิดไปสักพักแล้วก็พยักหน้า

ต่อมา ก็ได้พูดอย่างตั้งใจ “อานอานก็ไม่ชอบแมลงสาบกับ แมลงเหม็น แต่ว่าหม่าไม่ต้องกลัว อานอาน โตแล้ว คราวหน้า ถ้าเจอ ยานอาน ดีพวกมันให้ตายให้จากเตี๋ยวเหอ

บอกว่าหยูซิ่วเหลียนได้ไปโวยวายที่วัฒนธรรมชิงฮุยอีกแล้ว เธอก็ได้ถอนหายใจ ไม่รู้จะทำไง ก็ได้ให้หยู เหลียนรับสาย

คิดไม่ถึง พอรับสาย ก็ได้ยินอีกฝ่ายด่ามาชุดใหญ่

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว ก็ได้วางสายไปอยากหมดความอดทน

เธอได้ให้โอกาสพวกเขาอยู่ ในตอนที่รับรองว่าไม่มีใครได้ยิน นั้น ก็ได้ให้โอกาสที่จะให้เธอคุย แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะ ยอมมาฟังอะไรที่ไม่มีความหมายแบบนี้แล้วยังฟังคำอีก

อานอานเห็นว่าเธอรับโทรศัพท์ไปได้แป๊บเดียวก็ได้วางสายไป ก็ได้มองเธอด้วยความสงสัย

“หม่าม หม่ามีอารมณ์ไม่ดีเหรอ? มีคนทำให้หม่ามโมโหแล้ว ใช่ไหม!”

จึงหนิงได้ยิ้มให้เธอ

“เปล่าคะ ก็แค่ในโลกนี้มักมีแมลงสาบกับแมลงเหม็น พวกเรา ไม่ชอบ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำให้พวกมันหายไปได้ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มองก็พอ”

อานอานได้นิ่งคิดไปสักพักแล้วก็พยักหน้า

ต่อมา ก็ได้พูดอย่างตั้งใจ “อานอ่านก็ไม่ชอบแมลงสาบกับ แมลงเหม็น แต่ว่าหม่าไม่ต้องกลัว อานอนโตแล้ว คราวหน้า ถ้าเจอ อานอานตีพวกมันให้ตายให้
ซึ่งหนึ่งเห็นเด็กน้อยที่มีท่าทางตั้งใจแบบนี้ ก็ได้ออกมา

“ค่ะ อานอานของหม่ามอ่อนโยนจริงๆ มา พวกเรามาปั้นดิน น้ำมันต่อ!

“อืม”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ได้มีแบบงานปั้นดินมันที่ง่ายๆเกิดขึ้น อานอานก็ได้เหนื่อย จึงหนึ่งก็ได้พาเธอไปล้างมือ แล้วก็ส่งเธอไป พัก ห้อง

พอออกมา ก็ได้รับสายของเสี่ยวเหอ

“เป็นไง?”

น้ำเสียงของเสี่ยวเหอดูลำบากใจ “พี่หนิงหนึ่ง จึงเสี่ยวหย่า………หายไปแล้ว

จิ่งหนิงนิ่ง เลิกคิ้ว

หมายความว่าไง?

“เมื่อคืนก่อนก็ได้พบว่าหายไปแล้ว ทางนี้หากันอยู่นานก็หาไม่ เจอ หยูจิ๋วเหลียนไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เอาแต่พูดว่าคุณเป็นคนพาตัว เธอไป ยังให้ฉันดูข้อความที่จึงเสี่ยวหย่าส่งให้เธอก่อนที่จะไป บอกว่าได้รู้แล้วว่าคุณอยู่ที่ไหน กำลังไปหาคุณ

ซึ่งหนึ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ในข้อความได้บอกว่าไปไหนไหม?”
“ไม่มีค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป แต่เพราะว่าทาง สถานีได้ทำให้คนหลบหนีไปได้ ทางนั้นก็เจอหนักเหมือนกัน เพราะงั้นตอนนี้ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไร

ทางพวกนักข่าวยังไม่รู้เรื่องนี้ได้ถูกทางตำรวจกดลงไป หยว เหลียนก็ได้หาเธอไปทั่วแล้วแต่ก็หาไม่เจอ เพราะงั้นที่ได้มา โวยวายที่บริษัท บอกว่าให้คุณส่งตัวจึงเสี่ยวหย่าออกมา!

จึงหนิงได้หัวเราะอย่างเยือกเย็น

“จิ้งเสี่ยวหย่าของเขาทำมาจากทองเหรอ? ฉันถึงขั้นต้องเอา เธอซ่อน? บอกเขาไปตรงๆ ฉันไม่เคยเจอจึงเสี่ยวหย่าและไม่ได้ ติดต่อด้วย เวลาที่มีให้เขามีไม่เยอะ เรื่องที่ฉันได้พูดไปก่อนหน้า ถ้าเกิดเขาคิดได้แล้ว ก็ติดต่อมาหาฉัน ถ้าเกิดไม่ ครั้งหน้าเขาจะ โวยวายยังไงก็ไม่ต้องสนใจ

เสี่ยวเหอพยักหน้า “ค่ะ ฉันรู้แล้ว”

วางสายไป จึงหนิงก็ได้ขมวดคิ้วคิด เปิดคอม หาข่าวที่อยู่บน

นั้น

จากที่เสี่ยวเหอบอก เรื่องที่จึงเสี่ยวหย่าหนีไป ยังไม่ได้แผ่ กระจายในเน็ต

เพราะว่าคราวก่อนหวังเสวีเหมยก็ได้พาคนไปโวยวายที่วัฒน ธรรมชิงฮุยครั้งหนึ่ง คราวนี้ต่อให้หยูจิ๋วเหลียนไปอีก ก็ไม่เป็นผล ร้ายแรงอะไร

แต่ที่เธอสงสัย จึงเสี่ยวหย่าบอกว่ารู้แล้วว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้หนีออกมาจับตน?

เรื่องนี้ มองยังไงก็ได้มีความน่าสงสัย

จิ้งหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น คิดอยู่เงียบๆ คิดอยู่นานก็คิดอะไรไม่

ออก

จนกระทั่งอยู่ๆ ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ