ใบหน้าที่อ่อนโยนของกวนเสวีเฟยก็ได้มี สายตาที่เป็นห่วงขึ้น
“เรื่องในคราวนี้ ถึงแม้ว่าคุณมั่นใจมากว่า สำเร็จ แต่ยังไงซะไม่มีอะไรที่ไม่ล้มเหลวเลย ที่ ฉันกังวลก็คือ ขอแค่เรื่องของคุณถูกคนอื่นจับได้ เข้า อีกฝ่ายก็จะสวนกลับ บอกว่า เป็นเป็นการ สมรู้ร่วมคิดของพวกคุณ
ตำแหน่งของตระกูลลู่อยู่สูง ถึงแม้ว่ามี จํานาจมาก แต่ก็อ่อนไหวมากเหมือนกัน คำพูด ของผู้คนนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัว บางครั้งคำพูดที่ ไม่ได้เข้าใจความจริงก็สามารถที่จะแผ่กระจาย ได้ง่าย ถ้าถูกคนหลอกใช้ สุดท้ายก็เหมือนกับไม้ โยก ที่มากระทบตระกูลลู่ทั้งตระกูล”
จิ่งหนิงเงียบไปสักพัก
เธอได้มองต่ำลง คิดไปพัก ก็ได้พูดขึ้น ดู แล้วคุณกวนเป็นห่วงตระกูลลู่มากๆ?”
กวนเสวีเฟยอิ้งไป
เริ่มที่จะตามความคิดของเธอไม่ทัน
เวลานั้น ถึงตั้งสติได้ ใบหน้าก็ได้มีสีหน้าที่ ทำตัวไม่ถูก
“ฉันกับพี่เซ็นได้เติบโตมาด้วยกัน คุณย่าลู่ กับคุณน้าลู่ก็ดีกับฉันมาก แน่นอนว่าฉันไม่อยากที่จะเห็นตระกูลลู่เกิดเรื่อง
จิ่งหนึ่งพยักหน้า
เธอได้ งดไปไม่กี่ ก็ได้ถามต่อ “ฉัน ได้ยินมาว่า เมื่อก่อนพวกคุณนั้นได้มีสัญญา แต่งงาน? เหมือนว่า…ได้คบหากันสักพักด้วย?”
พูดถึงเรื่องนี้ หน้าของกวนเสบู่เฟยก็ได้แดง ทันที
เต็มทีหน้าตาของเธอก็ไม่ได้น่าเกลียด แต่ก็ แค่ไม่ได้เป็นคนที่สวยมากๆ ขนาดนั้น ที่ชนะก็ เพราะว่าผิวขาวเหมือนหิมะ ตอนที่หน้าแดงก็ได้ ก้มหน้าเล็กน้อย ก็ได้มีท่าทางที่ขี้อายเป็นของตน
กวนเสวีเฟยได้ตอบเบาๆ “เคยค่ะ”
นิ่งไปพัก ก็ได้รับอธิบาย แต่ว่าคุณอย่า เข้าใจผิด ถึงแม้ว่าตอนนั้นฉันกับพี่เซินได้รู้สึกดี กันจริง แต่ว่านั่นเป็นเรื่องสมัยเด็กแล้ว ฉันกับพี่ เงินได้เลิกกันไปเมื่อห้าปีก่อนแล้ว ต่อไปก็ไม่มี ทางที่จะมีอะไร”
จิ่งหน่งพยักหน้า
“ค่ะ ฉันรู้”
กวนเสบู่เฟยก็ได้เงียบไปอีกครั้ง
จึ่งหนิงมองไปบนฟ้า ก็รู้สึกว่าเวลาก็ไม่เช้า แล้ว ก็ได้พูดว่า “ฉันจะเข้าไปแล้วค่ะ คุณกวนจะ ตากลมต่อไหมคะ?”
กวนเสบู่เฟยก็ได้ฝืนยิ้ม “ฉันอยู่ต่อสักพัก
กว่า”
“ค่ะ ลมดีกข้างทะเลค่อนข้างที่จะหนาวอยู่ คุณกานต้องระวังสุขภาพด้วย ไม่ต้องตากนานไป นะคะ”
“ฉันรู้ค่ะ ขอบคุณจิ่งที่เป็นห่วงนะคะ”
จิ่งหนิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็ลุกขึ้นเดิน ออกไป
ไม่นาน เรื่องที่ทั้งสองเจอกันเป็นการส่วน ตัว ก็ได้ถูกลู่วิ่งเซินรู้เข้า
ตอนนั้นจึงหนิง งอาบนํ้าเสร็จ ตอนที่ออก จากห้องน้ำ ก็ได้เห็นชายหนุ่มที่มีสีหน้าที่จริงจัง เดินมา
เธอได้งงเล็กน้อย “เป็นอะไรเหรอคะ?” “กวนเสบู่เฟยไปหาคุณ?
จิ่งหนิงถึงได้รู้สึกตัว แล้วก็ขาออกมา “ใช่ ค่ะ คุณทําไมตื่นเต้นแบบนี้?”
เขาได้พูดอะไรกับคุณ จิ่งหนิงหมุนดวงตาเล็กน้อย
เห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นแบบนี้ของชายหนุ่ม อยู่ๆ ก็อยากที่จะแกล้งเขาขึ้นมา
เธอได้คิดไปสักพักแล้วพูด “เธอบอกว่าคุณ เป็นแฟนเก่าของเขา แล้วก็เคยรักกันมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้ได้เลิกกันไปแล้ว แต่ก็ยังที่จะมี โอกาส”
สู่จึงเขิน “.………….
จิ่งหนิงก็ได้ถอนหายใจ
“เห้อ! คุณว่าฉันนับว่าได้แย่งของรักของคน อื่นมาหรือเปล่า?”
ลู่จึ่งเซินก็ได้หน้าเครียด พูดบ้าๆ! ผมกับ เขาไม่เคยที่จะคบกัน ผมไม่เคยที่จะตกลงที่จะ คบกับเขา นี่เป็นเรื่องที่พวกผู้ใหญ่ในตระกูลคิด ไปเองก็เท่านั้น”
จิ่งหนิงได้ ปากส่ายหน้า “ลู่จิ่งเซิน เป็น ผู้ชายก็อย่าทําตัวไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ คน อื่นเขานั้นคิดว่าคุณเป็นแฟนของเขาแล้วนะคะ คุณกลับบอกว่าไม่เคยคบหากัน ทําไมฟังแล้ว รู้สึกว่าเลวจัง?”
พูดไป เธอก็ได้ไปตบบ่าของเขาเบาๆอย่าง ใจกว้าง
“คุณวางใจเถอะ ฉันเป็นคนใจกว้างนะ เรื่อง ก็ได้ผ่านไปตั้งห้าปีแล้วฉันไม่โวยวายกับคุณ หรอก เพราะงั้นพูดออกมาตรงๆ อะไรแบบนั้นไม่มี อะไรหรอก”
ลู่จิ่งเซ็นโมโหจนเจ็บกระเพาะ
“บอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไร คุณอย่ามา เปลี่ยนเรื่องคุยกับผม นอกจากอันนี้แล้ว กวนเสเฟยยังพูดอะไรกับคุณอีก?”
จิ่งหนึ่งหน้าได้แข็ง
เธอได้หัวเราะอย่างทำตัวไม่ถูก “ยังจะมี อะไรอีกล่ะ เรื่องระหว่างผู้หญิง ก็มีแค่นั้น”
“คุณแน่ใจนะ?” สีหน้าของจิ่งหนิงได้ไม่ปกติเล็กน้อย
พูดตามตรง เรื่องคราวนี้ ถึงแม้ว่าเธอได้ วางแผนอย่างรอบคอบ แต่เธอไม่ได้เอาเรื่องของ ตระกูลลู่เขาไปคิดด้วย
ถึงแม้ว่าเธอได้อยู่กับลู่จิ่งเซินก็ถือว่านาน แล้ว แต่เธอก็ได้รู้สึกที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องการ แข่งขันพวกนั้นในเมืองหลวงอยู่ตลอด
เหมือนได้เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ ปกติลู่วิ่ง เซินก็ไม่ได้พูดอะไรพวกนี้ต่อหน้าเธอ เพราะงั้น เรื่องของตระกูลลู่ในเมืองหลวงนั้น เธอรับรู้ไม่ ค่อยเยอะ
และเพราะแบบนี้ ในบางช่วง เธอไม่ได้ คิดถึงขั้นเรื่องของผลกระทบของตระกูลลู่ที่จะ โดยด้วย
ครั้งนี้ ไม่พูดไม่ได้ว่า เธอได้ละเลยไป
ในใจของจิ่งหนิงได้รู้สึกผิด ถ้าเกิดว่าลู่วิ่ง เชินได้โดนไปด้วยเพราะเรื่องของเธอ เธอต้อง เสียใจมากแน่ที่ทําแบบนี้
ยังไงซะ ถึงแม้ว่าการล้างแค้นมันสำคัญ แต่ ว่าความปลอดภัยของคนรอบข้างสําคัญกว่า
เหมือนรู้ว่าเธอกำาลังคิดอะไร ลู่วิ่งเซินก็ได้ ถอนหายใจ
จับมือของเธอ ไว้ในมือของเขา ก็ได้พูด ออกมา “อย่าไปฟังที่เขาพูด และก็อย่าไปคิดอะไร มาก ผมเป็นสามีของคุณ ถ้าเกิดว่าปัญญาแค่นี้ก็ ยังไม่มี ยังมีหน้าอะไรมาปกป้องคุณ?”
จิ่งหนิงนิ่งไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมา
ใต้แสงไฟ ชายหนุ่มสีหน้านิ่งเรียบ สายตา
จริงจังมากๆ
“ผมอนุญาตให้คุณทำตามความคิดของคุณ แต่ว่าข้อแม้นั้น คือห้ามปิดบังผม และไม่ต้องกลัว ว่าจะทำให้ผมลำบากแล้วก็เปลี่ยนความคิด
“แต่ว่าตระกูลลู่……
“ตระกูลลู่จะไม่เป็นอะไร”
“กวนเสบู่เฟยบอกว่ามีคนจะต่อกรกับ ตระกูลลู่? ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้เกิดอะไรผิดขึ้น ตอน
นั้นตระกูลลู่จะทำยังไง” ลู่วิ่งเซ็นได้นําออกมาอย่างเย็นชา
สายตาที่อ่อนโยนคู่นั้น ก็ได้มีความเย็น หลุดมาเล็กน้อย
“คุณดูถูกผู้ชายของคุณขนาดนี้เลยเหรอ?ขนาดเรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ งั้นตระกูลลู่ก็ล้ม
ไปตั้งนานแล้ว!” พูดจบ เขาก็ได้ลูบหัวของเธอ
“วางใจเถอะ ทั้งหมดนี้ยังมีผมอยู่ ต้องไม่ เป็นไร คุณก็แค่วางใจที่จะทำเรื่องที่คุณอยากจะ ทําก็พอ”
จิ่งหนิงมองเขา ผ่านไปอยู่นาน ก็ได้พยัก หน้า
“ขอบคุณนะคะ ลู่วิ่งเซ็น” ชายหนุ่มได้ยินก็ได้ยิ้มเจ้าเล่ห์
“งั้นเปลี่ยนวิธีที่จะขอบคุณผมดีกว่าไหม?” จิ่งหนึ่งมองสายตาของเขา ก็รู้ว่าเขาคิด
อะไรอยู่
ก็ได้จ้องเขาอย่างดุๆ ห้ามคิดเลยนะ
คุณย่ากับอานอานก็อยู่นะ ไม่แน่ว่าจะมาตอนไหน
ไม่รู้ ถ้าเกิดมาเจอ……
ลู่จิ่งเซินก็ได้มีสีหน้าที่น่าสงสาร “ที่รัก ผมก็แค่อยากจะจูบหน่อยก็แค่นั้น
คุณคิดอะไรอยู่? หรือว่าคุณกำลังคิด…….
จิ่งหนิงนิ่งอึ้งไป
พึ่งจะรู้สึกตัว ว่าตัวเองนั้นถูกผู้ชายคนนี้ แกล้งแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ