เธอมีนํ้าเสียงเศร้าโศก แต่นิ่งเซี่ยวเต่อกลับ พูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า : “หรือว่าต้องวิ่งไปบอก ความจริงเมื่อห้าปีก่อนกับเธอหรอ?”
หวังเสว่เหมยพูดขึ้นว่า : “จิ่งหนึงพูดแบบนี้ ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ในเมื่อเธอไม่เป็น อะไรก็ไม่น่าจะซ่อนตัวไปตลอดชีวิต ตอนนี้เธอ แค่ต้องการหลอกพวกเราให้พูดความจริง ไม่แน่ เธออาจจะยังไม่รู้เรื่องทั้งหมด
ขอเพียงพวกเรามั่นคงไม่หวั่นไหว เธอก็ทำ อะไรพวกเราไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องของเสี่ยวหย่า ฉันจะส่งคนไปให้สินบน
ตอนนี้คงต้องปล่อยให้เธอลำบากไปก่อน เธอมีฐานะพิเศษ คงไม่ได้รับโทษหนักอะไรหรอก ขอเพียงเธอสามารถอดทนกับแรงกดดันครั้งนี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรไม่ยอมรับ คงไม่มีปัญหาแน่”
เมื่อหยูซิ่วเหลียนได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเหมือน กำลังฟังเรื่องตลก จนไม่อยากจะเชื่อ
“แม่ค่ะ แม่บอกว่าน่าจะ! ซึ่งน่าจะมีความ เป็นไปได้ที่เธอจะทนแรงกดดันไม่ไหวจนยอมรับ ผิด ตั้งแต่เด็กจนโตมาเสี่ยวหย่าไม่เคยได้รับ ความลำบากเลย แล้วยิ่งสถานที่แบบนั้น เธอจะ สามารถทนอยู่ได้ยังไงค่ะ?”
หวังเสวี่เหมยจ้องมองเธอแวบหนึ่งด้วย สีหน้าร่าคาญใจ
“ฉันไม่ใช่ส่งคนไปให้สินบนตำรวจหรอก หรอ? เธอเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง ตอนนี้ได้รับบท เรียนบ้างก็ดี ต่อไปจะได้เลี่ยงไม่ให้ไปก่อเรื่อง อีก!”
ขณะที่พูดก็ร้องอุทานด้วยความไม่พอใจ ขึ้น
หยูซิ่วเหลียนนิ่งเงียบสักพัก เธอพูดอะไรไม่ ออก ไม่นานก็ซักถามขึ้นว่า “ครั้งก่อนไม่ใช่คุณ บอกว่า ทางเมืองหลวง….”
หวังเสวีเหมยขมวดคิ้วขึ้น
“ฉันได้ติดต่อกับทางนั้นแล้ว คงอีกไม่กี่วัน ได้การตอบรับกลับมา ตอนนี้เธออย่าเพิ่งบอก เรื่องนี้กับเสี่ยวหย่า หลีกเลี่ยงไม่ให้เธอก่อเรื่องอีก
เธอวางใจเถอะ ขอเพียงสามารถติดต่อได้ เสี่ยวหย่าไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นได้หรอก ถึงตอน นั้นต่อให้ตระกูลมู่แบกหน้ากลับมาคืนดี พวกเราก็ ไม่เอาแล้ว”
เมื่อหยูซิ่วเหลียนได้ยินแบบนี้ก็วางใจ พร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
“ค่ะ งั้นเอาตามที่คุณแม่วางแผนเลยค่ะ”
ทางด้านนี้ จึงหนังคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะพบ
กับคนๆนั้นที่ไม่ควรพบกันที่เกาะซีหนึ่ง
เมื่อกวนเสว่เฟยมาถึงโรงแรม พบปะกับ เธอทันที
เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และสวมกางเกงยีน เธอหมัดผมหางม้า ซึ่งดูแล้วสบายตาและสะอาด มาก
เมื่อพบกับจิ่งหนิง เธอเหมือนกับมีอาการ แปลกใจเล็กน้อย
“คุณจิ่ง บังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะพบคุณ
จิ่งหนิงยิ้มจางๆ “คุณหนูกวน ฉันก็รู้สึก บังเอิญเหมือนกัน”
กวนเสว่เฟยกะพริบตาเล็กน้อย
“ตอนนี้ข้างนอกเกิดเรื่องใหญ่โตมโหฬาร มาก บอกว่าคุณหายตัวไป ถูกคนลักพาตัว ฉันนึก ว่าเป็นเรื่องจริง ที่แท้….
เธอไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่
สามารถเข้าใจได้ จิ่งหนิงรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ สวรรค์จะโจมตีอย่างเกินคาดกับคุณ
เธอนิ่งเงียบ แต่ยิ้มแย้มต่อเธออย่างใจกว้าง
“คุณหนู วนมาหาคุณมาหรอค่ะ?” บางเรื่อง ในเมื่อถูกจับได้ เช่นนั้นก็ไม่มี
ความจําเป็นต้องหลบซ่อนแล้ว
และเธอก็ไม่มีอารมณ์อยากพูดอธิบายกับ เธอด้วย
โชคดีที่กวนเสวีเฟยเป็นคนฉลาด เมื่อเห็น เธอไม่ซักถามก็ยิ้มและพูดว่า : “ค่ะ ฉันได้ยินคน บอกว่าคุณย่ามาที่นี้ เลยอยากมาเยี่ยมสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะพบคุณ”
“คุณย่าอยู่ในห้องค่ะ ต้องการให้ฉันพาไป ไหมค่ะ?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณหนูจิ่ง เดี๋ยวฉันไปถาม ที่เคาน์เตอร์บริการเองได้ค่ะ ไม่อยากรบกวนเวลา ของคุณ”
จิ่งหนิงพยักหน้าเล็กน้อย เธอไม่ได้ทําลา มาก แต่หันหลังเดินจากไปทันที
ส่วนกวนเสว่าฟยก็จ้องมองร่างเงาของเธอ จากไป โดยที่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมกับเผย สายตาเจ้าเล่ห์ขึ้น
คุณหญิงเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า กวนเส เหมยจะมาที่เกาะแห่งนี้
เธอซื้อเกาะแห่งนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว และมี เพียงคนในครอบครัวไม่กี่คนเท่านั้นที่ทราบ แต่ ปกติทุกคนยุ่ง เลยไม่ค่อยมีคนมาสักเท่าไหร่ อีกอย่าง ต่อจะมาก็จะแจ้งเธอล่วงหน้าก่อนเสมอ
ด้วยเหตุนี้เธอเลยไม่ได้สนใจ
แค่คิดไม่ถึงว่าเพราะความประมาทอันเล็ก น้อย ทําให้แผนการของจิ้งหน่งผิดพลาด
คุณหญิงในใจรู้สึกผิดมาก แต่กวนเสวีเหม ยกลับทําเหมือนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นคุณหญิงก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ว่า : “คุณย่าลู่ค่ะ หนูถ่ายละครบริเวณนี้พอดี เมื่อ ทราบว่าคุณมาพักอยู่ที่นี้ เลยแวะมาเยี่ยมสัก หน่อย คุณคงไม่โทษที่ฉันไม่ได้แจ้งกับคุณล่วง หน้าหรอกใช่ไหมค่ะ? ”
คุณหญิงฉีกปากยิ้มเก้อเขินเล็กน้อย
“ไม่หรอก! เธอมาเยี่ยมฉัน ฉันก็ต้องดีใจสิ ไม่โทษเธอหรอก”
ถึงแม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่สีหน้าแปลกเล็ก น้อย
กวนเสวีเฟยแสร้งทําเป็นมองไม่เห็น แล้ว หันหน้ามองอานอาน แล้วรีบหยิบของขวัญที่ เตรียมมาล่วงหน้าให้อานอานเพื่อเอาอกเอาใจ
เมื่อกี้อานอานเพิ่งตื่นนอนตอนเที่ยงเป็น เพื่อนคุณหญิง และเพิ่งนึกนัดล่วงหน้ากับจิ่งหนึ่ง จะไปว่ายน้ำขึ้น
แต่ในตอนนี้เธอกลับไม่เห็นจิ่งหนิงเลย เลย รู้สึกรีบร้อนใจ แต่เมื่อเห็นกวนเสวี่เฟยก็หมดความอดทนแล้ว
เธอ นมือรับของขวัญ พูดขอบคุณ แล้วรีบ สวมรองเท้าวิ่งออกไปข้างนอก
คุณหญิงไม่วางใจเธอ เลยรีบเดินตามออก ไปด้วย
“อานอาน หนูจะไปไหน?”
“หนูจะไปหาหม่ามี้ หมา รับปากจะไปว่าย น้ำเป็นเพื่อนหนูแล้ว”
คุณหญิงรีบเดินเข้าไปจับตัวเธอไว้
“เชื่อฟัง หม่ามี้ออกไปทำธุระสักครู่ เดียวรอ เธอกลับมา ค่อยให้เธอสอนหนูว่ายน้ำ โอเคไหม?” อานอานเผยสายตาน้อยใจขึ้น พร้อมกับ
ตาแดงก่า
“ไม่ ตอนที่หม่ามี้กล่อนหนูนอนรับปากกับ หนูแล้วว่า หลังจากหนูตื่นจะเห็นเธอ และจะพา หนูไปว่ายน้ำที่ทะเลด้วย หม่ามี้ไม่ใช่คนโกหก!”
เมื่อคุณหญิงเห็นเด็กน้อยมีท่าทางน้อยอก น้อยใจก็นิ่งเงียบ
จิ่งหนิงรับปากเธอแล้วว่า หลังจากเธอตื่น นอนจะพาเธอไปว่ายน้ำ
แต่เธอตื่นนอนก่อนเวลา แถมมีกวนเสวี่เหม ยมารบกวนด้วย ดังนั้นตอนนี้จึงหนิงเลยยังไม่มา
เพราะหากยืดตามเวลาปกติ อย่างน้อยเธอจะตื่นนอนตอนเวลาประมาณบ่ายสองครึ่ง ซึ่ง
เวลานั้นจิ่งหนึ่งกลับจากทำธุระเสร็จพอดี
คุณหญิงไม่รู้จะพูดอธิบายยังไง
เมื่อกวนเสว่เฟยเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ก็เดินมานั่งยอง และจ้องมองเธอด้วยสีหน้าอ่อน โยน
“อายอาย ตอนนี้พี่จิ่งมีธุระอื่นต้องทํา เอา แบบนี้เดี๋ยวน้าเสวีเฟยไปว่ายน้ำเป็นเพื่อนนะคะ?”
หลายปีมานี้ ลู่จิ่งเซินแทบไม่มีผู้หญิงคนอื่น เลย ประการแรกเขาไม่มีความสนใจต่อผู้หญิงสัก เท่าไหร่ ประการที่สองเพราะนิสัยแปลก ประหลาดของเด็กน้อยด้วย ที่ไม่ชอบให้เขามีผู้ หญิงอยู่เคียงข้าง
แต่กวนเสวีเฟยเป็นข้อยกเว้น
ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทสนมกับเธอมาก แต่ อย่างน้อยกวนเสบู่เฟยก็ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ที่เด็กน้อยเห็นเป็นศัตรูที่อยากจะสลัดทิ้ง
ด้วยเหตุนี้เธอนึกว่า ในใจของเด็กน้อยแล้ว เธอไม่เหมือนกับคนอื่น
อีกอย่างเมื่อก่อนคุณหญิงเคยอยากให้กวน เสวี่เฟยกับลู่จิ่งเซินคบกันด้วย เลยให้เธอกับอาน อานทําความรู้จักกันอยู่สักพักใหญ่
กวนเสวีเฟยเลยมีความมั่นใจคิดว่า อาน อานชอบตัวเอง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ