คิดไม่ถึงว่าจะรับสายเสี่ยวเหอ
เมื่อนึกถึงเธอหายตัวไปนานเป็นเวลานาน ก็ คิดว่าเสี่ยวเหอพวกเธอคงรีบร้อนใจมากแน่ ด้วย เหตุนี้จึงให้ลู่จิ่งเซ็นรับสาย และพูดคุยกับเธอสัก หน่อย
เสี่ยวเหอกับเธอร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ทั้ง สองคนเป็นเพื่อนร่วมงานกันหลายปี เธอรู้จักนิสัย มีเมตตาของเสี่ยวเหอเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เธอ เลยเชื่อใจ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เสี่ยวเหอก็ไม่ได้ ทําลายความเชื่อใจจากเธอเลย
ถึงแม้รู้ข่าวว่าเธอกลับมาแล้ว แต่ก็เก็บไว้ ภายในใจเงียบๆ ไม่ได้เผยให้ใครล่วงรู้
ต่อให้ถงซูรออยู่ข้างนอก เธอก็จะหาข้ออ้าง ไล่คนจากไป
ในตอนนั้นถงซูได้ออกจากเมืองซิงฮุย เมื่อ กลับมาเจอกับนิ่งเสี่ยวหย่าก็เล่าผลลัพธ์และเรื่อง ราวระหว่างไปตามหาจิ่งหนิงที่ซิงฮุย
เมื่อรู้ว่าถง พูดเกลี้ยกล่อมเธอไม่สําเร็จ และรู้ว่าเขาแทบไม่ได้เจอจิ่งหนิง วิ่งเสี่ยวหย่าก็ ถึงกับกระวนกระวายไม่เป็นสุขทันที
“เป็นไปได้ยังไง? ทั้งที่เธอหนีไปแล้ว แล้วจะกลับมาได้ยังไงกัน?
ถงชูเองรู้สึกคิดไม่ออกเหมือนกัน
เธอขมวดคิ้วและพูดว่า : ” หรือว่าเกิดเรื่องไม่ คาดคิดขึ้นหรอ? หรือว่าระหว่างทางถูกใครบาง คนพาไป ดังนั้นเลยไม่กลับมา?”
“เป็นไปไม่ได้!”
จึงเสี่ยวหย่าเองก็คิดไม่ออก เลยพูดปฏิเสธ ขึ้น
ในตอนนั้นถึงแม้เธอไม่ได้เห็นจิ้งหนิงหนีไป กับตาตัวเอง แต่ผู้ชายรูปร่างกำยำที่ถูกทำร้ายจน สลบเป็นเรื่องจริง
แถมยังสืบได้ว่าลู่วิ่งเซ็นไม่ได้พาลูกน้อง ออกไปบริเวณใกล้ๆด้วย ด้วยเหตุนี้จึงหนิงไม่มี ทางที่จะไม่ถูกลู่วิ่งเซ็นพาหนีไป
ดังนั้นตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จึงเสี่ยวหย่ารู้สึกมึนงงไปหมดแล้ว
เธอไม่เข้าใจ หากพูดตามหลักการ ในเมื่อ คนกลับมาแล้ว แถมรู้ว่าเธอลงมือทำเรื่องโหดร้าย กับตัวเอง จึงหนิงก็ควรออกมาเอาเรื่องเธอถึงจะ ถูกต้อง
ทำไมต้องหลบซ่อนด้วย และแสร้งทำเป็น ไม่กลับมาด้วยล่ะ?
จิ้งเสี่ยวหย่ากับถงทั้งสองคนครุ่นคิดทั้งคืน แต่ก็คิดไม่ออกสักห
กระทั่งวันที่สาม จู่ๆบนอินเทอร์เน็ตมีคน ออกมาแฉว่า การหายตัวไปของจิ่งหนึ่งมีความ เกี่ยวข้องกับงงเสี่ยวหย่า
เพราะหลังจากผ่านการตรวจสอบกล้อง วงจรปิด ริมถนน พบว่าก่อนที่จิ่งหนิงจะหายตัวไป คนที่ขับรถแท็กซี่คันนั้นคนสุดท้าย เจ้าของรถแซ่ ลิ่ว ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เคยเป็นคนขับรถส่วนตัว ของจิ่งเสี่ยวหย่ามาก่อน
บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้? หลัง จากจิ่งหนิงขึ้นบนรถนี้ก็หายตัวไปเลย ซึ่งเจ้าของ รถยนต์เป็นคนขับรถของจิ่งเสี่ยวหย่า
ด้วยเหตุนี้ หากต้องการให้ทุกคนเชื่อว่าจิ่ง เสี่ยวหย่าเป็นคนบริสุทธิ์ ถือเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้
ไม่นานบนอินเทอร์เน็ตก็เกิดการคาดเดา และวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดขึ้น
ล้วนมีทุกค่าวิพากษ์วิจารณ์ และมีการคาด เดาที่มีหลักการด้วย มีการเรียบเรียงไทม์ไลน์การ เกิดความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองคน ไม่นาน ก็ได้ผลสรุปออกมา
ทุกคนเพิ่งรู้ว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ซับซ้อนและวุ่นวายมาก
เตียว งหนิงก็กล่าวหาว่ามีคนทําร้ายเธอ เดียวจิ่งเสี่ยวหย่าก็กล่าวหาว่าจิ่งหนึ่งแย่งสามีของเธอ
แต่เพราะวิดีโอแก้ข่าวลือของเสี่ยว ข่าว ลือ เล่นงาน งหนังบนอินเทอร์เน็ตล้วนถูกขจัด ทั้งหมดเลย
ในทางกลับกัน ถึงแม้จึงเสี่ยวหย่าจะให้ทาง บริษัทออกแถลงการณ์ว่าตัวเองถูกใส่ร้ายป้ายสี และขอการพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถเอาหลัก ฐานที่มีน้ำหนักอะไรมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ ตัวเองได้เลย ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนเริ่มเกิด ความสงสัยขึ้น
อีกอย่างข่าวลือครั้งก่อน ทุกคนต่างหมดค่า พูดกับเธอแล้ว
แต่มีแฟนคลับที่มีเกลียดขี้หน้าบางคนเริ่ม ประณามเธอ
ต้องการให้เธอปล่อยตัวจิ่งหนิง แถมยังแจ้ง กับทางการตำรวจให้พวกเขาจับกุมเธอ
เมื่อจิ่งเสี่ยวหย่าเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์บน อินเทอร์เน็ตก็ถึงกับสะดุ้งตกใจทันที
ไม่เพียงแค่เธอ ถงซูเองก็ตกใจเหมือนกัน
“เสี่ยวหย่า ไม่ใช่ว่าเธอเคยบอกว่าได้กําจัด ร่องรอยหมดแล้วหรอกหรอ? ทำไมถึงยังมีวิดีโอ จากกล้องวงจรปิด นอีกล่ะ?”
จิ่งเสี่ยวหย่าตกใจจนพูดไม่ออก
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ฉันส่งคนไป จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยหมดแล้ว ฉันจะไปรู้ ได้ยังไงว่าพวกเขาไปขุดคุ้ยวีดีโอนี้มาจากไหน?”
เมื่อถงซูเห็นข่าวก็โมโหเดือดดาล เธอนึ่ง เงียบพยายามฝันให้ตัวเองสงบสติลง จากนั้นก็ พูดว่า : “โอเค โชคดีที่พบแค่ว่าเธอกับคนขับรถ คนนั้นมีความสัมพันธ์กัน แต่พบหลักฐานอย่างอื่น
ขอเพียงพวกเราสามารถยืนยันได้ว่าหลัง จากที่คนขับรถคนนั้นลาออก เธอไม่ได้ติดต่อกับ เขาอีก เขาก็จะได้รับความผิดทุกอย่าง ไม่ เกี่ยวข้องกับเธอ พวกเขาไม่มีหลักฐานอื่น ต่อให้ สงสัยก็ไม่สามารถพูดอะไรได้หรอก”
จึงเสี่ยวหย่าพยักหน้าเล็กน้อย แต่วินาทีต่อ มาเธอก็ตกใจช็อก
และพูดขึ้นมาว่า : “ไม่สิ! ในเมื่อพวกเขาขุด คุ้ยวิดีโอนี้เจอก็แสดงว่าคนขับรถแซ่หลิวคนนั้น คงถูกจับตัวแล้วล่ะ ถ้าหากเขาโยนความผิดใส่ฉัน จะทํายังไงดี?”
ถงซูจ้องมองเธอด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “เธออย่าบอกฉันนะว่า เธอเป็นคนติดต่อเขาด้วย ตัวเอง?”
จิ่งเสี่ยวหย่ากุมหัวด้วยท่าทางรำคาญใจ “ฉันมีทางเลือกอะไรอีกล่ะ? หลังจากที่เสี่ยวขุย กนังสารเลวจิ่งหนึงซื้อไป ฉันก็ไม่มีคนเชื่อใจคน อื่นช่วยทําเรื่องแล้ว หากฉันไม่ออกตัวด้วยตัวเองแล้วจะให้ฉันหาใครก็ได้สักคนไปทำแทนหรอ? แบบนั้นไปยังอันตรายกว่าอีกหรอ?”
ถงซูเองก็รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดคือความจริง
แต่ในใจยังคงโกรธเคือง
เมื่อมองดูท่าทางจนปัญญาของจิ่งเสี่ยว หย่า เธอก็พูดอะไรทิ่มแทงใจแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยง ทําให้เธอยิ่งกระวนกระวายใจ
สุดท้ายก็ต้องฝืนใจพูดว่า : “เอาล่ะ เดี๋ยวฉัน ส่งไปคนตามสิบ สองวันนี้เธอเตรียมเงินหน่อย นะ ถ้าหากคนนั้นถูกจับจริง หากต้องการปิดปาก คนในครอบครัวก็ต้องใช้เงินก้อนหนึ่งถึงจะ สําเร็จ”
จิ่งเสี่ยวหย่าแบกร่างกายที่ทรุดโทรมขึ้นมา นั่งบนเก้าอี้ แล้วกุมมือ พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
จากนั้นถึงซูก็จากไป
จิ่งเสี่ยวหย่ารู้สึกเหมือนกับของบางอย่างที่ สำคัญในหัวใจถูกบางอย่างควักเอาไป จนทำให้ เธอรู้สึกสิ้นหวัง
เธอกุมหัวอยู่ตรงนั้นสักพัก ไม่นานก็เงย หน้าขึ้นมา
แล้วจ้องมองสิ่งของประดับที่หรูหราภายใน บ้าน สุดท้ายเธอก็เดินตรงไปเบื้องหน้าโต๊ะแต่ง หน้า แล้ววางโทรศัพท์ลง
เธอยืนอยู่ตรงนั้น สูบลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ นานก็โทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง
“คุณย่าค่ะ หนูเองนะคะ เสี่ยวหย่า หนูมี เรื่องอยากปรึกษาหน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้ สะดวกไหมค่ะ?”
นับตั้งแต่จึงเสี่ยวหย่าแต่งงาน นี่คงเป็นครั้ง แรกที่เธอกลับมาบ้านตระกูลจิ่ง
ภายในห้องรับแขกมีบรรยากาศน่าอึดอัด มาก อึดอัดจนทําให้คนรู้สึกเคร่งเครียดตาม
บนเก้าอี้หลักมีหวังเสวีเหมยกับจิ่งเสี่ยวเต๋อ นั่งอยู่ ด้านข้างมีหยูซิ่วเหลียนนั่งอยู่ ส่วนจิ่งเสียว หย่านั่งตรงข้ามกับจิ่งเสี่ยวหย่า ทุกคนไม่มีใคร เอ่ยปากพูดเลย
เมื่อกี้จึงเสี่ยวหย่าได้เล่าเรื่อง และบอกเรื่อง ต้องการเงินเรียบร้อยแล้ว
เธอไม่มีงานแสดงมาเกือบหนึ่งปีแล้ว เงิน เก็บที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ลงทุนกับบันเทิงเฟิงหัว หมดแล้ว ตอนนี้บนตัวมีเงินไม่เท่าไหร่เอง
ถ้าหากไปขอเงินกับมู่ยั่นเจ๋อคงเป็นเรื่อง ยากแน่
อย่าสงสัยเลยว่าเขาจะบีบเค้นซักถามเรื่อง ลักพาตัวจิ่งหนิง แต่แค่เอสเงินช่วยเธอ เกรงว่า เขาคงไม่ยินยอมแน่
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ