วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 237 เธอจะวางกับดัก



บทที่ 237 เธอจะวางกับดัก

จึงหญิงผงะ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา

เธอมองเห็นดวงตาที่ลึกล้ำของเขา สีหน้าของเขาจริงจัง ชอบ ตามรอยคล้ำจางๆ เห็นได้ชัดว่า เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ วันนี้ก็ กังวลเกี่ยวกับเธอทั้งวัน ดังนั้นสภาพของเขาตอนนี้จึงดูอ่อนเพลีย เล็กน้อย

ทันใดนั้น หัวใจของเธอก็อ่อนยวบลง เกิดความรู้สึกผิดเพียง เล็กน้อย

เธอรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว : “ฉันขอโทษค่ะ ครั้งนี้ฉันคิดน้อย ไปหน่อย! ฉันผิดไปแล้ว! ครั้งต่อไปฉันจะไม่ประมาทแบบนี้ อีก! ”

ชายคนนั้นเลิกคิ้วขึ้น “ยังจะมีครั้งต่อไปอีก?”

จิ่งหนิง: ………..

เธอยื่นมือออกไปหวังจะดึงแขนเสื้อของลู่วิ่งเซ็น แต่มือของเธอ ถูกพันจนเป็นอุ้งเท้าหมี ดึงแขนเสื้อเขาไม่ได้ เธอจึงทำได้แค่ลูบ แขนเขาเบาๆ

“จะไม่มีครั้งต่อไปค่ะ อย่าโกรธกันนะคะ”

“คุณสัญญา?”

“ฉันสัญญาค่ะ!”
“แล้วถ้า?”

จึงหนึ่งครุ่นคิดสักพัก แล้วจึงเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง : “ถ้ามีครั้ง ต่อไป ไม่ว่าคุณจะลงโทษฉันอย่างไร ฉันจะไม่บ่นสักคำเดียว

สีหน้าของจึงเป็นอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย เขาเอื้อมมือออกไป แตะจมูกน้อยๆ ของเธอ

“ถ้ามีครั้งต่อไป ผมใช้โซ่เหล็กล่ามคุณไว้กับผม ไม่ให้คุณ ออกห่างจากตัวผมเด็ดขาด!

จิ่งหนิงรับพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ เอาตามที่คุณว่าเลยค่ะ”

ในใจของเธอรู้อยู่แล้วว่า เขาห่วงใยเธอมากแค่ไหน เขากลัว เธอจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเธอจึงเต็มใจที่จะตอบรับข้อเรียกร้อง ของเขาแต่โดยดี

หากความรักเป็นกุญแจมือ งั้นก็ปล่อยให้เธอถูกล่ามเสีย เธอเต็มใจที่จะถูกล่าม และไม่คิดจะหนี

ท่าทางเชื่อฟังของเธอทำให้ลู่จึงเป็นพึงพอใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดหางตาของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขาเอ่ยถามเธอว่า “หัว หรือยัง? ”

ตอนที่เขาไม่ได้ถาม เธอก็ไม่รู้สึกหิวอะไร แต่พอเขาถาม เธอ เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย

จากเมื่อวานเย็นจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลย เธอพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
จิ้งเซินเดินออกไปสั่งอาหาร ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีคนนำอาหาร เข้ามาเสิร์ฟ

เธอไม่สามารถถือซ่อนไว้ในมือได้ ดังนั้นเธอจึงต้องให้เขา ป้อนอาหารให้เธอ

เนื่องจากร่างกายของเธอยังอ่อนแอมาก อาหารที่จึงเป็นให้

คนซื้อมาจึงมีเพียงอาหารเหลว โจ๊ก และซุปไก่

เขาป้อนอาหารให้เธออย่างอดทน เขาเป่าไล่ความร้อนจาก อาหาร จากนั้นจึงป้อนให้เธอทีละค่า

จิ้งหนึ่งเอนพิงหัวเตียงด้วยความรู้สึกอายเล็กน้อยในตอนแรก แต่มือทั้งสองข้างของเธอใช้การไม่ได้ เธอจึงทำได้เก็บเพียงซ่อน ความลำบากใจเอาไว้ และทานอาหารอย่างว่าง่าย

เห็นริมฝีปากนุ่มกลืนโจ๊กจากซ้อนที่เข้าป้อนให้นัยน์ตาของ

เขาก็ลึกขึ้นเล็กน้อย

“รสชาติเป็นอย่างไร? คุ้นๆ มั้ย?

จิ้งหนึ่งพยักหน้า “อร่อยค่ะ ซื้อจากปาเป้าโหลวหรือคะ?

“ใช่แล้ว”

เขารู้ว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นเธอจะต้องรู้สึกหิว ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คน ของเขาไปซื้ออาหารจากปาเปาโหลดมาเตรียมไว้ และให้คนข้าง นอกอุ่นอาหารรอ เมื่อเธอตื่นขึ้น ก็นำเข้ามาได้ทันที

ดวงตาของจิ้งหนึ่งเป็นประกายเล็กน้อย บางทีอาจเป็นเพราะเธอมีความสุขที่รอดตายมาได้ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเธอรู้สึก พอใจที่อาหารอร่อย

ทันใดนั้นเธอก็โน้มตัวไปด้านหน้า จูบเขาที่แก้ม และพูดอย่าง ไพเราะว่า “ลู่วิ่งเขิน คุณดีที่สุดเลยค่ะ”

นัยน์ตาของเขาล้ำลึก เขาหายใจหนักขึ้นเล็กน้อย

“เพิ่งรู้ตอนนี้หรือ? ”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันรู้นานแล้ว

แววตาเจ้าเล่ห์ประกายชัดในดวงตาสดใสของเธอ ชายคนนั้น

ก็หัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็จับท้ายทอยของเธอ กดริมฝีปากบาง ของเขาลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มนั้น ริมฝีปากของเขายังคงเย็นเล็กน้อย บวกกับลมหายใจเฉพาะ

ของเขา จิ่งหนึ่งจึงไม่ได้ขัดขืน และปล่อยให้เขาจูบอย่างเงียบๆ

ตอนแรกลู่นิ่งเซ็นเพียงแค่อยากจะจูบเธอเบาๆ แต่รสชาติของ หญิงสาวช่างหวาน เขาจึงจูบเธอต่อไปโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุด

จนกระทั่ง มีเสียกระแอมไอขึ้นเบาๆ จากตรงประตู

จิ่งหนึ่งรีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาสวยเบิกกว้างใน ทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอรีบผลักจึงเป็นออก ห่าง

การผลักในครั้งนี้ เธอลืมตัวว่าฝ่ามือของตัวเองบาดเจ็บอยู่ ทำให้บาดแผลกระทบกับเขาเต็มๆ เจ็บจนเธอต้องร้องครางออกมาเบาๆ

ดวงตาของลู่จึงเป็นฉายแววอ่านยาก

สายตาอันเยือกเย็นของเขากวาดไปที่ประตู

ซูมู่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยความรู้สึกผิด

เขาไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย! ใครจะรู้ว่าทั้งสองคนจะจูบกันด้าน ในแล้วไม่ปิดประตู? อีกอย่าง ท่านประธานก็ชัดแล้วว่า ถ้ามี ข่าวอะไรก็ให้รีบเข้ามารายงานเขาทันทีไม่ใช่หรือ?

แต่ทว่า เขาก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา

ทำได้เพียงแต่พูดอย่างสำนึกผิด “ท่านประธานครับ ผมพบรถ ที่พวกเขาใช้ลักพาตัวนายหญิงแล้วครับ”

เมื่อได้ยินดังนั้น จึงหนิงผงะเล็กน้อย

เธอได้ยินจึงเป็นพูดต่อว่า “มัวรีรออะไร? รีบส่งเรื่องให้

ตำรวจจัดการเสีย

ซูมู่ตอบรับ และกำลังจะหมุนตัวออกไป แต่กลับถูกวิ่งหนึ่ง เรียกเขาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน!”

เธอพยุงตัวลุกขึ้น และเอ่ยขึ้นว่า “อย่าเพิ่งแจ้งความ รอให้ เรื่องนี้เงียบลงอีกสักนิด

จึงเป็นขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองไปยังเธอ “คุณมีความคิด อื่น?”
“ค่ะ” ซึ่งหนึ่งพยักหน้ารับ “เพราะไม่ว่าอย่างไร พวกคุณก็ไม่ได้ เป็นพยานรู้เห็นว่าจึงเสี่ยวหาลักพาตัวฉัน ถ้าเธอให้การปฏิเสธ แม้ว่าเราจะแจ้งความไปแล้ว ตราบใดที่เรายังไม่มีหลักฐาน มันก็ เป็นไปได้ที่เธอจะรอดจากข้อกล่าวหานี้ สุดท้ายเธอก็คงโยน ความผิดให้กับคนอื่นมารับข้อกล่าวหานี้ไป

จึงเป็นเยาะหยันอย่างเฉยเมย “ถ้าผมอยากเอาผิดจึงเสี่ยว หย่าจริง หล่อนไม่มีทางหนีรอดหรอก!”

จิ้งหนิงเม้มริมฝีปากแน่น

“แต่ถ้าคุณใช้อำนาจกดดันจึงเสี่ยวหย่า สุดท้ายแล้วจะมีคน เกิดความไม่พอใจ เรื่องก็จะวุ่นวายมากยิ่งขึ้น และอาจถูกเชื่อม โยงเข้ากับตระกูล คุณอย่าลืมนะคะว่า บางครั้งความคิดเห็น ของสาธารณชนก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านอำนาจ

ลู่จิ่งเซินเงียบไป

จริงอยู่ที่สถานะของตระกูลสามารถเรียกได้ว่าปราศจากศัตรู แต่นั่นก็มีข้อจำกัดที่มองไม่เห็นอยู่ นั่นคือพลังของมหาชน ไม่มีใครอยากให้ครอบครัวของตัวเองถูกว่าร้าย จึงหนึ่งยิ้มขึ้น ดังนั้น ฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้

วิธีอะไร? ”

เธอยิ้มเล็กน้อย

“ฉันจะให้เธอสารภาพเรื่องชั่วร้ายที่เธอเคยทำกับฉัน จากปากของเธอเอง

บ่ายวันนั้น มีคนจำนวนมากทราบข่าวเรื่องการถูกลักพาตัว ของจิ้งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังหาตัวไม่พบ ข่าวนี้ถูกโพสต์ลงบน อินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความโกลาหลในทันที

ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวโคมลอย บล็อกข่าวออนไลน์อย่าง ทางซิงฮุย ออกมาแถลงการณ์ เพื่อพิสูจน์ว่าข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง

แต่ในขณะเดียวกันก็หวังว่าชาวเน็ตจะไม่คาดเดาหรือกระจาย ข่าวที่เป็นเท็จออกไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดีของ ตำรวจ

บล็อกของทางการตำรวจเมืองจนได้รับรีโพสข่าวนี้ทันที พร้อม กับขอความร่วมมือประชาชนที่รู้เบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถ ติดต่อเข้ามารายงานได้โดยไม่ต้องระบุตัวตน ตราบเท่าที่ข่าว เป็นความจริง จะตกรางวัลให้อย่างงาม

เพียงไม่นานข่าวนี้ก็กลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ต ค ค้นหาจึงหนิงถูกลักพาตัวไป จึงกลายเป็นคำค้นหายอดนิยม อย่างรวดเร็ว และถูกนำไปพาดบนหัวข่าวหน้าแรก

หลังจากหลินซูผ่าน หัวเหยาและคนอื่นๆ ทราบข่าว พวกเขาก็ กังวลมากเช่นกัน

หัวเหยารีบติดต่อหาลู่จึงเป็น โดยตรง ไม่รู้ว่าเธอได้หมายเลข โทรศัพท์ของเขาจากที่ไหน หลังจากที่ลู่วิ่งเซ็นรับสาย เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงแค่บอกว่าหนึ่งหนึ่งสบายดี และวางสาย ไป

ในตอนแรกหัวเหยารู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่หลังจากพิจารณา อย่างรอบคอบ เธอก็นึกอะไรขึ้นได้

ฉันจะต้องไปหาจิ้งหนึ่ง! เธออาจจะเล่นละครตบตาอยู่ก็ได้ จะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอปลอดภัย หัวเหยาถึงจะวางใจ ถ้าเป็นการ แสดงละครจริง เธอก็ขอเป็นผู้ชมแถวหน้า เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็ ใจเย็นลง

จึงเซ็นติดต่อกับตำรวจทางฝั่งนั้น เนื่องจากตอนที่เขาตามหา ตัวจึงหนิง ตำรวจก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย มาถึงจุดนี้คงจะปิดบัง ต่ารวจไม่ได้

ดังนั้น จึงเหลือเพียงแค่คิดหาวิธีหลอกล่อเหยื่อออกมา และ

ปล่อยให้มาตกรตกหลุมพราง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ