วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 159 ข่มขู่สื่อ



“เอาเถอะ”

เฟิง เอ่ยขัดเขา

“ผมรู้แล้ว พวกคุณเองก็ลําบากใจ เรื่องก็เกิด ขึ้นไปแล้ว สร้างความเสียหายเรียกคืนไม่ได้ เรื่องนี้ ผมไม่โทษคุณ แต่…

เขาเว้นไปเล็กน้อย สายตาดุดันมองเขา “เรื่อง แจ้งความเท็จ พวกคุณควรสืบสวนให้ชัดเจน!

นายตำรวจหลี่ชะงักไป

เรื่องนี้ถ้าพูดกันตามเหตุผล ไม่นับเรื่องแจ้ง ความเท็จแล้ว เมื่อมีการพบของกลางในที่เกิดเหตุ

แล้วเป็นของใครกันแน่ ต้องตรวจสอบให้ ชัดเจน

กําลังคิดแบบนั้น วินาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียง ของเฟิงยี่

“นี่มันไม่ใช่ของถังลั่วเหยา แสดงว่าเป็นของ คนอื่น พบของประเภทนี้อย่างไม่มีที่มาที่ไป พวกคุณ ต้องหาที่มาให้ชัดเจนไม่ใช่เหรอ?”

นายตำรวจหลี่รีบร้อนพยักหน้า “ครับ เรื่องนี้ คุณขายเฟิงวางใจได้ พวกเราต้องตวจสอบให้ ชัดเจนแน่นอน”

เฟิง ถึงพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วตอนนี้เธอ ไปได้หรือยัง?”
“ได้แน่นอน คุณชายเฟิง ค่อยๆ เดิน” เฟิงปี่พาถังลั่วเหยาออกไป

เป็นตามที่เขาคาดไว้ พึ่งเดินออกจากสถานี ตำรวจ นักข่าวและสื่อที่ได้ยินข่าวก็มาออกันอยู่ที่บ้า ประตูแล้ว

รถของพวกเขาจอดอยู่ข้างนอก ถ้าไม่ผ่าน พวกนักข่าวไปก่อนก็ขึ้นรถไม่ได้

คุณถัง ได้ยินมาว่ามีคนแจ้งความคุณเข้าร่วม งานเลี้ยงได้ซุกซ่อนยาเสพติดด้วย จริงหรือไม่?” “คุณถัง อนุญาตสอบถามคุณติดยาตั้งแต่เมื่อ

ไหร่? ติดมากี่ปีแล้ว?”

“คุณถัง คุณออกมาตอนนี้ เพราะต้นสังกัดของ คุณประกันตัวให้คุณใช่ไหม?”

“คุณถัง ได้ข่าวว่าละครเรื่องใหม่ของคุณ

กำลังจะออนแอร์ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในเวลานี้ คุณ

รู้สึกอย่างไรบ้าง?” แสงแฟลชและไมโครโฟนนับไม่ถ้วนยื่นเข้ามา

ถังลั่วเหยาพึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก ตกใจจนทําอะไรไม่ถูก

ในตอนนั้นเอง เสียงทุ้มต่ำก็ลอยมาจากทาง

ด้านหลัง

“ใครบอกพวกคุณว่าคุณถังซุกซ่อนยาเสพ

ทุกคนชะงักไป
เมื่อเห็นคนที่เดินออกมาคือเฟิง ทุกคนแตก ขึ้นในทันที

กรูกันเข้าไปห้อมล้อมไว้

“คุณชายเฟิง ขออนุญาตอยู่ที่นี่ตอนดึกขนาด นี้แล้ว มาช่วยประกันตัวคุณถังใช่ไหม?”

“คุณชายเส็ง แบบนี้ดูแล้วข่าวอื้อฉาวเรื่อง ซุกซ่อนยาเสพติดของคุณถึงจะเป็นเรื่องจริง?” กล้องและไมโครโฟนปิดล้อมเฟิงยีในทันที

เฟิงยี่สีหน้าราบเรียบเย็นชา พูดด้วยเสียง เฉียบขาด: “เสียวหลิว! ”

“ครับ!”

พาคนมาเคลียร์ทาง! ”

“ครับ!”

บอดี้การ์ดสองแถววิ่งเข้ามาทันทีแล้วดันเหล่า นักข่าวออกไปด้านข้าง เฟิงยี่โอบถังลั่วเหยาแล้วพาเธอเดินออกไป

“คุณขายเฟิง! กรุณาอธิบายให้พวกเรา”

“คุณชายเฟิง คุณคิดว่าไม่พูดอะไรเลย เรื่อง ทั้งหมดก็จะผ่านไปอย่างนั้นหรือ?”

เฟิงยี่ที่ไม่ได้สนใจพวกเขาอยู่แล้ว หลังจากส่ง ถังลั่วเหยาขึ้นรถแล้ว ผลักปิดประตูรถ

สั่งคนขับรถให้ไปส่งเธอก่อน จากนั้นจึงหมุน ตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าผู้สื่อข่าวพวกนั้น

“อย่างแรก ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครพูดเลยว่าถังลั่วเหยาถูกพามาเพราะซุกซ่อนยาเสพติด! ผมไม่รู้ ว่าพวกคุณได้ข่าวมาจากไหน แต่ผมจะแถลงที่นี่

ผมมาที่นี่ไม่ใช่เพราะมาประกันตัว ทางสถานี ตำารวจได้สอบสวนชัดเจนแล้ว เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวกับ เธอ เพียงแค่ถูกยัดของกลาง

ถ้าหากพวกคุณไม่เชื่อ ข้างหลังคือสถานี ตำรวจ พวกคุณเข้าไปสอบถามให้ชัดเจนเอาเอง

ในเมื่อทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด อย่างนั้นผม ก็ไม่หวังว่าจะเห็นรายงานข่าวด้านลบใดๆ ที่ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จากพวกคุณ

ถ้าผมเห็นข่าวของที่ไหนรายงานข่าวบิดเบือน ข้อเท็จจริง นั่นถือเป็นการหมิ่นประมาท! สําหรับทุก สื่อที่สร้างความเสียหายให้แก่ศิลปินภายใต้สังกัด ของอานหนิงก้วจี้ เราจะฟ้องหมิ่นประมาท ไม่ปล่อย ไปง่ายๆ เด็ดขาด พวกคุณไม่เชื่อก็ลองดู!”

เขาพูดจบ ก็หมุนตัวเอ่ยกับบอดี้การ์ดข้างตัว เสียงดัง: “เห้อซาน ไป! จดบันทึกรายชื่อนักข่าวทุก คนที่นี่ อย่าให้ขาดแม้แต่คนเดียว”

“ครับ!”

เมื่อเฟิงยี่พูดจบแล้วก็ขึ้นรถออกไป

เหล่าผู้สื่อข่าวมึนงงเล็กน้อยกับคำพูดของเขา ผ่านไปสักพักก็มีคนมาตรวจเช็กจดชื่อของพวกเขา ละคนจริงๆ

คนพวกนั้นตกใจกันจนหน้าซีด

“พวกคุณถือสิทธิ์อะไรมาจดชื่อของพวกเรา?พวกเราทําผิดกฎเกณฑ์ตรงไหน?”

“กฎเกณฑ์? เหอะ!” เ อ า แ แหัวเราะเสียง เย็น “ทํางานอย่างพวกคุณยังมีกฎเกณฑ์? พวกคุณ พูดถูกเป็นผิดได้! พูดถึงกฎเกณฑ์จากปากคุณ อย่า สบประมาทคำว่ากฎเกณฑ์สองคำนี้เลย!”

พูดพลาง ไม่สนใจการต่อต้านของเขา ดึง กระเป๋าตังค์เขาออกจากกระเป๋าช่องหน้าอกออกมา

เปิดหาบัตรประจําตัวแล้วจด อเอาไว้ คนคนนั้นโกรธจนตัวสั่น

“คุณ นคุณหมายความว่าอย่างไร? ข่มขู่ คุกคาม?

“ใช่แล้ว ! พวกคุณต้องการจดชื่อบริษัทของ พวกเราทำไม พวกเรายังไม่พูดอะไร แต่พวกคุณจด ชื่อข้อมูลส่วนตัวทำไม?”

“หรือว่า พวกคุณอยากแก้แค้น?

ให้อชานหัวเราะเย้ยหยัน

“พวกเราอานหนิงกั๋วจี้เป็นองค์กรธุรกิจ จะทำ เรื่องอย่างการแก้แค้นได้อย่างไร? เพียงแต่จดชื่อทุก คนไว้ก่อน อย่างไรเสียข่าวใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหากชื่อ ของพวกคุณปรากฏอยู่บนข่าว พวกเราก็ต้องมีผลก ระทบใช่ไหม?”

คนนั้นเบิกตากว้างขึ้นในทันที

“คุณ คุณกล้าพูดว่าพวกคุณไม่คิดจะแก้แค้น! พวกคุณต้องการแบล็กเมล์พวกเรา?”
“แล้วแต่คุณจะคิด

เห้อซานขี้เกียจเปลืองคำพูดกับพวกเขา ไม่ นานจคอเสร็จแล้วก็พาคนจากไป

เหล่าผู้สื่อข่าวมองเงาข้างหลังขบวนรถรถที่

จากไป ทั้งโกรธทั้งร้อนใจ

แต่กลับไม่กล้าทําอะไร

เฟิงยีนิสัยอย่างไร ทุกคนล้วนทราบดี เขาไม่ เหมือนลู่จิ้งเซิน เป็นพวกทายาทรุ่นที่สอง ถ้าหาก แหย่จนไม่พอใจแล้วสามารถเล่นกับชีวิตของคุณได้ จริงๆ

ถ้าอีกฝ่ายเป็นลู่วิ่งเขิน พวกเขายังคิดถึงเรื่อง ธุรกิจก่อน

แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็ทำงานเป็นผู้สื่อข่าว ข่าวใหญ่ขนาดนี้ ไม่เผยแพร่ออกไป ใครจะยอม

แต่อยู่ดีๆ บังเอิญเจอกับเฟิงยี่คนนั้น!

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเล่นตามกติกา ถ้าทำให้เขารำคาญขึ้นมา ไม่แน่ว่าจะทำเรื่องอย่าง การแก้แค้นขึ้นมาจริงๆ ก็ได้

พวกผู้สื่อข่าวคิดถึงตรงนี้ ก็ไม่กล้าทำอะไร ผลิผลามอีก

สุดท้ายจึงต้องกลับไปที่บริษัทของตนเอง รายงานเรื่องให้หัวหน้าทราบก่อนตัดสินใจ

ในเวลาเดียวกันนั้น เฝิงยี่ที่นั่งอยู่บนรถ ก็โทร หาลูกน้องแผนกประชาสัมพันธ์187532683_506352197279794_6261825992885257148_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ