วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 1000 เปลี่ยนกะทันหัน



บทที่ 1000 เปลี่ยนกะทันหัน

ใบหน้าของหนานมู่หรงนั้นกลับดูมีความเป็นมิตร และถึงกับ เดินทํากรีดกรายนั่งตรงข้ามพวกเขา แล้วหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งจาก โต๊ะไปกิน

“พวกคุณอย่าจ้องผมเลย จ้องผมก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเรื่องนี้ ผมไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบ แต่เป็นเบื้องบน

ในขณะที่เขาพูดอยู่ ก็ชี้ไปที่ศีรษะ

กู้ซื้อเนียนยิ้มอย่างเย็นยะเยือก

“คุณหมายถึงหนานกงจีน

หนานมู่หรงผวา

“หนานกงจีนคือใคร?

กู้ซือเฉียนสําลัก ครุ่นคิดอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าหนานหนึ่งจะ ยังไม่รู้มีหนานกงจิ๋นบุคคลคนนี้อยู่

ไม่รู้ว่าคนในตระกูลหนานอีกมากมายแค่ไหนที่เหมือนเขาถูก ปิดหูปิดตา ตลอดเวลาที่ผ่านนึกว่าได้ฟังคำสั่งจากหนานกงย มาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริง คนที่คอยอยู่เบื้องหลังนั้นเป็น คนอื่น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สายตาของเขาเคร่งขรึมลง

หนานกงจีนคนนี้ เป็นคนอะไรกันแน่?
ดูจากอายุของเขาแล้ว ก็พอๆ กับตัวเขาเอง แต่ทำไมคนอย่าง หนานกงยถึงได้เชื่อฟังเขาได้ล่ะ?

และอีกอย่างหนานกงยวดูเหมือนมีลักษณะท่าทางที่เคารพ นับถือและสามารถก้มลงกราบต่อเขาเลย ดูแล้วก็ไม่เหมือนกับ การถูกบังคับ แต่ดูเหมือนเป็นความซื่อสัตย์และความศรัทธา จากก้นบึ้งของหัวใจ ก็เหมือนกับบรรดาผู้ศรัทธาแบบนั้น

ใช่ มันคือบรรดาผู้ศรัทธา

ก่อนหน้านี้กู้ซื้อเฉียนยังไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกในใจของ ความสัมพันธ์ระหว่างหนานกงยวและหนานกงจีนยังไง ในที่สุด ตอนนี้ก็นึกได้แล้ว พอหนานหรงเห็นเขาไม่พูดอะไร ก็ไม่ได้ สนใจอะไร

เขากัดแอปเปิลอีกคำหนึ่งในมือแล้วพูดว่า “อันที่จริงก็ไม่ถึง ขั้นบังคับหรอก ก็เพราะรู้ว่าพวกคุณมีอยู่แล้วในมือแล้วหนึ่งชิ้น ก็ให้คุณส่งมาเท่านั้นเอง เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกคุณก็ต้องส่ง มันมาอยู่ดี”

กู้ซื้อเฉียนยิ้มเย็นยะเยือก

“ถ้าหากว่าผมหาได้หนึ่งชิ้นก็ส่งให้หนึ่งชิ้น แล้วถ้าพวกคุณไม่ ให้ยากับผมในตอนท้ายล่ะ? สุดท้ายแล้วพวกผมทำยังไง?

หนานมู่หรงยิ้มและพูดว่า “อันนี้เป็นไปไม่ได้ ตระกูลหนาน ของเราทําเรื่องอะไรก็เน้นเรื่องความน่าเชื่อถือ แล้วอีกอย่าง ยาน พวกเรากินกันทุกคน มันก็ไม่ใช่ของหายากอะไรเลย ด้วยอำนาจ ของคุณแล้วพอถึงเวลาแล้วฉีดหน้ากัน พวกเราก็ไม่ได้มีอะไรถึงไหน ฉะนั้นแล้วจะไม่ทำเรื่องที่ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับขาตัว เองอย่างนั้นหรอก”

พอสักครู่ เขาก็ได้พูดเสริมว่า : “อีกอย่าง คุณก็เก็บชิ้นสุดท้าย ไว้ในมือหนึ่งชิ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้ายังไม่ครบทั้งสิบสองชิ้น ถึงแม้ในมือจะมีหนึ่งชิ้นหรือสิบเอ็ดชิ้นมันก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ผมพูดเช่นนี้คุณคงจะเข้าใจแล้วใช่ไหม?

บนใบหน้าของกู้ซือเฉียนปรากฏความยุ่งยากใจ

ไม่ใช่ว่าใส่ใจกับแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ชิ้นนี้จริงๆ แต่กลับ เป็นความรู้สึกนี้ที่ถูกควบคุมโดยผู้อื่น

เขามีเพียบพร้อมทุกอย่างแต่เกิด ถึงแม้ว่าในตอนเด็กนั้น ไม่ เป็นที่ชื่อชอบในตระกูล ในเวลาเดียวกันก็ถูกตระกูลน่าหมั่น เบียดเสียดยัดเยียด

แต่โดยรวมแล้ว ชีวิตของเขาล้ำเลิศ เหนือกว่าคนอื่น และเขา จะไม่มีวันถูกบังคับให้ต้องตกลงในบางสิ่งเพราะการบังคับของ ใครบางคน

แต่ตอนนี้ เขารู้สึกเสมอว่าทุกย่างก้าวที่เขาเดิน เขากำลังเดิน

อยู่บนปลายมีดทั้งนั้น

มือและเท้าถูกผูกมัดด้วยผู้อื่น ความรู้สึกนี้ช่างเลวร้ายจริงๆ

ขนาดเขาก็ยังรู้สึกเช่นนี้ มีความคิดเป็นของตัวเองมาแต่เด็ก จนโต เฉียวฉีที่เคยชินกับอิสรภาพมาโดยตลอดทำไมจะไม่รู้สึก เหมือนกันล่ะ?
เธอจ้องไปที่หนานมู่หรงอย่างเย็นชา จนแทบอยากจะต้องให้ เกิดช่องโหว่ที่ร่างกายของเขาเลย

หนานมู่หรงแตะจมูกของเขาด้วยความเขินอายเล็กน้อย

พูดตามตรง ไม่ว่าเมื่อก่อนกู้ซื้อเฉียนจะทำไม่ดีต่อเขาไม่ว่าจะ

กี่ครั้ง แต่เรื่องครั้งนี้ เป็นเขาที่รู้สึกขอโทษกู้ซื้อเฉียน เพราะไม่ว่ายังไง ไม่รวมผลประโยชน์ในตระกูลแล้ว เขาและกู้

ชื่อเฉียนก็นับได้ว่าเป็นเพื่อนกัน

ภรรยาของเพื่อเดือดร้อน แล้วเขายังไปผีพลอยซ้ำเติม เช่นนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไร้ความปรานีอยู่ดี

พอนึกเช่นนี้แล้ว เขาก็ถอนหายใจ

“ช่างเถอะๆ ถ้าพวกคุณไม่ยอมเอาออกมาจริงๆละก็ ผมก็ สามารถช่วยไปขอร้องแทนพวกคุณก็ได้ แต่พวกคุณต้องรู้นะว่า ผมเพียงแค่คนที่ช่วยทำงานในตระกูลเท่านั้นเอง ไม่มีสิทธิ์พูด อะไรเท่าไหร่ ผมแทบสามารถนึกภาพการปฏิเสธตอนขอร้องได้ เลย แต่ผมจะทำอะไรได้ล่ะ? ผมอยากช่วยพวกคุณ ก็คงจะช่วย ได้ถึงเพียงจุดนี้เองแหละ มีความสามารถเท่านี้ จนปัญญาแล้ว จริงๆ ”

ขณะที่เขาพูด เขาส่ายพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

กู้ซือเฉียนขมวดคิ้วและจ้องมองเขาสักครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เอ่ย ปากพูด

“ไม่ต้องหรอก ของอยู่ที่นี่ คุณเอาไปก็แล้วกัน”
เมื่อพูดจบ ก็ให้ฉันเยาหยิบกล่องไม้ขึ้นมา แล้วโยนให้กับหนา นมู่หรง โดยตรง

หนานมู่หรงผงะไปครู่หนึ่ง รีบหยิบมันขึ้นมาและเปิดกล่องออก มา พบว่าที่อยู่ข้างในนั้นเป็นแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่ขาวและ โปร่งแสง

เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย และมองขึ้นไปที่กู้ซื้อเนียน

“คุณเด็ดขาดขนาดนี้ คงไม่ได้ฉ้อโกงอะไรข้างในนี้ใช่ ไหม?

กู้ซื้อเฉียนยิ้มอย่างเย็นชา

“คุณจะเอาหรือไม่เอา หากไม่เอาก็คืนผมมา

พอพูดจบ ก็ยื่นมือไปแย่งกันจริงๆ หนานมู่หรงรีบเก็บกล่องนั้นไว้ที่ข้างหลัง ใบหน้าระแวดระวัง

“ไหนๆ คุณก็ให้แล้ว ยังคิดจะเอากลับไปอีก คุณละอายใจ บ้างไหมเนี่ย? ”

เขาหยุดและถอนหายใจขณะที่มองดูใบหน้าที่ไม่พอใจของทั้ง

สองคน

“เอาเหอะ พวกคุณก็อย่าทำหน้าที่ตาเหมือนกับว่าถูกผมเอา เปรียบอย่างนั้นเลย ก็พูดกันแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อหาครบทั้งหก ชิ้นแล้ว พวกเขาก็จะเอายาที่เฉียวฉีกินหลังจากนั้นให้พวกคุณ หมด พอถึงเวลานั้นพวกคุณก็เก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งชิ้นกันไว้ก่อนยังกลัวอะไรอีกล่ะ? ”

กู้ซือเจียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า

“ผมรู้แล้ว ของคุณก็เอาได้แล้ว คุณกลับเถอะ”

พอเห็นกิริยาท่าทางของเขาเช่นนี้แล้ว หนานทรงก็ไม่พูด อะไรอีก

ได้บอกกล่าวกับเฉียวแล้ว ก็หันไปพร้อมพาคนอื่นๆจากไป

หลังจากที่พวกเขาจากไป เฉียวก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉัน มักรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีบางอย่างผิดปกติ

น้ำเสียงของกู้ซือเฉียนเย็นชา

“ผิดปกติอยู่แล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเราไม่รู้ส่วนผสมของยา ค่อยว่าไปอีกอย่าง ตอนนี้รู้แล้ว หึ! ”

เสียงเขาเย็นเยือกเขาบอกว่าเขาจะให้ยาทั้งหมดที่คุณต้อง ใช้ในหลังจากนั้นแก่พวกเรา แต่จริงๆ แล้วนั่นมันไม่ใช่ยาเลย แต่เป็นผลของพืชชนิดหนึ่งที่เรียกว่าต้นเงินทอง พืชผลแบบไหน กัน สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานหลายสิบปี โดยไม่เสียหายและ ยังคงกินได้? นี่มันเป็นเพียงการหลอกลวงแต่แรก! หนานกง นกําลังหลอกพวกเรา”

ความคิดของเฉียวฉีกับเหมือนกันเขาเลย

เธอขมวดคิ้วและมีความกังวล

“แล้วตอนนี้พวกเราทำยังไงกันดี? ”
กู้ซื้อเฉียนหันไปมองดูเธอ นัยน์ตาดูมีความเย็นชา “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมคิดวิธีได้แล้ว”

เฉียว ตกตะลึง และมีความประหลาดใจเล็กน้อย

“วิธีอะไร? ”

กู้ซื้อเฉียนมีท่าทางที่ดูลึกลับ”ผมได้วางกลอุบายไว้ในกล่องที่ หนานมู่หรงเพิ่มหยิบไปเมื่อกี้นี้

เฉียวฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และในไม่ช้านัก ก็ได้ตั้งสติขึ้นมาได้

เธอและกู้ซื้อเฉียนนั้นเต็มไปด้วยความรู้ใจกันแต่แรก พอตอน นี้แค่ต้องส่งซิกอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอก็เข้าใจแผนของ อีกฝ่ายทันที

ใบหน้านั้นอดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มออกมา “ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ พวกเราก็รอเก็บข้อมูลได้เลย”

“ใช่”

หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

และอีกด้านหนึ่ง

หลังจากที่หนานทรงได้รับของแล้ว เขาก็รีบขึ้นเครื่องบินบิน ข้ามคืนไปยังเกาะที่หนานกงจีนอาศัยอยู่

แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าหนานกงจีนพักอยู่ที่นี่ ผู้ที่ออกคำสั่งให้กับเขานั้น เป็นหนานกงยวมาตลอด ก่อนหน้านี่เขาก็พูดเพียงว่า ถ้าได้รับของมาแล้ว ก็ส่งมาที่เกาะนี้ ฉะนั้น เขาจึงได้รีบบินข้ามคืนมา ไม่กล้าสะเพร่าแม้แต่วินาทีเดียว

ในขณะนี้ ทันทีที่เครื่องบินลงจอด ก็มีผู้ที่ได้รับข่าวรออยู่ตรง นั้นแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ