บทที่ 833 สถานการณ์ซับซ้อน
ศพถูกกู้ขึ้นมาจากแม่น้ำสายหนึ่ง
เหตุการณ์เป็นไปอย่างเรียบง่าย
เนื่องจากมีแม่น้ำใหญ่และยาวมากอยู่ข้างเมืองสายหนึ่ง ซึ่ง ปกติคนจำนวนมาก ในเมืองจะอาศัยแม่น้ำสายนี้ในการหาปลา เพื่อเลี้ยงชีพ
การหาปลาของพวกเขา ปกติแล้วช่วงเช้าจะหว่านแห เมื่อถึง เวลาเย็นไปเก็บแหก็พอ
เพราะว่าวันนี้มีเรื่องเล็กน้อยทำให้ล่าช้า ดังนั้นจึงเก็บแหช้าไป สองชั่วโมง
ตอนแรกยังคิดว่า บางทีวันนี้อาจจะไม่ได้เก็บเกี่ยวอะไรแล้ว
ปลากินอาหารหมดก็หนีไปแล้ว
แต่ไม่คิดว่า พอไปถึงแห ปรากฏว่าหนักมาก
ทุกคนต่างยิ้มดีใจ คิดว่าวันนี้จะมีการเก็บเกี่ยวที่ดีอย่าง แน่นอน
แต่เมื่อลากแหขึ้นมา ปรากฏว่ายิ่งดึงเหมือนยิ่งผิดปกติ เพราะในแหมั้น ไม่มีปลา แต่มีมือข้างหนึ่งของคนโผล่ขึ้น เหนือผิวน้ำ
ทุกคนถึงได้ตกใจ รีบให้คนแจ้งตำรวจ ขณะเดียวกัน คนกลุ่มนี่ก็ร่วมแรงร่วมใจ ดึงแหขึ้นมา
ตำรวจได้มาถึงอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านการคัดกรอง พบว่าผู้ตายเป็นหญิงสาวอายุ ประมาณ 18ปี สาเหตุการตายคือจมน้ำขาดอากาศหายใจ ทุก คนต่างไม่รู้จักเธอ เห็นได้ว่าน่าจะไม่ใช่คนในพื้นที่
เฉียวเห็นศพนั้นขณะที่ตำรวจเตรียมจะนำกลับไปทำการ ตรวจสอบอีกครั้ง
เธอสั่นอย่างรุนแรง
วินาทีต่อมา สีหน้าของเธอซีดเผือด
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าตำรวจพบว่าสีหน้าของเธอผิดปกติ จึงเดินเข้ามาถามว่า “คุณรู้จักเธอหรือ?”
เฉียวนั่งอยู่ตรงนั้น นิ่งไปเนิ่นนาน
ปฏิกิริยาของเธอนี้ ยิ่งทำให้เธอน่าสงสัยมากขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงล้อมเข้ามาทันที และมองดูเธออย่างระแวด
ระวัง
“คุณยังโอเคไหม? ”
เฉียวฉีดึงสติคืนมา
เธอเงยหน้าขึ้น มองดูพวกเขาด้วยความงุนงง จากนั้น กลืน น้ำลาย แล้วกล่าวว่า “ฉันรู้จัก”
สีหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเปลี่ยนไป
เฉียว รู้จักผู้ตายอย่างแน่นอน
เพราะว่าเธอก็คือสาวรับใช้ในปราสาทที่ถูกไล่ออกมาเพราะ เก็บรังนกหนึ่งกล่องเมื่อไม่กี่วันก่อน
เธอไม่เคยคิดเลยว่า เวลาเพียงแค่สามวัน เมื่อเจอเธออีกครั้ง ปรากฏว่าได้กลายเป็นศพไปแล้ว
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว แน่นอนว่าเฉียวจะต้องตามพวกเขา กลับไปเพื่อรับการสอบสวนอยู่แล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง ดังนั้นจึงได้เล่า
เรื่องก่อนหน้านั้นให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด
แต่ถึงจะพูดไปแล้ว แต่ว่าความตกใจของเธอ ยังไม่ดีขึ้น
เธอไม่อยากจะเชื่อว่า คนตัวเป็นๆ ที่เดินผ่านหน้าเธอก่อนหน้า นั้น ตอนนี้ได้กลายเป็นศพที่ไม่มีลมหายใจใดๆแล้ว
ตามการตรวจสอบทางนิติวิทยา บอกว่าเธอได้ตายมาสองวัน แล้ว
แต่ดูจากขอบเขตศพที่ถูกแช่ เวลาที่แช่อยู่ในแม่น้ำอย่างมาก สุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
ซึ่งหมายความว่า เธอถูกคนทำให้จมน้ำตายก่อน ผ่านไปสองวัน จึงนำมาโยนทิ้งไว้ในแม่น้ำนี้
เฉียว รู้สึกเย็นยะเยือกที่สันหลังขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
จู่ๆเธอก็นึกถึงรังนกหลายกล่องนั้นขึ้นมา
รังนกพวกนั้น ก่อนหน้านั้นเธอบอกว่าเก็บได้ที่สวนดอกไม้ แต่ เนื่องจากการตรวจสอบในภายหลังหลักฐานทั้งหมดจึงชี้ไปที่เธอ ว่าโกหก
ดังนั้น ในตอนนั้นทุกคนต่างไม่ได้คิดอะไรมาก ล้วนคิดว่าเป็น เพราะเธอกลัวต้องรับโทษ ดังนั้นจึงปฏิเสธที่จะยอมรับ
ในเวลานั้น แม้เฉียว จะรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ออก มาช่วยเธอพูดอะไร
เป็นไปได้ไหม ว่าเรื่องนี้จะมีพิรุธอะไรจริงๆ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉียวขมวดคิ้วขึ้นมา
เพราะว่าเธอเพิ่งจะกลับมาที่นี่วันนี้เอง ไทม์ไลน์ก่อนหน้านั้น ก็ มีหลักฐานว่าเธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะไม่มีความน่าสงสัย อะไร
ดังนั้นเมื่อให้ปากคำเสร็จแล้ว ก็ปล่อยเธอกลับบ้าน
อาจจะเป็นเพราะว่าเห็นเธอตัวคนเดียว และก็ไม่ได้ขับรถ ยัง นั่งวีลแชร์อีก ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตำรวจมาใหม่คนหนึ่ง ขับรถส่งเธอกลับ
ตลอดทาง เฉียวฉีนั่งเงียบ
จิตใจว้าวุ่น เหมือนสวรรค์กับโลกต่อสู้กัน วนเวียนครุ่นคิด เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
มีคนลอบสังหารเธอก่อน หลังจากล้มเหลว เธอถูกคนอีกกลุ่ม หนึ่งแย่งชิงไปอย่างหวุดหวิด ดูเหมือนคนพวกนั้นต้องการจะจับเป็นเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้
ทําร้ายเธอ
จากนั้น เธอก็ถูกกู้ซื้อเฉียนช่วยกลับมา
ระหว่างที่พักรักษาอาการบาดเจ็บ ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบ มีเพียงหลินเยว่เอ๋อร์ที่ออกมาเป็นมารเป็นครั้งคราว
หลังจากนั้นอยู่มาวันหนึ่ง แม่ครัวจางเพิ่งถูกหลินเยว่เอ๋อร์หา ว่าแอบเปลี่ยนวัตถุดิบ ทำให้เธอต้องออกไปช่วยคลี่คลาย สถานการณ์ ตรวจสอบว่าวัตถุดิบอาหารไม่ใช่จางเพิ่งเป็นคน เปลี่ยน แต่เป็นสาวรับใช้อายุน้อยอีกคนหนึ่ง
ลุงโอเป็นคนตัดสินใจไล่หญิงรับใช้ออก จากนั้น ก็เกิด เหตุการณ์วางยาพิษอีก
ซุปเม็ดบัวที่ตอนแรกเตรียมไว้ให้เธอถูกคนวางยาพิษสารหนู อย่างรุนแรง แต่ถูกหลินเยว่เอ๋อร์แย่งไปดื่มอย่างหวุดหวิด จน เกือบเอาชีวิตไม่รอด
และหลังจากนั้น เธอก็วางแผนกับกู้ซื้อเฉียน เธอถูกไล่ออก จากปราสาท มาถึงที่นี่ แล้วพบเจอศพของหญิงรับใช้
แต่ละเหตุการณ์ แต่ละเรื่อง ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เวลานี้ต่อหน้าต่อตาของเธอ ปรากฏว่าราวกับกลายเป็นเงื่อนงำ ที่สามารถเชื่อมโยงหากันได้
เพียงแต่ ยังติดอีกนิดหนึ่ง
แล้วมันติดตรงไหน?
เฉียวฉีขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ตลอด และในเวลานี้ มีเสียงของ เจ้าหน้าที่ตำรวจดังขึ้นมาทางด้านหน้า
“ได้ยินว่าเธอเป็นคนรับใช้ในจวนของพวกคุณ ถ้าอย่างนั้น ปกติคุณรู้จักชีวิตประจำวันและมนุษยสัมพันธ์ของเธอไหม? ”
เฉียวได้สติคืนมา
อึ้งไปเล็กน้อย
ที่จริง ปัญหานี้ เมื่อกี้ทางสถานีตำรวจ ได้มีคนเคยถามแล้ว
เธอไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงหน้าคนนี้จะถามอีกครั้งทำไม แต่ก็ไม่ได้หลบเลี่ยง เธอตอบไปตามความเป็นจริงไม่รู้จัก ปกติ เธอไม่ค่อยได้มาทำงานตรงที่ฉันอยู่ ดังนั้นฉันกับเธอเจอกันไม่ มาก ยกเว้นชื่อและข้อมูลเบื้องต้นเล็กน้อยของเธอ อย่างอื่นล้วน ไม่รู้”
เจ้าหน้าที่ตำรวจยิ้ม
ดูเหมือนจะไม่แปลกใจ และก็ไม่ได้ตั้งใจถามต่ออีก
เพียงแต่เปลี่ยนเรื่องอย่างเงียบๆ “เมื่อกี้ผมดูแฟ้มข้อมูลของคุณ คุณยังมีคดีด้วยหรือ?
ดวงตาเจียว คล้ำลง
พยักหน้าเบาๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มยิ้มเล็กน้อย และเกาหัวดูเหมือนจะเป็น อายเล็กน้อย
“เรื่องนี้พูดไปแล้ว เกรงว่าจะทำให้คนรู้สึกว่าไม่มีกฎระเบียบ แต่ว่าผมแปลกใจจริงๆ ดูคุณเป็นเด็กผู้หญิงที่นิ่งๆเงียบๆ จะทำ ผิดเรื่องอะไร? ในนั้นก็ไม่ได้เขียนละเอียด………
“ฆ่าคน”
ไม่รอให้เขาพูดจบ เฉียวฉีก็ตอบปัญหานี้กลับไปโดยตรง
“หา? ”
อีกฝ่ายเหมือนจะตกใจ อ้าปากค้างเล็กน้อย สีหน้าตกตะลึง
เฉียวเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ ก็รู้สึกสนุก กระตุกยิ้มที่
มุมปากแล้วมองดูเขา
“แปลกใจมากหรือ ? ฉันดูไม่เหมือนหรือ?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มส่ายหัว พูดอย่างจริงจังมากว่า “ไม่ เหมือน”
“เหอะ!”
เฉียวยิ้มอย่างเย็นชา เอียงหน้าไปทางนอกกระจก ไม่พูดอะไรอีก
รถกำลังเคลื่อนที่ไปบนถนนอย่างเงียบๆ
ผ่านกระจกมองหลัง เฉียว สามารถมองเห็นข้างหลังที่ไม่ไกล ออกไป มีแสงไฟรถกะพริบวิบวับ
เธอรู้ว่า นั่นเป็นรถของคนที่กู้ซื้อเฉียนจัดมาคุ้มครองเธอ
ติดตามอยู่ข้างหลังเธอตลอดเวลา
เรื่องนี้………..หมือนยิ่งอยู่ยิ่งซับซ้อน
ผ่านไปไม่นาน รถก็ขับมาถึงหน้าบ้านหลังเก่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มลงจากรถก่อน แล้วนำรถวีลแชร์จาก กระโปรงหลังรถออกมาให้เธอ แล้วประคองเธอจากเบาะหลังรถ ลงมา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ