บทที่ 743 เธอไม่กลับประเทศ
หลินเยว่เอ๋อร์เห็นเขาไม่พูดอะไร อีกทั้งยังคิดว่าตนเองได้ถาม คําถามที่ไม่ควรถามจึงเกิดความกลัวในใจเป็นอย่างมาก
ในขณะที่กำลังคิดว่าควรจะพูดอะไรอีกสักนิดดีจากนั้นก็รีบ
ออกไป
ก็ได้ยินเสียง “อือ” เบาๆ จากเขา
ถึงแม้ว่าเสียงนั้นจะเบามาก แต่มันกลับเป็นเหมือนก้อนหิน ก้อนหนึ่งที่หล่นลงในห้วงทะเลใจของหลินเยว่เอ๋อร์
เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับ ท้ายที่สุดเธอก็เพียงแค่
ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างผุดขึ้นในใจ เธอเงยหน้า ขึ้นมองเขา สายตาของเธอแสดงความสับสนเล็กน้อย
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านั้นหล่อเหลามาก ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่ เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อน ด้วยออร่าที่แข็งแกร่งให้ความ รู้สึกแปลกแยกแบบผู้สูงศักดิ์
แต่เป็นเพราะความรู้สึกแปลกแยกนี้เองที่ทำให้หัวใจของเธอ เต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก เหมือนกับครั้งแรกที่เธอได้เจอผู้ชาย ที่เธอชอบ
แต่กู้ซือเฉียนกลับไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากยอมรับก็มองไป ที่เธอและพูด: “หลังจากกลับประเทศไปก็ลืมเรื่องที่นี่ซะ เข้าใจไหม?”
เขาหรี่ตาเบาๆ อยู่ตลอดและมีแววความอันตรายฉายออกมา
จากดวงตา
หลินเยว่เอ๋อร์ไจสั่น เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยจากการจ้องมองนั้น แต่เธอก็ส่ายหัวอย่างต่อเนื่อง
“ฉันไม่กลับประเทศ
กู้ซือเฉียนผงะ
เห็นเพียงหญิงสาวตรงหน้าก้มหน้าลงเล็กน้อย กัดริมฝีปาก
แล้วพูดว่า “ฉันไม่กลับประเทศ คุณช่วย…อย่าส่งฉันกลับไปได้
ไหม?”
กู้ซื้อเฉียนส่งเสียงเบาๆ
เสียงหัวเราะเบาๆ เอ่อล้นออกมาจากลำคอของเขาพร้อมกับ
ความเยาะเย้ยในเสียงที่เหมือนจะหัวเราะแต่ก็ไม่หัวเราะ
“เธออยากอยู่กับฉัน?”
หลินเยว่เอ๋อ ตกใจ!
สุดท้ายก็ยังรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป “ก็คุณซื้อฉัน แล้วไม่ใช่เหรอคะ? ฉัน ฉันสามารถ…
“ไม่จําเป็น”
ยังไม่ทันจะพูดจนจบก็ถูกผู้ชายคนนี้ขัดจังหวะแล้ว
ความอับอายและกระอักกระอ่วนที่พูดไม่ออกอยู่เต็มหัวใจของ หลินเยว่เอ๋อร์ เธอเงยหน้าขึ้นและมองที่เขา กะพริบตาและขอบ ตาแดงเล็กน้อย “ทำไมคะ?”
กู้ซือเฉียนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและมองดูเธออย่างเฉยเมย ในท่าทางสบายๆ
“ในเมื่อเธอเห็นหน้าตาที่แท้จริงของฉันแล้วก็ควรจะเข้าใจ ฉัน ไม่ใช่คนที่เธอคิดว่าฉันเป็น ฉันไม่ได้ซื้อเธอ ที่พาเธอกลับมาก เพียงเพราะหวังดี แน่นอนว่าหากเธอคิดว่าไม่ต้องการความหวัง ดีนี้ ฉันให้คนกลับไปส่งเธอที่เมืองนั้นก็ได้ ฉันเชื่อว่าพี่น้องตระกูล เกาคงจะดีใจที่ได้เจอเธออีก”
เมื่อยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์ก็เปลี่ยนไป ทันที
เธอส่ายหน้าสุดชีวติและพูด: “ไม่! ฉันไม่ไป!”
กู้ซื้อเฉียนหัวเราออกมาเบาๆ
หลินเยว่เอ๋อร์มองไปที่การเยาะเย้ยในดวงตาของเขา ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ใบหน้าของเธอซีดขาว
กู้ซื้อเฉียนพูดเบาๆ “เธอจำไว้ พี่น้องตระกูลเกาไม่ใช่คนดี ฉัน เองยิ่งไม่ใช่คนดีอะไร ดังนั้นเก็บความคิดเพ้อเจ้อของเธอแล้วก ลับประเทศไปแต่โดยดี ครอบครัวของเธอรอเธออยู่ คือ?”
นี่คงจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมาที่อดทนพูดอะไร ได้ยาวขนาดนี้
ซึ่งแม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่รู้ว่าทำไม หรือว่าเพียงเพราะดวงตา เหล่านั้นมีจุดคล้ายกับเธออยู่ห้าหกส่วนกัน?
กู้ซื้อเฉียนไม่สามารถจะค้นหาคำตอบจากส่วนลึกในใจของ เขา หรือจะพูดว่าเขาไม่คิดอยากจะหาคำตอบนั้น
หลังจากพูดแบบนั้นไป เขาก็หมดความอดทนและปล่อยสุนัข ทั้งสองตัวให้พวกมันไปหาลุงโอว จากนั้นก็หันหลังและเดินไปอีก ทาง
ในตอนนี้เองก็มีเสียงของหญิงสาวดังตามหลังเขามา
“ฉันไม่ได้มาเที่ยวแล้วถูกหลอกมาขาย! ฉันหนีการแต่งงานมา ฉันขอให้คุณช่วยฉันได้ไหมคะ ถ้าหากคุณส่งฉันกลับ ฉันคงถูก พ่อจับแล้วให้ไปแต่งงานกับตาแก่น่าเกลียดที่แก่กว่าฉันยี่สิบกว่า ปี ชีวิตฉันคงจบเห่นับจากนี้! คุณช่วยฉันสักครั้งได้ไหมคะ?”
น้ำเสียงของหญิงสาวมีความสั่นเครือเล็กน้อยและแอบระคน
เสียงสะอื้น
กู้ซือเฉียนขมวดคิ้ว
ความทรงจําเลือนรางไปตามกาลเวลา และจู่ ๆ ก็ย้อนกลับไป เมื่อหลายปีก่อน
เด็กสาวร่างผอมบางคนนั้นคว้าแขนเสื้อเขาแน่นและบอกเขา ว่า คุณช่วยฉันเถอะนะคะ ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ชีวิตฉันคงจะจบสิ้น
หัวใจดูเหมือนจะโดนอะไรบางอย่างกระแทกอย่างแรง
เขายกมุมริมฝีปากอย่างเย้ยหยัน กลับไม่มีความอบอุ่นใน ดวงตาของเขาแม้แต่น้อยและไม่แม้แต่จะหันมา
ได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา, ชีวิตของเธอ เกี่ยวอะไรกับฉัน ด้วย?”
พูดจบเขาก็ก้าวออกไป
หลินเยว่เอ๋อร์ไม่เคยคิดฝันว่าสิ่งที่เธอจะได้รับจะเป็นผลลัพธ์ เช่นนี้
เธอพูดขนาดนี้แล้ว ไม่นึกเลยว่าเขาจะไม่มีความเห็นอกเห็นใจ เลยสักนิดแถมยังพูดว่า…เกี่ยวอะไรกับเขา
สุดท้ายแล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ
หลินเยว่เอ๋อร์โกรธถึงขีดสุดแต่เธอก็หมดหนทาง ที่นี่เป็นพื้นที่ ของกู้ซื้อเนียน เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะโกรธเขา
เมื่อคิดแบบนี้ เธอยืนอยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เช็ดน้ำตา และกลับเข้าห้องไป
ก่อนอาหารเย็น ลุงโอวมาเรียกเธอให้ไปกินข้าวเย็น
หลินเยว่เอ๋อร์ตามไปอย่างว่าง่าย และพบว่าบนโต๊ะอาหาร ขนาดใหญ่นั้นมีตนเองอยู่คนเดียว กู้ซื้อเฉียนไม่ได้อยู่ที่นั่นเลย
เธองุนงงเล็กน้อยและถามด้วยความสงสัย “ลุงโอวคะ คะ…คนคนนั้นล่ะคะ?”
จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงไม่รู้ชื่อของกู้ซื้อเฉียน ดังนั้นจึงได้แต่เรียกเขาว่าคนคนนั้น
ลุงโอวได้ยินแล้วจึงยิ้มและตอบ: “คุณขายท่านไม่ชินกับการ รับประทานอาหารร่วมกันคนอื่น จึงรับประทานอาหารที่อีกห้อง หนึ่งแล้วครับ”
นี่เป็นคำพูดที่อ้อมค้อมมาก แต่ความจริงแล้วกลับเหมือนกับ
หมดที่ค่อยเข้าหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์อย่างจัง
เธอซ้อนสายตาลงเล็กน้อย กัดริมฝีปากและขอบตาแดง คนคนนี้เกลียดตัวเองขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ? แม้แต่กินข้าวเขายังไม่อยากจะร่วมโต๊ะกับตนเองเลยเหรอ? เขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจกันนะ?
แม้ว่าจะมีความคับข้องใจและความสงสัยในหัวใจ แต่ก็ไม่ กล้าพูดออกไป
หลินเยว่เอ๋อ ไม่อยากจะกลับประเทศ ที่จริงแล้วถึงแม้เธอจะ พบเจอกับหายนะนี้และสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงมีความหวังในชีวิตของตนเอง
เธอไม่อยากจะกลับประเทศอาศัยฟังเพียงคำพูดของพ่อ แต่งงานกับตาแก่น่าเกลียด ดังนั้นเธอต้องคิดหาวิธีให้กู้ซื้อเฉียน
ล้มเลิกความคิดจะส่งเธอกลับประเทศให้ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้เจอใครเลยแล้วจะล้อมเลิกมันได้ยังไง?
หลินเยว่เอ๋อร์ก็คิดจะหนีแต่ หนึ่ง ตอนที่เข้ามาเธอพบว่าที่นี่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา ไม่สามารถหนีไปได้ง่ายๆ
สอง เธอไม่มีเงินติดตัวแม้แต่เอกสารแสดงตัวตนก็ถูกผู้ชาย คนนั้นทิ้งไปหมดแล้วตอนที่ลักพาตัวไปขาย
เธอไม่มีเอกสารอะไรติดตัวที่สามารถยืนยันตัวตนของตนเอง ได้เลย ต่อให้หนีไปได้ก็กลัวว่าจะดำรงชีวิตได้ยาก
ถ้าเกิดอันตรายขึ้นอีกคงจะแย่แน่
และยังมีอีกจุดหนึ่งคือ ห่างออกไปทางใต้เล็กน้อยจากที่นี่คือ เขตสงคราม ข้างนอกวุ่นวายมาก เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่มี เรี่ยวแรงเธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะออกไปข้างนอกคนเดียว
หัวใจของหลินเยว่เอ๋อ สับสนปนเป็นอย่างมากจนแทบจะ เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างสวรรค์และมนุษย์ได้เลย
แต่ทั้งหมดนี้จะต้องได้พบกับกู้ซื้อเฉียนเสียก่อนจึงจะหาทาง
แก้ปัญหาได้
ในตอนนั้นเองมีคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอกอย่างรีบร้อน ลุงโอวเห็นเขาแล้วจึงถาม: “มีเรื่องอะไร?”
คนคนนั้นน่าจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ภายในปราสาทในมือของเขามีซองจดหมายซองหนึ่งและพูด ขึ้น: “พ่อบ้านโอว เมื่อครูมีคนส่งจดหมายมาฉบับหนึ่งจ่าหน้า เป็นชื่อคุณชายครับ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ