วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 708 หมอกหนาทึบ



บทที่ 708 หมอกหนาทึบ

จิ่งหนึ่งพิมพ์ออกมา “แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่า คนที่มีรอยสัก รูปเปลวไฟที่ต้นคอทำร้ายฉัน

กู้ซือเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันเห็นกับตาของฉัน เอง”

จึงหนิงตะลึง คิ้วของเธอขมวดน

“หมายความว่าอย่างไร? คุณไม่ได้บอกว่าคุณระเบิดปลาแล้ว ฉันเลยลอยขึ้นมาหรอกเหรอ?”

กู้ซื้อเฉียนเมื่อได้ยินเธอพูดออกมาด้วยตัวเอง ก็อดหัวเราะ

ออกมาไม่ได้

แต่สุดท้ายเขาก็กลับเข้าเรื่อง “อั้ม ก็ใช่ แต่นั่นไม่ได้ หมายความว่า ฉันไม่เห็นอะไรอย่างอื่นอีก”

เขาจงใจขายบัตรผ่าน วิ่งหนึ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

“กู้ซือเฉียน คุณช่วยพูดให้จบในครั้งเดียวได้ไหม?”

“ได้สิ น้องเซเว่นจูบฉันหนึ่งที แล้วฉันก็จะพูดทั้งหมดออกมาที เดียวเลย”

“นี่คุณ!”

จิ่งหนิงหลับตา หายใจเข้าลึก ๆ และพยายามระงับความ อยากจากก้นบึ้งของหัวใจที่จะจับบุคคลนี้ขึ้นมาแล้วทุบเขาสักที
สักครู่ ก็ยิ้มหม่น ๆ และพูดว่า “ฉันไม่อยากฟังแล้ว คุณว่าถ้า ฉันกลับจีนตอนนี้ และไปบ้านแล้วลากคุณออกมาฟาดสักหนึ่งที่ คุณว่าทันไหม? ”

น้ำเสียงของเธอมีดทีมน่ากลัว กู้ซื้อเฉียนฟังออกทันที เมื่อรู้ว่าเธอโกรธจริง ๆ แล้ว เขายิ้มกว้าง และหยุดขายบัตร

ผ่าน

พูดอย่างจริงจัง “เอาล่ะ พูดตามตรง ก่อนที่ฉันจะมาช่วยเธอ ขึ้นมา ฉันเห็นพวกเขาแล้ว แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมาก

“ต่อมา ฉันมคุณขึ้นมาจากทะเล และพบว่าอาณาเขตทะเล บริเวณนั้นมีเพียงเรือของเรา และเรือของคนกลุ่มนั้นเท่านั้น และ มันแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเราไม่ใช่คนที่โยนคุณลงไป ดังนั้นถ้า เข้าใจไม่ผิด ก็ต้องเป็นพวกเขาที่โยนลงไป

“นอกจากนี้อาณาเขตทะเลยังกว้างมาก และบนร่างกายคุณก็ ไม่มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยใดๆ และไม่น่าเป็นไปได้ที่คุณ จะมีชีวิตรอดจากการลอยตัวเข้ามาจากที่ไกล ๆ ได้ ดังนั้นคำ ตอบก็ชัดเจนอยู่แล้ว”

หลังจากฟังจบ จิ่งหนึ่งที่ขมวดคิ้วแน่น

เธอถามว่า “แล้วคุณยังจำรูปลักษณ์ของคนเหล่านั้น และ คุณลักษณะที่เหลือของพวกมันได้หรือไม่?”

“มันไม่มีลักษณะเฉพาะ บนเรือลำนั้นมีทั้งชาวตะวันออกและ ตะวันตก สิ่งเดียวที่เหมือนกัน คือมีรอยสักรูปเปลวไฟที่ต้นคอเป็นสัญลักษณ์ นิ่งไปครู่หนึ่ง ชื่อเฉียนก็พูดต่อ “ฉันได้ตรวจสอบ สัญลักษณ์ในภายหลัง แต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ มันไม่เกี่ยวข้อง กับฉันดังนั้นฉันจึงไม่ได้สนใจมันมากนัก ถ้าคุณอยากรู้ คุณ สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง”

จิ่งหนังเงียบไป

ชั่วขณะหนึ่ง ก็วางอำนาจสั่งอย่างไม่เกรงใจ “เดี๋ยวคุณวาด สัญลักษณ์นั่นแล้วถ่ายส่งมาให้ฉันหน่อย

กู้ซื้อเฉียนเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม “แหม น้องเซเว่นกำลังขอ ความช่วยเหลือจากฉันหรือ?”

“กู้ซื้อเนียน อย่าโหดร้ายเกินไปต้องรู้จักหาทางหนีทีไล่ไว้ให้ ตัวเองด้วยทางข้างหน้าจะยิ่งกว้างขึ้นและกว้างขึ้น อย่าให้อีก ฝ่ายเกลียดคุณมากเกินไป คุณสมควรที่จะเข้าใจไว้ด้วย”

กู้ซือเฉียนส่งเสียงจุ๊ ๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ รับปากแล้วก็วางสาย

หลังจากวางสายแล้ว ไม่นาน กู้ซื้อเฉียนก็วาดภาพสเก็ตช์แล้ว

ส่งมา

บอกว่าเป็นภาพสเก็ตช์ ก็ร่างมากจริงๆ

จิ่งหนิงดูอย่างละเอียดเป็นเวลานาน ก่อนที่จะมองรูปร่างของ ลวดลายนั้นออก

เกียจที่ภาพวาดที่เขาให้มันซุ่ยเกินไป เธอจึงคัดลอกเองอีก ครั้ง หลังจากวาดเสร็จ เธอก็ตระหนักว่ามันเป็นสัญลักษณ์รูปเปลวไฟ

คิ้วบางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เธอไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาของเธอหรือเปล่า เธอรู้สึกว่า เหมือนเธอเคยเห็นสัญลักษณ์นี้ที่ไหนสักแห่ง

ทันใดนั้นภาพเล็กภาพน้อยก็แวบเข้ามาในหัว

เพราะมันแวบมาเร็วเกินไป ก่อนที่เธอจะมีเวลาให้กระจ่างว่า มันคืออะไร ภาพนั้นก็หายไปแล้ว

จากนั้น ก็เกิดความรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา

จิ่งหนิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ปลายนิ้วของเธอสั่น และนิ้วก็กางออกและตกลง จากนั้นร่างคนก็กุมหัวและขดตัวจน ดวงอ

โม่หนาน ในห้องนั่งเล่นได้ยินการเคลื่อนไหว จึงวิ่งเข้ามา และ เห็นเธอนั่งยองๆ กุมหัวอยู่ตรงหน้าต่าง สีหน้าเปลี่ยนไป

รีบวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนกและถามว่า “หนิงหนิง คุณเป็น อะไรหรือเปล่า?”

คิ้วของจิ่งหนิงขมวดแน่น และความเจ็บปวดมหาศาลนั้นมา จากส่วนลึกของหัว ราวกับว่ามีค้อนทุบอยู่อย่างต่อเนื่องไม่หยุด เธอไม่พูด ได้แต่กัดฟัน หน้าซีดเหมือนคนจะตาย

โม่หนานตกใจมาก และรีบร้อนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เพื่อโทรศัพท์
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะโทรเรียกรถพาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่โทรศัพท์ถูกหยิบออกมา และก่อนที่จะ โทรออกได้ ชายเสื้อก็ถูกคว้าไปในทันใด เธอหันไปเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของจิ้งหนึ่ง เงยขึ้นมาจากเขา ของเธอ และพูดว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่เป็นไร

โม่หนานก้มลงไปพยุงเธอ

“ไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ สีหน้าคุณดูแย่มาก”

จิ่งหน่งสายหัว

ไม่หนานพยุงให้เธอลุกยืนขึ้น และเดินไปที่โซฟาข้าง ๆ แล้ว

นั่งลง

“ขอน้ำให้ฉันสักแก้วได้ไหม?”

ไม่หนานพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ได้เลย คุณรอสักครู่นะ”

พูดเสร็จ ก็รีบวิ่งออกไป

ไม่นานนัก เธอก็นำน้ำอุ่นมาให้หนึ่งแก้ว

จิ่งหนิงรับมันมา และดื่มน้ำในแก้วไปหลายอีก

น้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านลงคอ ช่วยปลอบประโลมอารมณ์ที่มืดมนใน ใจให้สงบลง

โม่หนานมองดูเธอ จนเธอรู้สึกว่าสภาพจิตใจของเธอมันคงขึ้น หน่อยแล้ว จึงถามด้วยความห่วงใย “เมื่อครู่คุณ…มีตรงไหนที่ไม่สบายไหม?”

จิ่งหงส่ายหัว

“เมื่อครู่ฉันนึกบางอย่างออก

ไม่หนานตกตะลึง

หล่อนไม่รู้เกี่ยวกับการสูญเสียความทรงจำของเธอ ดังนั้นใน ตอนนี้หล่อนจึงไม่ค่อยเข้าใจมัน

เมื่อวิ่งหนึ่งเห็นอย่างนี้ ก็ตอบสนอง และอธิบายว่า “ก่อนหน้า นี้ฉันเคยได้รับบาดเจ็บหนึ่งครั้ง และสูญเสียความทรงจำไปเป็น เวลาสามเดือน ฉันไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ จู่ๆ มีภาพมากมายปรากฏ ขึ้นในหัวของฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะดูไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่ สัญชาตญาณของฉันบอกฉันว่า มันจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง สามเดือนนั้น”

เมื่อไม่หนานได้ยินเช่นนี้ ก็แสดงออกถึงความประหลาดใจ

“เป็นไปได้อย่างไร?

จิ่งหนิงไม่รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น แต่ตามสัญชาตญาณของ เธอ มันน่าจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบที่เธอเพิ่งวาด

คิดดังนี้ สายตาของเธอก็มองลงไปบริเวณที่เธอนั่งยอง ๆ เดินไป หยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา

เห็นลวดลายที่เธอเพิ่งวาดบนกระดาษ เปลวไฟธรรมดา ๆ ราวกับว่าเป็นไฟ ที่แผดเผาหัวใจของเธอ
โม่หนานไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน และรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“นี่คืออะไร?”

จิ่งหนิงเม้มริมฝีปากของเธอ และอธิบายว่า “เป็นสัญลักษณ์ ที่ แสดงถึงคนกลุ่มหนึ่ง ทุกคนจะมีสัญลักษณ์นี้ที่หลังคอ คุณเคย เห็นคนแบบนี้หรือไม่”

ไม่หนานขมวดคิ้วคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็ส่ายหัว

“ไม่เคยเห็น”

นั่นสินะ! หล่อนก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

แม้แต่คนอย่างกู้ซื้อเฉียน ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็น ใคร ก็นึกภาพว่า คนกลุ่มนี้ซ่อนตัวอยู่ลึกแค่ไหน

คนกลุ่มนี้ แท้จริงแล้วเป็นใคร และมีความสัมพันธ์แบบไหน

กับเธอ?

สามเดือนนั้นเมื่อเก้าปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้น?

ทั้งหมดนี้ เหมือนกับเมฆหมอก ปกคลุมหัวใจของจิ่งหนึ่ง ถ้าเธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอคิดว่าเธอคงจะไม่สบายใจไป ตลอดชีวิต

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว วันรุ่งขึ้นทั้งสองก็ต้องบินกลับจีนแต่เช้า ตรู่ ดังนั้น ไม่หนานก็พร้อมที่จะพักผ่อนหลังจากยืนยันว่าวิ่งหนึ่งไม่เป็นอะไรจริง ๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ