บทที่ 464 ชีวิตที่จากหาย
จิ้งหนึ่งพยักหน้าแล้วมองเข้าไปในห้องผู้ป่วย
“คุณตาเป็นยังไงบ้างคะ? ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แววตาของกวนจี้หมิงก็แลดูมืดมนลง เขา ถอนหายใจออกมา
“มีเวลาไม่มากแล้ว คุณเข้าไปดูข้างในเถอะ เรื่องอะไรควรพูด
ให้กระชับไม่ควรพูดยาว
จิ่งหนิงพยักหน้า
เธอเดินเข้าไปทางห้องผู้ป่วย โดยจิ้งเซินและจี้หลินยวนรอ อยู่ด้านนอกไม่ได้ตามเข้าไปด้วย
พวกเขารู้ดีว่า ในเวลาแบบนี้นายท่าน อยากอยู่กับจิ้งหนึ่งเพียง คนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ทางที่ดีอย่าเข้าไปขัดขวาง
จิ่งหนึ่งเปลี่ยนเป็นชุดที่ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเดินเข้าไป ด้านในเพียงลำพัง
บนเตียงผู้ป่วย ชายชราที่ดูไร้เรี่ยวแรงนอนอยู่บนนั้น ดวงตา ของเขาหรี่ลงเล็กน้อย อาจเป็นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามา ดวงตาทั้งสองข้างจึงค่อยๆเปิดขึ้นและมองมาทางเธออย่างยาก
จิ่งหนึ่งหยุดฝีเท้าไว้ตรงนั้น
เธอบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง แต่เมื่อเห็นนายท่านทวน นอนอยู่ตรงนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสาย
“หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง…….
เขาเอื้อมมือออกไปทางเธอ จึงหนึ่งเม้มริมฝีปากอดทนกับ ความขมขื่นแล้วก้าวออกไปสองก้าว กุมมือเขาเอาไว้
“คุณตาตื่นแล้วเหรอคะเป็นยังไงบ้าง?
ชายชรามองไปทางเธอ สายตาของเขาหมองมัว
ผ่านไปชั่วครู่จึงได้เอ่ยออกมาด้วยเสียงอันเบาและไร้เรี่ยวแรง ว่า “ตาคิดว่ากำลังฝันไปเสียอีก ที่แท้เป็นเธอจริงๆ”
วินาทีนี้ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา ความใจแข็งที่วิ่งหนึ่ง พยายามสร้างขึ้น ก็ได้พังทลายลงมาอย่างไม่เป็นท่า
เธอกุมมืออันผอมแห้งของชายชราแล้วร้องไห้ออกมาไม่เป็น
ศัพท์
เปรียบเทียบกับเธอที่กำลังร้องไห้อย่างขมขื่นนี้แล้วนายท่านก วน ดูสงบนิ่งกว่าเธอมาก
เขานอนอยู่บนเตียงเงียบๆ และมองมายังเธอด้วยสายตาอ้อม อารีและทะนุถนอม ผ่านไปเนิ่นนานเลยทีเดียวเขาจึงค่อยๆพูดขึ้น ว่า “หนิงหนิง ฟังนะ”
จิ่งหนึ่งจึงได้พยายามหยุดร้องไห้แล้วพยักหน้า แต่น้ำตากลับไม่หยุดไหล
เธอบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง แต่เมื่อเห็นนายท่านทวน นอนอยู่ตรงนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสาย
“หนึ่ง หนึ่ง หนึ่ง…….
เขาเอื้อมมือออกไปทางเธอ จึงหนึ่งเม้มริมฝีปากอดทนกับ ความขมขื่นแล้วก้าวออกไปสองก้าว กุมมือเขาเอาไว้
“คุณตาตื่นแล้วเหรอคะเป็นยังไงบ้าง?
ชายชรามองไปทางเธอ สายตาของเขาหมองมัว
ผ่านไปชั่วครู่จึงได้เอ่ยออกมาด้วยเสียงอันเบาและไร้เรี่ยวแรง ว่า “ตาคิดว่ากำลังฝันไปเสียอีก ที่แท้เป็นเธอจริงๆ”
วินาทีนี้ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา ความใจแข็งที่วิ่งหนึ่ง พยายามสร้างขึ้น ก็ได้พังทลายลงมาอย่างไม่เป็นท่า
เธอกุมมืออันผอมแห้งของชายชราแล้วร้องไห้ออกมาไม่เป็น
ศัพท์
เปรียบเทียบกับเธอที่กำลังร้องไห้อย่างขมขื่นนี้แล้วนายท่านก วน ดูสงบนิ่งกว่าเธอมาก
เขานอนอยู่บนเตียงเงียบๆ และมองมายังเธอด้วยสายตาอ้อม อารีและทะนุถนอม ผ่านไปเนิ่นนานเลยทีเดียวเขาจึงค่อยๆพูดขึ้น ว่า “หนิงหนิง ฟังนะ”
จิ่งหนึ่งจึงได้พยายามหยุดร้องไห้แล้วพยักหน้า แต่น้ำตากลับไม่หยุดไหลได้มีโอกาสจะเติมเต็มให้ หวังว่าเธอจะไม่ถือโทษและโกรธ เกลียด”
เมื่อพูดจบ อยู่ๆเขาก็ไอออกมาเสียงดังราวกับเครื่องในจะ
ทะลักออกมา
จิ่งหนีงซึ่งก็รีบยื่นมือออกไปประคองเขาเอาไว้ ดวงตาของ นายท่านกวนค่อยๆหรี่ลง แล้วพูดขึ้นว่า “หนิงหนิง ตาติดค้างเรา มากเหลือเกิน ดังนั้นต่อให้อีกร้อยปีเธอไม่ยอมรับว่าตาคือตา ไม่เป็นไร ตาได้ ได้ลงนามบริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลแล้ว ขอให้ร่างกายแก่ชราและเหี่ยวย่นนี้ทำประโยชน์ให้กับโลกเป็น ครั้งสุดท้าย นับว่าเป็นการไถ่โทษให้กับเธอด้วย…….
“คุณตาอย่าพูดแบบนี้สิคะ”
จิ่งหนึ่งร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“หลานรัก ดูแลรักษาตัวเองให้ดีตาจะคอยปกป้องคุ้มกัน ต้อง คําเนินชีวิตต่อไปอย่างราบรื่น”
เมื่อพูดจบ น้ำเสียงนั้นก็ค่อยๆเบาลง
จึงหนิงรู้สึกได้ว่ามือที่ตนกำลังกุมไว้นั้นอ่อนแรงลง
ก่อนที่จะปล่อยมือและร่วงหล่นลงมา
วินาทีนี้เธอยืนตกตะลึง หัวใจราวกับตกลงไปที่ก้นบึ้ง
เครื่องตรวจวัดการเต้นของหัวใจที่อยู่ด้านข้าง ส่งเสียงดัง กรณีฉุกเฉินเดือนขึ้น กวนจี้หมิงรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
และรีบวิ่งออกไปตะโกนว่า “หมออยู่ไหน? ”
“มาแล้วค่ะ!”
แพทย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบวิ่งเข้ามา กวนจี้หมิงมองมาทางวิ่งหนึ่ง ที่ยืนตกตะลึงราวกับรูปปั้นอยู่ข้างๆ สีหน้าขาวซีด เธอดูไร้ความ รู้สึก
เขารู้สึกทนไม่ได้อีกต่อไป ผ่านไปชั่วครู่จึงได้พูดออกมาเบาๆ
“หนิงหนิง ลุกขึ้นมาก่อน
จิ่งหนิงค่อยๆ มือขึ้น
หูของเธอเสียงดังอื้อๆ เธอรู้สึกราวกับถูกใครมาดึงเอาไว้ เข้าไปในอ้อมกอด
ลู่จึงเป็นพยุงเธอเอาไว้แล้วมองไปยังทีมแพทย์ที่พยายามช่วย ชีวิตนายท่านกวนเอาไว้ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
แต่ว่าไม่มีความหวังอีกต่อไปแล้ว
หลังผ่านไป 10 กว่านาที ท้ายที่สุดทีมแพทย์ก็แจ้งให้ญาติ ทราบว่านายท่านได้จากไปแล้ว
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้ลงนามมอบร่างกายให้กับโรง พยาบาล ดังนั้นทางทีมแพทย์จึงต้องใช้โอกาสที่ร่างกายของเขา ยังไม่ทันได้แข็งตัว เข้าสู่ขั้นตอนในการผ่าตัดอวัยวะ กวนจี้หมิง เป็นผู้ชาย อีกทั้งอายุมากกว่าเธอหลายสิบปี ดังนั้นเขาจึงมองเรื่องของการเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
เมื่อมองเห็นเธอที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจึงอดไม่ได้ที่จะเดิน เข้ามาหา
“ทีมแพทย์จะพาเขาไปแล้ว คุณ……” เขาหยุดลงชั่วครู่ แต่ ท้ายที่สุดก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงอันต่ำทุ้มว่า “คุณจะเก็บของอะไร ไว้เป็นที่ระลึกไหม?”
หลังจากที่ลงนามบริจาคร่างกายไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะ เป็นญาติก็ไม่อาจจับต้องของทุกอย่างบนร่างกายได้
จิ่งหนิงมองไปทางเขาแต่สุดท้ายก็ส่ายหัว “การที่เขาอยู่ในใจฉันนี่เป็นที่ระลึกที่ดีที่สุดแล้ว” กวนหมิงพยักหน้า ไม่นานต่อมาทีมแพทย์ก็เข้ามาและพาเขา ออกไป
เนื่องจากยังมีขั้นตอนหลายขั้นตอนต้องจัดการ ดังนั้นกวนห มิงจึงได้เดินตามพวกเขาไปด้วย ห้องพักผู้ป่วยกว้างขึ้นในทันที
จิ่งหนึ่งยืนอยู่ตรงที่เดิม แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจากด้าน นอกหน้าต่าง กระทบเข้ากับผมที่ประบ่าของเธอ แต่มันช่างเลือก เย็นราวกับหิมะ
เธอหลับตาลงอย่างช้าๆ ท่ามกลางอากาศในห้องราวกับยังได้ กลิ่นของชายชรา และคำพูดของเขาตอกย้ำชัดเจนขึ้น
“หนิงหนิง อย่าโกรธ…….
นํ้าตาของเธอไหลร่วงลงมา
ลู่วิ่งเซินเห็นดังนั้นเขาก็เศร้าใจเช่นกัน เขากอดเธอแน่นขึ้น กว่าเดิม
จึงหนิงเอนกายไปที่บ่าของเขาราวกับเรือเล็กที่ล่องลอยอยู่ ท่ามกลางมหาสมุทรในที่สุดก็เจอกับชายฝั่ง
เธอไม่อาจเก็บอาการได้อีกต่อไป และกำชายเสื้อของเขาเอา ไว้แน่นส่งเสียงร้องไห้ออกมา
หลินยวนไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ ตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“จิ่งหนึ่ง เขาจากไปแล้วคุณทำใจเถอะนะครับ
จึงหนิงไม่ได้พูดอะไรออกมา
ด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ของสมาชิกตระกูลกวน
ในตอนนี้ ไม่ว่าจะร้องไห้ออกมาจากใจจริงหรือเสแสร้งแกล้ง ทำ แต่ภาพที่ทุกคนแสดงออกมานั่นก็คือเจ็บปวดและเสียใจ
งานศพของนายท่านกวนจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย และนี่เป็นสิ่งที่นายท่านกำชับเอาไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
เขารู้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่มีอะไรมาก เขาไม่ต้องการให้คนที่อยู่ด้าน หลังจัดการเรื่องงานศพอย่างวุ่นวาย นอกจากญาติสนิทแล้ว ไม่มี ใครเข้าร่วมพิธีงานศพของเขาเลย
งานศพจัดขึ้นในสุสานธรรมดา เนื่องจากนายท่านเข้าใจดีถึง การเกิดแก่เจ็บตาย ส่วนเรื่องของพิธีการต่างๆ หลังจากตายไป แล้วเขาไม่เคยสนใจมาก่อน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ