บทที่ 365 ผู้หญิงของเขา
กวน หลี่ โมโหเอามากๆ แต่มาถึงตอนนี้แล้ว ก็ทำได้แค่ทำตามที่ เธอต้องการ
“ใต้ ฉันตกลง เธอบอกที่อยู่ของเธอตอนนี้มาให้ฉันก่อน
“ไม่รีบ ฉันยังมีข้อแม้อีกอย่าง!
“เธอยังมีข้อแม้?” กวน หลี่รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อ “เธอเข้าใจ สถานการณ์ในตอนนี้ไหม ตอนนี้มีแค่ฉันที่สามารถช่วยเธอได้ เธอคิดว่า การที่ให้คนอื่นรู้ว่าเธอวางแผนที่จะฆ่าวิ่งหนึ่ง เปอร์เซ็นต์ที่เธออยู่รอดมีอยู่เท่าไหร่?
จึงเสี่ยวหย่าหัวเราะ “ฉันไม่รอด คุณก็เหมือนกัน อย่าลืมล่ะ ว่า แผนนี้คุณเป็นคนที่คิดให้ฉันเองนะ”
พูดจบ เธอก็เหมือนเตือนสติก็ได้เปิดคลิปเสียงให้ปลายสาย กวน หลี่หมดความอดทน แต่เห็นแก่หลักฐานที่อยู่ในมือของ เธอ สุดท้าย ก็ทําได้แค่กดไฟโกรธในใจลงไป
“ได้! ถือว่าเธอแน่มาก ว่ามา! ข้อแม้อะไร?”
“ง่ายมาก เตรียมเงินให้ฉันก้อนหนึ่ง อย่างน้อยห้าสิบล้าน โอนไปที่บัญชีต่างประเทศของฉัน คุณจะให้ฉันไปเป็นขอทานที่ ต่างประเทศไม่ได้จริงไหม!
กวน หลีกัดฟันแน่น “ห้าสิบล้าน? เธอทำไมไม่ไปปล้นล่ะ!”
จิ้งเสี่ยวหย่าหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณอา อย่าทำตัวเว่อร์ขนาด นั้นสิคะ! แต่ห้าสิบล้าน สำหรับคุณก็เป็นแค่ตัวเลขเล็กๆ จริงไหม! ที่ผ่านมานี้ คุณทิ้งเมียและลูก มาใช้ชีวิตเป็นคุณชายใหญ่ที่เมือง หลวง คุณเคยคิดไหมว่าฉันกับแม่นั้นต้องอยู่ยังไง?
พูดตามความจริง ช่วงที่อยู่ในเมืองหลวงที่ผ่านมา ฉันทนกับ คุณพอแล้ว! ตอนนี้เรื่องได้แดงแล้ว คุณก็จะส่งฉันไปต่างประเทศ ดูแล้วเหมือนปกป้องฉัน แต่จริงๆ ก็เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง
เพราะงั้น ฉันขอเงินห้าสิบล้านนี้ เป็นค่าปิดปากไม่ผิดใช่ไหม? คุณวางใจ ขอแค่คุณกล้าเอาเงินให้ฉัน ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ยังมีเรื่อง ที่คุณจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้อีก ฉันก็จะกลืนลงท้องไป ไม่พูดออกไป แม้แค่คําเดียว”
กวน หลี่ โมโหจน ในตาแดงจัด
นัยน์ตาได้สะท้อนความน่ากลัวออกมา ผ่านไปสักพัก ก็ได้สูดหายใจเข้าไป “ได้! ฉันตกลง
“แบบนี้สิถึงจะถูก! ที่อยู่เดี๋ยวฉันส่งไปให้คุณ อย่าคิดเล็ก ตุกติกล่ะ คลิปเสียงไม่ได้มีอยู่แค่ที่มือฉันคลิปเดียว ฉันได้ก็อบไป ไว้หลายๆ ที่แล้ว
ขอแค่เกิดอะไรขึ้นกับฉัน คลิปพวกนี้ก็จะถูกคนปล่อยออกไป ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าคนที่มองแล้วใจบุญมีเมตตาอย่าง คุณชายใหญ่ตระกูลกวน ลับหลังนั้นที่แท้จริงเป็นคนที่น่ารังเกียจ ขนาดไหน!”
กวน หลีก็ขัดคำพูดเธออย่างเย็นชา “พอแล้ว!” จิ้งเสี่ยวหย่าก็ได้ยิ้มอย่างได้ใจ ถึงได้วางสายไป เวลานี้ ข้างนอกอยู่ๆ ก็มีคนมากด อคประตู เธอได้นิ่งไปสักพัก ในใจก็ได้กังวลขึ้นมา “ใคร?”
“พนักงานบริการครับ”
จึงเสี่ยวหย่าได้ถอนหายใจ
เธอบอกแล้วไง ถือแม้คนคนนั้นถูกจับได้ แต่ก็ไม่น่าที่จะหลุด ปากพูดเร็วขนาดนี้ พวกเขาน่าจะสืบถึงเธอไม่ได้เร็วๆ นี้
คิดแบบนั้น จึงเสี่ยวหย่าก็ได้พูดออกไป “ไม่ต้อง
และแล้วเวลานี้ ประตูกลับได้ส่งเสียงออกมาเบาๆ จากนั้น ประตูก็ได้เปิดออก
“พวกคุณ……”
เธอได้รับเงยหน้า เห็นผู้ชายคนนั้นได้มีบอดี้การ์ดล้อมอยู่แล้ว ก็เดินเข้ามา
สายตาที่เยือกเย็นคู่นั้นมองมาที่เธอ “จิ้งเสี่ยวหย่า เธอเลือก การตายของเธอเองเลย!”
จึงเสี่ยวหย่าคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องมันจะเดินมาได้เร็วขนาดนี้
เธอได้ยินอยู่ใจกลางห้อง มองใบหน้าที่เย็นชาไม่มีความอ่อน โยนอยู่เลยของชายหนุ่ม ก็รู้สึกว่าขานั้นก็ได้หนักไปเลย ไม่ว่าจะ ยกยังไงก็ยกไม่ขึ้น
“คุณ พวกคุณอยากจะทำอะไร? คุณชายลู่ ช่วงนี้ฉันไม่ได้หา เรื่องอะไรพี่สาวนะ อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนนั้น ฉันก็ได้ไปขอโทษทุก คนตามที่เธอสั่งแล้ว คุณจะกัดเรื่องนี้ไม่ปล่อยแบบนี้ไม่ได้
เธอยังจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ลู่วิ่งเงินกลับได้หมดความ อดทนไปแล้ว ส่งสายตา ข้างๆ ก็มีคนเข้าไป ขาก็ได้ถีบไปที่เขา ของเธอ
จึงเสี่ยวหย่าเจ็บจน “ตุ้ม” คุกเข่าลงไป น้ำตาก็ได้แทบไหลลง
มา
ต่อมา ก็ได้ยินเสียงรองเท้าหนังได้เดินมาที่ตนอย่างเย็นชา “ฉันไม่มีผู้หญิง! แต่ข้อแม้คือ อย่ามาแตะต้องผู้หญิงของกู!” พูดจบ ก็ได้ถีบไปที่เธอ
ร่างกายของจิ่งเสี่ยวหย่าก็เหมือนกับว่าวที่สายได้ขาดไปแล้ว ชนไปที่กำแพง จากนั้นก็ล้มไปที่พื้น กระอักเลือดออกมา มอง ออกเลยว่าได้ถีบแรงขนาดไหน
จึงเป็นมองเธออย่างเยือกเย็น สายตาไม่มีความสงสารอยู่
เลยแม้แต่น้อย
ไม่มีคนรู้ตอนที่เขาได้รับโทรศัพท์ รู้ว่าสลิงของจิ่งหนึ่งได้ถูก คนทําอะไรไว้บาดเจ็บสาหัส อีกนิดเดียวก็จะตกลงไปจากหน้าผาแล้วนั้น ในใจเขาโมโหขนาดไหน
อยู่ต่อหน้าความโกรธขนาดนี้ อะไรมีผู้หญิง สุภาพบุรุษอะไร นั้น ทั้งหมดไม่สำคัญอีกต่อไป
จึงเสี่ยวหย่าเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก จึงเป็นมองเธออย่างเป็น ชา ชี้ไปที่โทรศัพท์ที่ตกอยู่ไม่ไกล
“เอามันมา”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งเข้าไป เก็บโทรศัพท์ขึ้นมา ยื่นให้เขาสองมือ ลู่วิ่งเซินเปิดโทรศัพท์ขึ้น โทรศัพท์ยังหยุดอยู่ที่หน้าของแอ พอัดเสียง
เขาเปิดมาฟัง ก็ได้ยินเสียงที่จึงเสี่ยวหย่าคุยกับกวน หลีไป ก่อนหน้า
สีหน้าของเขานั้นก็ได้เย็นชาลงไปเรื่อยๆ ตามคลิปเสียงที่เปิด
สุดท้ายแล้ว ก็เยือกเย็นมากๆ
จึงเสี่ยวหย่าขยับมุมปาก อยากจะพูดอะไร แต่หน้าอกนั้นก็ได้ เจ็บจนเธอนั้นพูดอะไรออกไปไม่ได้
ลู่จิ่งเซินได้โยนโทรศัพท์ให้ลูกน้อง พูดอย่างเย็นชา “เอาเธอ ไปขายที่ใต้ดิน ถ้าเกิดพรุ่งนี้เธอยังมีลมหายใจอยู่ พวกนาย ทั้งหมดก็ตายไปตามเธอ
ชายหนุ่มพูดจบ ก็ได้หันหลังเดินจากไป
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินก็ได้เสียวสันหลัง ก็ได้รีบตอบไปว่า
ครับ!
จิ่งหนิงคืน หลับๆ ตื่นๆ หลับไม่สบายสักที
ในความฝันนั้นก็ได้มีภาพที่ตนนั้นห้อยอยู่ข้างหุบเหว
เธอฝันเห็นว่าตัวเองนั้นห้อยอยู่กลางอากาศ สองมือได้จับ เชือกลวดที่ขาดไปแล้ว มีพนักงานคนหนึ่งได้โยนเชือกลงมาช่วย เธอ คิดไม่ถึงว่ามือของเธอจึงยื่นออกไป เชือกนั้นก็ได้ขาดไป
เธอทำได้แค่มองตัวเองตกลงไปข้างล่าง จากนั้น “ตุ้มม” ลงไป ตกลงไปบนหินที่แข็ง ร่างกายได้เละราวกับดินเหนียว! เธอได้ตกใจ แล้วก็ตื่น
ลืมตาถึงได้รู้ ตอนนี้ยังอยู่ในตอนกลางคืน นอกหน้าต่างนั้น ก็ได้มีแสงดวงจันทร์ส่งเข้ามา รอบๆ ได้เงียบ
ที่แท้ก็แค่ฝัน!
จึงหนึ่งหลับตา กลัวเล็กน้อย เธอได้เช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตรงหน้า ผาก ร่างกายได้หนาวเย็นจนน่ากลัว
ภาพในความฝันก็ยังวิ่งวนไปมา เหมือนจริงขนาดนั้น ก็ เหมือนว่าเธอได้เจอมันมาเองกับตัว
เธอนอนไม่หลับแล้ว คอก็ได้แห้งเอามากๆ เพราะงั้นก็ได้ เปิดผ้าห่มลุกขึ้น ลงจากเตียงไปเทน้ำ
แต่คิดไม่ถึงว่าพอลงจากเตียง ก็เห็นประตูถูกคนเปิดออกมา จากข้างนอก ร่างกายที่สูงใหญ่ได้เดินเข้ามา
จิ่งหนึ่งอึ้ง ก็ได้เรียกออกไป ” จึงเป็น?”
เวลานี้จึงเป็นได้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ข้างนอกได้สวมเสื้อก ดำ ท่อนล่างเป็นกางเกงสูทสีดำ ทั้งคนดูสูงใหญ่
สายตาของเขาก็ได้มองไปที่ชุดนอนบางๆ ของเธอ หยุดอยู่ที่ เท้าเปล่าน้อยๆ ที่ไม่ได้สวมอะไร
จิ่งหนึ่งก็ได้รีบเดินถอยหลัง ถาม “คุณพึ่งกลับมาจากข้างนอก เหรอคะ?”
ลู่วิ่งเป็นไม่ได้สนใจกับคำถามของเธอ เข้าไป แล้วก็อุ้มเธอขึ้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ