วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 290 ลงมือลำบาก



บทที่ 290 ลงมือลำบาก

ก่อนทําธุรกิจ ทุกคนพักอาศัยอยู่ที่หน่วยกองทัพทหาร และด้วยเหตุนี้ เฟิงยี่กับถังลั่วเหยาเลยรู้จักกัน จิ่งหนึ่งเริ่มเข้าใจเรื่องราวแล้ว

เธอก็คิดอยู่ว่าทำไมถึงแปลกๆ แถมก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าถังลั่ว เหยากับเพิ่งรู้จักกันด้วย

ในเมื่อพูดถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่มีอะไรต้องปกปิดอีกแล้ว

เพิ่งทำปากมัยด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจขึ้น พร้อมเผยสีหน้า บิดเบี้ยวขึ้น และพูดว่า : “ตอนที่คุณปู่ผมเกิดเรื่องตอนนั้น รอง คณบดีถังก็ออกจากกองทัพ จากนั้นก็ไปจากเมืองหลวง ผมกับถัง ลั่วเหยาเลยขาดการติดต่อกัน คิดไม่ถึงจะมาพบกันอีก แถมตอน นี้เธอก็โตเป็นสาวแล้วด้วย”

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ จี้หยุนซูก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

ขณะที่จะพูดบางอย่าง กลับเห็นวิ่งหนึ่งแบบนบ่าของเฟิง เบาๆ และพูดปลอบใจว่า : “ไม่เป็นไร มาพบเจอกันตอนนี้ก็ถือว่า ไม่ส่าย หากชอบยังตามจับทันอยู่ เพราะยังไงพวกเธอยังอายุ น้อย ยี่สิบกว่าปีเอง เหมาะสมพอดี!”

เพิ่งเขินอายจนหน้าแดงก่ำทันที

“พี่สะใภ้ พูดจาเหลวไหลอะไรกันครับ! ผมกับเธอรู้จักกันตั้งแต่ใส่ผ้าอ้อม ต่อให้มีความรู้สึกก็เป็นแค่พี่น้อง ไม่มีทางเป็นอย่าง น!”

สำหรับเรื่องนี้ จี้หยุนซูรู้สึกเห็นด้วย

ความสัมพันธ์สนิทสนมมากเกินไป มักลงมือลำบาก

ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่โสดจนถึงตอนนี้หรอก

เมื่อนึกถึงตัวเองทุกวันอยู่ในโรงพยาบาล และนอกจากกินข้าว กับนอน และเห็นใบหน้าคนเดิมๆซ้ำๆ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาก็ รู้สึกว่าความหลังมีแฟนของเขาช่างน้อยนิดมาก

เมื่อวิ่งหนึ่งเห็นท่าทางรีบร้อนพูดอธิบายก็พยักหน้าเล็กน้อย

“อืม เข้าใจแล้ว อ่อ ไม่เป็นไร พี่น้องก็คือพี่น้อง ถึงแม้ไม่ได้ ชอบเชิงชู้สาว แต่ถ้าหากนายชอบแบบนั้นจริง ฉันก็ไม่คัดค้าน

“พี่สะใภ้!”

เฟิงถึงกับทําตัวไม่ถูก สุดท้ายเมื่อเห็นสายตาเย็นชาของลู่วิ่ง เซิน เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ทันที

เพราะมีสินค้าประมูลจํานวนมาก ดังนั้นการประมูลทั้งช่วงแรก และช่วงหลัง โดยที่ตรงกลางมีเวลาพักผ่อนครึ่งชั่วโมงด้วย

เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งถูกวิ่งหนึ่งหัวเราะเยาะหนักมาก ตอน เวลาพัก เขารับสายใครคนหนึ่ง และบอกว่าหากมีธุระอะไร ติดต่อเขา
ดังนั้นเลยไม่ได้อยู่ต่อ หลังจากกล่าวทักทายกับแขกในตอน ช่วงพักเสร็จก็รีบจากไป

วันนี้เป็นวันหยุดของจี้หยุนซู ในเมื่อมีวันหยุดพักผ่อนสักที ดัง

นั้นเลยไม่ยอมกลับไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาเลยอยู่เป็นเพื่อน พวกเขาเข้าร่วมการประมูลต่อ เมื่องานตอนท้ายเริ่มขึ้น ซึ่งหนึ่งสังเกตเห็นว่า ถังลั่วเหยากับ

เทียนหัวไม่อยู่แล้ว สงสัยคงไปแล้วเหมือนกัน

หมดสนุกแล้วสิ แต่ถึงยังไวเธอก็ไม่กล้าไปซักถามถึงความ สัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาหรอก ด้วยเหตุนี้เลยไม่ได้สนใจ

งานประมูลครึ่งหลัง มักมีความสนุกและตื่นเต้นกว่าครึ่งแรก มาก

จิ่งหนิงถูกใจสิ่งของประมูลหลายชิ้นเหมือนกัน แต่เพราะของ ขวัญเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้เลยไม่รีบร้อน แต่เฝ้ารอคอยด้วย ความอดทน

จนถึงตอนที่ชุดเครื่องประดับไขมุกสีเขียวปรากฏขึ้นมา

จิ่งหนึ่งมีสายตาเฉียบขาดมาก เพียงแวบเดียวก็มองออกว่า เครื่องประดับชุดนี้คล้ายกับชุดที่จึงเป็นมอบให้กับตัวเอง

ลู่วิ่งเซินเอง ก็มองเห็นเหมือนกัน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูด ขึ้นว่า “นี่เป็นเครื่องประดับของคุณป้า

จิ่งหนิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“ทําไมถึงปรากฏตรงนี้ได้ล่ะ?”

จึงเป็นส่ายหน้าเล็กน้อย เพื่อแสดงให้รู้ว่าเขาก็ไม่รู้เหมือน

ตอนนี้เพิ่งก็ไม่อยู่ พวกเขาก็ไม่กล้าไปถามคนอื่น นอกจาก ตั้งสติสงบนิ่งก่อน

เครื่องประดับชุดนี้เป็นเครื่องประดับที่มาพร้อมกับชุดเครื่อง ประดับสีแดง ซึ่งเครื่องประดับทั้งสองชุดนี้ถูกสืบทอดกันมาจาก พระราชวังแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป

ทุกต่างรู้ว่า สินค้าแบบนี้สามารถปรากฏในงานประมูลถือเป็น เรื่องที่พบเจอได้ยากมาก

ด้วยเหตุนี้เลยไม่มีใครเสียดายเงิน อีกอย่างคนที่สามารถเข้า ร่วมงานประมูลล้วนเป็นคนร่ำรวย

ดังนั้นการแข่งขันเสนอราคาประมูลจึงดุเดือดมาก ถึงขั้นมีคน เสนอราคาถึงสามร้อยล้าน

จึงหนิงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย และเหลือบมองจึงเป็นที่มี สีหน้ามืดครึ้มและนิ่งเงียบตลอด

จี้หยุนซูเคยเห็นเครื่องประดับชุดนั้นบนมือของสิ่งหนึ่งมาก่อน ดังนั้นเลยรู้ว่าเครื่องประดับชุดนี้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล

เมื่อกี้เมื่อได้ยินจึงหนิงกับลู่วิ่งเซินพูดแบบนั้น ดังนั้นเลย สามารถคาดเดาเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย
เขาพูดขึ้นว่า “อาเซิน ไม่เสนอราคาประมูลหรือ?”

จึงเป็นส่ายหน้าเล็กน้อย

“อย่าเพิ่งรีบ”

เป็นดั่งที่คาดคิด ไม่นานก็มีคนเสนอราคาเพิ่ม

ครั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามเสนอราคาเป็นสามร้อยสามสิบล้าน! ถึงแม้เครื่องประดับชุดนี้กับชุดสีแดงเป็นฝาแฝดกัน แต่ก็ไม่ สูงส่งมากเท่ากับชุดนั้น

ด้วยเหตุนี้ สามร้อยสามสิบล้าน ถือว่าเกินคาดแล้ว!

ในงานเงียบสนิท ทุกคนต่างพากันรอคอยตอนสุดท้ายอย่าง ตื่นเต้น

เมื่อพิธีกรเห็นแบบนี้ก็เริ่มเคาะค่อน

“สามร้อยสามสิบล้านครั้งที่หนึ่ง

“สามร้อยสามสิบล้านครั้งที่สอง

สามร้อยสามสิบล้าน….”

“สี่ร้อยล้าน!”

น้ำเสียงแหลมคมหนึ่งดังขึ้น ทุกคนต่างเคลื่อนสายตามอง ตามต้นเสียงทันที

ตอนที่เห็นคนๆนั้นชัดเจน ทุกคนก็พากันตกใจช็อกขึ้น
ลู่จิ่งเซิน?

ทําไมเปีนเขา?

เขามาได้ยังไง?

เขามาเมื่อไหร่? ทำไมไม่มีคนแจ้งมาเลย? จึงเป็นไม่ใช่คนชอบออกงานเลี้ยงสักเท่าไหร่ ทุกแม้ทุกคน ต่างรู้ แต่เมื่อเห็นเขาที่นี่ก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยชิน

เมื่อพิธีกรเห็นแบบนี้ ก็ตะโกนร้องด้วยความตื่นเต้นว่า “คุณ คนนี้เสนอราคา ร้อยล้าน! มีใครเสนอราคามากกว่าร้อยล้าน ไหมครับ? มีใครเสนอราคามากกว่านี้ไหมครับ?”

ทุกคนต่างพากันนิ่งเงียบ ไม่มีใครพูด

สี่ร้อยล้าน! บ้าไปแล้ว!

ต่อให้เครื่องประดับไข่มุกชุดนี้แพงมากแค่ไหนแต่ก็ไม่น่าแพง มากถึงขั้นนี้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หากพูดถึงราคาสะสม เครื่องประดับชุดสีแดงที่ เป็นฝาแฝดมีราคาสะสมแพงกว่าชิ้นนี้มากกว่าด้วยซ้ำ ถ้าหาก เป็นชุดนั้น ต่อให้เป็นหกร้อยล้านยังถือสมเหตุสมผล

เมื่อไม่เห็นใครเสนอราคาอีก พิธีกรก็เคาะค้อนหนึ่ง แล้ว มอบเครื่องประดับชุดนี้กับลู่จึงเป็น

งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป จากนั้นก็มีเครื่องประดับเม็ด งามหลายแบบจัดโชว์ขึ้น
จิ่งหนึ่งเลือกประมูลกำไลหยกสีเขียวของราชา ซึ่งถือเป็นของ ขวัญให้กับคุณหญิงเนื่องด้วยวันเกิดเจ็ดสิบปี

หลังจากการประมูลจบลง ทั้งสามคนออกออกจากงาน

ในเมื่อทุกคนรู้ว่าลู่จึงเป็นอยู่ที่นี่ แน่นอนไม่สามารถหลีกเลี่ยง คนมาทักทายอย่างกระตือรือร้นได้

ในงาน ยังมีเหล่าเศรษฐีที่ไม่ใช่คนมีอำนาจในเมืองหลวงด้วย ถึงแม้จึงเป็นไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้ แต่ก็ต้องให้เกียรติ

ด้วยเหตุนี้ เวลาเลยผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าจึงจะสามารถหลุด ออกจากสถานการณ์นั้นได้ เดิมทีจี้หยุนซูขับรถมากับเฟิง แต่เพิ่งได้กลับก่อนแล้ว และ

เอารถยนต์ไปด้วย ดังนั้นเลยคิดอยากให้ลู่วิ่งเซินช่วยส่งตัวเอง

กลับบ้าน

หลังจากทั้งสามคนขึ้นบนรถ จึงหนึ่งก็เปิดกล่องกำไลหยก เขียวขึ้น แล้วมองดูอย่างละเอียด เมื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาจึงจะ เก็บในกล่องเหมือนเดิม

จี้หยุนซูพูดขึ้นว่า : “อาเซิน เครื่องประดับของคุณป้า ทำไม ถึงปรากฏอยู่ที่นี่? ตระกูลคงไม่ขาดแคลนเรื่องเงินหรอกใช่ ไหม?”

ลู่วิ่งเซินมีสีหน้านิ่งเฉย และพูดขึ้นว่า “คุณย่าคงยังไม่รู้เรื่องนี้ แน่เลย”
หรือพูดได้ว่า ลู่หลับจือแอบเอาเครื่องประดับชุดนี้มาขายทิ้ง เมื่อจี้หยุนซูได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกตกใจ

ลู่หลัน ยังไม่เคยแต่งงาน เป็นโสดมาถึงอายุสี่สิบตอนนี้ แถมมีนิสัยใจคอเหมือนเด็กด้วย อีกอย่างชอบทำเรื่องไร้สาระ ด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ