บทที่ 263 ได้ทีขี่แพะไล่
แต่น่าเสียดาย ฟ้าไม่เป็นใจ
ความสัมพันธ์บางอย่าง สุดท้ายแล้วก็ค่อยๆ จางหายไปอยู่ดี
จิ่งหนึ่งไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่ทักทายเสร็จเธอก็เตรียม ตัวออกจากที่นี่
ทันใดนั้นเอง ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้นก็พูดขึ้นมา “ท่านนี้คือคุณวิ่งหนึ่งเหรอครับ?”
จึงหนึ่งอึ้งมากแล้วหันไปมองเขา
มีรอยยิ้มที่อบอุ่นและสงบปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายวัย กลางคน เป็นรอยยิ้มที่ใจกว้างราวกับคนชนชั้นสูงกำลังมองดู ประชาชนธรรมดาๆ
เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“ผมเคยดูละครของคุณ คุณแสดงได้ดีมากครับ ได้ข่าวว่าคุณ เป็นคนร้องเพลงประกอบละครของละครเรื่องนี้ใช่ไหมครับ? เพลงนั้นผมชอบมากเป็นพิเศษเลยครับ คืนนี้คุณสะดวกที่จะ ร้องให้ผมฟังสักรอบไหมครับ?”
จิ่งหนึ่งรู้สึกแปลกใจและสงสัยเล็กน้อย
“กลยุทธ์พลิกชีวิต” เป็นแค่ละครออนไลน์เล็กๆ ที่ลงทุนน้อยๆ หลินซูผ่านไม่ได้เชิญนักร้องมืออาชีพมาร้องเพลง เพื่อประหยัดงบประมาณ มีครั้งหนึ่งเขาค้นพบว่าวิ่งหนึ่งร้องเพลงใช้ได้ ก็เลย ให้เธอร้องเพลงopละครเสียเลย
แต่ไม่คาดคิดว่า เขาจะเคยฟังมาก่อน
จิ้งหนึ่งรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอเอามือทัดผมข้างหู
“นี่มัน…ไม่ค่อยเหมาะสมมั้งคะ พวกคุณกำลังจัดงานเลี้ยง
กันอยู่……
“ไม่ครับ เพราะว่าเพลงนี้มีความคล้ายคลึงกันกับเพลงที่คน คุ้นเคยของผมเคยแต่งไว้ครับ ตอนนั้นผมฟังแล้วมันมีความรู้สึก คุ้นเคยเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ผมได้เจอคุณก็เลยอยากลองฟัง อีกครั้งหนึ่ง จะว่าไปแล้วจริงๆ ผมเองที่รุกรานคุณต่างหากครับ
เขาพูดพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน
พูดตรงๆ แล้ว สําหรับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ค่าขอแบบนี้มัน ค่อนข้างจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่
แต่เพราะว่าเป็นคนนี้ เพราะบุคลิกที่ดูสงบไม่เร่งรีบ และความ จริงใจที่ออกมาจากน้ำเสียงของเขา ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาแค่ อยากจะฟังเพลงนี้อีกครั้งจริงๆ ไม่ได้ขอให้เธอร้องเพลงเพื่อฆ่า เวลา
จึงหนิงเองไม่ใช่คนที่หยิ่ง เธอดูออกว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดา
อีกอย่างสายตาของอีกฝ่ายจริงใจมาก ไม่แน่เพลงนี้อาจจะมี ความหมายที่พิเศษสําหรับเขาก็ได้
ถึงยังไงเธอเองก็ไม่อยากรีบกลับไปงานสมาคมอยู่แล้ว ถ้าจะ ต้องร้องเพลงจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
เธอคิดเช่นนี้แล้วมองไปที่คุณนาย
คุณนายยู่พยักหน้าเบาๆ
เธอเม้มปากแล้วพยักหน้าในที่สุด “ได้ค่ะ”
ในห้องจัดงานมีอุปกรณ์เครื่องเสียงครบอยู่แล้ว ถึงแม้ว่ามัน อาจจะไม่มีออาชีพเท่าในห้องอัดเสียง แต่ถ้าสามารถเอามาใช้ ในเซียนสุยเก๋อได้นั้น ก็แสดงว่าคุณภาพเครื่องและคุณภาพเสียง ไม่แย่อยู่แล้ว
จิ่งหนึ่งให้คนกดเลือกเพลงนี้ให้ แล้วเธอก็หยิบไมค์โคโฟนขึ้น แล้วเริ่มร้อง
อันที่จริงทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้ เธอจะหลงไหลกับมันมาก ครั้งนี้
ก็เช่นกัน
ขณะที่โน้ตตัวแรกดังขึ้น ทั้งตัวและหัวใจของสิ่งหนึ่งก็ทุ่มเท เข้าไปในโลกแห่งเสียงดนตรีไป
ได้ข่าวว่าเพลงเพลงนี้เขียนขึ้นโดยนักเขียนเพลงชื่อดังท่าน หนึ่ง เนื้อเพลงพูดถึงคนรักที่เขาเคยรักมากได้จากโลกนี้ไปเพราะ เหตุบางอย่าง เขาคิดถึงเธอมาโดยตลอด และพูดถึงเรื่องที่เขา สองคนสัญญาว่าจะรักกันในทุกๆ ชาติ
แม้ว่าเนื้อเพลงจะเขียนถึงเรื่องเกิดพบตายจาก แต่ตัวเพลง ทั้งเพลงไม่ได้เศร้ามาก มีเพียงความหม่นหมองปะปนอยู่ในเพลงเล็กน้อย โดยรวมแล้วก็คือเพลงที่เศร้าแต่ไม่เจ็บปวด
จิ้งหนิงร้องเพลงด้วยหัวใจ แต่ชายคนนั้นตกตะลึงตั้งแต่ที่เธอ เริ่มร้องเพลงนี้แล้ว
สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากอ่อนโยนมาเป็นความไม่น่าเชื่อและ ความตกตะลึงอย่างหนัก
ฟังเธอร้องสดมันต่างจากฟังจากในทีวีมาก
ฟังจากในทีวีแม้ว่าจะรู้สึกตกตะลึง แต่ก็สามารถดึงสติมาได้ ว่าเธอไม่ใช่เธอคนนั้น
แต่ร้องสดมันไม่เหมือนกัน
คนคนนั้นอยู่ตรงหน้าเรา ดวงตาคู่นั้น ความรู้สึกแบบนั้น เสียง ร้องเพลงนั้น…….
ราวกับว่าคนที่เขาเคยคุ้นเคยยังอยู่บนโลกใบนี้
ร้องจบเพลงแล้ว ไม่นานจิ้งหนึ่งก็ออกมาจากเพลงนี้ได้ แล้ว หันมาพูดพร้อมรอยยิ้ม “ขออภัย ข้าน้อยไร้ความสามารถ
หลังจากพูดจบเธอถึงได้รู้สึกตัวว่า ชายคนนั้นไม่ได้มีปฏิกิริยา ใดๆ เพียงแต่มองมาที่เธออย่างเหม่อลอย
จิ่งหนิงรู้สึกตงิดใจ
มีปัญหาอะไรรึเปล่า?
คุณนายยู่เองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติไปของบรรยากาศใน ห้อง เธอรีบปรบมือพร้อมพูด “หนิงหนึ่งร้องเพลงได้เพราะมากค่ะคุณกวนเห็นด้วยไหมคะ?”
ขายที่ถูกเรียกว่าคุณกวนก็ไหวตัวกลับมา สีหน้าของเขาไม่ ค่อยปกติเท่าไหร่ เขารีบพยักหน้าพร้อมพูด “ใช่ครับ เพราะมาก เลยครับ
แม้ว่าจิ้งหนิงจะรู้สึกว่าปฏิกิริยาของเขามันแปลกมาก แต่เธอก็ ไม่ได้คิดมากอะไร เธอวางไมค์โคโฟนลงพร้อมพูด “คุณยายคะ หนูต้องกลับแล้วค่ะ”
คุณนายพยักหน้าพูดพร้อมรอยยิ้ม “จ้า กลับไปเถอะ! ให้คุณ
ชาย ไปส่งเธอ
จิ่งหนึ่งอยากจะปฏิเสธ แต่มปั่นเพื่อเดินมาถึงหน้าประตูแล้ว ถ้าเธอปฏิเสธตอนนั้นมันก็อาจจะดูจงใจไปหน่อย เธอก็เลยไม่ได้ พูดอะไรออกมา
ออกมาจากห้องแล้วนั่นเจ๋อพูดพร้อมยิ้ม “เมื่อสักครู่นี้คุณ ร้องเพลงเพราะมากเลย เพราะยิ่งกว่าในทีวีอีก”
จิ่งหนึ่งเลิกคิ้ว “แล้วถ้าเทียบกับจึงเสี่ยวหย่าล่ะ?”
ต้องรู้ไว้ว่า ในฐานะศิลปินที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการแสดงหนัง การแสดงละคร การร้องเพลง จึงเสียวหย่าเองก็เคยร้องเพลงไว้ เยอะเช่นกัน
สีหน้าของมู่ยั่นเจ๋อแข็งกระด้าง
สีหน้าของเขาดูเก้อกระดากเล็กน้อย “คุณจะพูดถึงเธอทำไม?
จิ่งหนึ่งหยุดเดินแล้วมองไปที่เขาและพูดพร้อมหัวเราะแห้งๆ “มั่นเจ๋อ ฉันรู้ดีว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาเส แสร้งกับฉัน เมื่อก่อนตอนที่หวังเสวี่เหมยและจิ้งเสี่ยวหย่าเป็น ใหญ่ในตระกูล ง คุณก็ไปประจบหวังเสวีเหมย พยายามประจบ จึงเสี่ยวหย่าก็เพื่อมอกรุ๊ปจะได้เอาตระกูลอื่นเข้าทีม
แต่พอตอนนี้หวังเสวีเหมยเกิดเรื่อง ไม่มีประโยชน์ต่อคุณแล้ว จิ๋วเสี่ยวหย่าและหยูซิ่วเหลียนต้นมีคดีติดตัวอีก คุณกลัวว่ามันจะ ทำให้ตัวคุณเองหรือตระกูลมู่เดือดร้อน คุณก็เลยจะแตะเธอออก แล้วกลับมาหาฉันแทน มั่นเจอคุณคิดว่าทุกคนจะโง่เหมือนเธอ เหรอ? ที่ยอมเป็นตัวตลก ยอมให้คุณหลอกลวง?”
สีหน้าของมั่นเจ๋อแย่มาก
“นี่คุณกำลังพูดอะไรอยู่? ผมเป็นคนแบบนั้น ในสายตาคุณเห รอ? ผมยอมรับว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมและเสี่ยวหย่าไม่ ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่มันก็แย่ตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเกิดเรื่องแล้ว ผม ไม่ได้จะฉวยโอกาสที่เธอตกต่ำแล้วเอาเปรียบเธอตอกเธอ!”
จึงหนิงรู้สึกโกรธจนอยากหัวเราะกับสิ่งที่เขาพูด
“ไม่ได้ฉวยโอกาสตอนที่เธอตกต่างั้นเหรอ? ไม่ใช่ได้ทีขี่แพะ ไล่เหรอ? มู่ลั่นเจ๋อ! คำพูดพวกนี้ที่พูดออกมาตัวคุณเองกล้าเชื่อ ใหม่? ฉันจะบอกให้นะ แค่คุณมีความรับผิดชอบแล้วยืนข้างๆ เธอ ฉันยังรู้สึกชื่นชมที่คุณเป็นลูกผู้ชาย แต่คุณได้ทำเช่นนั้น ไหม? คุณไม่ได้ทํา
ถ้าพูดออกมาตรงๆ ก็คือคุณท่าเพื่อตัวเองทั้งนั้น คนที่รักแค่ตัวเอง เพราะฉะนั้นคุณอย่ามาเสแสร้งแถวนี้ได้ไหม? คุณแสดงได้ ขัดใจมากฉันมองแล้วรู้สึกคลื่นไส้
อีกอย่าง ในเมื่อคุณเลือกเธอแล้วก็รับผิดชอบในสิ่งที่ผู้ชาย ควรรับผิดชอบซะ ไม่อย่างนั้นฉันมีแต่เกลียดและดูถูกคุณมากขึ้น กว่าเดิม!”
หลังจากพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินจากไป
มั่นเจ๋อไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดตำหนิตัวเองได้อย่างไม่เกรงใจ เช่นนี้
เขาหน้าเลื่อนและสีหน้าดูแย่มาก
สุดท้าย เขาทนไม่ไหวแล้วกัดฟันพูด “วิ่งหนึ่ง! คุณจะต้องรู้สึก เสียใจในสิ่งที่ตัวเองพูดในวันนี้อย่างแน่นอน!
จิ่งหนึ่งไม่ได้หันกลับมา
มู่ยั่นเจ๋อโกรธแทบบ้า
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ก้าวไปหาเธอแล้วดึงเธอไว้ และพูดด้วยเสียงโทน “เดี๋ยวก่อน ผมมีความลับอย่าง คุณ อยากฟังไหม?”
จึงหนิงมองดูเขาแล้วหัวเราะแห้ง “คุณมีความลับ100อย่างฉัน ก็ไม่อยากฟัง! ปล่อยมือ!”
“ผมจริงใจนะครับ! ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมเชื่อผมสักที? ใช่ ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนผมทำผิดไปเยอะ ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำไปเยอะมาก มันอาจจะทำร้ายคุณ แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมอยากจะ ขอโทษคุณจากใจจริง ทำไมคุณถึงไม่ยอมให้โอกาสผมสัก ครั้ง?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ