วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 244 ออกเดินทางไปเกาะขนาดเล็ก



จึงเสี่ยวหย่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“เธอหมายความว่า….”

ถงซูหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้น

“สิ่งที่เราทุกคนเกลียดที่สุดคือใช้อำนาจ เงินทําความชั่ว ต่อให้เธอมีลู่วิ่งเซ็นคอยสนับสนุน แล้วยังไง? ยิ่งลู่วิ่งเซ็นรักเธอมากเท่าไหร่ ก็ยิ่ง ทําให้ทุกคนคิดว่า คนที่มีอำนาจเงินยอมทำถึงขั้น นี้เลยหรอ

ด้วยเหตุนี้ทุกคนก็จะเริ่มเกลียดเธอ อีก อย่างคุณคิดว่าในเมืองหลวงตระกูลลู่เป็นตระกูล ใหญ่อันดับหนึ่ง ไม่มีศัตรูหรอ? เห่อ! ไม่รู้หรอว่า ตำแหน่งนั้นมีคนอยากครอบครองนานแค่ไหน

ถึงตอนนั้นลู่ซอกรุ๊ปจะได้รับแรงกดดันจาก สื่อมวลชนเพราะเรื่องนี้ ครอบครัวตระกูลลู่ไม่มี ทางไม่สนใจ ถูกทั้งคนนอกและคนในโจมตี คุณ คิดว่าระหว่างผู้หญิงคนหนึ่งกับผลประโยชน์ของ ครัว ลู่วิ่งเซ็นจะเลือกใคร?”

จึงเสี่ยวหย่าตกใจค้าง

ไม่นานเธอก็ดึงสติกลับมา และเผยสีหน้า ดีใจขึ้น

“ฉันเข้าใจแล้ว! พี่สาวถง ดังนั้นตอนนี้สิ่ง สําคัญที่สุดคือพวกเราต้องตามหาจิ่งหนึ่ง?”“อืม ต้องยืนยันให้ได้ว่า เธอไม่ได้หายตัวไป เลย แบบนี้จึงจะสามารถทําให้ทุกคนเชื่อว่า ทั้งหมดก่อนหน้านี้เธอพูดโกหก!”

จึ่งเสี่ยวหย่าพยักหน้าเล็กน้อย

“โอเค ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบหาวิธีการตามหา ตัวเธอ”

ทางด้านนี้ จึงเสี่ยวหย่ากำลังเตรียมคิดหา วิธีการล่อจิ้งหนิงออกมา

ส่วนจิ่งหนิงได้รับข่าวแล้ว

นับตั้งแต่คนขับรถแซ่หลิวเปิดโปง เธอก็

คาดเตาแล้วว่า จึงเสี่ยวหย่าคงกำลังตามหาเธอ อยู่แน่

คฤหาสน์บ้านลู่คงอยู่ไม่ได้แล้ว ถึงแม้จิ่ง เสี่ยวหย่าไม่มีความกล้าบุกเข้ามา แต่ที่นี่มีความ เสี่ยงที่จะถูกเจอตัวได้

จิ้งหนิงครุ่นคิดสักพัก ขณะที่กำลังครุ่นคิด ว่ามีสถานที่ไหนสามารถซ่อนตัวได้ดีนั้น นาย

หญิงหชินก็โทรศัพท์มา “หนิงหนิง ทําอะไรอยู่? ร่างกายเป็นยังไง

บ้าง?

คุณนายหงินโทรมาหาโทรศัพท์ของลู่จิ่ง เซ็นสงสัยลู่วิ่งเซินกลัวว่าผู้ใหญ่และเด็กเป็น ห่วง จึงบอกเรื่องนี้ให้กับพวกเขาแล้ว

จิ่งหนิงรีบตอบว่า : “หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่บ้าน คุณล่ะค่ะ? ช่วงนี้สบายดีไหมค่ะ?”

“สบายดี อานอานคิดถึงเธอมาก เอะอะ โวยวายอยากเจอเธอ หากเธอสะดวกเมื่อไหร่ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเล่นกับหนูสักสองวันได้

ไหม?”

“คือว่า…”

จิ่งหนิงรู้สึกลำบากใจ

ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจมากมาย เธอต้องการ บีบเค้นครอบครัวของจิ่งเสี่ยวหย่ายอมรับว่าเคย ทําไม่ดีต่อแม่ของเธอ ดังนั้นเธอยังไม่สามารถ ปรากฏตัวออกมาอีก

แต่อายอาน……

นายหญิงเซินเหมือนสัมผัสได้ว่าเธอกำลัง ลําบากใจ เลยรีบพูดว่า : “กำลังดีเลย ช่วงที่ผ่าน มาฉันซื้อเกาะขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ทิวทัศน์สวยงาม มาก ฉันให้คนเปิดโรงแรมที่นั้นด้วย พ่อครัวเป็น ถึงพ่อครัวทําอาหารงานเลี้ยงระดับประเทศ ฝีมือ ไม่เป็นรองใครเลย ถ้าหากเธอมีเวลาว่าง พวกเรา ไปพักร้อนที่เกาะแห่งนั้นด้วยกันนะ?”

พูดถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าหากจิ่งหนิงยังไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้จะทํายังไงเหมือนกันเธอรีบพูดว่า : “ค่ะ เมื่อไหร่ก็ได้ พวกคุณ จัดการได้เลยค่ะ”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเป็นพรุ่งนี้เลย เดียว ฉันให้อาเซินไปส่งเธอ”

“ค่ะ”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นายหญิงก็วาง สายทันที

ลู่วิ่งเซ็นจ้องมองเธออยู่ด้านข้างด้วย สายตารอคอย เมื่อเห็นเธอวางสายก็รีบซักถาม ว่า : “คุณตอบตกลงแล้วใช่ไหม?”

จิ่งหน่งพยักหน้าเล็กน้อย “ค่ะ คุณหญิงบอก ให้ไปพรุ่งนี้เลย”

“อ๋อ”

ผู้ชายเผยสายตาเป็นประกาย ไม่รู้ว่าในใจ กำลังคิดอะไรอยู่

จิ่งหนิงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เลยถามขึ้นว่า : นายหญิงบอกว่าเธอซื้อเกาะทางภาคใต้แห่ง ” หนึ่ง? ซื้อเกาะคงต้องจ่ายเงินจํานวนไม่น้อยเลย

ใช่ไหม? นายหญิงอยากทําธุรกิจหรอ?” ลู่วิ่งเซินโบกมืออย่างไม่สนใจขึ้น

“ไม่ใช่หรอก นายหญิงอายุมากแล้ว ที่ชื้อ เพราะเก็บไว้อยู่ในอนาคต”

จิ่งหนิง : “เอาล่ะ! ความคิดของคนรวย เธอไม่ค่อย เข้าใจ

ชื่อเกาะเอาไว้อยู่ตอนชรา อืม ช่างเยี่ยม ยอดจริงๆ

นายหญิงจัดการรวดเร็วมาก หลังจาก จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้ลู่วิ่งเซินพาจิ่งหนิง ไป

เช้าวันต่อมา จิ่งหนิงก็นั่งเครื่องบินไปที่เกาะ บนเกาะไม่เพียงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ยัง มีชื่อที่ไพเราะด้วย ชื่อว่าเกาะ หนิง

คุณหญิงบอกว่า เกาะแห่งนี้มีนกที่เป็นสัตว์ สงวนจํานวนมากหลายประเภท มีบางสายพันธุ์ เพราะมีชาวประมงบริเวณใกล้เคียงจับ รวมถึง สภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ในตอนนี้ เลยทำให้บาง สายพันธุ์สูญพันธุ์ไปแล้ว

นายหญิงซื้อเกาะแห่งนี้ เพราะต้องการมอบ สถานที่พักผ่อนที่สงบและงดงามให้กับพวกมัน อานอานได้ข่าวเธอจะมาด้วย ก็ดีอกดีใจ

ตั้งแต่เช้าเลย เมื่อจิ่งหนิงมาถึงตอนเที่ยงก็รีบวิ่งเข้าไป

ต้อนรับอย่างรีบร้อน

จิ่งหนิงไม่ได้เห็นเธอมาสักพักใหญ่ แน่นอน ว่าคิดถึงมาก แม่ลูกเจอกันก็โอบกอดกันใหญ่เลย และยังหอมแก้มกันสักพักด้วยนายหญิงมองประเมินเธอเล็กน้อย และพูด ด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดูว่า : “อืม ผอมหมดแล้ว หนิง หน่ง ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกลักพาตัวหรอ เป็นยังไง บ้าง? ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”

จิ่งหนึ่งยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อย หนูไม่ เป็นไรค่ะ แค่ตกใจเล็กน้อยค่ะ”

บาดแผลบนมือเธอไม่ได้ลึกมาก รักษาไม่กี่ วันก็คงหาย แล้ว

ก่อนมาเธอกังวลว่านายหญิงกับลูกเป็นห่วง เลยเอาผ้าพันแผลออก ถึงแม้ตอนนี้ยังเห็นรอย แผลบางๆเส้นหนึ่งเล็กน้อย แต่ไม่ได้สาหัสเหมือน ก่อนหน้านี้แล้ว เลยไม่กลัว

เมื่อนายหญิงได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าเล็ก น้อยอย่างโล่งใจ

แล้วพาทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน

บนเกาะมีเพียงโรงแรมแห่งเดียว ก่อนมา คุณหญิงได้จัดเตรียมห้องให้กับพวกเขา เรียบร้อยแล้ว

จิ่งหนิงกับลู่จิ่งเซินเข้าห้องไปพักผ่อน จนถึงตอนเที่ยงจึงจะออกมา

สุขภาพของคุณท่านไม่ดีมาตลอด ด้วยเหตุ นี้เลยไม่มาด้วยกัน

แต่คุณหญิงหงินเป็นคนคุยสนุกมาตลอด อายุหกสิบเจ็ดสิบปีแล้ว ยังคงมีท่าทางสนุกสนานเหมือนกับคนอายุน้อยอยู่

เมื่อรู้ว่าจิ่งหนิงถูกทำร้าย เธอก็เอาแต่เอะอะ โวยวายและโกรธเคืองแทน งหนิง

จิ้งหนิงรู้สึกอยากหัวเราะ และรู้สึกว่าคุณ หญิงน่ารักมาก เธอรู้อยู่แก่ใจว่า คุณหญิงเห็นเธอ เป็นคนในครอบครัว เป็นห่วงเธอมาก ด้วยเหตุนี้ เธอยิ่งรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

“คุณย่าครับ เรื่องนี้คุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง เกี่ยวหรอกค่ะ หนิงหนิง เธอจัดการได้ครับ”

จากนั้นสู่จิ่งเซินก็ทนไม่ไหว เลยเอ่ยปาก พูดขึ้น

เมื่อคุณหญิงได้ยินแบบนี้ก็มองบนใส่เขา หนึ่งที

“นายยังกล้าพูดอีกหรอ? ภรรยาของตัวเอง ยังปกป้องไม่ได้เลย เป็นสามีภาษาอะไรกัน? อายุ ปูนนี้แล้ว ต้องให้ภรรยาของตัวเองเป็นคนลงมือ นายกินข้าวมาหลายปีไม่มีประโยชน์เลยหรอ?”

คุณหญิงตำหนิหลานชายอย่างไม่เกรงใจ ลู่วิ่งเซินเผยสีหน้ามืดครึ้มขึ้น เมื่อจิ่งหนึ่ง

เห็นแบบนี้ก็รีบพูดอธิบายขึ้น

“คุณย่าค่ะ ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากช่วยหนู หรอก แต่หนูไม่ให้เขาช่วยเองค่ะ”

ขณะที่พูด เธอก็เล่าเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่างเธอกับจิ่งเสี่ยวหย่า และสาเหตุการตาย ของโมไฉ่เวยแม่ของเธอด้วย

รวมถึงเธอถูกไล่ออกจากล้านตระกูลจิ่งเมื่อ ห้าปีก่อนยังไง และถูกสองแม่ลูกคู่นั้นยืด ทรัพย์สินทั้งหมดในบ้านยังไง สุดท้ายแม้แต่ของ ขวัญที่แม่ของเธอทิ้งไว้ยังถูกกําจัดทิ้งเลย

เมื่อคุณหญิงฟังจบก็โมโหเดือดดาลขึ้น

“มีแบบนี้ด้วยหรอ? บนโลกนี้ยังมีกฎหมาย อยู่อีกไหม? สองแม่ลูกคู่นี้หน้าไม่อยากจริงๆ ทําไมไม่ถูกฟ้าผ่าตายนะ?”

จิ่งหนิงยิ้มแย้มอย่างประชดเล็กน้อย

“เรื่องภายในบ้านกฎหมายยากที่จะจัดการ ได้ ว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็กล่าวโทษคนอื่นไม่ได้ แต่ อยากตำหนิตัวเองที่ห้าปีก่อนไร้เดียงสา คิดไม่ รอบคอบ ถ้าหากตอนนั้นหนูฉลาดสักหน่อย และรู้ ว่าสาเหตุการตายของแม่มีเงื่อนง่า ก็คงไม่ต้อง ทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้”

คุณหญิงฟังแล้วรู้สึกเอ็นดู เลยตบบนมือขอ เธอเพื่อปลอบใจเล็กน้อย

จู่ๆก็นึกบางอย่างออก เลยซักถามด้วยความ สงสัยว่า : “เธอบอกว่า ก่อนแม้เธอจะเสียชีวิต ทิ้ง สร้อยเส้นหนึ่งไว้หรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ