วิวาห์หวาน นายซาตาน ที่รักของฉัน

บทที่ 112 ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว



สามปีนั้น ชีวิตของเธอเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง ยิ่งใหญ่ บอกได้ว่า การเข้าร่วมองค์กรนี้แทบจะ เปลี่ยนแปลงเธอไปตลอดชีวิต

ภายหลังเพราะเรื่องบางเรื่อง เธอจึงออกจาก องค์กรนี้ กลับประเทศเพียงลำพัง

สองปีนี้ เธอแทบจะขาดการติดต่อกับกลุ่มมังกรไป แล้ว

นอกจากตาK ที่ออกมาก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน และรับผิดชอบบริเวณรอบนอก คนอื่นๆก็แทบจะไม่มีใคร รู้แหล่งที่อยู่ของเธอเลย

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ สองปีนี้ จิ่งหนิงก็ให้ความสนใจ การเคลื่อนไหวขององค์กรอย่างลับๆ

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกถึง กระแสคลื่นที่อยู่ภายใน กลุ่มมังกรสองปีนี้ เพียงแต่แยกตัวออกมาไกลอย่างนี้แล้ว ถึงที่สุดก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด

แต่คิดไม่ถึง ว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงขนาดนี้

ซูยู ถ้าเธอจําไม่ผิด น่าจะเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของ หลินเทียน

กําพร้าพ่อแม่ แต่ก่อนหลินเทียนช่วยเหลือให้เธอ ได้เรียนหนังสือมาโดยตลอด ภายหลังพบโดยบังเอิญว่า เธอมีพรสวรรค์ด้านการแข่งรถอย่างมาก จึงดึงตัวเธอเข้า มาในกลุ่มมังกร

สาวน้อยที่เพิ่งจะ18-19 ปี ยังเรียนไม่จบ มหาวิทยาลัย เพิ่งจะเข้ามาในองค์กรได้แค่สามปี ใครเป็น ดนทําร้ายเธอกันแน่?
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

จิ่งหนิงก์ หน้าอึมครีมลง

หลัมเทียนส่ายหน้า

“โดนคนลอบฆ่า พบศพในแม่น้ำ ยังจับตัวฆาตกร

ไม่ได้

“พวกนายผิดใจใครเข้าแล้ว?”

หลินเหียนยิ้มเยาะ

“คนที่ผิดใจกับพวกฉันเยอะแยะ หลายปีนี้ก็ไม่เห็น มีใครกล้ายื่นขาที่มีกรงเล็บเข้ามาบนหัวพวกฉันนะ”

จิ่งหนิงเงียบขรึม

หลินเทียนพูดถูก

แม้ตอนนี้กลุ่มมังกรมีแนวโน้มที่จะขัดแย้งแตกแยก กันภายในองค์กร แต่สำหรับภายนอกยังคงสมานฉันท์กัน มาก การพัฒนาในหลายปีมานี้ อำนาจอันยิ่งใหญ่หยั่งราก ฝังล็ก น้อยคนนักที่จะกล้าผิดใจพวกเขา

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง……… กร

“เอาเถอะ ฉันก็แค่บอกเธอเท่านั้น เป็นลูกศิษย์ของ ฉันไม่ใช่ของเธอสักหน่อย เธอไม่ต้องทําท่าทางเจ็บปวด อย่างนั้นออกมาหรอก”

หลินเหียนลูบผมของเธอ ท่าทางไม่ใส่ใจ

จิ่งหนิงถลึงตาใส่เขา

แต่ในใจก็รู้ ตนเองออกมาสองปีแล้ว ตอนนี้เกิด เรื่องเกรงว่าตนเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้

ครั้นแล้วก็ไม่ได้พูดหัวข้อนี้ต่อไป เปลี่ยนเรื่องถาม ข็น: “งั้นนายก็บอกมา ที่มาหาฉันต้องการอะไรกันแน่?” หลินเทียนเลิกคิ้ว สีหน้าท่าทางไม่เคารพนอบน้อมยิ้มแล้วพูดขึ้น: “แน่นอนว่ามาสนับสนุนกิจการของเธอน่ะ

“หมายความว่าไง?”

“เฮอะ เธอทิ้งรถมาแต่งงานนี่ ในฐานะที่ฉันเป็น เพื่อนที่ดี จะไม่สนับสนุนได้ยังไง? พอดีกับ ช่วงนี้ฉัน วางแผนว่าจะกลับมาพัฒนาในประเทศ ขี้เกียจไปอยู่ที่อื่น แล้ว เธอก็รับฉันไว้ดูแลสิ!”

จังหนิงมองเขาอย่างระแวง

“อย่างนี้เหรอ?”

หลินเหียนยิ้มสบายๆ “แม้ฉันจะรู้ว่า ตอนนี้เธอ กลายเป็นผู้หญิงของลู่วิ่งเซ็นแล้ว เกรงว่าสําหรับการ สนับสนุนเพียงเล็กน้อยของฉันนี้ก็ไม่ต้องใส่ใจหรอก แต่ เป็นคนน่ะ! สำคัญที่สุดก็คือไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางหัวใจ ของตนเองได้ ดังนั้นเธอสบายใจเถอะ ฉันไม่ใส่ที่เธอ แต่งงานแล้วหรอก……

ยังไม่ทันพูดจบ ข้อศอกข้างหนึ่งก็โจมตีเข้ามา อย่างรุนแรง

หลินเทียนก็คาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้ว หลบไป ด้านข้าง หลบแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ฃเธอ “เฮอะ หูแดง ทําไม? ล้อเล่นหรอกหน้า!”

จิ่งหนิงหน้าตานิ่งเฉย “นายรู้เรื่องของฉันได้ไง?”

“เธอก็ไม่ได้จงใจปิดบัง อยากรู้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอกเหรอ?”

จิ่งหนึงคิดๆแล้ว ก็ใช่

เธออยู่กับลู่ งเชิม แม้จะไม่ได้ประกาศความ สัมพันธ์ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจปกปิด

ทั้งสองคนก็เข้าร่วมงานด้วยกันหลายครั้งแล้ว คนที่น่าจะรู้ ในใจก็คงรู้ตั้งนานแล้ว

หลินเทียนเส้นสายกว้างขวาง รู้เรื่องก็ไม่น่าแปลก

เธอพูดอย่างเย็นชา: “งั้นก็ดีเลย นายจะได้เก็บ ความคิดสกปรกๆพวกนั้นของนายไปสักที นอกจากเรื่อง งาน เวลาอื่นห้ามรบกวนฉัน”

หลินเทียนยิ้มอย่างแฝงไปด้วยความหมาย “เฮอะ บอกไปแล้วไม่สําเร็จไม่ล้มเลิก แต่งงานแล้วยังไง? ในทาง กลับกันก็ยังหย่าได้มีนา!”

เขาพูดๆอยู่ ก็ทําเจ้าชู้อีกแล้ว จึงโดนจิ่งหนิงจับมือ ไขว้หลังเอาไว้

“ทําตัวดีๆหน่อย!”

หลินเทียนเห็นเธอหน้าตาเคร่งขรึมขึ้นมาจริงๆแล้ว ก็ไม่กล้าทะลึ่งตึงตังอีก เก็บรอยยิ้ม

“ได้ งั้นให้คำตอบฉันหน่อย สรุปจะเซ็นไหม?”

จิ่งหนิงครามเบาๆ

“เซ็น!”

อย่างไรเสียบ่อเงินบ่อทองก็มาหาถึงหน้าประตูแล้ว รับเอาไว้คงดีที่สุด

เธอพูดแล้ว ก็ออกไปเรียกเสี่ยวเหอให้ถือเอกสาร

สัญญาเข้ามา

หลินเทียนเห็นด้านหลังของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้า ก็จางหายไปเล็กน้อย แสงระยิบระยับ มืดมนซับซ้อนใน ดวงตาแสนเจ้าชู้

อย่างรวดเร็วจิ้งหนึ่งก็ถือสัญญาเข้ามา

“ให้ผู้จัดการของนายดู เงื่อนไขจำนวนเงินอะไร ต่างๆ ดูให้ชัดเจนถี่ถ้วน ต่อไปจะได้ไม่มาบอกว่าฉันหลอกลวงนาย

หลินเทียนไม่ได้เรียกผู้จัดการเข้ามา โบกมือทันที เซ็นชื่อไปแล้ว

“ไม่ต้องดูหรอก ก็ตามนี้แหละ! ถ้าเธอยินยอมที่จะ หลอกลวงฉันจริงๆ ฉันดีใจก็คงไม่สาย!”

หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น จิ่งหนิงก็ไม่ได้อยู่ที่ บริษัทนาน

เรื่องหลังจากนี้ส่งให้เสี่ยวเหอและผู้จัดการของ หลินเทียนเป็นคนจัดการ แล้วก็ออกจากบริษัท ตอนที่ออกมา หลินเทียนก็ตามมาด้วย ยิ้มกริ่มแล้ว ถามขึ้น: “ไม่ได้เจอฉันตั้งนาน ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะ

กลับมาจากต่างประเทศ จะไม่มีดินเนอร์ต้อนรับฉันหน่อย

เหรอ? ไม่ชวนฉันกินข้าว ชวนฉันดื่มซาก็ได้นะ!”

จิ่งหนิงดูนาฬิกาข้อมือ สีหน้าเรียบเฉย “ไม่มีเวลา”

“เฮอะ ใจร้ายจริงๆ”

ฝีเท้าของเธอชะงักงัน กลับนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา หันกลับไปมองเขา

“ นายอยู่ที่ไหน?”

หลินเทียมดวงตาเป็นประกาย

“ทําไมเหรอ? เธออยากจะไปบ้านฉัน? ยินดีต้อนรับ พอดีเลยพวกเราจะได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียน แล้วก็คุย นท่ามกลางแสงเทียน.………..

“พอแล้ว นายไม่ต้องพูดกับฉันแล้ว เดี๋ยวฉันไป ถามผู้จัดการนายแล้วกัน! จำไว้นะ อยู่ภายใต้การดูแล ของฉันทําตัวดีๆหน่อย อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน โดยเฉพาะ ข่าวซุบซิบพวกนั้น ทางที่ดีที่สุดอย่าให้ฉันเห็น ไม่งั้นดูแล้ว กันว่าฉันจะจัดการนายยังไง”
หลินเทียนปรากฏสีหน้าเศร้าสร้อย

“เสี่ยวหนิงหนิง เธอก็รู้ ผู้หญิงพวกนั้นเข้ามาเอง อย่างไม่คิดชีวิต แต่ไหนแต่ไรในใจของฉันก็มีแค่เธอคน เดียว เธอต้องเชื่อฉันนะ”

จิ่งหนิงขี้เกียจจะพูดไร้สาระกับเขา หลังจากกำชับ เสร็จ ก็ออกไป

สําหรับหลินเทียนที่กลับมาในประเทศอย่าง กะทันหัน เธอคาดไม่ถึงอย่างมาก

แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อันที่จริงผู้ชายคนนั้นก็ หุนหันพลันแล่นมาโดยตลอดอยู่แล้ว อีกอย่าง สถานการณ์ตอนนี้ ศิลปินกลับมาพัฒนาตนเองในประเทศ ก็เป็นแนวโน้มหนึ่งที่มีมากขึ้น ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกอะไร

หลังจากจิ่งหนังกลับถึงบ้าน ลู่จิ่งเซินก็โทรเข้ามา

อันที่จริงนายท่านลู่ก็อายุมากแล้ว ปีใหม่ครั้งนี้ นอกจากลู่วิ่งเงิน ลูกชายลูกสาวต่างก็พาลูกๆกลับมาอยู่ ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

แต่เดิมก็เป็นการฉลองปีใหม่ที่อบอุ่นสนุกสนาน แต่ คิดไม่ถึงว่าอาการเจ็บป่วยจะเกิดขึ้น โชคดีที่ตอนนี้ สถานการณ์คงที่แล้ว เนื่องจากเป็นโรคเดิม ตอนนี้เป็นไป ไม่ได้ที่จะรักษาให้หายขาด หมอให้เขาออกจากโรง พยาบาลแล้วพักผ่อนให้เต็มที่ ช่วงนี้อย่ากังวลจนเกินไป

จิ่งหนึ่งฟังออกว่าเขามีอะไรอยากจะพูด จึงถามขึ้น “คุณมีอะไรอยากจะพูดกับฉันใช่ไหม?”

“อั้ม” ลู่วิ่งเขินก็ไม่ได้ปฏิเสธ เงียบไปครู่หนึ่ง จึงพูด ขึ้น “หนิงหนิง พวกเราเปิดเผยเถอะ”

จิ่งหน่งตกตะลึงเล็กน้อย

เปิดเผยความสัมพันธ์? กลับเมืองหลวงงั้นเหรอ?
จริงๆแล้ว เธอก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นกังวล

สองคนอยู่ด้วยกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว 4-5เดือนนี้ ลู่ จิ่งเซ็นท่าได้ดีมากเสมอมา

แม้เธอก็ยังบอกไม่ถูกว่าตนเองรู้สึกอย่างไรกับเขา กันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ผิดแน่ๆ นั่นก็คือเธอไม่ปฏิเสธที่จะ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขา

จิ่งหนิงมองต่ำลงเล็กน้อย เม้มปาก

ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้น: “ได้ค่ะ รอให้ฉันจัดการเรื่องของ แม่ให้เรียบร้อย ก็จะกลับไปกับคุณ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ