บทที่ 7 ร่วมมือสำเร็จ
เพราะคำพูดของรพีพงษ์ทำให้ห้องรับแขกในคฤหาสน์เงียบ
ลง
จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะ ทุกคนมองเขาด้วย สายตาเย้ยหยัน
“ไอ้นี่มันโง่จริงหรือแกล้งโง่ หรือมันดูไม่ออกว่าเราเจ ตนาพูดแบบนั้นออกไป มันยังตกปากรับคำ”
“ต้องขอบคุณมันจริงๆ ที่รับจัดการเรื่องที่ไม่มีใครอยาก ทำ น่าขำสิ้นดี อารียาได้สามีที่ดีจริงๆ”
“ฉันคิดว่าในนี้คนที่คิดว่าจะสามารถซื้อตึกนั่นได้ในรา คาห้าล้านคงจะมีแค่มันคนเดียว ไม่รู้จริงๆ ว่าอารียาจะ เกลียดมันแค่ไหน”
“เบาๆ หน่อย อย่าให้คุณปู่ได้ยิน ในเมื่อรพีพงษ์พูดแบบ นั้น ก็ให้มันรับกรรมไปสิ”
ศศินัดดาเป็นคนแรกที่ได้สติ เธอรีบเขาไปคว้าแขนของรพี พงษ์แล้วพูดว่า “แกบ้าไปแล้วหรือไง ใครให้แกตอบตกลง ตามอำเภอใจแบบนั้น คุณปู่ให้เงินแค่ห้าล้าน ที่เหลือแกจะ จ่ายให้หรือไง”
อารียาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะตอบตกลงแทนเธอในช่วงเวลาแบบนี้ เธอรู้ดีว่าเรื่องในวันนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธ
ได้
หญิงสาวหันไปมองรพีพงษ์อย่างสงสัย แล้วแสดงท่าที่เห มือนซักไซ้ รพีพงษ์มีสีหน้าจริงจังแล้วพูดกับเธอว่า “ผมบอก คุณแล้วไงว่าจะไม่ให้คนอื่นมองคุณด้วยสายตาเย็นชาอีก คุณเชื่อผมไหม”
อารียาลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็พยักหน้าให้เขา
“ผมจะช่วยคุณจัดการเรื่องซื้อตึกนั่น คุณแค่ตอบตกลงคุณ ปู่ไป” รพีพงษ์พูดขึ้น
แม้ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน แต่เธอก็รู้สึก ได้ว่าเขาไม่ได้พูดล้อเล่น
อีกอย่างเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว สู้ลองเชื่อใจเขาดูสัก ครั้ง ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า
ศศินัดดาได้ยินที่ทั้งสองคุยกันแล้วรีบจ้องไปที่ลูกสาวทันที
“นี่ลูก อย่าไปโง่ตามมัน จะไปฟังอะไรกับคำพูดของคนไร้ ประโยชน์แบบมัน”
อารียา ไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นแม่ เธอหันกลับไปพู ดกับนภทีป์ “ในเมื่อคุณปู่สั่งมาแล้ว หนูก็จะไปจัดการตามที่ คุณปู่ต้องการ”
เมื่อเห็นว่าอารียาตอบตกลง ธายุกรบชรินทร์ทิพย์ก็อึงไปเล็กน้อย ตระกูลธายุกรคิดว่าแค่นี้คงยังไม่พอ เขากลอก ตาไปมาแล้วพูดขึ้นมาว่า “แค่ตอบตกลงมันไม่ได้หรอก ใครจะไปรู้ว่าเธอจะเอาอนาคตของบริษัทไปทำอะไรเงินห้า ล้านสำหรับบริษัทมันไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ นะ ถ้าเกิดเธอเอา เงินก้อนนี้ไปปู้ยี่ปู๋ยำ มันจะกระทบต่อบริษัทเป็นอย่างมาก”
อารียาขมวดคิ้วแล้วหันไปมองธายุกร จากนั้นก็เอ่ยปาก ถามขึ้นมาว่า “ธายุกร ฉันตกลงกับคุณปู่แล้วว่าจะซื้อตึกนั่น มาให้ได้ นายต้องการอะไรอีกเหรอ”
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไร ฉันแค่ช่วยคุณปู่คิดเท่านั้น ให้เงิน ห้าล้านกับเธอ ถ้าเกิดเห็นเงินแล้วเอาไปใช้เองจะทำยังไงล่ะ อีกอย่างใครจะรับประกันว่าเธอสามารถซื้อตึกนั่นได้จริงๆ ถ้าซื้อไม่ได้ขึ้นมา ไม่เสียเวลาคุณปู่แย่เลยเหรอ” ธายุกรพูด เถียงข้างๆ คูๆ
อารียาโกรธมาก คนที่พูดว่าเธอจะซื้อตึกนั่นมาได้ก็คือ ธายุกร แล้วตอนนี้ยังมากังวลว่าเธอจะไม่สามารถซื้อตึกนั่น มาได้อีก ผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อกำจัดเธอ
“ที่ธายุกังวลก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล แกพูดว่าสามารถซื้อตี กนั่นได้ในราคาห้าล้าน ใครจะรับประกันได้ล่ะ” นภทีป์พูด ขึ้น
“ผมรับประกันได้ว่าเธอจะซื้อตึกนั่นมาได้แน่นอน” รพี พงษ์พูดขึ้นมาอีกครั้ง
ธายุกรแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “แกรับประกันอย่างนั้นเหรอ ใครๆ ก็รู้ว่าแกมันคนไร้ประโยชน์ แกจะมารับประกันอะไร ได้!”
รพีพงษ์ดูไม่โกรธ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณไม่เชื่อ อย่างนั้นมาพนันกันต่อหน้าของคุณปู่เป็นไง”
ธายุกรหัวเราะ รพีพงษ์อย่างกับคนที่ฟ้าส่งลงมาช่วยเขา เขากำลังคิดว่าจะพูดยังไงว่าถ้าอารียาไม่สามารถซื้อตึกนั่น ได้ ให้รีบไล่มันออกไป รพีพงษ์กลับคิดวิธีให้เขาซะอย่างนั้น
“ได้ พนันก็พนันสิ ถ้าเธอไม่สามารถซื้อตึกได้แกกับเธอก็ ใสหัวออกไปจากที่นี่ซะ แล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก!” ธายุกร พูดด้วยสีหน้าดุร้าย
“ได้ แต่ถ้าอารีทำได้ คุณต้องคุกเข่าเพื่อรับผิดที่ทำกับอา รีต่อหน้าของคุณปู่ คุณกล้าพนันไหม” รพีพงษ์ จ้องธายุกร แล้วถามออกไป
ธายุกรไม่เชื่ออยู่แล้วว่าเธอจะสามารถซื้อตึกได้ด้วยเงิน ห้าล้าน ถ้าพนันจริงๆ เขาต้องชนะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึง พูดด้วยความมั่นใจว่า “ฉันมีอะไรต้องกลัว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันตกลง เอาเรื่องนี้เป็นสิ่งประกันก็แล้วกัน ถ้าซื้อตึกไม่ได้ พวกแกก็ไสหัวออกไปซะ!”
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเดินไปยืนข้างอารียา
นภทีป์เห็นว่าเรื่องนี้ตกลงเรียบร้อยแล้ว เขาจึงปิดการประ ชุม แล้วก็ให้เงินห้าล้านกับอารียา เขาให้เวลาเธอห้าวันเพื่อ จัดการเรื่องนี้
หน้าประตูหมู่บ้าน
ศศินัดดาดึงรพีพงษ์เอาไว้ เป็นตายยังไงเธอก็ไม่ยอมให้ เขาเข้าไป
“ไอ้คนไร้ประโยชน์แกทำร้ายครอบครัวของเราอีกแล้ว แกไปพนันอะไรกับมัน ถ้าแคลร์ซื้อตึกไม่ได้ ครอบครัวของ เราก็จะถูกไล่ออกต้องอยู่อย่างอดยาก แกจะให้ครอบครัวเรา ต้องเป็นเหมือนแกหรือไง!”
ระหว่างทางกลับบ้าน ศศินัดดาก็ด่าเขาตลอดทาง มาถึง หน้าประตูบ้านก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไปอีก อารียากับศักดา ช่วยกันดึงศศินัดดา แต่ทว่าเธอกลับเกรี้ยวกราดจะไปตีรพี พงษ์
“แม่ เรื่องวันนี้เป็นเรื่องที่ ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์จงใจ ทำให้มันเกิดขึ้น ถึงรพีพงษ์ไม่พูดเรื่องนี้มันก็ต้องเป็นหนูอยู่ ดี แม่อย่าด่าเขาเลย” อารียาพูดโน้มน้าวผู้เป็นแม่
“พูดเหลวไหลอะไร เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพราะมัน ถ้าไม่ใช่ เพราะมัน ครอบครัวของเราก็ไม่โดนคนดูถูกแบบนี้หรอก แถมยังไม่โดนคนรังแกด้วย วันนี้ฉันจะไม่ยอมให้มันเข้ามา ในบ้าน” ศศินัดดาพูดอย่างขาดสติ
“แม่ ใจเย็นก่อน ที่ผมพนันกับธายุกร ก็เพราะผมเชื่อว่า แคลร์จะซื้อตึกนั่นได้ ถ้าแคลร์สามารถซื้อได้ ธายุกรก็ทำ อะไรพวกเราไม่ได้แล้ว” รพีพงษ์พูดอธิบายให้เธอฟัง
“เชื่อใจแล้วได้อะไร! ตึกสิบล้านใครจะมาขายให้แกห้า ล้าน แกคิดว่าอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์มีจิตใจเมตตาขนาด นั้นเลยหรือ” ศศินัดดาก่นด่า
รพีพงษ์จนปัญญา ไม่รู้จะอธิบายกับเธออย่างไร
“พอเถอะแม่ คนมองเยอะแยะแล้ว หรือแม่อยากให้คนอื่น
รู้” อารียาพูด
ศศินัดดามองไปรอบๆ เธอเห็นว่าคนอื่นกำลังมองอยู่ เธอจึงเริ่มเก็บอาการของตัวเอง
เธอมองรพีพงษ์ด้วยความเคียดแค้น แล้วพูดว่า “แกเหลือ เวลาแค่ห้าวัน ห้าวันนี้ถ้าแคลร์ซื้อตึกไม่ได้ไม่ว่ายังไงพวก
แกสองคนก็ต้องหย่ากัน!”
พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปข้างใน
รพีพงษ์หรี่ตาลง แล้วพูดพึมพำว่า “ไม่ต้องถึงห้าวันหรอก พรุ่งนี้ก็รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันถูกต้องหรือเปล่า”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ