พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 618 นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของคุณเหรอ



บทที่ 618 นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของคุณเหรอ

บ้านตระกูลเชาวกรกุล

นายใหญ่ของตระกูลอย่างสิรวิชญ์กำลังสั่งลูกน้องอย่าง วุ่นวาย เขาให้คนประดับห้องรับแขก ให้ดูหรูหราขึ้น

เมื่อเช้าตอนที่เขาได้ข่าวว่านายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ พร้อมภรรยาจะมาเยี่ยม สิรวิชญ์รู้ถึงกิตติศัพท์ของนายใหญ่แห่ง ตระกูลลัดดาวัลย์ เขาจึงไม่ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ เขารีบเลื่อน งานที่ต้องไปเข้าร่วม และตั้งใจจัดบ้านเพื่อต้อนรับนายใหญ่แห่ง ตระกูลลัดดาวัลย์กับภรรยา

ก่อนหน้านี้ สิรวิชญ์รู้เพียงว่าตระกูลลัดดาวัลย์มีอำนาจมาก พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ในเกียวโต ตระกูลบนเกาะอย่าง พวกเขาไม่สามารถเทียบได้ แต่เขาไม่รู้ว่านายใหญ่ของตระกูล ลัดดาวัลย์คือใคร

ด้วยเหตุนี้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เขาให้คนไปรวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ เมื่อเขาได้รู้ถึงตัว ตนของรพีพงษ์ เขาจึงรู้สึกนับถือรพีพงษ์มาก

“อายุน้อยขนาดนี้ แต่มีประสบการณ์เยอะมาก เส้นสาย มากมาย แผนการแยบยล แถมยังดำรงตำแหน่งนายใหญ่ของ ตระกูลอีก คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ” สิรวิชญ์พูดพิมพ์

นับดูแล้วลูกชายของเขาก็อายุไม่ห่างจากนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์สักเท่าไร เมื่อคิดถึงลูกชายของตัวเองสิรวิชญ์ก็รู้สึกโกรธ ขึ้นมา คนอื่นได้เป็นนายใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนลูกชายของ เขาเอาแต่เจ้าชู้ไปวันๆ

“ไม่เอาไหนจริงๆ” สิรวิชญ์ถอนหายใจ จากนั้นก็เดินเข้าไปหา ลูกน้องแล้วถามว่า “คุณชายล่ะ”

“คุณชายอยู่ที่สวนหลังบ้านครับ เขาเรียกคนต่อสู้ของตระกูล ไปสิบกว่าคน เหมือนจะไปจัดการกับใคร” ลูกน้องคนนั้นตอบ อย่างตรงไปตรงมา

สิรวิชญ์ส่งเสียงที่ออกมา เขาขมวดคิ้วแล้วเดินไปที่สวนหลัง บ้าน วันนี้นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์จะมาเยี่ยมเขายังคิดว่า บริวัตรกับรพีพงษ์อายุใกล้เคียงกัน น่าจะพูดคุยกันได้ ถ้าลูกชาย ของเขาได้เป็นเพื่อนกับรพีพงษ์ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี คิดไม่ถึงว่าไอ้ ลูกชายคนนี้ยังคิดจะออกไปข้างนอกเพื่อคิดบัญชีกับคนอื่น

“ไอ้เด็กเวร ถ้าวันนี้แกกล้าออกไปฉันจะขาแกให้หักเลย!

ภายในสวนหลังบ้าน

บริวัตรยืนอยู่ข้างหน้าชายรูปร่างกำยำสิบกว่าคน เขาพูด อย่างดุดันว่า “ฉันสืบได้แล้วว่าไอ้หมอนั่นมันอยู่ที่ไหน เดี๋ยวพวก แกไปกับฉัน พอเห็นมันก็ลงมือได้เลย ไม่ต้องไปสนใจไยดีมัน การที่มันพักในโรงแรมไม่ได้ น่าจะเพราะไม่ได้มีเงินขนาดนั้น ถึง พวกแกจะจัดการจนมันตาย ฉันก็จะรับผิดชอบแทนพวกแกเอง ได้ยินหรือยัง!”

“ได้ยินแล้วครับ!” ทุกคนตอบกลับอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้นบริวัตรก็กำลังจะพาชายพวกนั้นออกไป ขณะนั้นเองเขา เห็นสิรวิชญ์ยืนอยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าโกรธ

บริวัตรทำอะไรไม่ถูก เขากระแอมออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า “พ่อมาได้ยังไง”

สิรวิชญ์เดินเข้าไปหาบริวัตร แล้วยกขาถีบไปที่ก้นของลูกชาย จากนั้นจึงก่นด่าออกมาว่า “ไอ้เด็กไม่เอาไหน วันๆ ก็เอาแต่จะ ออกไปหาเรื่องคนอื่น แถมยังจะฆ่าเขาให้ตายอีก แกคิดว่าบ้าน เมืองไม่มีข้อไม่มีแปเหรอ!”

“พ่อ การที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะศักดิ์ศรีของตระกูลเรา เมื่อวาน มีคนฉีกหน้าผมที่ลานอ่าวจันทร์ ผมขายหน้ามาก นี่มันไม่เห็น ตระกูลเราอยู่ในสายตาเลย ถ้าไม่สั่งสอนมันสักหน่อย ต่อไปคน อื่นจะดูถูกตระกูลเรานะครับ” บริวัตรรีบพูดอธิบาย

สิรวิชญ์จ้องลูกชายเขม็ง จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่ สนหรอกว่าแกจะขายหน้า อีกเดี๋ยวนายใหญ่ของตระกูลลัดดา วัลย์จะมาที่นี่ แกต้องอยู่ด้วย เขาอายุไล่เลี่ยกับแก ถ้าแก สามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้ มันก็เป็นผลดีกับตระกูลเรา ส่วนคน ที่แกจะไปจัดการก็ค่อยว่ากัน

“ได้ๆ เดี๋ยวอีกพักผมจะออกไปเจอเขา พอใจหรือยัง” บริวัตร พูดตอบรับ

สิรวิชญ์จ้องลูกชายเขม็ง จากนั้นก็หันหลังเดินกลับไปที่ห้อง รับแขก

บริวัตรเห็นสิรวิชญ์เดินเข้าไปก็หันไปหานักสู้พวกนั้น จากนั้นจึงพูดว่า “ไปจัดการไอ้หมอนั่นมันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันรีบกลับ มาก่อนนายใหญ่อะไรนั่นจะมาก็พอแล้ว พวกเรารีบออกไปทาง ประตูหลัง เร็ว!”

คนพวกนั้นรีบเดินตามบริวัตรออกไปทางประตูหลัง

ระหว่างทาง รพีพงษ์กับฝนสุดาเดินไปทางบ้านตระกูลเชาวก รกุล

รพีพงษ์เดินไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ฝนสุดากลับเริงร่า เธอ เดินวนไปวนมารอบตัวของรพีพงษ์อย่างมีความสุข

ราวกับว่าการที่ได้เดินกับรพีพงษ์สองต่อสอง เป็นเรื่องที่มี ความสุขสําหรับเธออย่างไรอย่างนั้น

“รพีพงษ์ อันที่จริงนายแต่งเมียอีกสักสองสามคนก็มีแต่เรื่องดี ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย นอกจากแม่แล้ว พ่อของฉันยังมีผู้หญิงอีก หลายคนเลย ทุกคนต่างก็อยู่ด้วยกันได้ ฉันว่าทั้งชีวิตนายจะผูก ติดอยู่กับคนๆ เดียว ฉันว่าความคิดนี้มันค่อนข้างผูกมัดเกินไป ฝนสุดาพูดพลางเดินพลาง

รพีพงษ์เหนื่อยใจ ตั้งแต่เดินมา ฝนสุดาเอาแต่พูดข้อดีของการ มีเมียหลายคน

ฝนสุดาก็ค่อนข้างจะหมดความอดทนเช่นกัน เธอพบว่าไม่ว่า จะพูดยังไง รพีพงษ์ก็ไม่ยอมห่างจากอารียา ดังนั้นเธอจึงเลือก ทางอื่น โดยการให้รพีพงษ์แต่งงานกับเธอ

ขณะที่ฝนสุดากำลังยึดความคิดที่จะให้รพีพงษ์แต่งเมียหลายคนอยู่นั้น บริวัตรก็พาชายกลุ่มนั้นมาถึงถนนเส้นนี้เหมือนกัน

บริวัตรเห็นฝนสุดาที่ยืนอยู่ข้างรพีพงษ์ จากนั้นเขาก็มองไปยัง รพีพงษ์

“โลกกลมจริงๆ ฉันกำลังจะไปหานายอยู่พอดี ไม่คิดว่านายจะ มาที่นี่” บริวัตรแสยะยิ้ม เขาโบกมือเรียกนักสู้ที่อยู่ข้างหลัง คน

พวกนั้นเข้าไปล้อมฝนสุดากับรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

รพีพงษ์ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอบริวัตรระหว่างทางที่จะไป ตระกูลเชาวกรกุล ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเข้ามาหาตัวเอง

“ไอ้เด็กน้อย พวกเรากำลังจะไปหาแกอยู่พอดี คิดไม่ถึงว่าจะ เจอแกที่นี่ แกโทษความโชคร้ายของตัวเองก็แล้วกันนะ เรื่องเมื่อ คืน แกว่าควรจะสะสางให้จบๆ ไปดีไหม” บริวัตรยิ้มอย่าง ร้ายกาจ

แววตาของรพีพงษ์นิ่งเฉย การที่เขาไปตระกูลชาวกรกุล ก็เพื่อ ที่จะสะสางเรื่องนี้ ขอแค่บริวัตรไม่ไปหาเรื่องครอบครัวของอาใส่ ธรรม จะสะสางเรื่องนี้ด้วยวิธีไหนก็ได้

“ผมกำลังจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อของคุณ คุณแน่ใจแล้วเหรอว่า จะเอาคนมาขวางผมไว้” รพีพงษ์ย้อนถาม

บริวัตรหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

“สมองแกมีปัญหาหรือเปล่า คิดไม่ถึงว่าจะไปคุยเรื่องนี้กับพ่อ ของฉัน ไม่ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง อย่าบอก นะว่าแกจะไปพ่อของฉันเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง”
เมื่อคนพวกนั้นได้ยินคำพูดของบริวัตร ก็พากันหัวเราะออกมา เหมือนกัน

“งั้นคุณจะสะสางเรื่องนี้ยังไง” รพีพงษ์ถามขึ้น

บริวัตรปรายตามองรพีพงษ์ แล้วย้ายสายตาไปมองฝนสุดา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกระหาย

“ง่ายมาก ถ้าแกไม่อยากตาย ก็ให้สาวสวยคนนี้กลับไปกับฉัน ถ้าคืนนี้เธอทำให้ฉันพอใจ ฉันจะปล่อยแกไป ไม่งั้นแกอาจจะ ไม่มีชีวิตรอดออกไปจากเกาะพระจันทร์ บริวัตรแสยะยิ้มแล้วพูด ออกมา

ฝนสุดาได้ยินสิ่งที่บริวัตรพูด ก็รีบพูดออกมาอย่างโมโห “นาย นี่หน้าไม่อายจริงๆ ใครจะทำให้นายพอใจกัน นายกล้าพูดแบบนี้ ต่อหน้าสามีในอนาคตของฉันเหรอ เขาไม่ปล่อยนายไว้แน่

“สามีในอนาคต คุณเป็นคู่หมั้นของเขาเหรอ ถ้าเป็นเช่นนี้มันก็

ยิ่งน่าโมโหสิ” บริวัตรหุบยิ้ม

ถึงแม้ว่ารพีพงษ์จะเหนื่อยใจกับคำพูดของฝนสุดา แต่เขา คร้านที่จะอธิบาย จึงพูดกับบริวัตรว่า “คุณไปเรียกพ่อของคุณ ออกมา แล้วคุกเข่าสำนึกผิดซะ ผมจะปล่อยคุณไป ไม่งั้นเทวดา ที่ไหนก็ช่วยคุณไม่ได้”

บริวัตรมองรพีพงษ์อย่างเย้ยหยัน จากนั้นจึงพูดว่า “เลิกอวด เก่งสักทีเถอะ ตระกูลของฉันใหญ่สุดบนเกาะพระจันทร์ แกเป็น ใคร ฉันอยากทำลายแก มันแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว!!
พูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องของตัวเอง ชายพวกนั้น กระโจนเข้าไปหารพีพงษ์

รพีพงษ์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว รพีพงษ์จัดให้คนละหมัด จน คนที่บริวัตรพามาลงไปนอนกับพื้น จากนั้นจึงเดินมาตรงหน้าบริ วัตร แล้วตบลงไปที่หน้าของบริวัตรจนทำให้เขาล้มลงไปบนพื้น

ลูกน้องในตระกูลเชาวกรกุลที่แอบออกมาดู เมื่อเห็น

เหตุการณ์ก็ตกใจจนรีบวิ่งกลับเข้าไปบอกเรื่องนี้กับสิรวิชญ์

สิรวิชญ์รีบออกมาด้วยความตื่นตระหนก เขาตกใจเมื่อเห็นคน นอนกองอยู่บนพื้น ตอนที่เขาเห็นรพีพงษ์ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยน ไป เขาพูดออกมาอย่างไม่ลังเลว่า “นะ นายใหญ่ของตระกูลลัด ดาวัลย์ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่

รพีพงษ์เหลือบมองสิรวิชญ์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่ คือวิธีต้อนรับแขกของตระกูลคุณเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ