พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 506 ควรมีคนรับผิดชอบ



บทที่ 506 ควรมีคนรับผิดชอบ

ชายหัวล้านมองรพีพงษ์ที่จัดการกับลูกน้องของตัวเองด้วยแวว ตาหวาดกลัว เขาก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

รพีพงษ์โยนตะบองออกไปข้างตัว แล้วหันไปมองชายหัวล้าน

ชายหัวล้านกลืนน้ำลายลงคอ แล้วหันหลังวิ่งทางรถแมคโคร “รีบขับรถไปกับมันเลย ทับไอ้หมอนั่น ให้ตายเลย!

รพีพงษ์พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และกระโดดขึ้นไปบน รถแมคโครหนึ่งในสองคันนั้น เขาใช้มือจับคนขับรถแมคโคร โยนลงมาข้างล่าง

จากนั้นเขาก็ทำเหมือนเดิมกับคนขับรถแมคโครอีกคัน และ เตะไปที่ตัวของชายหัวล้าน จนมันลงไปนอนกองกับพื้นเหมือน

หมา

คนในบริเวณนั้นเห็นรพีพงษ์จัดการคนพวกนั้นด้วยท่าทาง คล่องแคล่ว ก็ถึงกับอ้าปากค้าง

“นะ นี่มันจะเก่งเกินไปแล้ว ไอ้หมอนี่มันเป็นทหารพิเศษหรือ เปล่า ถึงทำให้คนมากมายขนาดนั้นลงไปนอนกองกับพื้น

“ทหารพิเศษจะเก่งเหมือนเขาเหรอ มิน่าล่ะถึงออกหน้าแทนคน พวกนั้น ที่แท้ต่อสู้เป็นนี่เอง”

“ต่อสู้เป็นน่ะก็อีกเรื่อง แต่อีกฝ่ายเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงเชียวนะ ไม่ใช่แค่ต่อสู้เป็นแล้วจะจัดการได้ นะ ตอนนี้คนพวกนั้นถูกเขาจัดการจนลงไปนอนกองกับพื้น นี่ถือ เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ถ้าคนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงมา จัดการเรื่องนี้ ไอ้หมอนั่นซวยแน่”

ชายหัวล้านคลานขึ้นจากพื้น มันมองรพีพงษ์อย่างหวาดกลัว จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว “กะ แกอย่าคิดว่าพวก ฉันได้แล้วเรื่องจะจบ พวกเราจัดการงานให้บริษัท อสังหาริมทรัพย์บันดุง แกมาขวางพวกเรา แกคิดว่าคนในบริษัท อสังหาริมทรัพย์บันดุงจะปล่อยแกไปเหรอ! ฉันจะโทรหาประธาน เขาต้องมีวิธีจัดการแกแน่ แกรอรับความซวยได้เลย!”

พูดจบ ชายหัวล้านก็หยิบมือถือออกมาโทรหาใครบางคน

“ฮัลโหล ประธานณัฐปภัสร์ครับ มีใครไม่รู้โผล่มาจากไหน มัน มาทำร้ายคนของเราและขวางไม่ยอมให้เราซื้อถอน ผมไม่รู้จะทำ ยังไงครับ เลยโทรหาคุณครับ” ชายหัวล้านพูดเหมือนไม่ได้รับ ความยุติธรรม

ชายหัวล้านเพิ่งพูดจบ รพีพงษ์ก็แย่งมือถือมาจากมือของมัน

“แกทําอะไร เอามือถือฉันคืนมานะ! ฉันโทรหาประธานบริษัท อสังหาริมทรัพย์บันดุงเชียวนะเว้ย แกบ้าไปแล้วหรือไง”

ชายหัวล้านตะโกนออกมา

รพีพงษ์จ้องเขาเขม็ง จนมันต้องหุบปากลงทันที
รพีพงษ์เอามือถือแนบหู แล้วพูดว่า “คุณคือณัฐปภัสร์ใช่ไหม”

“นายเป็นใคร” เสียงปลายสายถามขึ้น

“รพีพงษ์”

เสียงปลายสายดูตื่นตระหนก ณัฐปภัสร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น ระรัวว่า “นายใหญ่รพีพงษ์ ทำไมถึงเป็นคุณ เกิดอะไรขึ้นที่นั่น ครับ”

“คุณมาก็รู้เอง ตอนนี้ผมอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็ก ถ้าคุณ อยากให้เรื่องจบในวันนี้ ก็รีบมาซะ ไม่งั้นผมจะไม่ไว้หน้าคุณอีก แล้ว”

“ครับ ครับ คุณรอสักครู่ ผมจะรีบไป” ณัฐปภัสร์รีบพูดขึ้น

รพีพงษ์กดวางสาย แล้วโยนมือถือใส่ชายหัวล้าน จากนั้นก็หัน หลังเดินกลับไปหาผู้หญิงคนนั้น

ชายหัวล้านเอามือถือมาดู เห็นว่าได้วางสายไปแล้ว จึงรีบ ตะโกนใส่รพีพงษ์ “แกคุยอะไรกับประธาน แกพูดอะไรไม่ดีออก ไปหรือเปล่า ไอ้เวรเอ๊ย บ้าไปแล้วหรือไง!

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจชายหัวล้าน เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้ หญิงคนนั้นแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้พอแก้ได้ส่วนหนึ่งแล้ว เดี๋ยว ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงจะมาที่นี่ ผมจะคุยเรื่อง สถานสงเคราะห์เด็กกับเขา ถ้าเขาไม่หาที่อยู่ให้เด็กๆ ก็ห้ามซื้อ ถอนที่นี่เด็ดขาด คุณบอกให้คุณครูพาเด็กเข้าไปก่อน เด็กไม่ควร จะเจอเรื่องแบบนี้”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินที่รพีพงษ์พูด เธอรีบเบิกตาโตแล้วพูด ว่า “ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงจะมาที่นี่เหรอ งั้นเรื่องนี้ ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีกไม่ใช่เหรอ”

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่หรอก ผมให้เขามาจัดการเรื่องนี้ ประธานนั่นไม่กล้าทําอะไรต่อหน้าผมหรอก”

ถึงสิ่งที่ออกมาจากปากรพีพงษ์จะดูเหมือนเป็นคำพูดธรรมดา ทั่วไป แต่มันทำให้หัวใจของหญิงสาวสับสนไปหมด รพีพงษ์บอก ว่าประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงไม่กล้าทำอะไรต่อหน้า เขา ความหมายของรพีพงษ์คือประธานนั่นไม่กล้าทําอะไร บุ่มบ่ามต่อหน้าเขา

บริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงถือว่าเป็นองค์กรที่มีอำนาจมาก ขนาดประธานยังไม่กล้าบุ่มบ่ามต่อหน้ารพีพงษ์ วันรพีพงษ์เป็น ใครกันแน่

จู่ๆ ก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของผู้หญิงคนนั้น เธอนึกได้ ว่าช่วงนี้ตระกูลลัดดาวัลย์กลับมาเป็นที่พูดถึงในเมืองเกียวโตอีก ครั้ง และนายใหญ่ของตระกูลนั้นก็คือรพีพงษ์

“เชื่อผม” รพีพงษ์ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น จากนั้นจึงไปบอกให้ครู พวกนั้นพาเด็กเข้าไปก่อน

ครูพวกนั้นรู้ดีว่าเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะ ช่วยได้ เด็กพวกนี้ยังบริสุทธิ์ การที่เอาพวกเด็กออกมาขัดขวาง ชายหัวล้านก็เป็นเรื่องที่จำใจต้องทำ

หลังจากที่รพีพงษ์กับผู้หญิงคนนั้นช่วยกันพูดคุย ทุกคนช่วยพาเด็กเข้าไปในสงเคราะห์ เหลือเพียงและผู้ หญิงนั้น

“ไอ้หนุ่ม นายออกหน้าอสังหาริมทรัพย์บันดุงไม่ยอมปล่อยเรื่องไปแน่ พวกนั้นจะอะไรนาย นายให้พวกเรารับผิดชอบเถอะ ในแล้ว ฉันไม่มีอะไรต้องแล้ว” ครูหนึ่งนั้นพูดขึ้น

รพีพงษ์ยิ้มแล้วว่า พวกคุณวางใจเถอะ วันปัญหา อะไรหรอก ผมช่วยจัดการเรื่องทั้งหมดเอง

ขณะชายล้านเริ่มแรง คิดว่าเมื่อครูรพีพงษ์อะไรโมโหณัฐปภัสร์ด้วยตัวเอง

ที่นี้รพีพงษ์ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านเพราะมันแกล้งเป็น ไม่กลัวอยู่

ชายหัวล้านได้ยินรพีพงษ์พูด ก็แสยะยิ้มออกมา ไอ้เด็กน้อย แกอย่าฝันไปหน่อยเลย เดี๋ยวถ้าประธานมาถึง พวกรอด แน่

ถึงแม้หญิงสาวนั้นจะพอคาดเดาแต่เธอยังไม่กล้ายืนยัน ดังนั้นเธอจึงไปถามคะ

“รพีพงษ์” รพีพงษ์ยิ้มและพูดตอบ

หญิงสาวถึงกับตกใจ เธอว่าตอนนี้นายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ชื่อว่ารพีพงษ์ และคนที่อยู่ตรงหน้าก็ดูเหมือนจะไม่ได้พูด ล้อเล่น

“ฉะ ฉันชื่อกัญญาวีร์ วันนี้ต้องขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” ผู้ หญิงคนนั้นทำให้ตัวเองดูเป็นปกติ แล้วพูดออกมา

“พวกนั้นจะรื้อถอนอย่างไร้เหตุผล ควรมีคนมารับผิดชอบ” รพี

พงษ์พูด

ผ่านไปไม่นาน รถเบนซ์คันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าประตูสถาน สงเคราะห์เด็ก ชายหัวล้านเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปที่หน้าประตู รถแล้วโค้งตัวเปิดประตูรถ “ประธานณัฐปภัสร์ครับ ในที่สุดคุณก็ มาถึง ไอ้หมอนั่นมันเหิมเกริมมากครับ คุณจัดการมันเลยครับ”

เมื่อทุกคนเห็นว่าประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์บันดุงมาจริงๆ พวกเขาต่างพากันมองรพีพงษ์ด้วยแววตาเห็นใจ

ณัฐปภัสร์เดินลงมาจากรถ เขาเหงื่อไหลเต็มหน้าเหมือนว่าเขา รู้สึกกลัวมาตลอดทาง

หลังจากลงจากรถ ณัฐปภัสร์มองชายหัวล้านที่ยืนโค้งให้เขา ณัฐปภัสร์เตะชายหัวล้านอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง แล้วด่าว่า “แก ก่อเรื่องอะไรให้ฉัน ทำไมไปหาเรื่องท่านนั้น ถ้าวันนี้เกิดเรื่อง อะไรขึ้น ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ