พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่247 หมัดหนึ่งระเบิดเลย



บทที่247 หมัดหนึ่งระเบิดเลย

เมื่อฟังพงษ์ได้ยินคำพูดของจิรโชติ สีหน้าก็มีรอยยิ้ม ปรากฏขึ้น เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองแค่จะออกมาเพื่อผ่อนคลาย กลับถูกมองว่าเป็นเด็กยากจนที่ไล่ตามจีบลูกคุณหนูและถูก สั่งสอน

ความหมายเมื่อกี้ของจิรโชติคือกำลังตักเตือน รพีพงษ์ ถ้า หากเขากล้าคิดอะไรกับอันนา จิรโซติกั็จะสั่งสอนเขาเป็นผู้ เป็นคนด้วยหมัด

แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น แต่กลับถูกคนอื่น บังคับยัดเยียดให้คิดแบบนั้น ในใจรพีพงษ์ก็รู้สึกไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงไม่เกรงใจจิรโชติ ยืนอยู่ตรงหน้าตู้เกมวัด

พลังหมัด

เพราะเมื่อกี้จิรโชติทำลายบันทึกสถิติของเครื่อง บนตัว เครื่องก็มีเสียงดนตรีสนุกสนานออกมา และจากนั้นก็มีเสียงดัง มาจากในตัวเครื่องขนาดใหญ่ : “ทำลายสถิติ! ทำลายสถิติ!”

ผู้คนรอบข้างก็ถูกดึงดูด้วยเสียงนี้เข้ามา หลังจากที่เห็นที่ คะแนนบนเครื่องตู้เกมวัดพลังหมัด สีหน้าก็เต็มไปด้วยแปลก ใจ

ด้วยเครื่องตู้เกมวัดพลังหมัดเช่นนี้ พลังหมัดหนึ่งของคน ทั่วไป มีความแข็งแกร่งเพียงแค่สี่ห้าร้อย ซึ่งคะแนนของจิร โชติเกือบจะถึงเก้าร้อย ก็เพียงพอแสดงให้เห็นถึงพลังของเขา อย่างชัดเจน

“ว้าว สุดยอดจริงๆ สามารถชกได้คะแนนออกมาได้สูง เพียงนี้ หมัดนี้ของเขาถ้าเกิดชกลงบนหัวของฉัน ก็กล้วว่าหัว ของฉันแตก”
“นี่ก็สุดยอดมากจริงๆ กล้าเนื้อที่แข็งแกร่งระเบิดพลัง ออกทำให้ผู้คนที่ คนคนนี้คงไม่ใช่ว่าเป็นนักมวยอาชีพใช่ มั้ย”

เมื่อจิรโชติเห็นผู้คนมากมายมารุมดูชื่นชมใบหน้าของ เขาก็แสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา และกล่าวว่า : “ชมเกิน ไปแล้ว นี่ก็เป็นแค่ระดับความสามารถทั่วไปของผมเอง ถ้า หากอยู่ในสถานะที่ปกติ ถึงเก้าร้อยไม่ใช่ปัญหา”

ผู้คนรอบก็เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้น

“เดี๋ยวให้น้องชายผมลองดู ว่าจะเขาจะสามารถเอาชนะ ผมได้หรือเปล่า”จิรโชติกล่าวเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วย สายตาที่เยาะเย้ย

ผู้คนรอบข้างที่เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้นต่างก็หัวเราะกัน แค่เปรียบเทียบร่างกายของรพีพงษ์และจิรโชติก็รู้สึกแล้วว่า รฟีนงษ์ไม่น่าจะสามารถเอาชนะคะแนนของจิรโชติได้

ที่สำคัญบนตัวของรพีพงษ์ก็มีร่องรอยการบาดเจ็บอยู่ ดัง นั้นใบหน้าของเขาจึงซีดเซียว ทำให้คนรู้สึกว่ามีความอ่อนแอ คนพวกนี้ย่อมรู้สึกว่ารพีพงษ์ไม่สามารถเอานะจิรโชติได้

“ตลกสิ้นดี เขายังอยากจะเอาชนะคะแนนที่สูงขนาดนี้ ของคนอื่นอีก ร่างกายอย่างเขา ก็น่าจะทำได้แค่คะแนนสี่ร้อย กว่า”

“แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าคนคนนี้จะอ่อนแอกว่าฉัน พวก คุณดูใบหน้าของเขาที่ไร้เลือดราวกับว่าจะสามารถเป็นลมได้ ทุกเมื่อ ฉันว่าอย่างเขาสี่ร้อยยังยากเลย”

“ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ถึงอยากจะท้าทายเอาชนะ คะแนนความแข็งแรงของเขาตั้งแปดร้อยกว่า หรือจะทำเพื่อ ความสนุกสนานเหรอ?”
ในเวลานี้อันนาและรชนิชลทั้งสองคนก็เดินเข้ามา ก็เห็น

ว่ารพิพงษ์และจิรโชติกำลังยืนอยู่ที่หน้าตู้เกมวัดพลังหมัด ก็รีบ ฝ่าฟันเข้าไปด้านหน้าฝูงชน พวกเธอทั้งสองคนได้ยินเสียงพูดคุยของผู้คนรอบข้าง กั รู้ทันทีว่าจิรโชติและรฟีพงษ์กำลังแข่งวัดความแข็งแรงของ

หมัด

รชนิชลเบะปากแล้วพูด : “รูปร่างเล็กๆอย่างไอ้หมอนี่ ก็ กล้ามาแข่งวัดความพลังกับหมัดกับจิรโชติ น่าข้าจริงๆ อันนา คนที่ไม่รู้ถึงสถานะตัวเองแบบนี้ ทางที่ดีเธออยู่ห่างๆไว้จะดี กว่านะ

อันนาก็ขมวดคิ้วทันทีแล้วพูด : พี่ รัฐพงษ์ไม่ใช้ผู้ชาย ธรรมดา พี่อย่าไปว่าให้เขาแบบนั้น”

“ฉันว่าเด็กโง่อย่างเธอโดนเขาทำเสน่ห์ใส่แล้ว ตอนนี้ ทำไมถึงได้ปกป้องพูดแทนเขา ฉันบอกว่าเธอชอบเขา เธอยัง ไม่ยอมรับอีก”รชนิชลกล่าว

ในตอนนี้จิรโชติเดินมาถึงที่พวกเขาสองคนบนใบหน้าก็ แสดงรอยยิ้มออกมาอย่างมีชัย แล้วพูด : “ไอ้หมอนี่อยากจะ ท้าทายพลังของหมัดฉัน ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีว่าเขามีความ กล้าหาญมากหรือว่าเขาบ้าบิ่นถึงจะถูก”

“อันนา ผ่านเรื่องนี้ไป เธอก็น่าจะมองมาตรฐานของไอ้ หมอนี่ออกนะ เขาก็เป็นแค่ผู้ชายอ่อนแอคนหนึ่ง รูปร่าง หน้าตาก็ไม่ค่อยหล่อ แล้วยังชอบทำอะไรที่เกินความสามารถ ที่ตัวเองจะทำได้อีก คนแบบนี้มีอะไรดี ฉันเตือนเธอไว้ก่อนเลย นะทางที่ดีน่าจะตัดเขาออกไปสัก จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”

ในเวลานี้รพีพงษ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตู้เกมวัดพลังหมัดก็ยก กำปั้นตัวเองขึ้น จากนั้นชกลงไปที่ตัวเครื่องหนึ่งหมัด และทันใดนั้น ตัวเลขบนตู้เกมวัดพลังหมัดก็เพิ่มขึ้นเป็นเก้าร้อยเก้า สิบเก้าคะแนน

มันไม่สามารถจะเพิ่มขึ้นไปได้อีกต่อไป เนื่องจากมันเป็น จำนวนตัวที่สูงมากที่สุด

หลังจากนั้นพลังทั้งหมดก็ทำให้มันส่งเสียงดัง ราวกับว่า เป็นเพราะพลังหนึ่งหมัดของรพีพงษ์ที่มากเกินไป ทำให้เครื่อง ทำงานผิดปกติ

ผู้คนก็นิ่งอึ้งตะลึง คิดไม่ถึงว่าพลังหมัดของรพีพงษ์จะ มากมายขนาดนี้ ถึงขนาดที่ตู้เกมวัดพลังหมัดไม่สามารถ ตรวจจับคะแนนได้

ผู้คนที่หัวเราะเยาะรพิพงษ์เมื่อกี้ตะลึงจนอ้าปากค้าง เห็น ได้ชัดว่าคำพูดเมื่อกี้ของพวกเขากลายเป็นมาตบหน้าตัวพวก เขาเองอย่างสมบูรณ์

“นี่…นี่ก็่สุดยอดเกินไปแล้ว หมัดเดียวก็ทำให้ตู้เกมวัด พลังหมัดนั้นผิดปกติได้ พลังหนึ่งหมัดนี้ของเขา จะทรงพลัง ขนาดไหน?”

“มันน่าอายจริงๆ ดูท่าทางของเขาแล้ว ยังคิดว่าเขาไม่น่า จะมีพลังมากมาย คิดไม่ถึงว่าจะยอดเยี่ยมขนาดนี้”

“เดิมทีนีกว่าเป็นทองสัมฤทธิ์ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นราชา”

จิรโชติมองไปที่ตู้เกมวัดพลังหมัด สีหน้าเต็มไปด้วยความ ตกใจ เมื่อกี้เขายังว่าให้รพีพงษ์ทำในสิ่งที่เก็นความสามารถที่ ตัวเองทำได้แต่กลับบอกว่าทำได้ ใครคิดไปล่ะว่าตอนนี้กลับ กลายเป็นตบหน้าของเขาตัวเอง

รชนิชลเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย จากนั้นก็กลายเป็นโกรธ หล่อนไม่สามารถยอมได้ว่ารพีพงษ์เก่งกว่าจิรโชติ แบบนี้ทำให้หล่อนขายหน้ามาก

ใบหน้าของอันนาเต็มไปความตกใจ จากนั้นก็หันไปมอง จิรโชติ ยิ้มแล้วพูดะ “รพีพงษ์อ่อนแอตรงไหน เขาแข็งแกร่ง มากขนาดนี้ แค่หมัดเดียวก็ซกจนทำให้ตู้เกมวัดพลังหมัด ระเบิด แบบนี้ยังไม่ได้อีกเหรอ”

สีหน้าของจริงโซติเต็มไปด้วยอึดอัดไม่รู้ว่าจะโต้แย้ง กลับอันนายังไง

“ที แค่นี้เองไม่เห็นมีอะไร นีคงจะเป็นเพราะเขามาจาก หมู่บ้านบนดอย อยู่ที่บ้านทำงานฝึกฝนออกมา ไม่เห็นมือะไร น่าแปลกตรงไหน อันนา เธออย่าเป็นเพราะจุดเด่นนี้ของเขา ก็ ถูกเขาทำให้หลงใหลได้ “รชนิชลกล่าว

อันนาเบะปากแล้วมองไปที่รชนิชล เห็นได้ชัดว่าไม่เห็น ด้วยกับคำพูดของรชนิชล ในความคิดของเธอแล้ว รพีพงษ์ก็ คือมีพลังมาก

ในเวลาเดียวกัน ข้างนอกโซนเครื่องเล่นเกม ก้องภาพ และชรินทร์ทิพย์ทั้งสองคนก็มาถึงที่นี่ มาถึงที่นี่พร้อมกับพวก เขา ก็ยังมีอีกหนึ่งคนที่มีใบหน้าที่น่ากลัว รอยสักหมาป่าที่ หิวโหยอยู่บนแขนของชายคนนั้น

คนคนนี้ก็คือทัศน์พล คนบ้าที่รู้จักกันดีในอำเภอโซชิง และเป็นลูกน้องมือหนึ่งของประพุทธ์ ทั้งในอำเภอโซชิง คน ที่สามารถจัดการกับทัศน์พลได้ ก็มีเพียงประดิพุทธิ์

เพราะการทำงานภายใต้อยู่ในมือของประดิพุทธิ์ ทัศน์ พลและก้องภพมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ครั้งนี้ก้องภพบอกกับ ทัศน์ว่าอยากให้เขามาช่วยจัดการไอ้เศษสวะที่มาจากที่อื่น ทัศน์พลตอบตกลงทันทีโดยไม่คิดอะไร

“พี่ทัด เรื่องครั้งนี้ก็รบกวนพี่ด้วยนะ หลังจากที่จัดการ เรื่องนี้เสร็จ พวกเราจะขอบคุณพี่ทัดอีกครั้งแน่นอน” ชรินทร์ทิพย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเล็ก ก็แค่เศษสวะที่มาจากถิ่นนอกเอง เพียงแค่กำจัดมันไม่มีอะไรต้องกังวล มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อะไร ทัศน์พลกล่าว

พี่ทัดพูดถูก ไอ้เศษสวะนั้นอยู่ในพื้นที่นี้ของพวกเราก็ มีชื่อเสียงที่เสียหายเลื่องลือมานาน ที่สำคัญก็ไม่มีใครมา สนใจหรอก ต่อให้เขาตายที่นอกถิ่น เกรงว่าแม้แต่คนตามหา

มันยังไม่มีเลย ชรินทร์ทิพย์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเช้านี้พวกเขาก็ค้นพบตำแหน่งของรพิพงษ์ ก็เลย ติดตามเขามาที่พลาซ่า จากนั้นก็ตั้งใจจัดเตรียมคนให้ตามเขา ไปที่โซนเครื่องเล่นเกม ทัศน์พลได้จัดเตรียมลูกน้องไว้แล้ว เพียงแค่รอให้มีโอกาสเท่านั้น ก็สามารถลงมือกับรพีพงษ์ได้

ตอนที่ทั้งสามคนมาถึงที่โซนเครื่องเล่นเกม ก็มีชายคน หนึ่งวิ่งออกมาจากด้านในจากนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าทัศน์พล แล้วพูด: “ลูกพี่ พวกเขากำลังเล่นเครื่องเล่นตู้เกมวัดพลังหมัด อยู่ด้านใน แต่ดูเหมือนว่าเครื่องตู้เกมวัดพลังหมัดจะขัดข้อง”

“ไม่ต้องไปสนใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร ตอนนี้แกคิดวิธี ที่จะพาไอ้หมอนั้นไปที่ห้องสำนักงานด้านในร้านเกม คนพวก นั้นที่มันเจอวันนี้ไปด้วยกันก็ไม่เป็นไร พวกเราจะจัดการไอ้ หมอนั้นในห้องสำนักงาน”ทัศน์พลกล่าว

ชายคนนั้นรีบพยักหน้า แล้วก็หันกลับไปด้านในโซน เครื่องเล่นเกม

ทัศน์พลหันหน้าไปมองก้องภพและชรินทร์ทิพย์ แล้วพูด: “ตามฉันมา เดี๋ยวก็มีอะไรสนุกๆให้ดู”

ก้องภพและชรินทร์ทิพย์ต่างมองหน้าสบตากัน พวกเขารู้ ว่าแค่ทัศน์พลลงมือเอง วันนี้รพีพงษ์หนีไม่รอดแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ