พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่621 อนันยชผู้ยิ่งใหญ่



บทที่621 อนันยชผู้ยิ่งใหญ่

“หึห กลัวว่าแกจะไม่มีความอดกลั้นน่ะสิ! “รพีพงษ์แค่นเสียง ออ ราบารมีในตัวระเบิดออกมา และปล่อยพลังในตัวออกมาเต็มที่

เขาสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายของอนันยชได้ ในตอนที่ขึ้น มา เขาสำรวจรอบๆตัว ยืนยันว่าที่หน้าผา มีเพียงพวกเขาแค่สาม คนเท่านั้น นี่ก็บ่งบอกได้ถึงความมั่นใจที่ฝ่ายตรงข้ามมีต่อ ศักยภาพในตนเอง

ดังนั้นครั้งนี้รพีพงษ์จึงไม่คิดที่จะออมมือ คิดอยากจะถล่มสอง คนนี้ที่มาจากหน้าผาให้แพ้ ราบคาบไป จะได้ไปพบกับอารียา เร็วๆ

อนันยชสัมผัสได้ถึงออร่าที่รพีพงษ์เปล่งออกมา คิ้วของเขา กระตุกขึ้น ขึ้นไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมีพลังมากมายเช่นนี้

“ดูท่าแกไม่กระจอกอย่างที่ฉันคิดเลย เดิมทีฉันคิดว่าเป็น กลยุทธ์ที่เอาไว้จัดการคนห่วยๆซะอีก บางทีแกอาจจะทำให้ฉัน เซอร์ไพรส์ก็ได้”

อนันยชหัวเราะแล้วพูดขึ้น จากนั้นจึงพุ่งไปทางอนันยชอย่าง รวดเร็ว

อีกคนหนึ่งยืนดูอยู่เงียบๆ โดยไม่ได้คิดจะลงมือ

รพีพงษ์ไม่รอช้า หลังจากที่ดูหมัดอนันยชจนซองแล้ว ก็ ปล่อยหมัดของตัวเองออกไปบ้าง เขาพุ่งหมดไปที่หน้าของอน
อนันย หรี่ตาลง ยื่นมือออกไปกันหมัดของรพีพงษ์เอาไว้ พลัง

มหาศาลถูกปล่อยออกมา อนันยชต้องก้าวถอยหลัง แล้วหักหมัด

ของรพีพงษ์ลง แววตาของทั้งคู่ตกตะลึงพอกัน สิ่งที่รพีพงษ์ตกตะลึงคือ อนันย รับหมัดเขาไว้ได้ สิ่งที่อนันยซตกตะลึงคือ พลังหมัดของรพีพงษ์

มหาศาลขนาดนี้ มากเกินกว่าที่เขานึกไว้เสียอีก

“คิดไม่ถึงว่าแค่พลังกายเนื้อ แกก็สามารถปล่อยออกมาได้ มหาศาลขนาดนี้ คนที่ฉันเคยสัมผัสพบเห็นมาตลอดชีวิต สามารถปล่อยพลังกายเนื้อออกมาได้ขนาดนี้ มีแกคนเดียว” อนันยชพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

รพีพงษ์ย่อมรู้ถึงพลังมหาศาลในตนเองอย่างแน่นอน ในปีนั้น อาจารย์ของเขาตั้งใจสกัดยาชนิดหนึ่งมาจากเห็ด เพื่อที่จะให้ เขามีพละกำลังเหนือมนุษย์

และเพราะพลังมหาศาลนี่เอง รพีพงษ์จึงประสบความสำเร็จ แบบก้าวกระโดด

เมื่อเห็นท่าทีของอนันยช ที่ดูจะประหลาดใจ ทำให้เขาไม่ เข้าใจอย่างมาก เขาไม่คิดว่า ในโลกนี้จะมีคนที่มีพละกำลัง แบบนี้อยู่ด้วย

“คนที่ต้านทานหมัดฉันได้ ก็มีแกคนเดียวเหมือนกัน แต่แค่ ไม่รู้ว่าจะรับได้อีกสักกี่หมัด ที่แกจะรับไหว! ”
รพีพงษ์ไม่เสียเวลา แล้วรีบปล่อยอีกหมัดไปทางอนันยชทันที

อนันยชเยาะเย้ยที่มุมปาก ขยับตัวตามจังหวะ แล้วต่อสู้พัลวัน เข้ากับรพีพงษ์

รพีพงษ์ปล่อยพลังทั้งหมดออกไป เป็นพลังที่คนทั่วไปไม่อาจ รับได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นดัมพ์รงค์ เกรงว่าคงจะโดนรพีพงษ์ซ้อมจน บาดเจ็บหนัก

ส่วนอนันยชก็คอยรับกระบวนท่าของรพีพงษ์ทุกกระบวนท่า แม้ว่ารพีพงษ์จะสัมผัสได้ว่า อนันยชมีอาการอ่อนล้าไปบ้าง แต่ ว่าพละกำลังที่เขามีก็ยังคงเป็นที่ตื่นตาของรพีพงษ์

รพีพงษ์อาศัยยาสมุนไพรที่อาจารย์จัดให้กับความมหัศจรรย์ ของเห็ดถึงได้มีพละกำลังมากมายมหาศาลขนาดนี้ แล้วอนันย ซเล่าจะไปมีพละกำลังมากมายมหาศาลขนาดนั้นได้อย่างไร

หลังจากที่แลกหมัดกันไปสักสิบกระบวนท่า รพีพงษ์จึงฉวย

โอกาส กัดฟันกรอด ปล่อย หมัดที่หนักที่สุดไปที่อนันยช

ครั้งนี้อนันยชต้านทานพลังหมดของรพีพงษ์ไว้ไม่ไหว ถึงก้าว ถอยหลังไปเจ็ดแปดเมตร แล้วฝันหยุดลง จากนั้นก็กระอักเลือด ออกมา

“แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”รพีพงษ์มองไปที่อนันยชผู้ที่กำลัง กระอักเลือด พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา

อนันยชเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก หากแต่ใบหน้ากระหยิ่มยิ้ม ย่อง”คิดไม่ถึงนะ คนที่อาศัยเพียงแค่พลังจากกายเนื้อ จะมีศักยภาพสูงได้ถึงเพียงนี้ ถ้าอาจารย์มาเห็นเข้า คงจะตกตะลึงไม่ น้อยสินะ”

“ฉันใช้กำลังภายในรักษากายภายนอก ขึ้นใช้แต่กำลังกาย เนื้อต่อสู้กับเจ้าน แถมยังโดนซัดซะกระอักเลือดอีก ศักยภาพของ เขา เกรงว่าในโลกภายนอก น่าจะสูงที่สุดแล้วล่ะ

“ช่างเถอะ วันนี้มาฆ่ามัน ต่อให้สงสัยว่ามันฝึกกายเนื้อของมัน

ยังไง ก็จะปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้”

รพีพงษ์ไม่รู้ว่าอนันยกำลังบ่นพึมพำอะไร จึงขมวดคิ้วแล้ว เปิดปากขึ้น แกก็ให้ผู้ช่วยแกลงมือช่วยแก ต่อให้พวกแกมา พร้อมกันสองคน ฉันก็ยังคงรับมือเหมือนเดิม”

“ยังไม่ต้องถึงขั้นนั้น พ่อหนุ่ม ต่อให้พลังกายเนื้อของแกจะแก่ กล้าสักแค่ไหน มันก็ต้องมีจำกัด แล้วฉันจะเป็นคนทำให้แกแพ้ อย่างราบคาบเอง

อนันยชพูดขึ้นมาค่หนึ่ง จากนั้นวิธีการหายใจของเขาก็ เปลี่ยนไป พลังในตัวก็พลอยเปลี่ยนไปด้วย รพีพงษ์สัมผัสได้ถึง อันตราย

จากนั้นรพีพงษ์จึงเห็นเงาร่างของอนันยช ในชั่วพริบตานั้นเอง ก็พุ่งเข้ามาตรงหน้าเขา แล้ว

ม่านตารพีพงษ์หรี่หดลง รีบยกมือขึ้นรับหมัดของอนันยช เพียงแต่ในเวลานี้หมัดนั้นได้พุ่งเข้าปะทะที่อกของรพีพงษ์แล้ว

พลังที่รพีพงษ์คิดไม่ถึงระเบิดออก พุ่งเข้าใส่หน้าอกรพีพงษ์วินาทีถัดไป ร่างกายของรพีพงษ์ก็กระเด็นกระดอนออกไป แล้ว กลิ้งลงบนพื้น จากนั้นจึงหยุดลง

รพีพงษ์กัดฟันปืนขึ้น เขามองอนันยชอย่างเหลือเชื่อ เมื่อครู่ รพีพงษ์สัมผัสได้ถึงการคุกคามของความตาย ถ้าไม่ใช่เพราะ ร่างกายตัวเองนั้นแข็งแกร่ง หมัดของอนันยชเมื่อครู่ เกรงว่า คงจะเอาชีวิตเขาไปแล้ว

“ศักยภาพของแก ทำไมถึงได้ไม่เหมือนเดิม หมัดของแกเมื่อ ครูปล่อยพลังแปลกๆออกมา แข็งแกร่งยิ่งนัก มันคือพลังอะไร รพีพงษ์อดกลั้นต่อความเจ็บปวดถามขึ้น

อนันยชยิ้มแล้วแกว่งหมัด พูดขึ้นก่อนหน้าฉันไม่ได้ล้อแกเล่น ตอนนี้ฉันแสดงพลังออกมา นี่แหละคือพลังที่แท้จริงของฉัน

“พลังที่ฉันใช้เมื่อกี้นี้ คนที่ใกล้จะตายอย่างแก จะรู้ไปทำไม”

พูดจบ อนันยชจึงพุ่งไปทางรพีพงษ์

เป็นครั้งแรกที่รพีพงษ์รู้สึกหมดเรี่ยวแรง พลังที่อนันยช แสดงออกมาเมื่อครู่ มันเหนือความคาดหมายของเขาเสียเหลือ เกิน พลังที่เขาเคยลำพองในตนเองหนักหนา กลับดูไม่เป็นท่า อะไรเลยต่อหน้าอนันยา ทำให้เขารู้สึกล้มเหลวอยู่ลึกๆ

“อยากจะฆ่าฉัน ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!”

รพีพงษ์คำรามแล้วพุ่งเข้าหาอนันยชอีกครา เขากำลังคิดหาวิธี

เอาชีวิตรอด

อนันยชยิ้มอย่างสนุก ในตอนที่รพีพงษ์พุ่งเข้ามานั้น เขาได้ขยับตัว

เสียงพลักดังขึ้น

หมัดของอนันยชนเขาที่ท้องรพีพงษ์เต็มๆ รพีพงษ์กระอัก เลือดออกมา ตัวพับตัวอ่อนลงตรงหน้าอนันยช และกำลังจะล้ม ลงบนพื้น

อนันย คว้าคอเสื้อของรพีพงษ์เอาไว้ไม่ต่างอะไรกับหัวปลา ตายตัวหนึ่ง แววตาเขาเต็มไปด้วยความดูแคลน

“ไอ้สวะ ยังไงซะก็เป็นสวะอยู่วันยังค่ำ แกเป็นแบบนี้ หลาน อย่างแกก็เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น มิน่าล่ะในปีนั้นของแกถึง โดนขับไล่ออกจากตระกูลนิธิวรสกุล แต่ก็ยังเหลือสายเลือดสวะ อย่างแกอีกนะ กลัวว่าตระกูลนิธิวรสกุลจะโดนพวกแกทำฉิบหาย หมด”อนันยช แค่นยิ้ม

“บ้าเอ๊ย! “รพีพงษ์รู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว กัดฟันแล้วตะโกน ออกมา

อนันยชแค่นเสียงเย็นชา พูดขึ้น ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกอีก ครั้ง ยอมรับออกมาซะว่าแกเป็นแค่สวะ ส่วนแกแค่หมาตัวนึง ยังเทียบไม่ได้ ฉันจะได้ให้แกตายอย่างสบายหน่อย ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้แกได้ตายอย่างทรมาน

รพีพงษ์สองตาแดงก่ำจ้องอนันยชเขม็ง จากนั้นจึงพยายามใช้ พละกำลังเฮือกสุดท้าย เค้นออกมาที่ละค่

“แก! ฝันไป! เถอะ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ