พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่796 ความแค้น



บทที่796 ความแค้น

รพีพงษ์ผลักประตูห้องออก เดินเข้าไปด้านใน เห็นอาจารย์กำลัง นั่งอยู่บนเตียง หลับตา หน้าอกพองโต ราวกับกำลังกำหนดวิชา หายใจออก

เขาไม่ขัดจังหวะอาจารย์ หลังจากเดินเข้าไปแล้ว ก็นั่งลงบน เก้าอี้ในห้อง รอจนกระทั่งอาจารย์กำหนดวิชาหายใจออกจน เสร็จ

“หายดีแล้ว?”

รพีพงษ์พยักหน้า

“แกสามารถใช้พลัง ต่อต้านห้าตระกูลได้ แล้วยังฆ่านายใหญ่ ของพวกมันอีกสองคน ที่ทำให้ฉันตะลึง ศิษย์ของฉัน แกพูดที่ หนึ่ง ไม่มีใครกล้าพูดที่สอง” อาจารย์กล่าว

รพีพงษ์รีบถ่อมตน “อาจารย์ก็พูดเกินไป นี่เป็นเพราะอาจารย์ สอนมาดี ถ้าไม่มีอาจารย์สอน ผมไม่มีทางต่อต้านตระกูลใหญ่ พวกนั้นได้หรอก”

อาจารย์ยิ้มขึ้นมา กล่าว “แม้ฉันจะสอนแกนิดหน่อย แต่สิ่งที่ ฉันสอน ไม่พอที่จะให้แกต่อกรกับห้าตระกูลได้หรอก ดูๆแล้วหลัง จากที่แกได้กลับมาจากเขาแล้วนั้น น่าจะเจอกับอะไรบางอย่าง เข้าถึงได้มีฝีมืออย่างในวันนี้

รพีพงษ์ไม่ปิดบัง ได้เล่าเรื่องของพลังวิเศษเสนและวิธีการปฏิบัติให้กับอาจารย์ฟัง

แม้นี่จะเป็นไพ่ใบสุดท้ายและความลับของรพีพงษ์ในตอนนี้ แต่ต่อหน้าอาจารย์ รพีพงษ์สามารถที่จะพูดออกมาได้อย่างไม่ ลังเล เพราะรพีพงษ์มีความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์อย่างที่สุด

และรพีพงษ์รู้สึกว่าถึงแม้ตอนนี้ตัวเองจะเป็นเนยจึงขั้นกลาง พลังวิเศษเสน แม้จะเป็นปรมาจารย์ระดับสูง เขาก็ไม่สนใจ แต่ เมื่อยู่ต่อหน้าอาจารย์ เขาก็ยังคงรู้สึกมองไม่ออกอยู่ดี

ที่มีความรู้สึกแบบนี้ นั่นหมายถึง ฝีมือของอาจารย์ เก่งกาจ กว่าที่รพีพงษ์คิดไว้มาก ดังนั้นรพีพงษ์จึงไม่เป็นกังวลว่าอาจารย์ จะทำอะไรเขาเพียงเพราะพลังวิเศษเสน

หลังจากที่อาจารย์ได้ฟังรพีพงษ์พูดถึงพลังวิเศษเสนและวิธี ปฏิบัติเสร็จแล้วนั้น ก็พยักหน้า ด้วยความสงบ ทำให้รพีพงษ์รู้จัก แปลกใจ

อาจารย์ทราบว่ามีพลังวิเศษเสนและวิธีปฏิบัตินี้มานานแล้ว

หรอ?

ความเป็นไปได้นี้ก็ยังคงมีอยู่ อาจารย์เดินทางไปรอบโลก ย่อมรู้มากเป็นธรรมดา การที่รู้ว่ามีพลังวิเศษเสนอยู่ด้วยนั้น ไม่ ได้เป็นเรื่องที่แปลกอะไรเลย

เพียงแค่ก่อนหน้าที่รพีพงษ์จะพูดเรื่องพลังวิเศษเสนนั้น ได้คิด ไว้แล้วว่าอาจารย์จะมีท่าทีอย่างไร ตอนนี้เห็นท่าทีของอาจารย์ สงบนิ่ง ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าคาดเดาไม่ถูก
“ไม่แปลกที่แกสามารถท้าทายกับนายใหญ่สี่ตระกูลใหญ่ได้ ตามลำพัง ที่แท้ก็ฝึกฝนพลังวิเศษเสน แล้วยังได้วิธีปฏิบัติมาโดย บังเอิญอีกด้วย ดูๆไปโชคของแก ช่างดีมากจริง” อาจารย์ยิ้ม พลางกล่าว

“อาจารย์ทราบพลังวิเศษเสน?” รพีพงษ์ถาม

อาจารย์พยักหน้า กล่าว “รู้แน่นอน ไม่ใช่แค่รู้นะ เรื่องที่ฉัน กำลังค้นหาอยู่ในช่วงหลายปีมานี้ ก็เกี่ยวกับพลังวิเศษเสน

รพีพงษ์ชะงัก ไม่คาดคิดว่าอาจารย์จะกำลังหาพลังวิเศษเสน มาโดยตลอด การที่ตัวเองเอาเรื่องพลังวิเศษเส้นบอกกับอาจารย์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พลังวิเศษเสน มีความน่าหลงใหลอย่างมาก บางทีอาจารย์น่าจะรู้

“ไม่พูดเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ แกน่าจะสงสัย อย่างมากว่าทำไมตระกูลใหญ่ทั้งหกและหลายๆคนของศิลปะ การต่อสู้โบราณล้วนมองฉันเป็นศัตรู?” อาจารย์เปลี่ยนเรื่อง

รพีพงษ์พยักหน้า กล่าว “ใช่ ที่หกตระกูลใหญ่มาหาผมถึงที่ เป็นเพราะรู้ว่าผมเป็นศิษย์ของอาจารย์ จากที่พวกมันพูด คือตอน นั้นอาจารย์ทําเรื่องไม่ดีกับพวกมันเอาไว้มาก ฆ่าคนของพวกมัน มากมาย บอกว่าอาจารย์เป็นศัตรูคนเดียวกันของพวกมัน

อาจารย์ยิ้มขึ้นมา กล่าว “ดูๆไปฉันจำเป็นที่จะต้องอธิบายเรื่อง ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นให้ฟังแล้วล่ะ ไม่งั้น ในความคิดของเธอ เกรง ว่าฉันจะเปลี่ยนเป็นปีศาจที่ฆ่าคนไม่เลือกแล้วล่ะ”

รพีพงษ์ตื่นตัว สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น เขารู้สึกสนใจมาก อยากรู้อาจารย์ล้างแค้นหกตระกูลอย่างไร

“แกน่าจะรับรู้ศิลปะการต่อสู้ที่ได้สอนแก เป็นการรวม จุดเด่นทุกอย่างเข้าด้วยไม่จุดอ่อนกล่าว

ต่อสู้เป็นของแต่สิ่งอาจารย์สอนรพีพงษ์การจุดเด่นทุกแขนง จนกระทั่งปัจจุบัน รพีพงษ์ยังไม่ เห็นสิ่งอาจารย์สอนให้กับตนมีจุดอ่อนตรงไหน

ศิลปะต่อสู้เป็นที่ฉันรวบรวมจากจุดอ่อนของแต่ ล่ะแขนง แก้ไขจุดอ่อน แล้วได้ผลลัพธ์ออกมา และตอนนั้นฉัน ไม่หนังสือของศิลปะการต่อสู้ของแต่ละแขนง เพื่อจุดเด่น ของแต่ละแขนง ฉันมีเรียนรู้จุดเด่นของพวกมันจากการต่อสู้”

“ตระกูลดั้งเดิมของวงการเหล่านั้น ล้วนปิดบังศิลปะการที่ตัวเองอย่างกับสิ่งค่า ไม่เคยป่าวประกาศออกพวกว่า การต่อสู้ของพวกเขา เป็นช่วงสมบูรณ์แบบที่สุด คนไม่คู่ควร

แต่ชีวิตพวกเขาไม่สามารถจะไม่ต่อสู้กับใครได้ ดังนั้น ตอนเหมือนแก เริ่มท้าทายเหล่าตระกูลใหญ่พวกนั้น น่ากลัวเท่าครั้งของแก ของฉันต่อสู้พวกเขาแล้วซ้ำ เล่า แล้วค่อยๆจุดเด่นของพวกเขา นี่ช่วยให้ศิลปะการต่อสู้ ของฉันพัฒนามาก

ตอนฉันค่อนข้างวัยรุ่นเลือดร้อน คิดว่าพวกตระกูลใหญ่นี้มันทะนงตัวเกินไป ศิลปะการต่อสู้ของพวกมันมีอยู่บ้าง แต่ไม่ถึง ขั้นที่มันโอ้อวด ฉันใช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็จับทางศิลปะการต่อสู้ของ พวกมันได้แล้ว ก็ใช้ศิลปะการต่อสู้แบบพวกมัน มาชนะยอดฝีมือ ของพวกมันเอง”

ได้ยินเรื่องนี้ รพีพงษ์ก็ตกใจ สามารถเรียนรู้วิชาศิลปะการ ต่อสู้ของคนอื่นได้อย่างง่ายดาย คำพูดนี้ เกรงว่าจะมีแค่อาจารย์ ของตัวเองกล้าพูดเท่านั้นแหละ

“เพราะพวกเราใช้ศิลปะการต่อสู้ของพวกมันมาชนะคนของ พวกมันเอง ผู้คนของตระกูลใหญ่นี้ล้วนรู้สึกไร้เกียรติ จึงได้ดูถูก ฉันขโมยศิลปะการต่อสู้ของพวกเขามา แล้วยังรวมแต่ละแขนง เข้าด้วยกัน หาว่าฉันดูถูกพวกเขา แล้วก็ช่วยคนพวกนี้ล้อมฆ่า ฉัน”

“เสียดายฝีมือของพวกมันไม่พอ ตอนนั้นฉันค้นพบเนยจึงขั้น กลาง ก็ได้เจอกับหลายๆเรื่องราวกับไม่กลัวพวกมัน จึงได้ ประลองกับพวกมัน เพราะการประลองค่อนข้างรุนแรง คนที่พวก มันตายในมือของฉัน สุดท้ายก็รู้ว่าฆ่าฉันไม่ได้ จึงได้ล้มเลิก แผนการล้อมฆ่าฉันไป

“แต่จากครั้งนั้นเป็นต้นมา เหล่าตระกูลใหญ่ก็มองฉันว่าเป็น หนามยอกอก รู้สึกว่าฉันทำให้พวกมันขายหน้า ดังนั้นจึงอยาก ฆ่าฉัน”

“สุดท้ายพวกมันก็เหมือนยังไม่เข็ด ครั้งนี้ได้ถูกแกสั่งสอนแล้ว อีกครั้ง พวกมันหาเรื่องเองทั้งนั้น”
เมื่อฟังอาจารย์พูดจบ รพีพงษ์ก็รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ไม่ คาดคิดว่าตระกูลใหญ่พวกนี้จะมีความแค้นแบบนี้กับอาจารย์

แม้อาจารย์จะพูดอย่างสงบ แต่สามารถรับรู้ได้ ถึงเหตุการณ์ ในตอนนั้นที่อาจารย์ได้เจอ ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย

“เรื่องราวก็ประมาณนี้ นี่เป็นเรื่องราวเมื่อหลายปีมาแล้ว ศิลปะการต่อสู้ที่ฉันได้คิดค้นไว้ ฉันเห็นว่า มันเริ่มล้าสมัยไปบ้าง แล้ว ไม่คาดคิดว่าตระกูลใหญ่พวกนั้นยังคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่อง นี้อยู่อีก หลายปีมานี้พวกมันหยุดอยู่กับที่น่าจะเป็นเพราะมัวแต่ คิดแต่เรื่องที่ไม่ไร้สาระอยู่” อาจารย์กล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า รู้สึกว่าอาจารย์พูดมีเหตุผล ผู้ที่เรียนศิลปะ การต่อสู้ ควรจะเป็นคนที่ไร้เดียงสาสักหน่อย วันๆเอาแต่เครียด เรื่องเกียรติยศและศักดิ์ศรี มันเสียเวลา

ไม่ใส่ใจเรื่องของหกตระกูลใหญ่นั้นอีกต่อไป รพีพงษ์มองไปที่ อาจารย์ แล้วนึกถึงเรื่องพลังวิเศษเสน

อาจารย์ ในเมื่ออาจารย์รู้เรื่องพลังวิเศษเวน งั้นก็น่าจะรู้ถึง ความแข็งแกร่งของมัน ผมจะบอกวิธีฝึกฝนพลังวิเศษเสน ให้ หวัง ว่าจะมีประโยชน์กับอาจารย์”

อาจารย์ยิ้มอย่างแปลกๆ กล่าว “ไม่จำเป็น พลังวิเศษเสนและ วิธีปฏิบัติ เป็นโอกาสของแก ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่จำเป็นต้องบอก ฉันหรอก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ