พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่811 พี่น้อง



บทที่811 พี่น้อง

ระหว่างทางไปสำนักเทพยาเซียน

รพีพงษ์เดินไปข้างหน้า อุเอสึงิ ฮารุเดินตามอยู่ด้านหลัง อย่างเฉลียวฉลาด รพีพงษ์เดินเร็วหล่อนก็เดินเร็ว รพีพงษ์เดินช้า หล่อนก็เดินช้า ไม่กล้าละเลยแม้แต่น้อย

ในวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ยังมีสิ่งที่เชื่อว่าผู้ชายเหนือ กว่าผู้หญิงอยู่ ในเมื่ออุเอสึงิ ฮารุได้รับปากจะมอบชีวิตของตัว เองให้รพีพงษ์ ถ้าอย่างนั้นหล่อนปฏิบัติต่อรพีพงษ์ ก็ต้องเชื่อฟัง ทําตามทุกอย่าง

ที่สำคัญความเข้าใจในระหว่างทางนี้ อุเอสึงิ ฮารุค้นพบว่าร พงษ์ก็เป็นคนที่รักษาสัญญาเช่นกัน ในระหว่าง รพีพงษ์ไม่มองไป ที่อุเอสึงิ ฮารุแม้แต่แวบเดียว และไม่ได้กลับคำในสิ่งที่ตัวเองเคย พูดไว้ แต่บอกอุเอสึงิ ฮารุกับสิ่งที่ต้องทำหลังจากที่ไปถึงสำนัก เทพยาเซียน

ในโลกที่ผ่านมาของอุเอสึงิ ฮารุ ผู้ชาย เรียกได้ว่ามีความ หมายเหมือนกันกับความเจ้าเล่ห์และพึ่งพาไม่ได้ เนื่องจากตั้งแต่ เล็กจนโต ผู้ชายส่วนใหญ่ที่หล่อนสัมผัสใกล้ชิดมา รวมทั้งพ่อ ของหล่อน ต่างก็เหมือนๆกันหมด

แต่รพีพงษ์ทำให้หล่อนเกิดมุมมองที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับ ผู้ชาย
รพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุตกลงกันว่า ไปถึงสำนักเทพยาเซียน พวกเขาทั้งสองคนแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนที่ตระกูลอุเอสึงส่งมา และไปทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับผู้อาวุโสใหญ่ สำหรับทิศทางที่ ชายในเสื้อคลุมไป รพีพงษ์คิดเรื่องนี้ไว้แล้ว ก็บอกว่าไปเกี่ยว โตเพื่อล้างแค้นให้ชินาธิป

ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

รพีพงษ์รับรู้มาจากอุเอสึงิ ฮารุว่าผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทพ ยาเซียนไม่ทราบว่าคนของตระกูลอุเอสึงที่มาพร้อมกับอุเอสึงิ ฮา รเป็นใคร รู้เพียงว่าเป็นสองคน สิ่งที่ทำให้แผนของ รพีพงษ์มี ความเป็นไปได้

หากครั้งนี้ถูกจับได้ตั้งแต่เริ่มแรก รพีพงษ์ก็จะใช้หมัดพูดคุย เหตุผลกับคนของสํานักเทพยาเซียน เพื่อดูว่าพวกเขาได้รวบรวม ดวงตาและเลือดเนื้อของเด็กหรือเปล่า และชาตินี้จะไม่เล่นละคร ตบตาคนอื่นอีก

อุเอสึงิ ฮารบอกว่าตัวเองมีพี่ชายหลายคน รพีพงษ์ค่อนข้าง คล้ายกับหนึ่งในนั้น ดังนั้นแนะนำให้รพีพงษ์ปลอมเป็นพี่ชาย ของตัวเอง รพีพงษ์รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงตอบตกลง

ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆตามถนนบนภูเขา ถนนบนภูเขาแห่งนี้ เดินไม่ได้ยากมากนัก ดูเหมือนว่าจะตั้งใจเปิดเป็นพิเศษให้ผู้คน เดินทางต่อไป ดูท่าทางจะมีผู้มาเยี่ยมเยือนสำนักเทพยาเซียน จํานวนไม่น้อย

หลังจากที่เดินมาได้ไม่นาน ทั้งสองคนก็เห็นร่างหลายร่างเดินไปด้านหน้าอย่างช้าๆ หนึ่งในนั้นเดินตามปกติ ในขณะที่สี่คนที่ เหลือกำลังยกเสลี่ยง บนเสลี่ยง มีหญิงสาวคนหนึ่ง

รพีพงษ์คาดไม่ถึงจะได้พบกับคนอื่นๆ ในระหว่างทางไปสำนัก เทพยาเซียน ดูท่าทางของกลุ่มคนพวกนี้แล้ว ที่มาน่าจะไม่ ธรรมดา เพียงแค่การกระทำของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเสลี่ยง และปล่อยให้คนอื่นแบกขึ้นไปตามทางภูเขา ก็ไม่ใช่สิ่งที่คน ธรรมดาจะสามารถทําออกมาได้

รพีพงษ์สังเกตดูทั้งสี่คนอย่างรอบคอบ พบว่าทั้งสี่คนนี้มีความ แข็งแกร่งของเน่ยจิ้งชั้นต้น

ผู้ชายที่เดินอยู่ด้านข้าง ก็มีความแข็งแกร่งเป็นเนยจิ้งชั้นต้น เหมือนกัน

หลังจากนั้นไม่นาน รพีพงษ์พวกเขาทั้งสองคนก็เดินเข้ามาใกล้

กับพวกกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า

“พี่ชาย อีกนานแค่ไหนจะถึงสำนักเทพยาเซียน แสงแดดที่นี่ก็ ร้อนมากขนาดนี้ เครื่องสำอางบนหน้าของฉันตากแดดไหม้ เกรียมไปหมดแล้ว”หญิงสาวที่เอนกายอยู่บนเสลี่ยงบ่น

ชายคนนั้นหันหน้ามองไปหญิงสาวแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่ สบอารมณ์ว่า: “เธอก็พอเถอะ ตลอดทางมานี้เธอเดินไม่ถึงหนึ่ง พันก้าว พวกเขาทั้งสี่คนยังไม่มีใครพูดอะไรเลย แต่เธอกลับ เอาแต่บ่นมาตลอดทาง

“เชอะ ฉันจ่ายค่าจ้างให้พวกเขา นี่คืองานของพวกเขา พวก เขามีอะไรต้องบ่น ฉันเป็นหญิงสาวที่บอบบาง ถนนหนทางของภูเขานี้เดินยากลำบากขนาดนี้ เกิดล้มขึ้นมา พ่อของพี่คงจะรู้สึก เป็นทุกข์”หญิงสาวพูดอย่างไม่สนใจ

ชายคนนั้นดูเหมือนจะพูดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป และยังคงเดินไปด้านหน้า “ทุกท่าน พวกคุณก็ไปที่สำนักเทพยาเซียนใช่มั้ย?” หลังจากที่

รพีพงษ์เดินตามไปถึงด้านหลังของคนหลายคน จึงเอ่ยปากถาม

เห็นทั้งสองคนที่ ชายคนนั้นและหญิงสาวรีบหันกลับมา เมื่อเห็นทั้ง ไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นมาตอนไหน ต่างก็ตกใจ

หญิงสาวอุทานอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น “พระเจ้าช่วย พวก นายมาตามหลังพวกเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน พวกนายสี่คนรีบ วางฉันลงมา ไปจับตัวพวกเขาทั้งสองคนที่ไม่รู้จักที่มาไว้

ทั้งสี่คนนั้นวางหญิงสาวลงทันที และต้องการจะลงมือกับร พงษ์และอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคน

เมื่ออุเอสึงิ ฮารุเห็นสิ่งนี้ ก็ยืนอยู่ขวางตรงหน้ารพีพงษ์โดยไม่ ได้คิดอะไรเลย จ้องมองคนเหล่านี้ตรงหน้าอย่างเย็นชา

ที่ผ่านมา อุเอสึงิ ฮารุได้รับการฝึกฝนให้เป็นนักฆ่ามืออาชีพ ที่ สำคัญหล่อนยังมีความแข็งแกร่งเน่ยจิ้งขั้นกลาง ประสิทธิภาพ ในการต่อสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน

เพียงเพราะการเผชิญหน้ากับรพีพงษ์ ดังนั้นอุเอสึงิ ฮารุจึงไม่มี โอกาสได้แสดงความแข็งแกร่งใดๆออกมา

และคนเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นเพียงแค่เนยจิ้งชั้นต้นเท่านั้นเอง อยู่ตรงหน้าอุเอสึงิ ฮารุก็ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร

ชายคนนั้นเห็นว่าทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กันขึ้นมา รีบขวาง ตรงหน้าทั้งสี่คนไว้ และพูดกับรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุว่า “ทั้ง สองคน ขอโทษด้วย น้องสาวของฉันหุนหันพลันแล่นไปบ้าง พวก เราไม่ได้มีเจตนาความหมายที่จะลงมือกับพวกคุณ

รพีพงษ์พยักหน้า เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ไม่ได้เป็นคนที่ไม่มี

เหตุผล จึงไม่ได้ถือสา

“พวกคุณสองคนก็จะไปที่สำนักเทพเซียนเหรอ?”ชายคนนั้น เอ่ยปากถาม

รพีพงษ์พยักหน้า

“ในเมื่อเส้นทางเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เดินทางไปด้วย กันดีกว่า ก็สามารถดูแลซึ่งกันและกันได้ง่ายชายคนนั้นกล่าว ด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์ไม่ได้ปฏิเสธ รู้สึกว่าถ้าไปพร้อมกับคนเหล่านี้ ถึงตอน นั้นมันก็จะง่ายที่จะเข้าไปที่สำนักเทพยาเซียน

หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นได้ยินคำพูดของพี่ชาย ก็รีบเอ่ยปาก อย่างรวดเร็วว่า: “พี่ชาย พี่รู้มั้ยว่าพวกเขาเป็นใครก็จะเดินทาง ไปพร้อมกับพวกเขา ป่าเขาที่แห้งแล้งไร้ผู้คนแบบนี้ เกิดพวกเขา สองคนแอบวางแผนชั่ว เกิดพวกเขาสองคนมุ่งมาที่ตระกูลพิมล นัทชาของพวกเราล่ะ”

ชายคนนั้นเขม็งตาใส่หญิงสาวทันที และตะโกนว่า “ถ้าเกิดเธอยังพูดจาเหลวไหลอีก ฉันก็จะโยนเธอทิ้งไว้ที่ป่าเขาที่แห้งแล้ง ไร้ผู้คนที่นี่ ปล่อยให้เธอรอเป็นอาหารของหมาป่าอยู่ที่นี่

หญิงสาวถึงได้ควบคุมคำพูดไปบ้าง แต่สายตาที่มองไปที่ร พงษ์และอุเอสึงิ ฮารุทั้งสองคนก็ไม่ค่อยจะดี

ชายคนนั้นขอโทษรพีพงษ์และอุเอสึงิ ฮารุ จากนั้นก็เดินไปข้าง หน้าด้วยกัน

หญิงสาวคนนั้นลงจากเสลี่ยงแล้ว ไม่ค่อยดีที่จะให้คนแบกต่อ ไป ดังนั้นจึงเดินอยู่ข้างๆชายคนนั้น มองไปที่รพีพงษ์และอารียา ทั้งสองคนทั้งแต่หัวจรดเท้า

ผ่านการสนทนา รพีพงษ์ได้รู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนของตระ กูลพิมลนัทซาจากเกาะทองขาว สำนักศิลปะการต่อสู้บนเกาะ ทองขาวอ้างตัวเองว่าอยู่ในสายเลือดเดียวกัน และไม่มีการติด ต่อใดๆกับแวดวงศิลปะการต่อสู้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นร พงษ์ไม่รู้แน่ชัดว่าตระกูลพิมลนัทชามีความแข็งแกร่งแค่ไหน

แต่เมื่อเห็นว่ายอดฝีมือเนี่ยจิ้งชั้นต้นก็เพียงแค่แบกเสลี่ยงให้ หญิงสาวคนนี้ ก็สามารถรู้ได้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลพิมล นัทชาน่าจะไม่อ่อนแอ และการรู้ตำแหน่งของสำนักเทพยาเซียน เป็นเรื่องหนึ่งที่ตัวเองสามารถที่จะบรรลุถึงระดับที่รับรู้ได้

ชายหนุ่มมีชื่อว่าดรัณ หญิงสาวมีชื่อว่าเพ็ญรตี ทั้งสองคนเป็น พี่น้องแท้ๆ ครั้งนี้มาที่สำนักเทพยาเซียน คือทำตามคำสั่งของพ่อ ของพวกเขา มาหายาเพิ่มความแข็งแกร่งที่นี่

ตามที่รพีพงษ์ได้ตกลงกับอุเอสึงิ ฮารุไว้ ปลอมเป็นพี่น้องที่มาจากประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่ดรักสองคนพี่น้องได้ยินว่ารพีพงษ์มาจากประเทศ ญี่ปุ่น ก็ไม่แปลกใจเลย เนื่องจากคนจากทั่วทุกมุมโลกมาสำนัก เทพยาเซียน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

เพ็ญรตีจ้องมองอุเอสึงิ ฮารุเป็นเวลานาน เดิมทีหล่อนรู้สึกว่า รูปร่างหน้าตาของตัวเองถือได้ว่าค่อนข้างดี จัดอยู่ในประเภทที่ สวย แต่หลังจากที่หล่อนเห็นรูปร่างหน้าตาของอุเอสึงิ ฮารุ ก็รู้สึก อับอายกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองในทันที ความอิจฉาริษยาใน ใจก็ค่อยๆแผ่ซ่านออกมา

เป็นเวลานาน หล่อนกลอกตาไปมา จ้องมองไปที่อุเอสึงิ ฮารุ แล้วเอ่ยปากถาม: “ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงที่สวยๆจากประเทศ ญี่ปุ่นของพวกเธอชอบถ่ายทำหนังAV เธอสวยมากขนาดนี้ คงจะ ไม่ใช่ว่าเคยถ่ายทำหนังแบบนั้นมานะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ