พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 915 สยบเขียน



บทที่ 915 สยบเขียน

การเสียชีวิตของเรวัตทำให้ทั้งตระกูลกิติมหาคุณสั่นสะเทือน ไม่มีใครจะคิดว่า คุณชายใหญ่ของตระกูลกิติมหาคุณ กลับตาย อยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น ที่สำคัญว่ากันว่ายังมีอาจารย์สามคนที่ มีชื่อเสียงไม่น้อยในแวดวงวิชาเวทย์เสียชีวิตไปพร้อมกันด้วย

คนที่ลงมือคงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นิธินาถ ใช้ทรัพย์สิน ทั้งหมดของตระกูลกิติมหาคุณ ค้นหาฆาตกรที่ฆ่าเรวัต

ตอนที่คนของตระกูลกิติมหาคุณเข้าไปตรวจสอบที่ร้านอาหาร เจนนี่ พบว่ากล้องวงจรปิดของร้านอาหารเจนนี่ถูกคนทำลาย ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการซ่อมแซม

นิธินาถลนลาน โกรธจัด แทบจะพลิกแผ่นดินทั้งเมืองอยู่เย็น หาคนที่ฆ่าลูกชายของเขาออกมา

เพียงแต่ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนงานประชุมการแลก เปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ การเสียชีวิตของเรวัตจะ ต้องไม่เป็นปัญหามากเกินไป ดังนั้นในสุดนิธินาถก็เก็บ เหตุการณ์นี้ไว้ แจ้งเหตุการณ์นี้ให้ทราบแต่กับภายในตระกูลกิติ มหาคุณเท่านั้น และห้ามมิให้แพร่กระจายโดยเด็ดขาด

ทุกคนในตระกูลกิติมหาคุณถูกแบ่งกำลังออกมาส่วนหนึ่งมา ตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนที่เหลือก็ต้องเตรียมตัวสำหรับงานประชุม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ต่อไป
ตอนนีบัตรเชิญถูกส่งออกไปแล้ว คนในแวดวงวิชาเวทย์ไม่ น้อยได้เดินทางมาถึงเมืองอยู่เย็นแล้ว ดังนั้นตระกูลกิติมหาคุณก็ ต้องจัดเตรียมเรื่องนี้ก่อน สำหรับเรื่องของเรวัต ถ้าหากสามารถ หาตัวฆาตกรได้จะเป็นการดีที่สุด หาไม่เจอก็คงต้องรอให้งาน ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์จบลง ก่อนค่อยว่ากันอีกที

คนในตระกูลกิติมหาคุณไม่น้อยบอกว่าคนที่ฆ่าเรวัดเป็นศัตรู ของตระกูลกิติมหาคุณ ฆ่าเรวัดเป็นเพียงการตักเตือนตระกูลกิติ มหาคุณ คนคนนี้จะปรากฏตัวในที่งานประชุมการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์อย่างแน่นอน

มีคนบอกว่าเป็นเพราะเรวัตอยู่กับอาจารย์สามคนนั้น และ บังเอิญพบกับศัตรูของอาจารย์ทั้งสามคนที่มาแก้แค้น ดังนั้นจึง ถูกฆ่าด้วย

ในระยะสั้นเหตุการณ์นี้ทำให้ตระกูลกิติมหาคุณแตกตื่น ผู้คน มากมายกลัวว่าจู่ๆศัตรูของตระกูลกิติมหาคุณจะบุกมาฆ่าถึงที่ และฆ่าพวกเขาทั้งหมด

นิธินาถเพียงแค่คิดเป็นเวลานานก็คิดไม่ออกว่าตกลงศัตรู แบบไหนกันจะทําแบบนี้ได้ ที่สำคัญภาพศัตรูในหัวของเขาน่าจะ ไม่สามารถจัดการกับจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามนิธินาถหวังว่าคนคนนี้จะปรากฏตัวในงาน ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ ถึงเวลา ตอนนั้นยอดฝีมือแวดวงวิชาเวทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเพื่อนของเขา ต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหน คงจะไม่สามารถหลบหนีไปได้ อย่างแน่นอน

ในขณะที่ตระกูลกิติมหาคุณสั่นสะเทือนเพราะการตายของเร วัต ฆาตกรอย่างรพีพงษ์กำลังยังคงอยู่ในโรงแรมอย่างสบายๆ ศึกษาค้นคว้ากระบี่หยกที่ซื้อจากนิทรรศการโบราณ

เขาไม่กังวลว่าตระกูลกิติมหาคุณจะมาหาถึงที่ ตอนที่ออกมา เขาจงใจทําลายกล้องวงจรปิดของร้านอาหาร ต่อให้ตระกูลฐิติ มหาคุณจะค้นหาผ่านเบาะแสบางอย่างจนพบเบาะแสเข้า ก็คงจะ ถึงตอนที่เริ่มประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชา เวทย์อย่าแน่นอน

ถึงเวลาตอนนั้นรพีพงษ์จะเป็นคนไปหาตระกูลกิติมหาคุณ คน ของตระกูลกิติมหาคุณก็ไม่จําเป็นต้องมาหาเขาเอง

ห้องของรพีพงษ์และหงส์อยู่ติดกัน ในเวลานี้หงส์กำลังเหม่อ

ลอยอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

และรพีพงษ์ที่อยู่ห้องข้างๆ กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ จ้องมองสังเกต กระบี่หยก ในมืออย่างละเอียด

ฝีมือของกระบี่หยกนี้มีความประณีต ถ้าหากดูอย่างละเอียด พบว่ามีรอยเส้นที่แปลกประหลาดอยู่ด้านบน รพีพงษ์จ้องไปที่ รอยเส้นเหล่านั้นแล้วศึกษาสักพัก แต่ก็ไม่เห็นทางออกใดๆ

บนร่างกายของกระบี่ สามารถมองเห็นตัวอักษรได้สอง ตัวอย่างคลุมเครือ เพียงแต่เพราะกระบี่หยกหักไปชิ้นหนึ่ง ดังนั้น คำทั้งสองนี้จึงไม่สมบูรณ์ แต่ว่ายังคงสามารถแยกแยะออกมาได้สองคำว่า “สยบเซียน”

ถ้าหากเราไม่ผิด ชื่อของกระบี่หยกเล่มนี้ น่าจะเป็นสยบเขียน

เมื่อตอนที่เห็นชื่อของกระบี่หยก ในใจรพีพงษ์ยังประหลาด ใจ กระบี่หยกเล่มนี้ กลับกล้าเรียกชื่อที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าที่ ผ่านมามันมีพลังแบบนี้จริงๆหรือไม่ หรือเป็นคนทำกระบี่หยก เพื่อที่จะให้ดูแข็งแกร่งดังนั้นจึงจงใจตั้งชื่อนี้

“ยังไม่ต้องพูดถึงว่าบนโลกใบนี้มีเซียนหรือไม่ เพียงแค่ชื่อ สยบเซียนแบบนี้ ก็ฟังดูน่ากลัวเล็กน้อย ถ้าหากกระบี่เล่มนี้ สามารถทําเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ ฉันคงต้องพึ่งพามันให้ไร้คู่ต่อกร แล้ว”

รพีพงษ์กล่าวด้วยยิ้ม กระบี่เล่มนี้ทำจากหยก ส่วนใหญ่ถือเป็น เครื่องประดับ ที่สำคัญใบมีดไม่ได้มีขนาดเท่าฝ่ามือ อย่าว่าแต่ สยบเซียน ต่อให้ตัดกระดาษยังเปลืองแรง

หลังจากสังเกตร่างกระบี่ของกระบี่หยกแล้วพบว่าไม่มีอะไร เป็นพิเศษ รพีพงษ์ปลดปล่อยพลังจิตของตัวเองออกมา ตอนนั้น เขาก็อาศัยพลังจิตถึงค้นพบความพิเศษของกระบี่เล่มนี้ ข้างใน ใจคาดเดาต้องการจะค้นพบความลับของกระบี่เล่มนี้ คาดว่ายัง ต้องอาศัยพลังจิต

หลังจากที่พลังจิตค่อยๆครอบคลุมกระบี่หยกนี้ทีละนิด รพี พงษ์ก็เห็นแสงที่ส่องประกายจากด้านบนอีกครั้ง แต่นอกเหนือ จากสิ่งนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแล้ว

“หรือว่ากระบี่หยกนี้ทำจากวัสดุที่มีความเป็นพิเศษ ดังนั้นตอนที่พลังจิตครอบคลุม ก็จะเปล่งแสงออกมา และไม่มีความลับ อื่น?”

รพีพงษ์พึมพำกับตัวเอง ในเวลานี้เขาความสนใจของเขาอยู่ที่ ช่องว่างของกระบี่หยกเล่มนี้ เขารู้สึกได้ว่าช่องว่างดูเหมือนจะมี แรงดึงดูดเล็กน้อย กำลังดึงพลังจิตของเขา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รู้สึกเหมือนกระบี่หยกเล่มนี้กำลังต้องการ

พลังจิตของฉันเป็นอาหาร

บนใบหน้ารพีพงษ์เผยให้เห็นถึงความสงสัย จากนั้นนำ พลังจิตจดจ่ออยู่ที่บนช่องว่าง

ในขณะนี้ แรงดึงดูดของช่องว่างนั้นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ดูด พลังจิตของรพีพงษ์เข้าไปในทันที

สีหน้าของรพีพงษ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน คาดไม่ถึงว่าจะเกิด การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ เขาต้องกลับจะเก็บพลังจิต กลับคืนมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ พลังจิตของตัวเอง กลับไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้ว

ช่องว่างนั้นเหมือนกับปากที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ดูดพลังจิต ของรพีพงษ์อย่างตะกละตะกลาม หลังจากนั้นไม่นานรพีพงษ์ก็ รู้สึกอ่อนเพลีย แต่กระบี่เล่มนี้ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะหยุดลงมา

จิตวิญญาณในหัวสมองของรพีพงษ์ก็ไม่สามารถไปควบคุม กระบี่เล่มนี้ที่ดูดซับพลังจิตของตัวเองได้ เมื่อเวลาผ่านไป สังเกต ว่าจิตวิญญาณในหัวสมองของตัวเองเริ่มโปร่งใสขึ้นเล็กน้อย
“ให้เถอะ กระบี่เล่มนี้คงจะไม่ทำให้จิตวิญญาณของฉันหมดไป ใช่มั้ย และทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่ที่ไร้สติเหรอ?”

รพีพงษ์แอบด่าในใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ถ้ารู้ก่อนว่าจะเกิด เหตุการณ์แบบนี้ เขาก็จะไม่ใช่พลังจิตในการสำรวจกระบี่หยกนี้ อย่างตามใจ

ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง รพีพงษ์ก็กลายเป็นค่อนข้าง เหนื่อย เปลือกตาแทบจะเปิดไม่ออก กระบี่เล่มนี้ทำให้จิต วิญญาณของเขาหมดลงอย่างมาก เขารู้สึกว่าถ้าตัวเองยังไม่รีบ นอน อาจจะต้องตายในทันที

ในเวลานี้ ในที่สุดกระบี่หยกก็หยุดดูดซับพลังจิตของรพีพงษ์ เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ แสงบนกระบี่หยกนี้ กลายเป็นแสง เจิดจ้ามากขึ้น และมันก็ไม่ธรรมดาเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

เมื่อเห็นว่ากระบี่หยกหยุดลงมา รพีพงษ์ก็ถอนหายใจด้วย

ความโล่งอก หลับตาในทันที ฟุบลงหลับไปบนโต๊ะ

เขารู้สึกว่าตัวเองในสภาพแบบนี้ สามารถนอนหลับได้สามวัน สามคืน

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังหลับไป กระบี่หยกเล่มนั้นส่องแสงเจิด จ้า ส่องสว่างไปทั่วห้องทันที ในเวลาเดียวกันปราณกระบี่ ปรากฏขึ้นในห้อง ข้าวของทั้งหมดในห้องดูเหมือนจะกลัวปราณ กระบี่เล่มนี้ก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อย

ผ่านไปสักพัก กระบี่หยกก็กลายเป็นแสงสีทอง และเข้าไปในหัวสมองของรพีพงษ์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ