พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่917 เริ่มประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์



บทที่917 เริ่มประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์

“น้องชาย ได้พบเจอนายที่นี่ เป็นโชคชะตาจริงๆ คาดไม่ถึงว่า พวกเธอก็มาร่วมงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการ

ฝึกวิชาเวทย์ด้วย”ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม

รพีพงษ์ก็ยิ้มให้ชายชราเล็กน้อย ตอบกลับสองสามคำ วันที่ จริงแล้ว ในใจของเขาค่อนข้างกระอักกระอ่วน เนื่องจากเขาและ หงส์ทั้งสองคนไม่ได้รับบัตรเชิญจากตระกูลกิติมหาคุณ หลังจาก ที่จัดการกับแขกที่ได้รับคำเชิญจากตระกูลกิติมหาคุณถึงมาได้

ที่สำคัญรพีพงษ์ยังฆ่าคุณชายของตระกูลกิติมหาคุณอีกด้วย สิ่งนี้ถ้าคนอื่นรู้เข้า เขาคงจะกลายเป็นเป้าโจมตีของผู้คนอย่าง แน่นอน

“ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมาจากที่ไหน ข้าพเจ้ามีเพื่อนอยู่ในแวดวง วิชาเวทย์มากมาย ผู้ที่มาร่วมงานประชุมการแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ในวันนี้ข้าพเจ้า รู้ชัดเจนเกี่ยวกับเบื้อง ลึกไม่มากก็น้อย เพียงแต่ว่าไม่เคยพบเจอทั้งสองคนมาก่อน ก็ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมาจากสำนักไหน ดังนั้นอยากรู้จัง”ชายชราเอ่ย ปากถาม

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป็นแค่สำนักเล็กในป่า เท่านั้นเอง ตระกูลกิติมหาคุณ ให้เกียรติ พวกเราถึงมาที่นี่ ไม่มี อะไรน่าพูดถึง”
ในความเป็นจริงในใจของเขายังคงกังวล เนื่องจากว่าชาย ชราก็นั่งเครื่องบินลำเดียวกับพวกเขา คิดดูแล้วก็เป็นคนเกียวโต ถ้าอย่างนั้นความเป็นไปได้ที่รู้จักรพีพงษ์ก็มาก ถ้าหากฐานะของ ตัวเองถูกเปิดเผย ก็จะกระอักกระอ่วน

แต่ดูท่าทางของชายชราและหญิงสาว ดูเหมือนราวว่าจะไม่รู้ ว่าตัวเองเป็นใคร

เมื่อชายชราได้ยินค่าตอบของรพีพงษ์ ก็ไม่ได้ไล่ถามต่อไป เขารู้ว่ามีบางสำนักปิดซ่อนไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ สำนักมากเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา ดังนั้นจึงคิด ว่าคำพูดของรพีพงษ์ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม

ที่สำคัญสามารถถูกตระกูลกิติมหาคุณเชิญมา คงจะเป็นคนที่ มีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ดังนั้นชายชราจึงไม่กล้าดูถูกร พงษ์และหงส์ทั้งสองคน

จากการสนทนา รพีพงษ์ได้รู้ว่าชายชราคนนี้ชื่อเมธีรา เป็นคน ของตระกูลตรีศาสตร์ตระกูลเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงในเกียวโต หญิง สาวคนนี้เป็นหลานสาวของเมธีรา ธีรนุช

แม้ว่าตระกูลตรีศาสตร์อยู่ในเกียวโตจะเป็นตระกูลเล็กๆที่ไม่มี ชื่อเสียง แต่นี่สําหรับเพียงสังคมทางโลกเท่านั้น อยู่ในแวดวง วิชาเวทย์ เมธีราคนนี้มีตำแหน่งสำคัญ

ตอนนั้นบรรพบุรุษของตระกูลตรีศาสตร์อยู่ในแวดวงวิชาเวทย์ มีตำแหน่งลัทธิบูชาบางอย่าง ต่อมาเพราะวิชาเวทย์ลดลงเรื่อยๆ ตระกูลตรีศาสตร์จึงได้รับมรดกเพียงบางส่วน และซ่อนตัวไว้ในเกียวโต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตระกูลตรีศาสตร์แทบไม่ได้ยุ่งกับเรื่อง สังคมทางโลก ดังนั้นจึงไม่รู้เรื่องราวของรพีพงษ์ พวกเขาจะ พบปะกับคนในแวดวงวิชาเวทย์มากกว่า

ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลตรีศาสตร์ยังมีความนอบน้อมมากในช่วง ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพื่อร่วมงานประชุมการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ในครั้งนี้ แสวงหาวิธีที่จะรักษา พี่สาวของธีรนุช พวกเขาไม่มีทางที่จะออกเดินทางไกลขนาดนี้

“ฉันได้รับข่าวคราวบางอย่าง ได้ยินว่าคุณชายใหญ่ของตระ กูลกิติมหาคุณถูกฆ่าตายเมื่อไม่กี่วันก่อน คนที่ลงมือค่อนข้าง ลึกลับ ก็ไม่รู้ว่าคนใหญ่คนโตคนไหนในแวดวงวิชาเวทย์ กลับ กล้าเมินเฉยข่มขวัญตระกูลกิติมหาคุณ ก็ไม่รู้ว่าคนคนนี้จะ ปรากฏตัวที่ประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชา เวทย์นี้หรือเปล่า ถ้าหากการปรากฏตัวของซึ่งกันและกัน ถึงเวลา เกรงว่าจะเกิดศึกครั้งใหญ่”เมธีราพูดอย่างทอดถอนหายใจ

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่แน่คนที่ฆ่าอาจจะถูกบีบ บังคับให้ทำ ฉันได้ยินมาคุณชายตระกูลกิติมหาคุณไม่ใช่ของดี อะไร บางทีเขาเป็นเพราะความโง่เกินไปของตัวเองทำให้เกิด หายนะแบบนี้”

“ที่สำคัญฉันรู้สึกว่าอีกฝ่ายกล้าฆ่าคน ก็น่าจะไม่ได้เอาตระกูล กิติมหาคุณไว้ในสายตา”

เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ เมธีราก็ยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้ตอบรับ

ธีรนุชที่อยู่ข้างๆกลับมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความไม่พอใจเล็ก น้อย เอ่ยปากพูดว่า “ตำแหน่งของตระกูลกิติมหาคุณอยู่ใน แวดวงวิชาเวทย์ไม่มีใครที่สามารถทำให้สั่นคลอนได้ เป็นไปไม่ ได้ที่จะมีคนไม่เอาตระกูลกิติมหาคุณไว้ในสายตา ถ้าหากอีกฝ่าย ไม่เอาตระกูลกิติมหาคุณไว้ในสายตา ก็ไม่มีทางที่จะไม่ซ่อนตัว หลังจากที่ฆ่าคนแล้ว

เมื่อรพีพงษ์เห็นว่าธีรนุชคิดแบบนี้ จึงยิ้มแล้วถาม: “เธอรู้ได้ อย่างไรว่าอีกฝ่ายซ่อนตัว? เขาไม่เอาตระกูลกิติมหาคุณไว้ใน สายตา ก็ไม่จําเป็นต้องบอกตระกูลกิติมหาคุณว่าเขาอยู่ที่ไหน?”

ธีรนุชถึงกับสำลักจนพูดไม่ออกในทันที ในใจเกิดความไม่ พอใจต่อรพีพงษ์ รู้สึกว่าเขากำลังถกเถียงอย่างไม่มีเหตุผล

ที่สำคัญหล่อนรู้สึกว่า ในเมื่อรพีพงษ์มาร่วมประชุมการแลก เปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ที่ตระกูลกิติมหาคุณจัด ขึ้นมา ก็ไม่ควรพูดว่าร้ายให้ตระกูลกิติมหาคุณ

ยิ่งไปกว่านั้นรพีพงษ์แม้แต่ที่มาของตัวเองก็ไม่กล้ารายงาน ธีร นุชรู้สึกว่ารพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคนคงจะไม่ใช่คนของสำนักที่มี อิทธิพลอย่างแน่นอน ดังนั้นข้างในใจจึงดูถูกพวกเขาสองคน

หล่อนพยายามคิดแล้วคิดอีกว่าจะคัดค้านคำพูดของรพีพงษ์ อย่างไร แต่สุดท้ายก็คิดไม่ออก ทำได้เพียงตะคอกใส่รพีพงษ์ และหันหน้าไปทางอื่น

รพีพงษ์ก็ไม่สนใจเช่นกัน รู้สึกว่าธีรนุชยังไม่มีประสบการณ์ทางโลก และไม่เข้าใจจิตใจที่ชั่วร้ายของคน ไม่ใช่ว่าตระกูลกิติ มหาคุณมีตำแหน่งที่สำคัญอยู่ในวิชาเวทย์ คนของตระกูลกิติ มหาคุณก็จะเป็นคนดี

หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนในสถานที่ก็มองไปที่ด้านหน้าของ งาน ทุกคนก็เงียบลงมา เพราะในเวลานี้นิธินาถได้พาทุกคนจาก ตระกูลกิติมหาคุณปรากฏตัวยังสถานที่จัดงานแล้ว

ใบหน้าของนิธินาถดูไม่ค่อยพอใจ เห็นได้ชัดว่ายังคงโกรธที่มี คนฆ่าลูกชายของเขา มีคนหลายคนตามติดอยู่ข้างหลังเขา ยก โต๊ะขึ้น มีของหกเหลี่ยมวางอยู่บนโต๊ะ สายตาของทุกคนต่าง จ้องมองไปที่ของสิ่งนั้น คิดว่าของสิ่งนี้น่าจะเป็นสมบัติที่ตระกูลกิ ติมหาคุณกล่าวถึง

ของสิ่งนั้นไม่ใหญ่เกินไป ใหญ่กว่าฝ่ามือเพียงเล็กน้อย มันถูก สร้างขึ้นอย่างประณีตมาก มีลวดลายแปลกๆบนพื้นผิว ไม่รู้ว่า เอามาทําอะไร

รพีพงษ์ก็จ้องมองของสิ่งนั้นอย่างละเอียด แต่เพราะอยู่ห่าง ไกลไป เขาไม่สามารถใช้พลังจิตตรวจสอบได้ ดังนั้นมองเห็น เพียงรูปร่างของสิ่งนั้น และไม่สามารถเห็นรายละเอียดของมัน

นิธินาถหยุดลงมาต่อหน้าทุกคน และคนข้างหลังเขาก็รีบวาง โต๊ะลงมา

“ทุกท่าน ดีใจมากที่ทุกคนมาเข้าร่วมงานประชุมการแลก เปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ในครั้งนี้ จุดประสงค์ที่ ตระกูลกิติมหาคุณจัดงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ในครั้งนี้ก็ชัดเจนสําหรับทุกคนแล้ว ประการ หนึ่งคือ ให้ทุกคนมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและ กัน อีกประการหนึ่ง คือเพื่อให้ทุกคนระดมความคิด ศึกษา สมบัติของตระกูลกิติมหาคุณของฉัน ดูว่าตกลงใช้มันมาทำอะไร กันแน่”

“ฉันก็จะไม่พูดจาไร้สาระกับทุกคนแล้ว ชิ้นส่วนที่อยู่บนโต๊ะ เป็นสมบัติที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลกิติมหาคุณของฉัน ถ้า หากมีใครค้นพบความลับของสมบัติชิ้นนี้ได้ ตระกูลกิติมหาคุณ ของเรายินดีมอบอาวุธวิเศษให้หนึ่งชั้น และเพื่อนคนนี้ยัง สามารถขอพักพิงที่ตระกูลกิติมหาคุณของเราได้ตลอดเวลา”

“ต่อไปทุกคนสามารถผลัดเปลี่ยนกันตรวจสอบดูสมบัติชิ้นนี้ สามารถหยิบมันขึ้นมาได้ แต่โปรดอย่ามีความคิดที่ไม่ซื่อ ไม่ อย่างนั้นกระบี่บินของใครบางคนในตระกูลกิติมหาคุณ ก็ไม่ใช่ ทานมังสวิรัติ”

หลังจากพูดจบ นิธินาถก็ถอยออกมาจากตำแหน่งออกมา ให้ ทุกคนตรวจสอบดูสมบัติชิ้นนี้

ในเวลาเดียวกันนิธินาถกวาดตามองดูทุกคน อยากจะดูว่ามี บุคคลที่น่าสงสัยหรือไม่ เพื่อที่จะได้หาตัวศัตรูที่ฆ่าลูกชายของ เขาได้ง่าย

ในไม่ช้า สายตาของนิธินาถจับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์และหงส์ พร้อมกับความสงสัยบนใบหน้า

เขากวักมือเรียกบุคคลที่รับผิดชอบงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ในครั้งนี้ คนคนนั้นเดินมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ

นิธินาถชี้ไปที่รพีพงษ์และหงส์ แล้วถามว่า “สองคนนั้นเป็น ใคร ทำไมฉันจำไม่ได้ว่าในบรรดาคนที่ฉันขอให้พวกคุณเชิญ มี สองคนนี้ด้วยเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ