พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 614 ยังขึ้นไปได้ไหม



บทที่ 614 ยังขึ้นไปได้ไหม

“รพีพงษ์ นายช่วยสุดาสักครั้งเถอะ ถึงแม้ว่า นายจะไม่ได้สมัครแข่ง แต่เดี๋ยวถ้านายอยากทํา คุณชายนั่น เขาต้องไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน แค่นาย ชนะ สุดาก็จะได้ไม่ต้องไปทานข้าวกับเขา” อารียา เอ่ยขึ้น

“ใช่ ใช่ ใครจะไปรู้ว่าคุณชายนั่นจะใช้โอกาสนี้ ทำเรื่องมิดีมิร้าย ผู้หญิงไม่น้อยที่ต้องพังทลายคามือ เขา”

ฝนสุดากะพริบตาอย่างใสซื่อ ท่าทางของเธอ เหมือนลูกแมวที่น่าสงสาร จนทำให้คนเอ็นดู

รพีพงษ์พูดอะไรไม่ออก เขาคิดในใจว่าคุณหนู ใหญ่แห่งตระกูลตระกูลก้องวณิชกุล จะไปกลัว คุณชายตระกูลเล็กๆ ได้อย่างไรกัน

เขาเดาได้ว่าฝนสุดาตั้งใจทำแบบนี้ แต่เขาไม่

สามารถเปิดโปงเธอต่อหน้าอารียาได้

“ทำอย่างนี้จะดูไม่ค่อยดีนะ นี่มันเป็นการ ประกาศตัวเป็นศัตรูกับคุณชายบริวัตรต่อหน้าทุกคน เลยนะ เมื่อจบเรื่องนี้เขาต้องมาหาเรื่องผมแน่นอน” รพีพงษ์ยกเหตุผลมาพูดอย่างขอไปที

“อีกอย่างเราอยู่เที่ยวอีกไม่กี่วันก็จะกลับกัน แล้ว เขาคงไม่ตามหาเรื่องเราถึงบนบกหรอก รพีพงษ์ ปกตินายชอบช่วยคนไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงกลัว ว่าจะมีเรื่องภายหลังล่ะ สุดาเป็นเพื่อนของฉัน อยาก บอกนะว่านายทนดูเธอถูกคุณชายนั่นกลั่นแกล้งได้เห รอ” อารียาเริ่มถามซักไซ้รพีพงษ์
“ช่างเถอะอารี ในเมื่อเขากลัวว่าจะมีเรื่อง งั้นฉัน ก็ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว เดี๋ยวฉันจะหาทางเอง” ฝน สุดารู้สึกสิ้นหวัง

ความสิ้นหวังนี้เธอไม่ได้เสแสร้งออกมา แต่เป็น สิ่งที่เธอรู้สึกจริงๆ เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องง่าย สําหรับรพีพงษ์ แต่เขากลับไม่ช่วยเธอ แล้วจะไม่ให้ เธอสิ้นหวังได้อย่างไรกันล่ะ

อารียาเห็นท่าทีของฝนสุดาก็รู้สึก กระวนกระวายขึ้นมา เธอจ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วรีบไป ปลอบฝนสุดา

รพีพงษ์เหนื่อยใจ เขาจึงจำใจพูดออกมาว่า “ก็ได้ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปท้าคุณชายบริวัตร”

แววตาอันสิ้นหวังของฝนสุดากลับมาเป็น ประกายอีกครั้ง

ไม่นานผู้เข้าแข่งขันทั้งแปดคนก็แพ้ให้กับบริ วัตร พิธีกรรีบประกาศว่าบริวัตรคือผู้ชนะการแข่งขัน งัดข้อด้วยความตื่นเต้น

บริวัตรลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่ผู้ชมข้างล่างด้วย ท่าทียโส สุดท้ายเขาก็มองไปยังฝนสุดา

พิธีกรรีบพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ขอเชิญผู้ชมท่านที่ โชคดีขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ คืนนี้คุณมีโอกาสได้ร่วม รับประทานอาหารกับคุณชายบริวัตร ผมว่านี่เป็น ความโชคดีของคุณเลยนะครับ”

ทุกคนพากันมองไปที่ฝนสุดา ผู้หญิงส่วนใหญ่

พากันอิจฉาเธอ

ฝนสุดาไม่ได้เดินไป เธอมองไปยังรพีพงษ์
รพีพงษ์มองไปบนเวที เขาใช้น้ำเสียงที่ไม่ดังแต่ ทุกคนก็สามารถได้ยินถามขึ้นว่า “ผมขอถามหน่อย ครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ลงสมัคร ตอนนี้ผมอยากท้า งัดข้อ ผมสามารถขึ้นไปได้ไหมครับ”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่รพีพงษ์พูด ก็มีสีหน้าตก ตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะมีคนอยากมาท้าในเวลาแบบนี้

อีกอย่างบริวัตรชนะทุกคนแล้วด้วย นี่เท่ากับว่า เขากำลังท้าบริวัตรสำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่ กล้าและบ้าบิ่นมาก

“ให้ตายเถอะ พี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ ถึง กล้าท้าคุณชายบริวัตร เขาไม่รู้เหรอว่าเกาะ พระจันทร์เป็นของตระกูลเชาวกรกุล”

“ดูท่าแล้ว เขาน่าจะจงใจ หรือเขาจะแย่งผู้หญิง คนเดียวกันกับคุณชายบริวัตร”

“คนนั้นเขามากับสาวสวยคนนั้น ดูเหมือนว่าเขา ไม่อยากให้สาวคนนั้นไปทานข้าวกับคุณชายบริวัตร แต่เขาไม่เจียมตัวเลย ไปทะเลาะกับคุณชายบริวัตรนี่ รนหาที่ตายชัดๆ”

คนที่ชื่นชมบริวัตรที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันมอง รพีพงษ์ด้วยสายตาเหยียดหยาม และถือว่ารพีพงษ์ เป็นศัตรูกับพวกเขา

พิธีกรคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขารีบมองไปยังบริวัตรเพื่อถามความเห็นของบริวัตร

บริวัตรจ้องรพีพงษ์ เขาหรี่ตาลง เมื่อกี้เขาไม่ได้ สังเกตรพีพงษ์ที่ยืนอยู่ข้างฝนสุดาเลยสักนิด ตอนนี้ เขาจึงตั้งใจมองรพีพงษ์
“ได้แน่นอน ไม่ว่าใครก็ขึ้นมาทําฉันได้เลย ฉัน จะใช้แรงของฉันพิสูจน์ให้พวกนายรู้ว่าการที่ฉันชนะ เพราะความสามารถของฉันเอง” บริวัตรเอ่ยขึ้น

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วเดินขึ้นไปบนเวที

พิธีกรเห็นเช่นนั้น ก็พูดแก้สถานการณ์ และ

สร้างบรรยากาศให้ผู้ชม จากนั้นก็ทำให้การแข่งขัน น่าตื่นเต้นขึ้น ประวีร์กับนีรยืนดูเหตุกาณ์อยู่อีกด้านของเวที

เพราะคนเยอะมาก พวกเขาจึงได้ยินแค่เสียง แต่ไม่

สามารถมองเห็นคนที่ขึ้นมาท้าบริวัตร

ตอนนี้รพีพงษ์อยู่บนเวที ทั้งสองเบิกตาโต

“รพีพงษ์บ้าไปแล้วเหรอไง คิดไม่ถึงว่าเขาจะ ท้าคุณชายบริวัตร นี่เขารนหาที่ตายชัดๆ”

ประวีร์พูดด้วยสีหน้าตกตะลึง

“คงจะไม่ใช่เพราะมีคนเชิญเขามาทานข้าวที่ อ่าวจันทร์ เขาเลยตัวลอย แล้วไม่เห็นคุณชายบริวัตร อยู่ในสายตา” นีรพูดด้วยความประชด

ไม่นานสีหน้าตกตะลึงของประวีร์ก็แปรเปลี่ยน เป็นสีหน้าเย็นชา “ไม่แน่อาจจะเป็นอย่างนั้น ทำท่า อย่างกับคนเพิ่งรวย แต่ว่าเขารนหาที่ตายเอง ที่ไปท้า คุณชายบริวัตร เราไม่ต้องกังวลว่าเขาจะไม่โดน จัดการ ไปล่วงเกินคุณชายบริวัตร เขาต้องตายอย่าง น่าสังเวชแน่นอน”

นีรพยักหน้าตาม ความคาดหวังฉายออกมาทาง แววตาของเธอ

ประวีร์หันไปมองผู้ชมที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า
“ฉันจะบอกให้ว่า ฉันรู้จักคนที่ขึ้นไปท้าคุณชายบริ วัตร เขาขึ้นชื่อว่าเป็นคนไม่เอาไหนในเมืองที่เขาอยู่ ไม่รู้ว่าสมองเป็นอะไร ถึงกล้าขนาดนั้น น่าขำสิ้นดี”

เมื่อคนที่อยู่รอบๆ ตรงนั้น ได้ยินสิ่งที่ประวีร์พูด ก็พากันประหลาดใจ แล้วรีบสอบถามเกี่ยวกับรพีพงษ์ ประวีร์ใช้โอกาสนี้พูดดูถูกรพีพงษ์อย่างรุนแรง

หลังจากที่รพีพงษ์ขึ้นไปบนเวที บริวัตรมองเขา อย่างประเมิน จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ถ้าเทียบกับ ไอ้แปดคนเมื่อกี้ นายดูผอมแห้งแรงน้อยมาก แน่ใจเห รอว่าจะมาท้าฉัน”

รพีพงษ์พยักหน้า

บริวัตรหัวเราะออกมาอย่างดูถูก จากนั้นจึงพูด ออกมาว่า “ทำไม นายชอบสาวสวยคนนั้นเหรอ กลัว ฉันแย่งมาหรือไง ถึงขึ้นมาพิสูจน์ตัวเองเนี่ย

“อย่าพูดไร้สาระ เวลาฉันมีจำกัด” รพีพงษ์พูด ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก แล้วเดินเข้าไปนั่งลงข้างโต๊ะ

บริวัตรเห็นท่าทีของรพีพงษ์ สีหน้าของเขาก็ เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แล้วก็เดินตามเข้าไปนั่ง เขาพูด ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไอ้เด็กน้อย นายนี่กล้าดีนะ ฉัน จะทำให้นายเสียใจที่มานั่งตรงนี้”

พิธีกรที่ยืนมองทั้งสองคนอยู่อีกด้าน แววตา ของเขาดูถูกรพีพงษ์ จากนั้นหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “คิดไม่ถึงจริงๆ นะครับ ว่าเมื่อแข่งขันมาถึงตรงนี้แล้ว จะมีคนกล้าขึ้นมาท้าผู้ชนะของเรา ความกล้าของผู้ เข้าแข่งขันคนนี้ช่างน่านับถือจริงๆ ครับ แต่ว่าร่างกาย อันผอมแห้งแรงน้อยของเขาทำให้ผมเป็นกังวลเล็ก น้อย พวกเราช่วยอวยพรให้เขาโชคดีด้วยละกันนะครับ!”

คนที่อยู่ล่างเวทีพากันหัวเราะออกมา เห็นได้ ชัดว่าไม่มีใครคิดว่ารพีพงษ์จะสามารถเอาชนะบริวัตร ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ