พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่305เรื่องวุ่นวายที่สนามบิน



บทที่305เรื่องวุ่นวายที่สนามบิน

รพีพงษ์เดินตามแอร์โฮสเตสมาถึงที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสพื้นที่ ของที่นี่ใหญ่โตที่นั่งสะดวกสบายรวมไปถึงรอบด้านมีโต๊ะ โทรทัศน์ที่ครบวงจรบนโต๊ะวางขนมนิตยสารและเครื่องดื่มที่ มากมายหลากหลายเอาไว้

ที่นั่งของที่นี่สามารถยืดออกไปกลายเป็นเตียงสำหรับนอน ได้เทียบกับความแออัดของชั้นประหยัดแล้วที่นี่สบายกว่า มากจริงๆ

อีกทั้งพื้นที่ว่างของที่นี่ก็อิสระถ้ารพีพงษ์ไม่ต้องการให้ รบกวนก็สามารถปิดประตูได้โดยตรง

รพีพงษ์ไม่ใช่คนที่ชอบได้รับการดูแลดังนั้นตอนที่ซื้อตั๋ว เครื่องบินจึงซื้อเพียงชั้นประหยัดเท่านั้นแต่ตอนนี้หลังจากมา ถึงชั้นเฟิร์สคลาสได้รู้สึกถึงความสะดวกสบายรวมไปถึง ความสบายใจที่ไม่โดนรบกวนรพีพงษ์ก็รู้สึกมีความสุขขึ้น มากเลย

อย่างที่คิดเอาไว้มีเงินจะทำให้คนมีความสุข

รพีพงษ์นั่งลงไปบนที่นั่งยืดเหยียดร่างกายของตนเองเล็ก น้อยแอร์โฮสเตสที่อยู่ด้านข้างมองรพีพงษ์อย่างนอบน้อม แนะนำการบริการของชั้นเฟิร์สคลาสให้รพีพงษ์สักครู่

หลังจากแนะนำเสร็จสิ้นรพีพงษ์ก็พยักหน้าแสดงให้แอร์ โฮสเตสรู้ว่าสามารถออกไปได้แล้ว

แอร์โฮสเตสคนนั้นจ้องมองรพีพงษ์ไม่ได้ออกไปหลังจาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ส่งสายตาเอาใจไปให้รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูด ขึ้น”คุณผู้ชายคะจริงๆ แล้วดิฉันอยากจะเสนอบริการพิเศษ บางอย่างให้คุณได้ทดสอบการท่องเที่ยวบนเครื่องบินที่ สะดวกสบายมากกว่าเดิมถ้าคุณต้องการดิฉันสามารถอยู่ตรง นี้ได้ค่ะนี่เป็นความสมัครใจของดิฉันเอง”

พูดๆอยู่มือข้างหนึ่งของแอร์โฮสเตสก็วางลงไปบนไหล่ของ รพีพงษ์นวดขึ้นมาเบาๆ

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของแอร์โฮสเตสแล้วก็ตกตะลึงเล็ก น้อยในทันทีใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มแปลกๆคิดไม่ถึงไม่นึกว่า แอร์โฮสเตสบนเครื่องบินยังชอบทำเรื่องพวกนี้หรือจะเป็น เพราะตนเองมีเงิน?

“ไม่ต้องครับคุณออกไปได้เลยผมอยากจะพักผ่อนเงียบๆ สักหน่อย “รพีพงษ์ปฏิเสธแอร์โฮสเตสอย่างตรงไปตรงมาแอร์ โฮสเตสได้ยินรพีพงษ์พูดแล้วก็ปรากฏรอยยิ้มที่ผิดหวังออก มาทันทีแต่เธอก็ไม่กล้าดื้อดึงยืนอยู่ในที่ของรพีพงษ์ต่อไป เห็นรพีพงษ์ ไม่ต้องการการบริการของเธอแอร์โฮสเตสจึง ทำได้เพียงออกไปจากที่นี่

หลังจากแอร์โฮสเตสไปแล้วรพีพงษ์ก็ยึดเก้าอี้ออกแล้วนอน ลงไปใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจและสุขสบาย

ตอนที่ใกล้จะถึงเมืองริเวอร์รพีพงษ์โดนแอร์โฮสเตสปลุก ขึ้นมาแล้วส่งผ้าขนหนูเปียกหมาดผืนหนึ่งให้รพีพงษ์เช็ดๆ หน้าให้ตื่นตัวสักหน่อย

“คุณผู้ชายคะดิฉันขอวีแชทคุณได้ไหมคะ?ถ้าต่อไปคุณยัง นั่งสายการบินของพวกเราจะได้ติดต่อดิฉันมาก่อนดิฉัน สามารถจัดการการบริการที่ดีที่สุดให้กับคุณได้ค่ะ”แอร์ โฮสเตสมองรพีพงษ์อย่างค่อนข้างเขินอาย “ไม่จำเป็นครับผมแต่งงานแล้ว”รพีพงษ์ปฏิเสธคำขอของ แอร์โฮสเตสทันทีแม้ว่าครั้งหน้ารพีพงษ์จะยังนั่งสายการบินนี้ บนเครื่องบินก็ไม่แน่นอนว่าจะเป็นแอร์โฮสเตสคนนี้เธอจะ จัดการการบริการที่ดีที่สุดให้ตนเองได้อย่างไรอยากจะได้วี แชทของรพีพงษ์ชัดๆเท่านั้นเอง

รพีพงษ์ไม่อยากหาเรื่องวุ่นวายมากเกินไปการปฏิเสธเป็น วิธีการที่ดีที่สุด

หลังจากแอร์โฮสเตสได้ยินคำพูดของรพีพงษ์สายตาก็ไม่ สดใสขึ้นมา

“ผู้ชายดีๆขนาดนี้ทำไมถึงแต่งงานแล้วล่ะ?”แอร์โฮสเตสบ่น อยู่ในใจ

ผ่านไปไม่นานเครื่องบินก็มาถึงสนามบินเมืองริเวอร์

รพีพงษ์ลงมาจากเครื่องบินเดินออกไปด้านนอกตามกลุ่ม คนกันตาเห็นร่างของรพีพงษ์ท่ามกลางกลุ่มคนในสายตาก็ ปรากฏความคับแค้นใจออกมา

เธอรีบวิ่งเข้าไปข้างๆรพีพงษ์เอ่ยปากถาม”รพีพงษ์ บัตรATMใบนั้นนายขโมยคนอื่นมาใช่ไหม?ฉันสัมผัสได้ถึง ความหมายของแอร์โฮสเตสคนนั้นบัตรATMใบนี้เหมือนกับ จะยอดเยี่ยมมากถ้าฉันไปแจ้งความนาย นายก็โดนตัดสิน โทษสินะ?”

รพีพงษ์มองกันตาที่อยู่ข้างๆอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไม่ เข้าใจจริงๆว่าสมองของเธอสร้างมาอย่างไรไม่นึกว่าจะยังคิด แจ้งความเขา

“บัตรATMใบนี้เป็นของฉันเอง”รพีพงษ์เอ่ยปาก “ถึงตรงนี้แล้วโกหกให้น้อยๆหน่อยเถอะจะเป็นไปได้ อย่างไรที่นายจะมีบัตรATMที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้นายต้องขโมย มาแน่ๆ ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสนาย นายแบ่งเงินครึ่งหนึ่งใน บัตรมาให้ฉันฉันก็จะไม่แจ้งความจับนายแล้วไม่งั้นนายก็รอ เข้าไปอยู่ในคุกเถอะ”กันตาพูดอย่างจริงจัง

“งั้นเธอก็ไปแจ้งความเถอะดูสิว่าตำรวจจะมาจับฉันไหม”รพี พงษ์พูดอย่างไม่แคร์

กันตาเห็นรพีพงษ์ไม่กลัวเช่นนี้ในใจก็เคียดแค้น

เวลานี้ทั้งสองคนเดินมาถึงทางออกของโถงสนามบินแล้ว แค่รพีพงษ์ออกมาก็สัมผัสได้ว่าที่นี่มีบางอย่างผิดปกติอย่างที่ คิดเอาไว้เพียงครู่เดียวก็มีคนกลุ่มหนึ่งมองมาที่รพีพงษ์ด้วย สายตาไม่เป็นมิตร

รพีพงษ์แกล้งเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นผ่านไป ยังไม่ถึงสองนาทีจู่ๆคนที่ใส่เครื่องแบบจำนวนหนึ่งก็เริ่ม อพยพคนในห้องโถงให้ออกไปข้างนอก

และเวลานี้ก็มีกลุ่มผู้ชายสวมชุดดำแบบเดียวกันเดินเข้ามา ทางเข้า

ทุกคนที่อยู่ภายในห้องโถงล้วนแต่แปลกใจมากไม่รู้ว่านี่ เกิดอะไรขึ้นแต่อย่างรวดเร็วก็มีคนพบว่าพนักงานสนามบิน อพยพพวกเขาเป็นเพราะการปรากฏตัวของกลุ่มคนชุดดำ

และเป้าหมายของกลุ่มคนชุดดำนั้นก็คือรพีพงษ์

“รพีพงษ์นายกล้าหาญไม่น้อยเลยนะไม่นึกว่ายังกล้ากลับ มาเมืองริเวอร์หรือนายคิดว่าประธานปิยังกูรจะปล่อยนายไป อย่างนี้งั้นเหรอ?วันนี้นายเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ออกจากสนาม บิน”คนที่นำหน้ากลุ่มคนชุดดำตะโกนมาที่รพีพงษ์

รพิพงษ์หยุดอยู่ตรงที่เดิมทันทีหรี่ตามองกลุ่มคนชุดดำพวก นั้นจากคำพูดของพวกเขาสามารถคาดเดาได้ว่าคนพวกนี้ ประธานปิยังกูรเป็นคนส่งมาสินะ

กันตาเห็นคนชุดดำกลุ่มนั้นพุ่งเข้ามาที่รพีพงษ์ก็ตกใจแทบ แย่แล้วรีบออกห่างจากข้างกายของรพีพงษ์วิ่งไปที่ด้านข้าง ท่ามกลางกลุ่มคนที่กำลังสนุกสนานคึกคักทันที

เมื่อครู่เธอได้ยินที่คนชุดดำคนนั้นพูดดูแล้วรพีพงษ์คงไป หาเรื่องคนที่ไม่ควรเสียแล้วเธอก็ไม่ได้สนใจถึงเรื่องของการ แข่งขันหมากรุกเลยดังนั้นก็เลยไม่รู้ว่ารพีพงษ์ชนะการ แข่งขันหมากรุกคว้าแชมป์มาได้ตอนนี้เห็นคนชุดดำที่ท่าทาง ดุดันพวกนี้เธอยังคงคิดว่ามาหารพีพงษ์เพื่อตามหาบัตรATM

คนชุดดำพวกนี้แค่เห็นก็ไม่น่าหาเรื่องแล้วอาศัยขยะอย่าง รพีพงษ์คนเดียวต้านทานไม่ไหวอย่างแน่นอนคนพวกนั้นพูด ว่าจะไม่ให้รพีพงษ์ออกจากสนามบินนั่นก็แสดงว่าจะไม่ปล่อย รพีพงษ์ไปอย่างง่ายดายแน่ๆ

ใบหน้าของกันตาปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชาออกมาจ้องรพี พงษ์อย่างมีความสุขที่เห็นเขาเดือดร้อนพูดกับตนเอง:”สมน้ำ หน้าจริงๆใครให้นายขโมยบัตรATMของเขาล่ะแล้วยังไม่ ยอมรับอีกก็เหมือนกับพวกเขามาหาถึงที่คนพวกนี้แค่เห็นก็ เก่งกาจแล้วอาศัยเศษสวะอย่างนายคนเดียววันนี้คงหนีไม่ รอดแน่ๆหวังว่าวันนี้คนพวกนี้จะสามารถฆ่านายให้ตายได้คง ดีที่สุดอย่างนี้ความโมโหในใจของฉันก็คงระบายออกมาได้ แล้ว”

“ดูท่าปิยังกูรจะไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจจริงๆ ไม่นึกว่าจะ ส่งคนมาสกัดกั้นฉันที่สนามบินโดยเฉพาะแต่พวกนายคิดว่า อย่างนี้ก็สามารถขวางฉันได้แล้วเหรอ?”รพิพงษ์พูดเรียบๆ

กลุ่มคนชุดด่านั้นได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ต่างก็หัวเราะ เยาะเย้ยใบหน้าของคนที่อยู่ด้านหน้าเต็มไปด้วยความเหยียด หยามเอ่ยปากขึ้น:”ฉันแนะนำตัวก่อนแล้วกันฉันชื่อไทล์เป็น หัวหน้าทีมของทีมยอดเยี่ยมที่ประธานปิยังกูรส่งไปฝึกฝน อย่างลับๆไม่นานมานี้พวกฉันกี่คนร่วมกันฆ่าหมีสีน้ำตาลนาย ว่าด้วยพละกำลังอย่างนี้พวกฉันจะขวางนายได้ไหม?”

คำพูดของไทล์แค่พูดออกไปคนที่คึกคักรอบๆพวกนั้นล้วน แต่ร้องออกมาอย่างตกตะลึงความน่ากลัวของหมีสีน้ำตาล พวกเขารู้กันอยู่แล้วต่อให้ร่วมมือกันฆ่าตายนั่นก็ไม่ปกติมากๆ แล้วอันที่จริงปกติแล้วร่างกายของมนุษย์กับหมีสีน้ำตาลแตก ต่างกันราวฟ้ากับเหวอีกทั้งพละกำลังของหมีสีน้ำตาลมนุษย์ เราไม่สามารถเปรียบเทียบได้อยู่แล้วหากว่าไทล์คนกลุ่มนี้ฆ่า หมีสีน้ำตาลได้จริงๆนั่นก็ยอดเยี่ยมมาก

หลังจากรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของไทล์ใบหน้าก็ไม่ได้แสดง อาการประหลาดใจจนเกินไปออกมาชัดเจนว่าเรื่องที่พวกเขา ร่วมกันฆ่าหมีสีน้ำตาลก็ไม่สามารถทำให้รพีพงษ์หวั่นไหวได้ มากมาย

“ไม่ว่าพวกนายจะร่วมมือกันฆ่าอะไรวันนี้พวกนายมาขวาง ฉันที่สนามบินก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ผิดพลาด”รพีพงษ์เอ่ยปาก

คนรอบข้างเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจของรพี พงษ์ก็ประหลาดใจพอๆกันคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ที่เผชิญหน้ากับ คนกลุ่มนี้ไม่นึกว่าสีหน้าจะไม่เปลี่ยนไปคิดแล้วก็น่าจะเป็นคน ที่เก่งกาจพอตัวคนหนึ่ง “พ่อหนุ่มนั่นดูแล้วไม่กลัวสักนิดเลยก็คงจะเป็นคนที่เก่งกาจ คนหนึ่งสินะ”เวลานี้มีคนพูดขึ้นมา

หลังจากกันตาได้ยินก็เหน็บแนมทันทีพูดขึ้น:”เขาถือเป็น คนเก่งกาจอะไรล่ะนี่พวกคุณไม่เคยได้ยินเรื่องเขางั้นเหรอ? นายคนนี้เป็นขยะที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองริเวอร์รพีพงษ์ก็คือ คนนั้นที่นอกจากเกาะผู้หญิงกินอย่างอื่นก็ทำไม่เป็นแล้วตอน นี้เขาคงกลัวจะแย่แล้วเพียงแต่รักษาหน้าเอาไว้ยืนหยัดเอาไว้ ก็เท่านั้น”

หลังจากคนรอบข้างได้ฟังกันตาใบหน้าก็ปรากฏความ ประหลาดใจออกมาทั้งนั้น

“รพีพงษ์นั่นเองฉันก็เคยได้ยินเรื่องนายคนนี้ได้ยินว่าเขา ไม่มีตัวตนในครอบครัวทำงานบ้านทั้งวันคนอย่างนี้ไม่มี อนาคตอะไรเลยจริงๆ”

“ไม่นึกว่าจะเป็นรพีพงษ์งั้นดูแล้วเขาคงซวยจริงๆก็คนขี้ ขลาดไร้ความสามารถอย่างเขาไม่ต้องพูดถึงเป็นกลุ่มหรอก ต่อให้คนเดียวก็สู้ไม่ได้แน่ๆ”

“ฉันว่านะรพีพงษ์ขยะอย่างนี้ทั้งวันไม่ทำอะไรเลยรู้จักแต่ หาเรื่องลำบากแคลร์ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้นทำไมถึงแต่งงาน กับขยะอย่างนี้ล่ะ?”

กันตาเห็นคนรอบๆข้างเหน็บแนมรพีพงษ์ไปกับเธอด้วย สีหน้าก็ภาคภูมิใจ

ไทล์และคนกลุ่มนั้นได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบ ข้างใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาออกมาจากที่พวกเขาเห็น รพีพงษ์เป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้นปิยังกูรส่งพวกเขามา จัดการรพีพงษ์ถือว่าค่อนข้างใช้คนไม่เหมาะกับงานจริงๆ

“รพีพงษ์คิดไม่ถึงไม่นึกเลยจริงๆว่านายยังมีความคิดจะเส แสร้งกับพวกเราที่นี่อีกนายคงจะยังไม่รู้สึกได้ถึงจุดจบในวัน นี้ของตนเองว่าจะเป็นอย่างไรสินะงั้นฉันจะบอกนายให้วันนี้ นายอาจจะไม่ตายแต่ชีวิตหลังจากนี้นายจะไม่สามารถลุก จากเตียงได้แล้วนายเข้าใจความหมายของฉันไหม?”ไทล์พูด อย่างเย็นชา

“แต่ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้งถ้าตอนนี้นายแสดง ความเคารพพวกเราต่อหน้าทุกคนแล้วก็เรียกพวกเราว่าพ่อ ฉันจะแค่หักขาทั้งสองข้างของนายให้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของ นายยังสามารถนั่งรถเข็นได้ ได้ออกไปตากแดดข้างนอกบ้าง นายว่าอย่างไร?”

พูดจบคนของไทล์ด้านนี้ก็หัวเราะขึ้นมา

“ยังจะให้โอกาสอะไรเขาอีกขยะอย่างนี้ก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่ บนโลกแล้วตอนนี้พวกคุณควรจะฆ่าเขาเลย!”กันตาเอ่ยปาก ตะโกนออกมา

ไทล์หรี่ตามองไปที่รพีพงษ์ยิ้มแล้วถามขึ้น.”เอาอย่างไรดี? นายอยากจะเรียกพวกฉันว่าพ่อ?หรืออยากจะโดนพวกฉันตี จนลุกจากเตียงไม่ได้?”

รพีพงษ์กำลังจ้องมองพวกเขาแล้วก็พ่นคำพูดที่เย็นชาออก มา:”ไสหัวไป!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ