พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่785 ชายชุดคลุม



บทที่785 ชายชุดคลุม

บดีควรหันหน้าไปทางประตู หลังจากที่เห็นชายชุดคลุมด่า แวว ตาก็แสดงความเคลือบแคลง

“แกเป็นใคร”บดีศวรจ้องชายคนนั้นถามขึ้นคำหนึ่ง

ชายชุดคลุมหันไปทางนั้น เอ่ยปากขึ้น ผมเป็นใครไม่ สําคัญ สำคัญคือ ผมช่วยคุณกำจัดรพีพงษ์ได้

“อ้อ ทำไมฉันต้องเชื่อแก แล้วแกทำไมต้องช่วยพวกเรา”บดี

ศวรเอ่ยปากถาม

“สาเหตุนั้นง่ายมาก ฉันเองก็อยากกำจัดรพีพงษ์ เหตุผลแค่นี้ คงพอนะ และก็มากพอที่เราจะร่วมมือกัน”ชายชุดคลุม เอ่ย อย่างไม่ช้าไม่เร็ว

“พวกเราห้าตระกูลใหญ่รวมตัวกัน ยังเอาเจ้าเด็กนี่ไม่ลง แค่ แกคนเดียว พวกเราจะเชื่อได้ไงว่าแกจะช่วยกำจัดรพีพงษ์ให้ได้” บดีควรถามค่หนึ่ง

ชายชุดคลุมดำยิ้ม จากนั้นจึงหยิบขวดๆหนึ่งออกมาจากเสื้อ เอ่ยปากพูด“ผมคนเดียวกำจัดรพีพงษ์ไม่ได้ จึงต้องมาขอความ ร่วมมือจากทุกคน”

“สิ่งที่ใส่อยู่ในขวด เป็นยาลูกกลอนเพิ่มพลัง ยาเสริมพลังจิต ทุกคนเคยได้ยินนะ ยาในมือผม ประสิทธิภาพเหมือนยาเสริม พลังจิต และไม่มีผลกระทบเหมือนยาเสริมพลังจิต
สายตาของพวกบดีศวรทั้งห้าคนตกอยู่ที่ขวดในมือชายชุดด่า ผู้นี้

ชื่อเสียงของยาเสริมพลังจิตพวกเขารู้จักดี มีประสิทธิภาพ เหมือนยาเสริมพลังจิตแต่ไม่มีผลกระทบเหมือนยาเสริมพลังจิต ยาแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ใครๆก็ต้องแย่งกันซื้อ

ในตระกูลโบราณทั้งหก มีเพียงตระกูลภูธนเท่านั้นที่จะมีของ

แบบนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นยาวิเศษหา

ยาก

“ผมให้ยานี้แก่ทุกคนคนละเม็ดได้ แบบนี้เวลาที่ทุกคน ต้องการฆ่ารพีพงษ์ ก็คงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”ชายชุดคลุม กล่าวต่อ

พวกบดีศวรทั้งห้าเบ่งตาโพลงโต ยาแบบนี้หายากอยู่แล้ว ตอนนี้ชายชุดคลุมด่าจะมาให้พวกเขาคนละเม็ดอีก ทำให้พวก เขาประหลาดใจเหลือประมาณ

“อย่ามาล้อกันเล่นหน่อยเลย ยาพวกนี้ที่แกบอกน่ะ เดิมทีก็ เป็นของหายากอยู่แล้ว กว่าจะหาได้เม็ดนึงก็ยากแสนยาก แก กลับจะมาแจกให้พวกเราคนละเม็ด แกคิดว่ายานี่เป็นลูกกวาด หรือไง ฉันว่าแกคงเป็นคนที่รพีพงษ์ส่งมาล้อพวกเราเล่น มากกว่า”ทัดเทพจ้องมองชายผู้นั้นแล้วกล่าว

“นั่นสินะ ยาแบบนี้หายากจะตาย จะเชื่อได้ไงว่ายานี้เป็นของ จริงหรือเปล่า ถ้าเป็นยาพิษล่ะ พวกเราไม่ต้องตกหลุมพรางกัน หมดเหรอ”นิรภาพพูดออกมาคำหนึ่ง
ขายชุดคลุม ไม่ร้อนรน ยิ้มสองที เปิดปากพูด ยาแบบนี้ สําหรับพวกคุณแล้ว อาจจะเป็นของมีค่าหายาก แต่สำหรับผม แล้ว มันหาง่ายราวกับลูกกวาดก็ไม่ปาน

แกล้อ ใครเล่นน่ะ ทำไมเราต้องเชื่อแกด้วย ทัดเทพเอ่ยปาก อีกครั้ง

“ผม เป็นคนของสํานักเทพยาเซียน”

ชายชุดคลุมด่าพูดพลางยิ้มแผ่นป้ายไม้ออกมาจากเสื้อตัวเอง เห็นข้างบนมีตัวอักษร”ยา” ส่วนบนแผ่นป้ายมีกลิ่นของยา สมุนไพรครุกรุ่น

บดีศวรได้ยินคำพูดของชายชุดคลุมด่า เห็นป้ายบนมือเขา จึง เพิ่งตาโพลงขึ้นมาทันที

ในผับแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต มีชื่อว่าผับPromise

รพีพงษ์กำลังนั่งดื่มเหล้ากับไตรทศ

หลังจากผ่านไปสู่การประลอง รพีพงษ์จึงรู้สึกอ่อนเพลียไปทั้ง ตัว จึงมาดื่มเหล้าที่ผับ เพื่อผ่อนคลาย

ไตรทศมองไปยังหนุ่มสาวที่กำลังเต้น สีหน้าเต็มไปด้วยความ

ปล่อยวาง

“คิดถึงตอนนั้นที่เป็นแค่คนทําโรตีไข่ คิดไม่ถึงว่าพริบตาเดียว กลับค่อยๆเริ่มรับโลกใต้ดินของเมืองเกียวโตทั้งเมือง ธฤตญาณพูดด้วยสีหน้าปล่อยวาง

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โลกใต้ดินมีอยู่ไม่น้อย ธฤตญาณตามรพี พงษ์มาเกียวโต ก็ค่อยๆท่าสาขาอาชีพเดิม

ก่อนหน้าธฤตญาณเป็นราชาใต้ดินของเมืองริเวอร์ ตอนนี้พี พงษ์จะช่วยเหลือให้เขาเป็นราชาใต้ดินของเมืองเกียวโต สำหรับ ประมุขตระกูลลัดดาวัลย์อย่างรพีพงษ์แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก

“ไม่งั้นก็ นายจัดลูกน้องนายมา เปิดร้านโรตี เชื่อว่าความ สามารถแบบนาย ภายในปีเดียวจะต้องมีแฟรนไชส์ทั่วประเทศ น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร คนที่ตามนายมาก็ให้ไปขายโรตี ให้หมด ดีกว่าฆ่าๆฟันๆเหมือนตอนนี้” รพีพงษ์พูดหัวเราะ

ธฤตญาณได้ฟังรพีพงษ์พูดจึงหัวเราะร่วน พูดขึ้นที่จริงฉันเอง ก็เคยคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าต่อให้ฉันไม่ฆ่าๆฟันๆ ก็ต้องมีคน ทำอยู่ดี โลกนี้มันคงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะฉันไปขายโรตีหรอก นะ และเรื่องที่ฉันทำตอนนี้ก็ช่วยนายได้ไม่น้อยเลย ถ้าฉันไปขาย โรตี ก็เท่ากับมาเป็นคู่แข่งกับนายแล้วสิ ฉันจําร้านอาหารของ เครือตระกูลลัดดาวัลย์ได้ อาหารจานเด็ดคือโรตี ทำธุรกิจ ฉันสู้ ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ได้หรอก”

รพีพงษ์ยิ้มในใจ แม้ว่าเขาแค่ล้อเล่นกับธฤตญาณ แต่ว่า ระหว่างทั้งคู่มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยจริงๆ ทำให้อดทอดถอน ใจไม่ได้

รพีพงษ์ดื่มเหล้าตัวเองจนหมดแก้ว เปิดปากพูด“ไปเถอะ เมีย ฉันกับหนูลินคอยอยู่ ถ้าดึกไป เดี๋ยวโดนบ่น”
ธฤตญาณหัวเราะเสียงดังฮาๆ พูดขึ้น ใครจะไปคิด คนที่ไม่ กลัวแม้ห้าตระกูลใหญ่อย่างรพีพงษ์ กลับกลัวเมีย

รพีพงษ์ถลึงตาแล้วพูดขึ้น เปิดปากพูด นายจะไปเข้าใจอะไร เขาเรียกว่ารักเมียโว้ย”

พูดจบก็เดินออกไปด้านนอก

ธฤตญาณรีบตามไป แล้วยังไม่ได้จ่ายเงินค่าเหล้า เพราะ บาร์Promiseแห่งนี้ เป็นบาร์ของตระกูลลัดดาวัลย์ พวกเขามา ดื่มเหล้าที่นี่ ไม่มีใครกล้าคิดเงินกับพวกเขา

เมื่อมาถึงด้านนอกบาร์ รพีพงษ์หมุนตัวไปทางบ้านลัดดาวัลย์

ธฤตญาณเดินตามหลัง จุดบุหรี่

รพีพงษ์รีบเอ่ยปาก ไปห่างๆฉันหน่อย หนูลินตัวนิดเดียว ดม กลิ่นบุหรี่ไม่ได้ อย่าเอากลิ่นบุหรี่มาติด”

ธฤตญาณได้ยินคำพูดรพีพงษ์จึงยิ้มขึ้น เอามือดับบุหรี่

ในตอนที่ทั้งคู่เดินเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง จู่ๆธฤตญาณก็หยุด

รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจ หันไป ถามขึ้นมีอะไร

“นายได้ยินมั้ย เหมือนด้านในมีเสียงตะโกน”ธฤตญาณเอ่ย

ปากกาม

รพีพงษ์มองเข้าไปในตรอก ฟังชัดๆ ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกจริงๆ
ทั้งคู่สบตากัน จากนั้นเดินเข้าไปในซอย

พอเลี้ยวมุมตรอก ทั้งสองคนก็ตันอยู่ในตรอก ผู้ชายตัวสูง กํายาหลายคน ต้นหญิงสาวเข้ามุม

ผู้ชายไม่กี่คนนั้นดูเหมือนเมาเหล้า กลิ่นเหล้าวิ่งไปทั้งตัว แวว ตาเลื่อนลอย

ส่วนสาวน้อยสีหน้าหวาดกลัว ในมือถือขวดเหล้า กวัดแกว่ง ไปทางชายเหล่านั้น

พอรพีพงษ์กับธฤตญาณเห็นสาวน้อยคนนั้น ต่างก็ตกใจ

เพราะว่าเด็กสาวที่ถูกต้อนเข้ามุม คือหลาน

สาวของบดีศวร ฉายสุดา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ