พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 454 อุบัติเหตุทางรถยนต์



บทที่ 454 อุบัติเหตุทางรถยนต์

บนถนน อารียาเดินไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ผู้คนโดย รอบล้วนจ้องมองเธอ บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความ สงสัย ราวกับอยากที่จะรู้ว่าทำไมอารียาถึงได้ร้องไห้ เสียใจขนาดนี้

“นั่นไม่ใช่อารียาหรือ ทําไมเธอถึงได้มาร้องไห้ที่บน ถนนใหญ่ นี่คือน้อยใจที่บ้านหรือ? ”

“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่างานแต่งงานของเธอกับรพีพงษ์ นั้นจัดแบบโรแมนติกขนาดนั้นหรอ ในตอนนั้นไม่ใช่ว่า ทุกคนล้วนรู้สึกว่าเธอคือคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก หรือ แล้วทําไมตอนนี้ถึงได้ดูน่าสงสารนัก? ”

“ สมน้ำหน้า ภายนอกดูเหมาะสมกันก็เท่านั้น ตอนนี้ รพีพงษ์นั้นเป็นถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของเมืองริ เวอร์ ไม่แน่ว่าอารียาแสดงออกไม่ดีเวลาอยู่ในบ้าน โดน ด่า รับความน้อยใจไม่ไหว ก็เลยวิ่งออกมาที่ด้านนอก”

“จุ๊จุ๊ ถึงแม้ว่าพูดแบบนี้จะไม่ดี แต่ว่าเห็นเธอในตอนนี้ แบบนี้แล้ว ในใจของฉันก็ดีใจขึ้นมาเล็กน้อยอย่างแปลก ๆ ตอนแรกที่เธอกับรพีพงษ์แต่งงานกันที่ปราสาทแก้ว คริสตัลนั้นฉันอิจฉาเธอแทบตาย ตอนนี้มาคิด ๆ ดูแล้ว มี อะไรให้อิจฉา ต่อหน้าผู้คนนั้นซึ้งใจ ลับหลังนั้นทุกข์ใจ”

ได้ยินผู้คนรอบด้านแอบกระซิบกระซาบกัน น้ำตา ของอารียานิ่งไหลมากกว่าเดิม เธอก็ไม่ได้อยากให้คน อื่นเห็นท่าทางการร้องไห้เสียใจอย่างมากของเธอ อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลง พวกนี้ได้

การกระทําทุกสิ่งทุกอย่างของศศินัดดานั้น ทําให้ ความอดทนของเธอเสื่อมถอยไปหมดแล้วโดยสิ้นเชิง ภายในใจของเธอนั้นรู้สึกน้อยใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอ ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงได้มีแม่แบบนี้ ชีวิตของตัวเองกำลัง จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีชัด ๆ เธอกับทำทั้งหมดพังด้วยมือ ของตัวเอง อีกทั้งยังบอกว่าทั้งหมดก็เพื่อเธอ

ครั้งนี้เธอระเบิดอารมณ์ที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจออกมา อย่างถึงที่สุด คนที่แบบเธอที่คิดมาโดยตลอดว่าเป็น ลูกสาวจะต้องรู้เรื่องกลับโดนบีบบังคับจนเป็นแบบนี้ แค่ คิดก็รู้แล้วว่าที่ศศินัดดาทำไปทั้งหมดนั้น ที่สุดแล้วทำให้ เธอเกิดความเจ็บปวดมากมายขนาดไหน

เวลานี้ที่ชั้นสองของร้านกาแฟแห่งหนึ่งบนถนนสาย นี้ โยษิตากำลังนั่งจ้องมองถนนที่ด้านนอกหน้า สายตาก็ มีความสับสน

ในเวลานั้นเอง เธอก็สนใจอารียาที่กำลังเดินน้ำตา ไหลเต็มใบหน้า เดิมทีนั้นดวงตามืดมนไร้แสงก็สว่างวาบ ขึ้นมาทันที

เธอดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นท่าทางเหมือนตกอับของ อารียา ดูเหมือนว่าจะดีใจเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้าที่จะมาที่ร้านกาแฟนี้นั้น เธอก็ได้รับรู้ข่าว สารจากธายุกรแล้ว ถึงได้รู้ข่าวว่าบริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลนั้นถูกบริษัทW H กรุ๊ปซื้อไปแล้ว ที่จริงแล้วเธอนั้นไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาเห็นอารียา ที่นี่ นี่เป็นเรื่องบังเอิญโดยเฉพาะ เธอรู้สึกว่าสวรรค์ตั้งใจ ที่จะให้เธอได้เห็นสภาพที่น่าเวทนาของอารียา อารียาที่ ได้พบเจอเรื่องนี้พวกนี้ ล้วนแต่สมควรแล้ว

ถ้าเธอจะโทษก็คงต้องโทษที่เป็นภรรยาของรพี “ พงษ์ที่สมควรตายนั่น เขาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันไม่มีทางที่จะปล่อยคนที่เขารักที่สุดไปแน่ รอเขากลับ มาเป็นสภาพเธอแบบนี้ ตอนที่เขาเต้นเร่า ๆ ด้วยความ โกรธ ตอนนั้นฉันถึงจะมีความสุขเป็นที่สุด”โยษิตาพูด พึมนําคนเดียว

ในตอนนี้ตาดำของเธอนั้นซ่อนความอยากเอาชนะ

เอาไว้ ต่อมาก็รีบ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออก มา ต่อสายโทรศัพท์ “ช่วยฉันจัดการเรื่องหนึ่ง ถ้าทำสำเร็จ จะให้แกสาม

ล้าน”

อารียาเดินบนถนนนมานานมากแล้ว เธอเพียงคิดว่า อยากไปให้ไกลจากศศินัดดา ดังนั้นจึงไม่หยุดบนถนน แม้ช่วงเวลาสั้น ๆ เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงใกล้กับชานเมือง ของเมืองริเวอร์

เธอรู้สึกว่าขาของตัวเองนั้นเมื่อยมาก แต่ว่าเธอไม่ กล้าที่จะหยุด เธอกลัวตัวเองหยุดลงแล้ว ศศินัดดาจะ ตามมาทัน เอาคำว่าเพื่อเธอมาบังคับเธอ ให้เธอกลับไป ใช้วิธีต่าง ๆ ทรมานเธอต่อไปเรื่อย ๆ

น้ำตาของเธอนั้นแห้งแล้ว ดวงตาก็บบวมขึ้นมา เสียง ก็แหบขึ้นมาก ทั้งตัวนั้นดูเหมือนไม่มีชีวิตชีวาและตกต่ำ ในตอนที่ผ่านสี่แยกนั่นเอง อารียาไม่ได้สนใจคนอีก ฝังที่เดินมา จึงชนเข้าให้

อารียาถึงได้สติกลับมา รีบขอโทษคนที่ชน

“เธอเดินยังไงของเธอ ที่นี่คนก็น้อย เธอก็ยัง สามารถเดินมาชนตัวคุณหนูของพวกเราได้ ฉันคิดว่า เธอคงจงใจใช่ไหม?”ชายคนที่ใส่สูตสีดำตะโกนใส่อารี ยาหนึ่งประโยค จากนั้นก็หมุนตัวไปหาคนที่โดนชน สอบถามอย่างเป็นห่วง: “คุณหนู ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? ”

“ฉันไม่เป็นไร เธอก็คงไม่ได้ตั้งใจ อย่าสร้างความ นําบากใจให้เธอนัก” เสียงไพเราะเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

อารียาเงยหน้ามองไปที่เด็กสาวคนนั้น ตะลึงเบา ๆ อีกฝ่ายสบตากับเธอ ก็มีความตกใจบางส่วน ราวกับคิด ไม่ถึงว่าจะได้มาพบกับอารียาที่นี่ได้

เด็กสาวที่โดนอารียาเดินชนนั้น ก็คือจารุณีที่มาเดิน เล่นแก้เซ็งที่ใกล้ชานเมือง

อารียาก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอจารุณีที่นี่ หลังจากที่ ตะลึงไป ก็รีบเข้าไปทักทาย:

“คุณหนูนี บังเอิญจริง คิดไม่ถึงว่าจะได้พบคุณที่นี่” จารุณียิ้มให้อารียา บอก“ฉันมาเดินเล่นแก้เซ็งที่นี่ คิดไม่ถึงว่าจะได้พบคุณเช่นกัน คุณมาที่นี่คือ……

ขณะที่พูดนั้น จารุณีก็สังเกตเห็นว่าสภาพของอารี ยานั้นไม่ปกติ อีกฝ่ายดวงตาบวมรอบใหญ่ บนใบหน้าก็มี คราบนํ้าตาอย่างชัเจน สีหน้าตกต่ำสุด ๆ แค่มองก็ สามารถมองออกได้ว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา

อารียารีบเช็ดดวงตาของตัวเอง จัดการสภาพของ ตัวเอง ยิ้มเก้อเขิน บอก: “ฉัน…..นก็มาเดินเล่นเหมือน กัน ได้มาพบกันที่นี่ พวกเราสองคนมีวาสนาต่อกันแล้ว ”

สําหรับเธอนั้นยังมีความรู้สึกดี ๆ บางส่วนกับจารุณี ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนอีกฝ่ายจะเคยแสดงออกว่าอยากได้รพี พงษ์ แต่ทว่าเธอรู้สึกว่าจารุณีก็คือเด็กสาววัยหนุ่มสาวที่ เพิ่งจะเคยมีความรัก ก็เพียงแค่รู้สึกพอใจพรีพงษ์ขึ้น ชั่วคราว อีกอย่างอีกฝ่ายก็ช่วยให้ตัวเองเจรจาสัญญา สําเร็จ ความจริงเธอควรที่จะขอบคุณจารุณี แม้ว่าบริษัท จะล้มละลายขายให้กับบริษัทW H กรุ๊ปไปแล้วก็ตาม

จารุณีนั้นเดาได้ว่าอารียาจะต้องไปประสบกับอะไร มาสักอย่าง เพียงแต่ว่ามารยาทนั้น เธอจึงรู้สึกไม่ดีที่จะ ถามอารียาตรง ๆ ว่าเป็นอย่างไร

เดิมทีเธอตั้งใจว่าจะบอกลาอารียาที่นี่ หลังจากที่ ลังเลใจสักพัก ยังคงเอ่ยปากพูดเบา ๆ : “ดูเหมือนว่าคุณมี เรื่องในใจนะ ถ้าหากว่าไม่ได้ถือสาล่ะก็ ฉันสามารถพูด คุยเป็นเพื่อนคุณได้ พอดีกับที่ฉันก็มีบางเรื่องที่อยากจะ คุยกับคุณ”

เธอรู้สึกว่าตัวเองควรที่จะพูดคุยกับอารียา ไม่แน่ว่า นี่จะสามารถแก้ปมที่อยู่ในใจของอารียาออกได้

อารียาได้ฟังที่จารุณีพูด สัญชาตญาณก็อยากที่จะ ปฏิเสธ แต่ว่าเธอในตอนนี้นั้นก็อยากที่จะหาคนมาระบาย ออก ไม่แน่ว่าจารุณีจะสามารถทำให้เธอสบายใจขึ้นมา บางส่วน ดังนั้นเธอจึงหายใจเข้าอย่างลึก ๆ พยักหน้าให้ กับจารุณี “นายไปหาที่ให้ตัวเองอยู่ก่อนไป ฉันกับเธอจะไป เดินเล่น” จารุณีเอ่ยปากบอกกับบอดี้การ์ด

บอดี้การ์ดพิจารณาอารียาอย่างละเอียด หลังจาก หน้าจึงพยักหน้าตกลง หมุนตัวเดินจากที่นี่ไป

จารุณีและอารียาเดินเลียบไปตามถนนที่กว้างขวาง บนถนนสายนี้มองไม่เห็นคนสักเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นที่ ตั้งของชานเมือง ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าค่อนข้างเปลี่ยว

อารียาเล่าเรื่องที่ตัวเองประสบมาในวันนี้ให้จารุณี ฟัง หลังจากที่จารุณีได้ฟังแล้วในใจก็เจ็มไปด้วยความ โมโห รู้สึกว่าที่ศศินัดดาทำนั้นเกินไปจริง ๆ เหมาะสมกับ ฉายาที่ในตอนแรกเธอเคยให้ศศินัดดา “ยายแม่มด”

จากนั้นจารุณีก็ปลุกความกล้าขึ้นมา บอกเล่าความ รู้สึกของตัวเองที่มีต่อรพีพงษ์ให้อารียาฟัง เธอเดาว่ารพี พงษ์คงจะไม่ได้เล่าเรื่องราวพวกนั้นก่อนหน้านี้ให้อารียา ฟัง ดังนั้นจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตระหว่างเธอกับ รพีพงษ์ให้อารียาฟัง

เธอบอกเรื่องราวพวกนี้แก่อารียา ประการหนึ่งก็ เพราะว่ารพีพงษ์นั้นไม่มีทางที่จะตอบตกลงข้อเรียกร้อง ของเธออย่างแน่นอนตลอดกาล อีกประการหนึ่งคือรู้สึก ว่าในใจของตัวเองนั้นสะสมความรู้สึกพวกนี้มานานแล้ว พูดกับอารียา ไม่แน่ว่าเธอจะสามารถที่จะช่วยตัวเองให้ ยอมรับและก้าวต่อไป

หลังจากที่อารียาได้ฟังเรื่องราวที่จารุณีเล่าทั้งหมด แล้ว ในใจก็รู้สึกประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงว่าระหว่างรพี พงษ์และจารุณีนั้น จะเคยเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นเธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่รพีพงษ์ ปักใจกับตัวเอง ใบหน้าของจารุณีก็ไม่แพ้เธอ เพียงแค่ อายุน้อยกว่าไม่กี่ปีก็เท่านั้น แถมจารุณียังเป็นคุณหนู ใหญ่ของหอการค้าสมน. เทียบกับอารียาแล้วนั้น มีความ โดดเด่นอย่างมากมาย

แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ รพีพงษ์ก็ไม่เคย ทําให้อารียาเกิดความคิดอย่างอื่นใดขึ้นมา ความรู้สึกที่ เขามีให้อารียามาโดยตลอดก็คือมุ่งมั่นและลึกซึ้งเป็น อย่างมาก

นี่ทําให้อารียาที่ในแบกรับความกดดันมานาน อารมณ์ผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอรู้สึกถึงว่า การที่รพีพงษ์อยู่ด้วยกันกับเธอนั้น ไม่ได้เป็นเพราะ สิ่งของภายนอกกาย แต่เป็นเพราะว่าสองคนผ่านเรื่อง ราวต่าง ๆ มาด้วยกัน

เธอคิดฟุ้งซ่านไปถึงปัญหาที่ว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะ สมกับรพีพงษ์ ทั้งหมดนั่นก็คือการเพิ่มภาระระหว่าง ความรู้สึกของเธอกับรพีพงษ์

หลังจากที่คิดได้แล้วพริบตาก็รู้สึกว่าทั่วทั้งตัวของ ตัวเองนั้นผ่อนคลายลง แม้ว่าจะเพิ่งทะเลาะกับศศินัดดา มา แต่ว่าอารมณ์เธอในตอนนี้ก็เริ่มที่จะดีขึ้น

อารียาไม่รู้ว่าจะช่วยจารุณีเผชิญหน้ากับความรู้สึก ที่มีต่อรพีพงษ์ได้อย่างไร ดังนั้นจึงเล่าประสบการณ์เรื่อง ราวที่ตัวเองกับรพีพงษ์นั้นผ่านมาด้วยกันให้จารุณีได้ฟัง

จารุณีฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม เธอไม่เคยรู้มาตลอดก่อน หน้านี้เลย ว่าที่รพีพงษ์และอารียาเดินมาถึงจุดนี้ได้นั้น คาดไม่ถึงภายในนั้นต้องผ่านอุปสรรคมาตั้งมากมาย จากที่สองคนนั้นผ่านมานั้น จารุณีรู้สึกได้ว่า ทําไม ตัวเองถึงไม่มีวิธีที่จะทําให้รพีพงษ์เปลี่ยนท่าที

ขณะเดียวกันเธอก็เข้าใจได้ว่าทําไมระหว่างเธอกับ รพีพงษ์ถึงไม่สามารถมีผลลัพธ์

เธอยังขาดประสบการณ์ระหว่างเธอกับรพีพงษ์ ถึง แม้ว่าทุกเรื่องในอำเภอนกฟ้าจารุณีล้วนค่อยๆปรากฏขึ้น มา แต่ว่าเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่อารียาและรพีพงษ์ ผ่านมาด้วยกันนั้น เธอยังห่างไกลนัก

ฉับพลันเธอก็คิดตกถึงเรื่องราวมากมาย ทันใดนั้นก็ รู้สึกได้ว่าตัวเองเมื่อก่อนนั้นควบคุมรพีพงษ์มาโดยตลอด เป็นเรื่องที่โง่เง่าเป็นอย่างมาก

“พี่แคลร์ เหมือนว่าฉันจะคิดได้แล้ว บางทีฉันอาจจะ ไม่ได้ต้องการพัวพันรพีพงษ์ไม่เลิก ที่ฉันต้องการหาก็ ควรจะเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ผ่าน ประสบการณ์มาด้วยกัน” พูดกับอารียาอย่างเป็นจริงเป็น จัง

อารียาเห็นจารุณีคิดได้ บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม เอ่ยปากบอก: “คุณสามารถคิดได้ก็ดีแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะ กลัวมากว่าคุณจะมาแย่งรพีพงษ์ไป แต่ว่าตอนนี้ฉันคิด ได้ชัดเจนแล้ว ถ้าหากว่ารพีพงษ์รู้สึกว่าฉันไม่เหมาะจริง ๆ เขาก็จะเป็นคนไปจากฉันด้วยตัวเอง”

“พี่แคลร์ คุณวางใจได้ ฉันไม่ทำเรื่องโง่แบบนั้นอีก แล้ว จากนี้ฉันจะฝืนใจทําเป็นน้องสาวของรพีพงษ์ ถ้า หากว่าเขากล้ารังแกคุณ คุณก็บอกฉัน ฉันจะไม่ปล่อย เขาไปอย่างแน่นอน” จารุณีโบกกำปั้นน้อย ๆ เอ่ยปาก บอก อารียาหัวเราะออกมา รู้สึกว่าจารุณีที่ไม่มีเรื่องราว ในใจนั้น สามารถดึงดูดให้คนเกิดความรู้สึกมีความสุข ขึ้นมาเช่นเดียวกัน

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงบีบแตรเสียดหูดังขึ้นมา อารี ยาและจารุณีทั้งสองคนล้วนแต่ตกใจ พวกเธอรีบหมุนตัว กลับไปมอง พบว่ามีรถบรรทุกสินค้าที่ขาดการควบคุม พุ่งชนมาทางพวกเธอทั้งสองคน

สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนแปลงอย่างมาก รถ บรรทุกสินค้าคันนั้นมาถึงที่หน้าของพวกเธอ ไม่สามารถ หลบเลี่ยงได้อย่างสิ้นเชิง

จารุณีมองที่อารียาหนึ่งที ไม่มีความลังเลใจแม้แต่ น้อย ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเธอออกไป อารียาที่ถูกจารุณีผลักออกมา ร่างกายซวนเซ ล้ม

ลงที่พื้น หัวฟาดเข้ากับขอบถนน สลบคาที่

แต่จารุณีไม่สามารถหลบได้ทัน ร่างกายปะทะเข้า กับรถบรรทุกสินค้าโดยตรง ร่างกายถูกลากยาวออกไป เป็นเส้นโค้งพาราโบลา ลอยออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ