พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่367 เธอเป็นเจ้านายแบบไหนกัน



บทที่367 เธอเป็นเจ้านายแบบไหนกัน

ห้องรับรองลูกค้าวีไอพี

ปารินทร์ยังคงมองไปที่รพีพงษ์ด้วยสีหน้าตกใจ และยังไม่ ได้ตอบสนองต่อสิ่งที่รพีพงษ์เพิ่งพูดไป

“นั่งลงก่อนเถอะ เรามาคุยละเอียดเฉพาะก่อน”รพีพงษ์ ทำท่าทางเชิญให้กับปานรินทร์ จากนั้นก็นั่งบนโซฟากับอารี

ยา

ปารินทร์ก็ไม่ได้นิ่งอึ้งต่อไป และนั่งตรงข้ามรพีพงษ์และ

อารียา

เมื่อเห็นรพีพงษ์ทำตัวสบายๆเหมือนกับอยู่ที่บริษัทของตัว เอง การแสดงออกทั้งหมดไม่มีความรู้สึกละเมิดกฎเลย ซึ่ง ทำให้ปารินทร์สงสัยว่าบริษัทนี้เป็นของเธียรวิชญ์หรือของรพี พงษ์กันแน่น

“คุณ เมื่อกี้คุณบอกว่าจะออกเงินสิบล้านให้ฉันออกแบบ ชุดแต่งงานเหรอ? ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่มั้ย?”ปารินทร์หายใจ เข้าลึกๆ และถามอย่างระมัดระวัง

“เป็นความจริง ฉันดูเหมือนคนกำลังล้อเล่นเหรอ?”รพี พงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าหากว่าคุณไม่เชื่อ ตอนนี้ฉัน สามารถจ่ายเงินให้คุณก่อนครึ่งหนึ่ง หลังจากที่ทำชุดแต่งงานเสร็จ ฉันก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือให้กับคุณ”

ปารินทร์กลืนน้ำลาย แม้ว่าประสบการณ์ของเขาจะน้อย กว่ากมล แต่ตอนนี้เขาเป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ว่ารายการสิบล้านบาทเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยิน ต่อให้เป็น อาจารย์ระดับโลก ในสถานการณ์ปกติก็คงจะไม่ได้รับ รายการใหญ่ขนาดนี้มา

“ฉันเชื่อคุณ ประธานเธียรวิชญ์จะไม่มีทางที่จะหลอกฉัน โดยไร้เหตุไร้ผล เรื่องของค่าตอบแทนพวกเราค่อยว่ากัน ที่หลัง ฉันจะเอารายละเอียดแบบการออกแบบชุดให้คุณ ก่อน ถ้าหากว่าพวกคุณคิดว่าเหมาะสม พวกเราค่อยพูดถึง เรื่องนี้ค่าใช้จ่ายยังไม่สายเกินไป”สีหน้าของปารินทร์กลาย เป็นจริงจังขึ้นมา

รพีพงษ์จ้องไปที่ปารินทร์ด้วยความชื่นชม จากนั้นพยัก หน้าให้เขา และเริ่มหารือเกี่ยวกับรายละเอียดแบบการ ออกแบบ

ปารินทร์ดูตามรูปร่างของอารียา บุคลิก หน้าตาและใน ด้านอื่นๆได้พิจารณาอย่างละเอียด หลังจากผ่านการคิดอยู่ สักพัก เบื้องต้นแน่ใจแบบออกมาไว้แล้วสองแบบ

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสังเกตรพีพงษ์อย่างจริงจัง ทำแบบ ชุดสูทที่เหมาะสมออกมาให้เขาหนึ่งชุด

เดิมที่รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองใส่ชุดสูทอะไรก็ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชุดแต่งงานบนตัวของอารียา แต่ว่าปารินทร์ไม่เห็น ด้วยกับมุมมองของรพีพงษ์ เขาเชื่อว่าการแต่งงานเป็นเรื่อง ของคนสองคน ไม่ใช่แค่ความสวยงามสะดุดตาของเจ้าสาว เท่านั้น ไม่อย่างนั้นในงานแต่งงานจะกลายเป็นแสดงให้เห็น แค่เจ้าสาวคนเดียวเท่านั้น เจ้าบ่าวที่เป็นพระเอกในงาน แต่งงาน ก็ต้องกลายเป็นที่สะดุดตาเหมือนกับเจ้าสาว

อารียารู้สึกว่าสิ่งที่ปารินทร์พูดมามีเหตุผล ดังนั้นต่อให้รพี พงษ์ไม่อยากจะยุ่งยากเกินไป ก็ต้องบังคับเขาให้ความร่วม มือกับปารินทร์ เพื่อออกแบบชุดสูทออกมาหนึ่งชุด

หลังจากแน่ใจแบบการออกแบบแล้ว พวกเขาต้องรอให้ ปารินทร์ออกแบบและทำชุดแต่งงานและชุดสูทออกมา แล้ว รอจนถึงวันแต่งงานค่อยใส่ก็พอ

บ่ายวันนี้ ศศินัดดาแต่งกายอย่างพิถีพิถันอยู่ที่บ้าน ใส่ เสื้อผ้าที่แพงที่สุดของตัวเอง และหลังจากแน่ใจว่าวันนี้ตัว เองดูดีมีเกียรติมาก ก็ออกมาจากบ้าน และเดินไปที่ด้านนอก ของชุมชน

ก่อนที่จะไปถึงประตูชุมชน ชลิดาก็ไล่ตามมาเหมือนผีอีก ครั้ง หลังจากที่เห็นศศินัดดาแต่งตัวดีมาก ก็แสดงสีหน้าดูถูก ออกมา และพูดว่า: “โธ่ วันนี้แต่งตัวดูดีจังนะ จะออกไปทำ อะไรเหรอ?”

ศตินัดดาก็รู้ว่าตัวเองไม่มีทางหลุดพ้นจากนังบ้าชลิดาได้ดังนั้นหลังจากที่เห็นหล่อนมา ในใจก็ไม่ต่อยแปลกใจมาก

นัก

“ฉันจะไปทำอะไรเกี่ยวอะไรกับเธอ? ไม่เหมือนกับเธอ เป็น ผีเร่ร่อนไร้ญาติ ไม่มีอะไรทำในชุมชนทั้งวัน ก็รู้แต่ออกมา หลอกหลอนทำให้คนกลัว”ศตินัตดาไม่ได้อยู่ต่อ และยังคง เดินไปทางด้านหน้า

สีหน้าของชลิตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แล้วพูดว่า: “เธอว่าใครเป็นผีเร่ร่อนไร้ญาติ พูดอย่างกับว่าเธอมีการมี งานทำ เธอกับฉันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก เสแสร้งให้ ใครดู”

ศศินัดดาเบะปาก แล้วพูดว่า: “ตอนนี้ฉันเป็นคนมีระดับ เป็นเจ้านายไม่เหมือนกับคนลอยชายอย่าเธอ เธออย่ามา ทำให้ฉันเสียเวลา วันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปคุย ไม่คุ้มค่า กับการเสียเวลากับเธอ”

“โธ่เอ๊ย ปลอมได้เนียนจริงๆ เป็นเจ้านาย เธอเป็นเจ้านาย แบบไหนล่ะ ขี้โม้จนไม่ละอายเลย”เห็นได้ชัดว่าชลิดาไม่เชื่อ

คำพูดของศศินัดดา

ศศินัดดาก็ขี้เกียจที่จะสนใจชลิดา รู้สึกว่าตัวเองถือสาคน แบบนี้ มันไม่คุ้มจริงๆ

“ช่วงนี้เธอได้ยินเรื่องงานเลี้ยงที่ปราสาทคริสตัลหรือเปล่า ฉันจะบอกเธอให้ ครอบครัวเราได้รับบัตรเชิญ ปราสาทคริสตัลนั้นไม่ใช่ของคนธรรมดา เขาจัดงานเลี้ยง คนที่ไป ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง ตอนนี้ธุรกิจที่บ้านของเรากำลังเจริญ รุ่งเรือง เขาถึงเชิญครอบครัวเราไปทั้งบ้าน นั่นหมายความว่า เขาชื่นชมศักยภาพของธายุของบ้านเรา ครอบครัวเธอไม่ได้ รับบัตรเชิญนี้อย่างแน่นอน เธอก็อย่าอิจฉา อิจฉาไปก็ไม่มี ประโยชน์….”ชลิดาพูดไม่หยุด

เมื่อหลังจากที่ศศินัดดาได้ยินคำพูดของชลิดาสีหน้าก็เต็ม ไปด้วยความโกรธ เธอคาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะส่งบัตรเชิญไป ยันบ้านธายุกร เขาตั้งใจจริงๆที่จะจัดงานแต่งงานนี้

ที่สำคัญเมื่อเห็นท่าทางของชลิตา น่าจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่า งานเลี้ยงก็คืองานแต่งงานของรพีพงษ์และอารียา ตกลงว่า รพีพงษ์ต้องการจะทำอะไร เขาอยากทำให้ครอบครัวพวกเขา ชายหน้าต่อหน้าทุกคนอีกครั้งเหมือนหลายปีก่อนเหรอ?

เธอไม่ฟังคำพูดหลังๆของชลิดา แต่เร่งฝีเท้าของตัวเอง และเดินออกไปข้างนอก

เหตุผลที่เธอแต่งตัวจัดเต็มในวันนี้ ก็คือจะไปหาผู้รับผิด ชอบของปราสาทคริสตัลเพื่อคุยเรื่องงานแต่งงานครั้งนี้ของ รพีพงษ์

เธอรู้สึกว่ายังไงตัวเองก็เป็นเจ้านายของโรงแรมบลูสกา ยอินเตอร์เนชั่นเนล ถือเป็นบุคคลชั้นสูงในสังคม คำพูดของ เธอยังคงมีน้ำหนัก และในความประทับใจของเธอ เงินทั้งหมดที่รพีพงษ์เอามาก่อนหน้านี้ก็มาจากโรงแรมบลูสกา ยอินเตอร์เนชั่นเนล ถ้าไม่มีโรงแรมนี้แล้ว รพีพงษ์ก็จะไม่มี อะไร

ปราสาทคริสตัลคงจะไม่ทำเพื่อรพีพงษ์แล้วทำให้เจ้านาย อย่างเธอขุ่นเคืองใจ

“ที่ ไม่มีสถานที่จัดงานแต่งงาน ฉันจะดูว่าพวกเธอจะจัด งานแต่งงานนี้ยังไง”ศศินัดดาพึมพำในใจ

เมื่อชลิดาเห็นว่าตัวเองพูดถึงเรื่องงานเลี้ยง สีหน้าของศศิ นัตดาก็เปลี่ยนไปดูแย่มาก ในใจรู้สึกว่าศศินัดดาต้องอิจฉา ที่ครอบครัวของพวกเขาได้รับบัตรเชิญแน่ๆ

ศศินัดดาอิจฉาขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะครอบครัวของพวก เขาไม่ได้รับบัตรเชิญสำหรับงานเลี้ยงนี้ อย่างที่คาดไว้ ปราสาทคริสตัลเขาชื่นชมธายุกรจริงๆด้วย

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หัวใจของชลิดาก็ยิ่งได้ใจมากขึ้น ก็ไม่สน ว่าศศินัดตาจะสนใจตัวเองหรือเปล่า ในความคิดของเธอ ศศินัดดายิ่งไม่สนใจตัวเอง ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอกำลัง อิจฉาตัวเอง

จนกระทั่งศศินัดดาออกจากชุมชน มีรอยยิ้มแห่งชัยชนะ บนใบหน้าของชลิตา

“งานเลี้ยงครั้งนี้ลูกชายของฉันจะสามารถสะสมคอนเนคชั่นอย่างกว้างขวาง ถึงตอนนั้นลูกชายของฉันก้าวหน้าขึ้นมา พวกแกทั้งบ้านในสายตาของพวกฉัน ก็ไม่มีอะไรเลย!”

หน้าประตูบ้านหลังเล็กนอกปราสาทคริสตัล

กลุ่มคนอยู่รอบๆที่นี่ ถามอย่างไม่หยุดว่าจะเข้าร่วมงาน เลี้ยงในปราสาทคริสตัลได้อย่างไร

ผู้รับผิดชอบหัวปวดมากเพราะคำถามของผู้คนพวกนี้ ก็ เลยปิดประตู โดยตรง เว้นแต่จะมีเรื่องที่สำคัญกว่า ไม่อย่าง นั้นจะไม่ต้อนรับ

เมื่อศศินัดดามาถึงที่นี่ เมื่อเห็นผู้คนมากมายอยู่รอบๆ ประตู ก็ขมวดคิ้ว และเบียดเข้าไป

“พวกเธอถอยออกไปให้หมด ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุย กับคนข้างใน พวกเธอเปิดทางให้ด้วย!”ศศินัดดาตะโกน

“คนที่มาที่นี่มีใครบ้างที่ไม่มีเรื่องสำคัญ คุณอยากเข้าไป ไปต่อแถวข้างหลัง”หลายคนมองไปที่ศศินัดดาอย่างไม่ พอใจ

ศศินัดดาไม่สนใจสายตาของคนพวกนี้ เธอใช้แรงตาม ปกติเบียดกับคนอื่นๆ และเบียดจากด้านนอกสุดไปถึงที่ ประตูบ้านหลังเล็ก

“ทำไมคุณหน้าด้านขนาดนี้ทำไม ทำไมคุณต้องเบียดเข้ามาด้านในด้วย เราทุกคนก็เข้าแถวรออยู่ที่นี่”หลายคนแสดง ความไม่พอใจกับศศินัตตา

ศศินัดดาไม่สนใจความไม่พอใจของคนรอบข้าง แต่กลับ แสดงความเย่อหยิ่ง และพูดว่า : “พวกเธอเบียดกันตรงนี้ก็ เพื่อความครึกโครม แต่ฉันมีเรื่องสำคัญ พวกเธอจะเหมือน กับฉันได้ยังไง”

หลังจากพูดเสร็จ เธอก็เอื้อมมือไปเคาะหน้าต่างของบ้าน หลังเล็ก หน้าต่างบานนั้นเปิดช่องว่างซ่องหนึ่ง และเสียงที่ เย็นชาดังมาจากข้างว่า: “ถ้าต้องการจะเข้าร่วมงานเลี้ยง เพียงแค่มารอด้านนอกปราสาทในวันจัดเลี้ยง ถ้าโชคดีก็ สามารถเข้าไปได้ทันที ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบไปเถอะ เราไม่มี เวลาตอบคำถามพวกคุณเป็นพันๆครั้งหรอกนะ”

“ฉันไม่ได้มาถามเรื่องนี้ ฉันเป็นเจ้านายโรงแรมบลูสกา ยอินเตอร์เนชั่นเนล ฉันต้องการคุยกับผู้รับผิดชอบที่นี่”ศศิ นัดดาแสดงตัวตนของตัวเองโดยตรง

คนที่อยู่ข้างในจริงจังขึ้นทันที และเปิดหน้าต่างเพื่อมอง ศศินัดดาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียด แม้ว่าศศินัดดาจะดู ไม่เหมือนเจ้านาย แต่ในเมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนี้ หมายความ ว่ามีเรื่องบางอย่างที่สำคัญจริงๆ จึงเปิดประตู

ศศินัดดาหันหน้าไปมองผู้คนที่อยู่ด้านนอกอย่างมีชัย จาก นั้นก็หันกลับมาและเข้าไปในบ้านหลังเล็ก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ