พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 606 ถ้าอย่างนั้นฉันก็เพิ่มอีกเล็กน้อย



บทที่ 606 ถ้าอย่างนั้นฉันก็เพิ่มอีกเล็กน้อย

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

หลังจากที่รพีพงษ์ตื่นขึ้น กำชับกับอารียาไม่กี่ประโยค จากนั้น จึงไปหาครอบครัวของอาใฝ่ธรรมทั้งสามคน

ครอบครัวของอาใฝ่ธรรมทั้งสามคนในเวลานี้กำลังรอรพีพงษ์ อยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อคืนรพีพงษ์บอกว่ามีวิธีที่จะช่วยให้พวกเขา จัดการกับครอบครัวของศุทธา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีความหวัง มากนัก แต่ตอนนี้พวกเขาก็ทำได้เพียงเชื่อใจรพีพงษ์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่เชื่อรพีพงษ์ ถ้าอย่างนั้นก็ทำได้ เพียงหาทางออกจากเกาะพระจันทร์

“พีรพีพงษ์ ที่มีวิธีจัดการกับครอบครัวของศุทธาจริงๆเหรอ?”

ณัทจ้องไปที่รพีพงษ์แล้วถาม

“ในความคิดของฉัน ช่างมันเถอะ พวกเราไม่มีทางสู้พวกเขา ได้ บางทีอาจมีปัญหามากขึ้น เรื่องถึงขนาดนี้แล้ว ก็ทำได้เพียง ขายบ้าน ซื้อตั๋วเรือที่ถูกที่สุด ออกจากเกาะพระจันทร์ไปอาใฝ่ ธรรมขมวดคิ้วอย่างกังวลแล้วพูด

รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “อย่ามองโลกในแง่ร้าย ผมบอกแล้วว่ามีวิธี ก็สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน พวกคุณสบายใจได้ ถ้าหากว่าเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ผมจะรับผลที่ตาม มาทั้งหมดเอง”
เมื่อได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ครอบครัวอาใฝ่ธรรมทั้งสามคน ทำได้เพียงพยักหน้า และเดินออกไปข้างนอกกับรพีพงษ์

“ฝ่ายบริหารของบนเกาะพระจันทร์ของเรา ตั้งอยู่ในอาคาร ใจกลางเกาะ โดยปกติสำนักงานบริหารบนเกาะจะทำงานที่นั่น เช่นกัน สำนักงานจัดการมัคคุเทศก์จะอยู่ความดูแลของคนที่ชื่อ ฉันท์ทัต คนคนนั้นคือพ่อของศุทธา ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของ สมิทธิ์ มีอำนาจไล่สมิทธิ์ออก แต่ว่าพวกเขาก็เป็นพวกเดียวกัน เอง ก็คงจะพูดแทนกันอยู่แล้ว พวกเราไปที่นั่น ก็เท่ากับเข้าไปใน ถิ่นของคนอื่น ขณะที่อาใฝ่ธรรมเดินไป ก็กล่าวอย่างเป็นกังวล

“พ่อ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว พ่อก็ไม่ต้องกังวลแล้ว เชื่อใจพีรพีพงษ์เถอะ ในเมื่อเขาบอกว่าสามารถจัดการได้ อย่าง นั้นก็จัดการได้อย่างแน่นอน”ณัทกล่าว

อาใฝ่ธรรมจึงปิดปากเงียบ

ทั้งสี่คนเดินมาที่หน้าอาคารสำนักงานบนเกาะพระจันทร์ รพี พงษ์เดินไปด้านหน้า มียามคนหนึ่งหยุดพวกเขาไว้ และถามว่า พวกเขามาทําอะไร

รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้ายัดซองดั่งเปาให้กับยาม และพูดว่า

“พวกเรามาหากรรมการสมิทธิ์สำนักงานจัดการมัคคุเทศก์ จัดการธุระหน่อย รบกวนด้วย ยามคนนั้นเหลือบมองไปที่จำนวนเงินในซองลั่งเปา ดวงตา

เปล่งประกายขึ้น จากนั้นจึงปล่อยทั้งสี่คนก็เข้าไป

ทั้งสี่คนมาที่อาคารสำนักงานด้วยกัน รพีพงษ์ไม่ได้ไปที่สำนักงานจัดการมัคคุเทศก์ แต่ตรงไปถามห้องสำนักงานของ

ทั้งสี่คนมาถึงที่ประตูห้องทำงานของฉันท์ทัต รพีพงษ์เหลือบ มองไปที่ครอบครัวของอาใฝ่ธรรมทั้งสามคน แล้วพูดว่า “พวก

คุณรออยู่ที่นี่สักครู่ก่อนเถอะ ผมเข้าไปคุยกับเขาเอง

อาใฝ่ธรรมทั้งสามคนพยักหน้า และรออยู่นอกสำนักงานด้วย ความประหม่าเล็กน้อย

รพีพงษ์เอื้อมมือเคาะประตูสำนักงาน จากนั้นผลักประตูเข้าไป โดยตรงแล้วเดินเข้าไป

ในห้องทํางาน เลขานุการหญิงที่มีรูปงดงามสง่ากำลังนั่ง ยองๆอยู่ตรงหน้าฉันท์ทัต เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เลขานุการ หญิงก็รีบลุกขึ้น เช็ดริมฝีปาก

ฉันท์ทัตยื่นมือปิดซิปกางเกงของตัวเอง และมองไปที่รพีพงษ์ ด่าด้วยความโกรธ: “ใครให้แกเข้ามา รีบๆใสหัวออกไปเดี๋ยว

รพีพงษ์ยิ้มและเหลือบมองไปที่ฉันท์ทัตและเลขานุการหญิง แล้วกล่าวว่า: “ขอโทษที่ขัดจังหวะช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณ แต่ว่าวันนี้ฉันธุระเลยมาหาคุณ ดังนั้นเรื่องของพวกคุณ เกรงว่า จะล่าช้าไปสักพัก

ฉันท์ทัตมองไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่เย็นชา แล้วพูดว่า “แก เป็นใคร ฉันไม่เคยเห็นแกมาก่อน ถ้าแกมธุระอะไรก็ไปหาคนที่ เคาน์เตอร์ด้านนอก อย่ามารบกวนฉัน”
รพีพงษ์หยิบตัวเรือสำราญชั้นบนสุดของตัวเองออกมา และพูด ว่า “ฉันคิดว่าตัวเรือใบนี้น่าจะทำให้คุณนั่งลงฟังฉันว่ามีธุระ อะไรกันแน่”

ฉันท์ทัตจ้องมองไปทั่วเรือใบนั้น พบว่าเป็นตัวเรือสำราญชั้น บนสุด มองดูรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นมองไปที่ เลขานุการหญิง แล้วพูดว่า “คุณออกไปก่อนเถอะ”

คนที่สามารถซื้อตั๋วเรือชั้นบนสุดของไข่มุกได้ ต้องเป็นคน ร่ำรวยระดับสูง ฉันท์ทัตก็เป็นคนที่รู้จักสั่งสมเส้นสายคนหนึ่ง ตัว เรือใบนี้สามารถทำให้เขาได้ฟังดูว่ารพีพงษ์มาหาเพื่อเรื่องอะไร

หลังจากที่เลขานุการหญิงออกไป รพีพงษ์ก็ตรงไปที่โซฟา และ นั่งลง

เขาหยิบถ้วยซาบนโต๊ะ และเทน้ำชาให้กับตัวเองด้วยหนึ่ง

เมื่อฉันท์ทัตเห็นว่ารพีพงษ์สบายๆ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชา: “ที่นี่เป็นห้องทำงานของฉัน อย่าคิดว่าคุณ ซื้อตั๋วเรือสําราญชั้นบนสุดแล้ว อยู่บนเกาะพระจันทร์ก็สามารถ ทำอะไรโดยที่ไม่เกรงกลัวใครได้ ตัวใบนั้นก็แค่ทำให้คุณได้รับ การปฏิบัติที่ดีกว่าเท่านั้นเอง”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “วันนี้ที่ฉันมาหาคุณ เพื่อคุย ธุรกิจกับคุณ”

ฉันท์ทัตจ้องไปที่รพีพงษ์ไม่กี่วินาที แล้วถามว่า “ธุรกิจอะไร?”

“ลูกชายของผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณรังแกผู้คนโดยไม่มีเหตุผล ถูกฉันค่อยดี ผลก็คือเขาใช้อำนาจของตัวเอง ตั้งใจบีบ บังคับให้ครอบครัวนี้ให้ไม่มีที่ไป เรื่องนี้ฉันต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ฉันต้องการช่วยพวกเขาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ฉันต้องการ ให้คุณมอบตำแหน่งผู้บริหารสำนักงานจัดการมัคคุเทศก์นี้ ให้ ฉัน”รพีพงษ์กล่าว

เมื่อฉันท์ทัตได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ หัวเราะเสียงดัง และพูดว่า “ไอ้น้อง แกก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร แกคิดว่าแกเป็นใครหา แกต้องการให้ฉันมอบตำแหน่งนี้ให้แก ฉันก็ต้องให้แกเหรอ?”

“จะบอกแกให้ เรื่องลูกชายของสมิทธิ์ฉันได้ยินมาแล้ว ในเมื่อ แกรนหาที่เอง ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าตำแหน่งของ

พวกคุณที่นี่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ฉันไม่ได้ขอให้คุณมอบ

ตำแหน่งนี้ให้ฉันฟรีๆ ฉันสามารถซื้อตำแหน่งนี้ได้

ฉันท์ทัตเบะปาก แล้วพูดว่า “แกคิดว่าแกมีปัญญาซื้อตั๋วเรือ ชั้นบนสุดได้ ก็มีสิทธิ์มาซื้อตำแหน่งที่นี่ของพวกเราเหรอ?”

“ตอนนั้นที่สมิทธิ์ซื้อตำแหน่งผู้อำนวยการนี้ จ่ายไปห้าล้าน และหลังจากนั้นจะจ่ายเงินปันผลให้ฉันทุกปี ตอนนี้แกต้องการซื้อ ตำแหน่งนี้ ก็ได้อยู่ ก็กลัวว่าแกจะไม่มีปัญญาจ่ายเงินนี้ได้

รพีพงษ์จ้องฉันท์ทัต แล้วพูดว่า “ฉันจ่ายสิบล้าน

เห็นได้ชัดว่าฉันท์ทัตลังเลอยู่พักหนึ่ง และกล่าวว่า “อย่าเสีย เวลาเลย รีบออกไปซะ สมิทธิ์เป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันที่มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับฉัน ฉันจะไม่มีวันขายตำแหน่ง ของเขาไป

“ยี่สิบล้าน”รพีพงษ์กล่าวต่อ

ฉันท์ทันต์กลืนน้ำลาย จากนั้นพูดว่า “อย่าคิดว่าแกเพิ่มเงินมา เล็กน้อยจะสามารถทำให้ฉันมองข้ามมิตรภาพของฉันกับสมิทธิ์

ที่มีมาเป็นเวลาหลายปี แกไปเถอะ ฉันไม่มีทางตกลง

“ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันก็เพิ่มอีกเล็กน้อย

“สามสิบล้าน”

รพีพงษ์ยิ้มขึ้นมา

เมื่อฉันท์ทัตได้ยินตัวเลขนี้ ร่างกายของเขาก็สั่น และในแวว ตาก็มีความปรารถนาที่ชัดเจนแสดงออกมา

รพีพงษ์ลุกขึ้นยืน หยิบการ์ดธนาคารออกมา เดินไปตรงหน้า ฉันท์ทัต แล้วพูดว่า “เพียงแค่คุณตกลง สามสิบล้าน ก็จะถูกโอน ให้กับคุณทัน สำหรับคุณแล้ว นี่คือธุรกิจที่ได้กำไรไม่ขาดทุน พลาดแล้ว พลาดไปเลย

ฉันท์ทัตหายใจเข้าลึกๆ สักพัก เดิมที ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้มก็มี รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็ตบไหล่ของรพีพงษ์แล้วพูดว่า “มา มามา นั่งลงนั่งลงก่อน ความจริงแล้วฉันก็ไม่ค่อยชอบหลานชาย ของสมิทธิ์อยู่ก่อนแล้ว ในเมื่อน้องชายคุณมีความหมายแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ช่วยให้บรรลุผลสมปรารถนาครั้งหนึ่ง ธุรกิจนี้ ฉันเห็นด้วย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ