พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่710 หนีตอนนี้ยังทัน



บทที่710 หนีตอนนี้ยังทัน

ที่ปลายอุโมงค์ ชายสามคนที่มีขนาดต่างกันยืนอยู่ด้วยกัน ทุก ฅนเหลือบมองไปที่อุโมงค์ ดูเหมือนจะคาดหวังอะไรบางอย่าง

ทั้งสามคนนี้ดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากคนภายนอกมากนัก แต่ว่าถ้าหากสัมผัสดูอย่างละเอียด ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึง ความกระหายเลือดบนตัวทั้งสามคนได้ นี่คือลมปราณที่สะสมได้ จากการเดินบนคมมีดตลอดทั้งปี

และแม้ว่าทั้งสามคนจะยืนอยู่ด้วยกัน ยังคงมีเตรียมการ ป้องกันระหว่างกัน ราวกับว่าสามารถลงมือฆ่าคนรอบตัวได้ทุก เมื่อ

ทั้งสามคนมีความแข็งแกร่งของเนยจิ้งชั้นต้น อยู่ในโลก ภายนอก แต่ละคนสามารถเพียงที่จะเป็นยอดฝีมือได้ แต่อยู่ใน คุกที่ห้า พวกเขาถือได้ว่าเป็นระดับที่สุดของที่นี่เท่านั้น

เนื่องจากในคุกที่ห้าจะสามารถพบเจอกับยอดฝีมือเนยจึงขั้น กลางได้ตลอดเวลา ดังนั้นเนยจิ้งชั้นต้นอยู่ข้างใน มีชีวิตอย่างกับ เดินอยู่บนขอบหน้าผา ความแข็งแกร่งและสติปัญญาไม่พร้อมใช้ โดยทั่วไปจะมีชีวิตรอดไม่ถึงสามวัน

สามารถที่จะมีชีวิตอยู่รอดในคุกที่ห้าได้ และยอดฝีมือเนี่ยจิ้งที่ สามารถอยู่รอดได้ไม่ตายมานานหลายปี ทุกคนเป็นคนที่ฉลาด ทันคน และเมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเนี่ยจิ้ง ก็มีหนทางที่รักษา ชีวิตไว้ได้
คุกที่ห้าไม่มีความเชื่อใจ เพื่อน ไม่คำว่าช่วยเหลือ อยู่ข้างใน นี้ มีเพียงผลประโยชน์และความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพื่อ ความอยู่รอด ผู้คนในนี้สามารถทำได้ทุกอย่าง

ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะเชื่อในบุคคลที่สองนอกจากตัวเอง

อย่างไรก็ตามบางคนมีโอกาสรอดชีวิตที่ดีกว่า จะสร้าง พันธมิตรกับผู้อื่น ในช่วงเวลาสั้นๆ ในหมู่คนส่วนใหญ่ที่มีความ แข็งแกร่งเน่ยจิ้งชั้นต้น เมื่อเร็วๆนี้ คุกที่ห้าเกิดการเล่นพวกเล่น พรรคมากมาย

แน่นอนว่า โดยเกือบครึ่งหนึ่งของพวกพันธมิตร ไม่กี่วันก็เป็น เพราะขัดหูขัดตากันเอง ก็เริ่มฆ่ากันเองขึ้นมา

ทั้งสามคนเฝ้าที่ทางเข้าอุโมงค์บังเอิญผ่านมาที่นี่ และได้ยิน เสียงประตูเหล็กเปิดออก รู้ว่ามีผู้มาใหม่เข้ามา

สิ่งที่พวกเขาชอบมากที่สุดในที่นี้ ก็คือการมาของผู้มาใหม่ เพราะคุกที่ห้าจะให้คนที่เข้ามาทำสิ่งของมาได้ด้วย มีคนไม่น้อย เมื่อตอนที่เข้ามาก็จะนำของมามากมาย เพียงแค่ต้องฆ่าผู้มา ใหม่ สิ่งของที่นำเข้ามาก็จะตกเป็นของพวกเขา

สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีและอาหารที่จำกัด ทำให้คนเหล่านี้ แม้แต่ของว่างถุงเล็กๆน้อยๆก็สามารถถือเป็นสมบัติได้ และหาก มีคนนำบุหรี่เข้ามา ก็จะถึงขั้นที่สามารถดึงดูดยอดฝีมือเนี่ยจิ้ง ให้ ออกโรงได้

“พวกแกว่าบนตัวของผู้ชายที่เข้ามาคนนี้จะมีของดีอะไรบ้าง ฉันไม่ได้พบเจอกับผู้มาใหม่นานแล้ว แม้จะพบเจอ ก็ถูกคนอื่นแย่งไป ครั้งนี้ฉันโชคดีจริงๆ ที่บังเอิญผ่านมาพอดี ก็พบเจอกับผู้ มาใหม่คนหนึ่งที่เข้ามาชายร่างเตี้ยเอ่ยปาก

“เมื่อเขาออกมาจากอุโมงค์ ฆ่าเขาแล้ว ก็รู้แล้วล่ะ”ชายที่มี รอยแผลเป็นที่น่ากลัวบนใบหน้าเอ่ยปาก

“บอกไว้ก่อนเลย ครั้งนี้แย่งข้าวของได้ ต้องแบ่งเท่าๆกัน ถ้า พวกแกสองคนมีความคิดอย่างอื่น ก็อย่าหาว่าดาบคู่ของฉันไม่ เกรงใจล่ะ” คนสุดท้ายที่สะพายดาบยาวสองเล่มไว้บนหลัง เป็น คนที่มีพลังรัศมีที่แข็งแกร่งที่สุดในสามคน

ในเวลานี้ในป่าไม่ไกลจากที่นี่ มีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ด้านข้างมีรอย นูน รอยนูนนี้มีดวงตาสองข้าง กำลังจ้องมองดูคนทั้งสามที่ยืนอยู่ หน้าอุโมงค์

“ให้ทั้งสามคนนี้ทดสอบระดับของผู้มาใหม่ก่อน แล้วถึงตอน นั้นฉันก็ค่อยรอเก็บผลประโยชน์ กูนี่แม่งโคตรฉลาดจริงๆเลย!”

“เขี่ย เกือบจะหัวเราะส่งเสียงออกมาแล้ว ใจเย็นๆ เวลานี้อย่า ได้เปิดเผยออกมา

เมื่อรพีพงษ์เดินออกมาจากอุโมงค์ มองเห็นคนสามคนกำลัง ยืนอยู่ที่ทางเข้าอุโมงค์พอดี ดูเหมือนว่ากำลังรอตัวเองอยู่ ถึงนิ่ง ไปชั่วขณะยังคิดว่าคนในคุกที่ห้าตั้งใจมาต้อนรับตัวเอง

แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกว่าความคิดของตัวเองเป็นเรื่องเหลวไหล เล็กน้อย จากการประเมินของศรัณย์และคนอื่นๆ ที่มีต่อคุกที่ห้า คนเหล่านี้มาแย่งข้าวของของตัวเองถึงจะสมเหตุสมผลมากกว่า
เมื่อทั้งสามคนเห็นว่ารพีพงษ์นิ่งไปชั่วขณะ พวกเขาต่างก็คาด ไม่ถึง คนที่เข้ามาจะเป็นเพียงแค่เด็กที่อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ

“ฉันยังคิดว่าคนที่เข้ามาจะเป็นคนแบบไหน คาดไม่ถึงว่าจะ เป็นคนที่มุทะลุ คุกที่ห้านี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีระดับ จริงๆเลยคนอะไรก็ ปล่อยเข้ามาได้”ชายร่างเตี้ยเอ่ยปากพูด

“แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ แค่เด็กอายุยี่สิบกว่าๆคนหนึ่ง ฉันคน เดียวก็จัดการได้แล้ว ฆ่าเขาซะ ข้าวของของเขา ก็จะตกเป็นของ พวกเรา!”ชายที่สะพายดาบสองเล่มเอาดาบทั้งสองเล่มลงมาจาก บนตัวของตัวเอง

คนที่มีรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนใบหน้าก็แสดงท่าที่ดูถูกเล็ก น้อย และพูดอย่างเย็นชาว่า “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว รีบ ลงมือเถอะ เกรงว่าเดี๋ยวจะเจอกับคนอื่นๆ

รพีพงษ์จ้องมองพวกเขาทั้งสามคน และพูดว่า “เอาจริงๆ พวก แกหนีตอนนี้ยังทัน ถ้าหากพวกแกลงมือกับฉัน ก็ไม่มีโอกาส แล้ว”

ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ และไม่ ได้ใส่ใจกับคำพูดของเขา

“เป็นคนมุทะลุจริงๆด้วย เด็กน้อย บางที่อยู่ข้างนอกนายอาจ ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนมีความสามารถ ดังนั้นนายเลยคิดว่า ตัวเองแข็งแกร่ง แต่ที่นี่คือคุกที่ห้า ความสามารถแค่นั้นของนาย อยู่ที่นี่ยังไม่เพียงพอเป็นที่น่าสนใจเลย นายก็อย่าวิ่งมาอวดดีที่นี่ เลย”คนตัวเตี้ยที่สุดพูด
“งั้นเหรอ? งั้นพวกแกก็มาลองดูเถอะ”รพีพงษ์พูดเบาๆ “หึ จะทำให้นายได้ลิ้มลองรสชาติความยิ่งใหญ่ของ

ชายร่างเตี้ยที่สุดพุ่งตรงไปหารพีพงษ์ ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ที่ไม่ค่อยได้เห็นในเน่ยจิ้งชั้นต้น

รพีพงษ์หรี่ตา รู้สึกถึงพลังอานุภาพบนตัวของคนคนนี้ กระตุก

ยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก

จัดคนเหล่าให้อยู่ในระดับยอดฝีมือ ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายพวกเขามีเพียงแค่เนยจิ้งชั้นต้น ไม่ ว่าจะมีฝีมือมากแค่ไหนก็ตาม ไม่สามารถชดเชยความแตกต่าง ในแวดวงนี้ได้

แต่พวกเขาจะคิดได้อย่างไร รพีพงษ์ที่อายุเพียงแค่ยี่สิบกว่าๆ ความแข็งแกร่งบรรลุถึงเน่ยจิ้งขั้นกลางแล้ว

หลังจากชายที่เตี้ยที่สุดรีบพุ่งไปที่รพีพงษ์ ก็ชกหมัดตรงไปที่ ใบหน้าของรพีพงษ์

รพีพงษ์ยกมือจับข้อมือของชายคนนั้น จากนั้นยกเท้าขึ้น และ เตะที่ท้องของชายคนนั้น

ตามด้วยอีกรอบอย่างดุเดือด และกระแทกเขาลงกับพื้นอย่าง รุนแรง

บนใบหน้าของชายคนนั้นปรากฏความสยดสยอง คาดไม่ ถึงว่ารพีพงษ์จะแข็งแกร่งขนาดนี้
“แกไม่ควรลุยมาเพียงคนเดียว”รพีพงษ์เอ่ยปาก

ชายคนนั้นอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รพีพงษ์ไม่ให้ โอกาสเขา และเหยียบไปที่ลำคอของชายคนนั้น คร่าชีวิตของ เขา

ข้อต่างๆกฎระเบียบที่โกรพให้รพีพงษ์ ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากมีโอกาสที่จะฆ่าศัตรู จะต้องไม่เมตตา ไม่อย่างนั้นตัวเองก็จะ โชคร้าย

“เนยจิ้งขั้นกลาง!”คนที่เหลืออีกสองคนตระหนักว่าครั้งนี้พวก เขามองพลาดไป คนคนนี้อายุน้อย แต่ไม่ใช่คนที่พวกเขาควรจะ มีปัญหาด้วยได้

ทั้งสองตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว และหันหลังก็จะหนี แต่ในเวลานี้รพีพงษ์ไล่จับตัวได้แล้ว

ในเมื่อเป็นพรรคพวกกัน งั้นก็ไปเจอพญายมด้วยกัน ก็ดีจะได้

มีเพื่อนร่วมทาง

ชายที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าที่เตรียมรอเก็บประโยชน์มองดูทั้งสาม คนตายในเงื้อมมือของรพีพงษ์ ในใจเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เขารู้ว่าถ้าหากตัวเองถูกค้นพบ คงจะไม่พ้นมีชะตากรรม เดียวกันกับทั้งสามคนนี้อย่างแน่นอน

แต่ยอดฝีมือเนยจิ้งขั้นกลางสามารถแยกแยะตำแหน่งของ บุคคลได้จากลมหายใจ เขาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้ปลอดภัย
“เซี่ยยย ทําไมถึงเป็นยอดฝีมือเนยจิ้งชั้นกลางได้ หนีก่อนดี กว่า!”

ชายคนนั้นลุกขึ้นมาจากดินโดยตรง อยากใช้โอกาสตอนที่ร พงษ์ยังไม่รู้ตัว รีบออกไปทันที แต่เขาวิ่งไม่ถึงสองก้าว ในหูของตัวเองก็ได้ยินเสียงที่ทำให้

ขนเขาลุกซู่

“ดูความครึกครื้นจบแล้วก็อยากหนี ไม่ค่อยเหมาะสมมั้ง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ