พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่933 สิงร่าง



บทที่933 สิงร่าง

“เซีย!” รพีพงษ์ด่าออกมา ด้วยความรู้สึกถึงภยันตราย

แต่เมื่อกี้ตั้งใจฟังชัยโรจน์มากเกินไป จึงไม่ได้สนใจว่าตัวเอง กำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเมื่อรู้สึกตัว จิตวิญญาณเทพของ เขาก็ถูกพลังที่แข็งแกร่งควบคุมไว้แล้ว

เขาอยากจะเอาจิตวิญญาณเทพของตัวเองออกจากโลกจิต วิญญาณของนลินี แต่พบว่าตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมจิต วิญญาณเทพของตัวเองได้อีกแล้ว

ชัยโรจน์มองรพีพงษ์อย่างดูแคลน แล้วกล่าว “เด็กน้อย จิต วิญญาณของแกน่าจะตื่นจากภวังค์เมื่อไม่นานนี้สินะ พลังจิต วิญญาณเทพเล็กขนาดนี้ คิดจะแย่งจากมือฉันไป ไม่ง่ายอย่างที่ คิดนะ”

นลินีที่อยู่ข้างๆเห็นเหตุการณ์ ก็ร้อนรนขึ้นมา แล้วกล่าว “แม้ แกจะเป็นบรรพบุรุษของฉัน แต่จิตใจแกมันเลวร้ายเหลือเกิน คิด ไม่ถึงว่าจะใช้วิธีนี้ ฉันเป็นคนรุ่นหลังของแกก็นั่นแล้ว แต่นี่มันคน อื่นแกยังทำได้!”

พูดจบ ร่างของนลินีก็ปล่อยพลังจิตออกมา ไปที่รพีพงษ์ จะ ช่วยให้เขาพ้นจากการครอบงำของชัยโรจน์

ชัยโรจน์โบกมือ พลังจิตนั้นของนลินีก็สลายไป นลินีร้องครวญ ครางออกมา ร่างกายเริ่มปรุโปร่งมากขึ้น
เธอห่างจากตื่นภวังค์จิตวิญญาณเทพหนึ่งขั้น ตอนนี้สามารถ เอาจิตร่างเทพออกมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่แน่นอนว่าไม่ใช่คู่ ต่อกรของชัยโรจน์แน่ๆ

ชัยโรจน์หันไปมองนลินี แล้วกล่าว สาวน้อย ถ้าไม่ตาย แกก็ ยังไม่รู้ว่าแกอยากมีชีวิตรอดขนาดไหน แม้แกจะเป็นคนรุ่นหลัง ของฉัน แต่ผ่านไปห้าร้อยปีแล้ว ความสัมพันธ์แบบนี้ ก็เป็นแค่ ลมเท่านั้นแหละ”

“ชีวิตของมัน เพียงแค่ฉันมีชีวิตต่อไปได้ ฉันจะไปสนใจทำไม

นลินีเกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “มีบรรพบุรุษแบบแกทำให้ฉัน รู้สึกอัปยศเหลือเกิน!

ชัยโรจน์ไม่สนใจ แล้วกล่าว “ถ้าไม่มีฉัน ตระกูลตรีศาสตร์จะ อยู่มาได้ถึงห้าร้อยปีได้ไงกัน แกน่าจะดีใจนะที่เป็นคนรุ่นหลัง ของฉัน มิเช่นนั้นตอนนี้ฉันฆ่าแกไปนานแล้ว”

“เดี๋ยวฉันจะเข้าไปในจิตวิญญาณของเด็ก ฆ่าจิตร่างเทพของ มันซะ สิ่งเข้าไปในร่างของมัน รอให้ฉันตื่นขึ้นมาได้ก่อน แล้ว โลกนี้ จะปรากฏนักเวทย์ที่มีวิชาสะเทือนน้ำสะเทือนบกอีกครั้ง ถึงตอนนั้น ฉันจะทำให้โลกทั้งใบอยู่ภายใต้อานัดของฉัน!”

“ดีใจไปเถอะ ถ้าไม่มีคนนี้ คนที่ตายก็คือแกนั่นแหละ!

พูดจบ ชัยโรจน์ได้แสดงพลังอีกครั้ง ตามพลังจิตวิญญาณเทพ ของรพีพงษ์เข้าไปในโลกจิตวิญญาณของรพีพงษ์

นลินีเม้มริมฝีปาก อย่างช่วยอะไรไม่ได้ เผชิญหน้ากับผู้เฒ่าที่อยู่บนโลกนี้มาห้าร้อยปี เธอก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ

เธอจ้องรพีพงษ์ แม้เธอจะไม่รู้จักรพีพงษ์ แต่ในเมื่อรพีพงษ์ ยินยอมช่วยเธอ แสดงว่าเขาต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง ถ้าเธอรู้ตั้งแต่ แรกว่าหยกเลือดแดงนั้นมีจิตวิญญาณเทพของบรรพบุรุษของเธอ ซ่อนอยู่ เธอไม่มีทางใช้มันอย่างแน่นอน

“ขอโทษนะ” ธีรนุชจ้องรพีพงษ์แล้วกล่าว

ตอน รพีพงษ์ไม่มีอารมณ์ฟังคำขอโทษของนลินี เขาคิดว่า ครั้งนี้แค่มาช่วยถอนผิดเท่านั้น แต่สุดก็แค่เขาแก้พิษไม่ได้ แค่ เอาพลังจิตวิญญาณเทพกลับไปก็จบแล้ว

แต่ใครจะไปรู้ว่านี่คือแผนร้าย เป็นแผนที่บรรพบุรุษของ ตระกูลตรีศาสตร์ต้องการสิงร่างเพื่อมีชีวิตต่อ ได้วางแผนร้ายนี้ ไว้ตั้งแต่ห้าร้อยปีก่อนหน้านี้แล้ว

ไอ้สัตว์ประหลาดนี้ได้ซ่อนตัวเองไว้ในหยกแดงเลือดมาห้า ร้อยปีแล้วแค่คิดก็รู้แล้วว่าฝีมือของเขาก็แข็งแกร่งมากขนาดไหน ถ้าเขาใช้ร่างของรพีพงษ์กลับมามีชีวิตใหม่ โลกในปัจจุบันนี้ ลำพังแค่กลุ่มสิงโต ก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมเขาได้หรือไม่

ไม่ใช่ว่ารพีพงษ์หลงตัวเอง พรสวรรค์และความสามารถใน ร่างนี้ของเขา ไม่ใช่คนธรรมดาจะเทียบได้ นักเวทย์คนหนึ่งสิ่ง ร่างเขาไป จะมีความสามารถได้ขนาดไหน ก็คิดไม่ออกเลยจริงๆ

“ไอ้แก่ ถ้าแกกล้าเข้ามาในโลกจิตวิญญาณของฉัน ฉันจะ ทำให้แกเสียใจ” รพีพงษ์จ้องชัยโรจน์แล้วกล่าว
ชัยโรจน์หัวเราะฮ่าฮ่า แล้วกล่าว “เด็กน้อย อย่าฝันไปหน่อย เลย ด้วยจิตวิญญาณเทพที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ได้ไม่นานอย่างแก แม้ในโลกจิตวิญญาณของแกจะมีพลังอยู่บ้าง แต่ถ้าจะต่อกรกับ ฉัน ไม่เป็นไม่ได้”

“สบายใจได้ หลังจากที่ฉันแย่งร่างแกแล้ว จะได้ความจับของ แกมาบางส่วน ถึงเวลานั้น ฉันจะดูแลครอบครัวของแกเอง!”

พูดจบ ชัยโรจน์ไม่พูดพร่ำทำเพลง พาพลังจิตวิญญาณเทพ ของรพีพงษ์นี้ เข้าไปยังโลกจิตวิญญาณของรพีพงษ์

แม้เรื่องนี้จะค่อนข้างแปลก แต่การสนทนาและการกระทำของ พวกเขาจะอยู่แค่ในโลกจิตวิญญาณ เมธีราที่อยู่ข้างนอกมองไม่ เห็น

เขาจะเห็นเพียงนลินีที่นอนขมวดคิ้วอยู่บนเตียง เรื่องนี้ไม่เคย เกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เขามีความหวังขึ้นมา

แต่ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ที่นั่งข้างๆเตียง ตาสองข้างปิดอย่าง แน่นและขมวดคิ้วขึ้นมา และร่างกายก็เริ่มสั่นขึ้นมา ทำให้เมธี ราเริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาแล้ว

“มีอะไรมาขวางไว้งั้นหรอ?” เมธีราพิมพ์ แต่เขาก็ช่วยอะไร ไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงมองความเป็นไป

ผ่านไปไม่นาน เขาสังเกตเห็นมือของนลินีเริ่มขยับ จากนั้นตา ก็เริ่มขยับ เหมือนว่ากำลังจะตื่น

เมธีราตื่นเต้นขึ้นมา รู้สึกว่าหลานสาวของตัวเองกำลังจะตื่นขึ้นมาเพราะได้รับความช่วยเหลือจากรพีพงษ์

ที่แท้ผ่านไปไม่กี่นาที นลินีที่สลบไปอย่างยาวนานได้ลืมตาขึ้น มา เขาลุกขึ้นจากเตียงมานั่งอย่างเร็ว ด้วยความหวา

เมธีราเห็นนลินีตื่นขึ้นมา ก็ตาลุกวาว ด้วยสีหน้าตื่นเต้น “นลินี แกตื่นขึ้นมาแล้วจริงๆ แสดงว่าที่หนังสือโบราณพูดไว้นั้นไม่มีผิด นะสิ”

นลินีหันไปมอง เธอไม่สนใจเมธีรา แต่มองไปยังรพีพงษ์ที่อยู่ ข้างๆเตียง

“คุณปู่ รีบๆหาวิธีช่วยเขาเร็วๆ เขาอาจจะโดนแย่งร่างอย่าง รวดเร็ว” นลินีกล่าว

เมธีราชะงัก แล้วถาม “หมายความว่าไง?”

นลินีร้อนรน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง แล้วบอกเมธีราว่าพิษ ของจิตวิญญาณเทพอะไรนั่นหนะเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ แผนชั่วร้ายที่บรรพบุรุษของพวกเขาทำเพื่อที่จะสิงร่างฟื้นคืนชีพ อีกครั้งเท่านั้น

เมธีราฟังจบแล้ว ก็ตะลึงอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าใน หยกแดงเลือดนั้น จะมีจิตวิญญาณเทพของบรรพบุรุษของตระกูล ตรีศาสตร์อยู่จริง

และที่เขาให้ตระกูลตรีศาสตร์ฝึกฝนคนรุ่นหลังในเรื่องตื่น ภวังค์จิตวิญญาเณเทพนั้น ก็เพื่อจะสิงร่างฟื้นคืนชีพ

ทั้งหมดนี้เหนือความคาดหมายของเขา
“คุณปู่ ถ้าไม่รีบหาวิธีขัดขวางบรรพบุรุษล่ะก็ เขาต้องแย่แน่ๆ

นลินิกล่าวอย่างร้อนรน เมธีรานิ่งเงียบ เพราะตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าควรช่วยรพีพงษ์ หรือ

เลือกให้บรรพบุรุษฟื้นคืนชีพขึ้นมา เพราะในอนาคต จะมีประโยชน์มากขึ้น สำหรับตระกูลตรีศาสตร์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ