พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว

บทที่ 573 เตะหมาพันธุ์ด



บทที่ 573 เตะหมาพันธุ์ด

รพีพงษ์พูดออกมา สีหน้าของแต่ละคนก็เปลี่ยนไป

ด่านายใหญ่ตระกูลธาดาวรวงศ์ว่าไอ้คนใจดำต่อหน้าผู้คน มากมายขนาดนี้ คงจะมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว ถึงได้กล้าทำเรื่อง แบบนี้

“ไอ้หมอนี่ไม่ใช่สมองมีปัญหาเหรอ เข้ามาพูดจาโอหังต่อหน้า นายใหญ่ตระกูลธาดาวรวงศ์ เกรงว่าเขาจะซวยแล้ว

“ว้าว ไม่กลัวตายจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าด่านายใหญ่ตระกูล ธาดาวรวงศ์ว่าไอ้คนใจ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่านายใหญ่ตระกูล ธาดาวรวงศ์เป็นใคร ก็น่าจะเป็นการมาของเขาเมื่อครู่นี้ เขาก็ ไม่ดูว่าใครบ้างที่เขาสามารถล่วงเกินได้

“จุ๊ๆๆๆดูเหมือนไอ้หมอนี้จะไม่เห็นแสงสว่างในวันพรุ่งนี้แล้ว ถ้าเขาเป็นคนฉลาดละก็ ก็รีบคุกเข่าขอร้องลงตรงนี้ ไม่แน่ว่า นายใหญ่ตระกูลธาดาวรวงศ์ยังสามารถทำให้เขาตายอย่างดูดี หน่อย”

ภูดิทหรี่ตามองไปที่รพีพงษ์ ตามด้วยเผยรอยยิ้มบนใบหน้า เอ่ยพูดว่า “กล้าว่าฉันขนาดนี้ ถือว่านายเป็นคนแรก”

รพีพงษ์ฉีกยิ้มให้กับภูดิท พูดว่า “หลายปีมานี้คุณไม่รู้เลย หรือว่าตัวเองมีปัญหาตรงไหน เคยเห็นไหมว่าตัวคุณเองโง่ขนาดไหน”

ภูติทคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะไม่เห็นเขาอยู่ ในสายตาขนาดนี้ ใบหน้าที่มีรอยยิ้มก็หายไป คนทั้งคนเปลี่ยน เป็นดุร้าย

เด็กหญิงมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความเป็นห่วง พูดว่า “พี่ชาย คุณไม่ต้องสนใจฉัน คุณทำแบบนี้จะเดือดร้อนเพราะฉัน คุณรีบ วางฉันลงเถอะ พวกเราสู้พวกเขาไม่ไหวหรอก”

รพีพงษ์ยิ้มให้กับเด็กหญิง พูดว่า “วางใจเถอะ พี่ชายไม่ เป็นอะไรหรอก พวกคนเลวเหล่านี้ทำผิด ก็ควรที่จะมีคนออกมา ลงโทษ ไม่อย่างนั้นโลกใบนี้ คงไม่เหลือความยุติธรรม

เด็กหญิงจ้องมองด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ เดิมทีรพีพงษ์มาที่นี่เพื่อดูว่านายใหญ่ตระกูลธาดาวรวงศ์และ คุณชายตระกูลธาดาวรวงศ์เป็นคนแบบไหน เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

เมื่อภูดิทลงมือกับเด็กหญิงนั้น รพีพงษ์ได้ตัดสินใจแล้วว่า ตระกูลธาดาวรวงศ์เก็บไว้ไม่ได้แล้ว ที่เรียกว่าตระกูลสูงศักดิ์อัน ดับต้นๆของโลก ไม่สมควรมีอยู่ในโลกนี้เลย

ไม่ว่าจะยังไง คืนนี้เขาจะต้องลงมือกับตระกูลธาดาวรวงศ์ให้ ได้ ดังนั้นจึงไม่กังวลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อแผน ของเขา

ภูดิทคราม อย่างเย็นชาออกมา พูดว่า

“ดูนายแล้วยังหนุ่มยังแน่น คำพูดที่พูดออกมา เหมือนคนจากศตวรรษที่แล้ว จะบอกนายให้ ต่อหน้าฉัน ไม่มีใครพูดอะไรคือความยุติธรรม ถ้าจะพูดละก็ ฉัน ก็คือความยุติธรรม ”

คำพูดของภูดิทเพิ่งจะจบลง บอดี้การ์ดเหล่านั้นเดินไปหาร พงษ์ ใบหน้ามีรอยยิ้มที่เหี้ยมโหด เห็นได้ชัดว่าดูถูกคนที่จู่ก็หา เรื่องให้กับตัวเองคนนี้อย่างมาก

“พี่ชาย คุณรีบหนีไป พวกเขาคนเยอะขนาดนี้ คุณสู้ไม่ไหว แน่”เด็กหญิงตะโกนใส่รพีพงษ์อย่างร้อนใจ

รพีพงษ์ยิ้มให้กับเธอ พูดว่า “กอดฉันให้แน่นๆ วันนี้พี่จะ ให้หนูดู เตะหมามันเป็นยังไง!

เพิ่งจะพูดจบ บอดี้การ์ดเหล่านั้นได้พุ่งเข้าหารพีพงษ์ รพีพงษ์ รีบยกเท้าขึ้น เตะเข้าบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าสุด บอดี้การ์ดคน นั้นไม่ได้โต้ตอบใดๆ ก็ล้มลงไปทางด้านหลัง

เดิมทีทุกคนคิดว่าบอดี้การ์ดของภูดิทลงมือ รพีพงษ์สู้ได้ไม่ถึง สามวิแน่นอน ตอนนี้เห็นเหตุการณ์นี้แล้ว เผยสีหน้าที่น่าตกใจ ออกมา

บรรดาบอดี้การ์ดที่ไม่เห็นรพีพงษ์อยู่ในสายตาพวกเขาไม่ได้ คาดคิดว่ารพีพงษ์จะเก่งขนาดนี้ จะไม่ประมาทศัตรูอีกต่อไป รีบ จ้องไปที่รพีพงษ์ทันที คิดจะตีให้เขาล้มลงที่พื้น

แต่แล้วสิ่งที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ แม้ว่าพวกเขาจะ พยายามแค่ไหน ต่อหน้ารพีพงษ์แล้ว ก็ยังคงต้านทานไม่ไหว
เด็กหญิงใช้สองแขนกอดรพีพงษ์แน่น เห็นรพีพงษ์เตะบอดี้ การ์ดเหล่านั้นล้มลงก็ตื่นตาตื่นใจ ตกใจอ้าปากค้าง

ฉัตรพลซึ่งยืนอยู่ข้างๆภูดิทได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของ รพีพงษ์ ก็เกิดความสนใจในตัวเขาทันที ในฐานะคนบ้าการ ต่อสู้ เขาจะมองความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ไม่ออกได้อย่างไร

ระดับความสามารถของคนนี้ มีคุณสมบัติที่จะสู้กับเขาได้ ดวงตาของฉัตรพลแสดงความกระตือรือร้นทันที

สายตาของภูดิทหรี่ลง พูดกับตัวเองว่า “ไม่คิดว่าจะมีความ

สามารถ มิน่าล่ะถึงได้ยโสโอหัง”

“คุณพ่อ ความสามารถของคนนี้ไม่เบา บอดี้การ์ดเหล่านี้ ของพ่อไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา ผมจะไปจับเขามาให้พ่อเอง ให้เขา ชดใช้ให้กับพ่อ”ฉัตรพลพูด

เดิมที่ภูดิทอยากจะรับปาก แต่ว่าไม่นานก็เห็นผู้คนรอบๆ กำลังถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ก็ได้พูดกับฉัตรพลว่า : “ช่างเถอะ ตอนนี้คนมองเยอะ อีกทั้งงานเลี้ยงวันนี้เป็นเรื่องดี ไม่อยาก ทำให้เสียเรื่องเพราะหนูตัวเดียว ให้เขาภูมิใจไปก่อนสักคืน รอ ถึงพรุ่งนี้ค่อยเก็บมัน”

ฉัตรพลเห็นพ่อของตัวเองพูดแบบนี้แล้ว ก็ทำได้แค่เลิกราไป แต่ว่าสายตาที่มองไปยังรพีพงษ์นั้น เกิดการรอคอยขึ้นเล็กน้อย

ฉัตรพลมองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง พูดเสียงดังว่า “เอาล่ะ พอได้แล้ว เรื่องนี้ฉันไม่เอาเรื่องแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ไม่รู้อะไร ฉันไม่โทษเขา หวังแค่ว่าต่อไปเมื่อเขาทำแบบนี้อีก เขาจะสามารถพิจารณาผลที่ตามมาได้ มิฉะนั้น ไม่รู้ว่าวันไหนอาจจะ ไม่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว”

พูดจบ ภูดิทก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปในโรงแรม ฉัตรพลมองไปอีก ครั้ง จดจําใบหน้าของคนๆนี้ไว้ เดินตามภูมิทเข้าไปในโรงแรม

บอดี้การ์ดเหล่านั้นก็หยุด ไม่ต่อสู้กับรพีพงษ์อีก

ผู้คนเริ่มเอ่ยชมภูดิทใจกว้างทันที ไม่ถือสาเด็กรุ่นน้อง หลัง จากนั้นก็เบียดเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน

รพีพงษ์อุ้มเด็กหญิงมองภูดิทเดินเข้าไป ในแววตาเผยไอ สังหารออกมา

เด็กหญิงมองดูด้านหลังของภูดิท เอ่ยปากพูดว่า “พี่ชาย เขาจะปล่อยพวกเราไปไหม เมื่อสายตาของคนนั้นน่ากลัวมาก ดูเหมือน เขายังจะมาหาพวกเราอีก

รพีพงษ์ยิ้มแล้วลูบหัวเด็กหญิง พูดว่า “วางใจเถอะ แม้ว่า เขาจะคิดแบบนั้น ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ผ่านคืนนี้ไป บนโลกใบ นี้ จะไม่มีตระกูลธาดาวรวงศ์ชื่อนี้อีก

เห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงไม่เข้าใจสิ่งที่รพีพงษ์กำลังพูด แต่พี่ชาย คนนี้ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ ในเมื่อพี่ชายบอกว่าไม่เป็นอะไร แล้ว งั้นก็น่าจะไม่มีอะไรแล้ว

“แม่ของหนูอยู่ที่ไหน พาฉันไปดูหน่อย”รพีพงษ์เอ่ยถาม

มีความรู้สึกซาบซึ้งในดวงตาของเด็กหญิง กลั้นน้ำตาไว้ไม่ อยู่จึงร่วงลงมา
จากนั้นรพีพงษ์ก็วางเด็กหญิงลง ให้เธอพาตัวเองไปที่ที่แม่ ของเธออยู่ ที่นั่นคือ ใต้สะพาน ด้านในมีผู้หญิงขอทานคน หนึ่ง หลังจากที่รพีพงษ์เห็นแล้ว รีบเอาอาหารและน้ำที่ซื้อ ระหว่างทางมาให้กับผู้หญิง ให้เธอได้กินอิ่มก่อน

จากนั้นเขาก็ทิ้งเงินก้อนหนึ่งให้สองแม่ลูกไว้ แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็ไม่ทําให้พวกเธอต้องหิวอีก หลังจากจัดเตรียมให้สองแม่ ลูกนั้นแล้ว รพีพงษ์ถึงได้มุ่งหน้าไปที่โรงแรมซีไซด์

ก่อนจากไปเด็กหญิง โขกหัวให้กับรพีพงษ์หลายครั้ง พร้อม กับรับปากร พงษ์ว่าวันข้างหน้าจะขยันให้มาก ในอนาคตจะ ต้องตอบแทนรพีพงษ์อย่างแน่นอน

แน่นอนว่ารพีพงษ์ไม่ได้เอาคำพูดเหล่านี้ไว้ในใจ ตอนนี้เขาจะ กลับเข้าไปในโรงแรมซีไซด์ เริ่มแผนการทำลายล้างตระกูล ธาดาวรวงศ์


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ